แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 960 ฉันไม่อยากเจอเขาอีก



บทที่ 960 ฉันไม่อยากเจอเขาอีก

บริศร์เห็นคนทิพย์ยังอยู่ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“เธอยังมีธุระอีก?”

คมทิพย์ชะงักเล็กน้อย

“นายบอกให้ฉันอยู่ดูแลนรมนไม่ใช่หรอ?”

คมทิพย์รู้สึกว่าบุริศร์ดูสับสนมาก บางทีตอนนี้ทั้งตัวเขาก็ สับสนอยู่ แต่เธอก็พูดการจัดแจงของบุริศร์ออกมา

เป็นเช่นนั้นจริงๆ ดวงตาของบุริศร์หรี่ลง ลมหายใจทั่วร่างมา บรรจบกัน

“อ่อ ก็ใช่ เธอไปเตรียมห้องให้ปัญญ์ก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวฉัน

ค่อยเรียกเธอ”

คมทิพย์รู้ว่าเขาอยากอยู่ลำพังกับนรมน ก็ไม่ได้พูดอะไร ลูก ขึ้นออกจากห้องของพวกเขาไป

ในตอนที่ห้องเหลือเพียงแค่นรมนคนเดียว บุริศร์ก็ลบคมเขี้ยว บนตัวโดยสมบูรณ์

เขากุมมือของนรมน ถอนหายใจเบาๆแล้วพูดขึ้น “เธอจะให้ ฉันทำยังไงกับเธอ? พวกเราผ่านอะไรกันมามากมายขนาดนี้ นายก็ไม่เชื่อใจฉันแบบนี้? รู้สึกว่าความรักระหว่างเราเปราะบาง ขนาดนั้นท คิดที่จะหย่า แล้วยังคิดจะทำแท้งลูก เธอรับได้จริงๆหรอ?”

นรมนไม่มีเสียงแม้แต่น้อย ยังคงนอนนิ่งอยู่

บุรีศร์วางมือของเธอไว้ข้างปากตัวเองแล้วจุมพิศ พูดเสียง อ่อน “ถ้าฉันไม่ยินยอม ใจดวงนี้ของเธอจะตายไปเลยหรือเปล่า ต่อให้เธอเอามืดมาบังคับฉัน ฉันก็จะไม่หย่ากับเธอ เรื่องบาง เรื่องไม่บอกเธอ ไม่ให้เธอรู้ ก็เพื่อตัวเธอเอง อันที่จริงตอนนี้เธอรู้ เพียงแค่ว่าตัวเองคือคุณนายบุริศร์ก็พอแล้ว เรื่องอื่นส่งมาให้ฉัน เถอะ”

นรมนยังคงไม่เคลื่อนไหว

บริศร์อยู่กับเธอ แตะหน้าผากของเธอเป็นครั้งคราว อุณหภูมิ สูงลดลงทีละน้อย แต่นรมนไม่มีทีท่าว่าอยากจะตื่นขึ้นมา

เขารู้ว่าในใจของนรมนกำลังโศกเศร้า

บริศ อยู่กับนรมนสองชั่วโมงกว่า จนกระทั่งอุณหภูมิของนร มนลดลงแล้ว เขาถึงถอนหายใจอย่างดล่งอก

ไม่รู้ว่าใครโทรมาหาเขา

บุริศร์ดูเบอร์โทรศัพท์ จากนั้นก็ปล่อยมือของนรมน เดินออก

ไปจากห้องทันที

ด้านนอกคมทิพย์นั่งอยู่บนโซฟาดอะไรอยู่ เห็นบุริศร์ออกมา ก็

“นรมนตื่นแล้ว?”
“ยัง เธอเข้าไปดูแลหล่อนเถอะ ฉันจะออกไปข้างนอก

“ยิ้ม”

คมทิพย์ก็ไม่ได้ถามเขาว่าจะไปไหน จะไปทำอะไร เข้าไปที่ห้อง ของนรมนทันที

ไข้สูงของนรมนลดลงแล้ว แต่ท่าทางยังคงเหนื่อยล้ามาก ทำให้คมทิพย์รู้สึกปวดใจ

เธอดึงผ้าห่มมาคลุมให้หล่อน จากนั้นก็เห็นบริศร์ขับรถออกไป แล้ว

นรมนรู้สึกว่าทั้งร่างของตัวเองปวดจนอึดอัด ร้อนจนอึดอัด แล้วจู่ๆก็หนาวมาก

เธอฝันถึงบุริศร์กับผู้หญิงอีกคนควงแขนกันจากไป ไม่ว่าเธอ

จะตะโกนยังไง ร้องเรียกยัง บุริศร์ก็ไม่ได้หันกลับมา

นรมนนั่งลงบนพื้นคนเดียว รู้สึกว่าตัวเองช่างน่าขำ

ผู้ชายยอกใจคนนึง ใจไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว เธอจะร้องไห้ให้ ใครดู? ใครเห็นใจเธอ?

ไม่มีใครเห็นใจเธอ

นรมนอดไม่ได้ที่จะยืนขึ้นมา

เธอมองดูแผ่นหลังของบุริศร์ เจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งหัวใจ แต่ ก็ไม่ได้ร้องไห้อีกต่อไปแล้ว

เหมือนว่าตัดสินใจอะไรได้แล้ว แล้วก็เหมือนบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแล้ว

ในตอนที่นรมนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง พระอาทิตย์ก็ใกล้จะลับเส้น ขอบฟ้าแล้ว

เธอมองไปรอบด้านอย่างเลื่อนลอย ร่างกายอ่อนปวกเปียก ไร้

เรี่ยวแรง

ห้องนี้แปลกตามาก ไม่ใช่โรงแรม

เขาอยู่ไหน?

นรมนอยากจะขยับนิดหน่อย ก็เห็นคนทิพย์นอนพิงอยู่ข้าง

เตียง

มีคมทิพย์อยู่ ใจของนรมนของสงบนิ่งลงชั่วคราว

เธอมองดูการตกแต่งของอาคารอย่างละเอียด เป็นความ หรูหราที่เรียบง่ายมาก น่าจะเป็นโรงแรมหรือที่ไหนซักแห่ง หรือ ว่าอยู่ในบ้านของใคร?

นรมนไม่รู้ และไม่อยากคาดเดา ทั่วทั้งตัวเธอเปียกและเหนียว จากการเหงื่อออก อึดอัดมาก แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรงนัก

แม้จะบอกตัวเองไม่ให้สนใจ แต่ในนาทีที่ลืมตาขึ้นมาแล้วไม่ เห็นบุริศร์ ในใจของนรมนก็ยังคงสูญหาย

ใจไม่อยู่แล้วจริงๆ ความสวยงามเมื่อก่อนล้วนแต่ไม่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ความทรงจำที่สวยงามเหล่านั้นราวกับมีดเล่มหนึ่ง เฉือนใจของนรมนทีละน้อยละน้อย ตุ้นความเจ็บไว้ แต่กลับพูดอะไรไม่ออก

บรมนก็ยังปล่อยให้ตัวเองขยับ

คมทิพย์ตื่นขึ้นมาทันที

“นรมน เธอตื่นแล้ว? รู้สึกยังไงบ้าง? เธอทำให้ฉันตกใจแทบ ตาย ทําไมถึงเป็นไข้ได้ล่ะ? เธอร่างกายไม่ดี ไม่ควรออกไปกับ ฉัน เป็นความผิดของฉัน”

เห็นคนทิพย์ตำหนิตัวเอง นรมนก็ดึงมือของเธอมาทันที พูด อย่างอ่อนแอ “ไม่เกี่ยวกับเรื่องของเธอ ฉันอยากดื่มน้ำ”

“โอเค ฉันจะริน ให้เธอเดี๋ยวนี้

คมทิพย์ริมน่าเย็น ให้เธอหนึ่งแก้วด้วยความเรียบร้อย น้ำแก้วหนึ่งลงไป นรมนถึงรู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นเยอะ

“ที่นี่ทีไหน?”

คอของเธอยังคงแหบแห้งเล็กน้อย

คมทิพย์รีบพูดขึ้น “เธอไม่ต้องพูดแล้ว บำรุงให้ดี ที่นี่คือบ้าน ของคุณชายอรรณพ เธอไข้ขึ้น บุริศร์พาเธอมาหาคุณหมอรมิดาร มิดาให้ดูอาการ คุณหมอรมิดาให้เธอพักที่นี่ชั่วคราว”

ได้ฟังคมทิพย์พูดแบบนี้ นรมนก็ผงะเล็กน้อย

“บุริศร์อุ้มฉันมา?”

“ใช่น่ะสิ ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใครได้? ฉันก็ไม่ได้มีแรงเยอะขนาดอุ้มเธอได้ อีกอย่างในท้องเธอยังมีอีกคนนะ ฉันกล้าซะ

ที่ไหนล่ะ”

คมทิพย์เห็นตอนที่นรมนได้ยินชื่อของบุริศร์ก็ขมวดคิ้ว แม้ว่า จะคลายออกอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาเธอไป ได้

“นรมน ระหว่างเธอกับบริศร์มันยังไงกันแน่? ฉันถามเขาแล้ว เขาบอกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่อย่างที่เธอคิด เขาก็แค่ถามเรื่อง อะไรนิดหน่อย”

ใจของนรมนเจ็บเล็กน้อย แสร้งพูดอย่างไม่ใส่ใจ “อือ”

“เธอเป็นแบบนี้ทำให้คนเขาเป็นห่วงมากเธอรู้ไหม? ไม่ว่าเรื่อง อะไรเธอก็เก็บไว้ในใจ อะไรก็ไม่พูดไม่ถาม คิดเองเออเองไปใน ทางไม่ดี รอยลิปสติกอันนึงบอกปัญหาอะไรซัดเจนไม่ได้ เธอต้อง เชื่อใจบุริศร์”

ตอนที่พวกเราร้องเพลงอยู่ที่บาร์ ฉันเห็นเขา ผู้หญิงที่อยู่ข้าง กายเขาคนนั้นควงแขนเขาอยู่ ค่อนข้างสนิทสนมกัน แต่เขาก็ไม่ ได้ปฏิเสธ”

คำพูดนิ่งๆของนรมนทำให้คมทิพย์ชะงักเล็กน้อย

“เธอเห็นกับตาตัวเองแล้ว?”

“ใช่”

ถึงตอนนี้แล้ว นรมนก็ไม่อยากปิดบังคมทิพย์แล้ว
“ไอ้ผู้ชายคนนี้! ต่อหน้าฉันพูดซะน่าฟังขนาดนั้น คิดไม่ถึงว่าจะ

ออกไปมีชู้จริงๆ เหม็นคาว คมทิพย์อยู่ไม่สุขแทนนรมนขึ้นมาทันที

นรมนกลับไม่ได้ฮึกเหิมขนาดนั้นแล้ว เธอพูดเสียงต่ำ “หา ทนายซักคน ฉันจะร่างสัญญาการหย่า”

คมทิพย์ชะงักไปอีกครั้ง

“เธอ จะหย่าจริงๆหรอ? พวกเด็กๆ จะทำยังไง?

“ความรักและการแต่งงานของฉันบอบบางเหมือนเม็ดทราย เธอรู้จักฉันดี ตอนที่ฉันรักเขา ฉันสามารถไม่สนใจทุกอย่าง กระทั่งทอดทิ้งชีวิตของฉันก็ยังได้ นั่นเพราะฉันรู้สึกว่าเขาคุ้มค่า แต่ว่าตอนนี้ ใจของเขาไม่อยู่กับตัวฉันแล้ว ฉันจะดื้อดึงไว้ทำไม? อีกอย่างของที่คนอื่นเคยใช้ฉันรังเกียจ

ตอนที่นรมนพูดคําเหล่านี้ แววตาพร่ามัวไร้แสง

ดมทิพย์ราวกับเห็นรอยแผลและหยดเลือดข้างในใจได้จาก ดวงตาที่ว่างเปล่าของเธอ

เธอรู้จักนรมนดี

เมื่อตัดสินใจลงไปแล้วก็จะไม่เปลี่ยนแปลง

“ถ้าเธอคิดดีแล้ว ฉันสนับสนุนเธอ”

“ขอบคุณนะ”

นรมนยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นทำให้คนที่เห็นขมขื่นมาก
พักผ่อนอีกหน่อยเถอะ”

ดมทิพย์เห็นใจนรมนมาก

นรมนเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ หลังจากเอนตัวลงไปแล้วก็หลับตาลง อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ยังไงก็นอนไม่หลับ

การหย่าเป็นสิ่งจําเป็น แต่เธอจะบอกกับพวกเด็กๆยังไง?

พวกเขาจึงจะเข้ากันได้ดีกับบุริศร์ ในเวลานี้ถ้าบอกพวกเขาว่า ตนจะหย่ากับปาของพวกเขาแล้ว จิตใจของพวกเด็กๆจะได้รับ ผลกระทบไหม?

นรมนรู้สึกอึดอัดใจ แต่ก็พิจารณาเรื่องเหล่านี้อยู่

หลังจากรมิดานอนเต็มอิ่มแล้วก็ลุกขึ้น อรรณพเพราะมีธุระที่ บริษัทเลยออกไปก่อน

เธอส่งคนมาดูว่านรมนกับคมทิพย์ตื่นหรือยัง จากนั้นก็กินข้าว กับพวกเธอ

นรมนตอนนี้ไม่มีความอยากอาหาร และไม่อยากให้รมดาซัก ถามอะไร จึงแสร้งทำเป็นหลับ

คมทพย์ดูเธอออก เดินออกไปทันที บอกว่านรมนไข้ลดแล้ว ยังพักผ่อนอยู่ ทั้งสองจึงออกไปกินข้าวกัน

หลังจากนรมนลุกขึ้นมานั่ง ก็ใช้มือถือร่างสัญญาการหย่าหนึ่ง ฉบับ จากนั้นก็หาทนายบนอินเตอร์เน็ต จ้างให้เขาเป็น ทนายความของตน ส่งสัญญาการหย่าไปให้บริศร์
ทรัพย์สินของตระกูลโตเล็ก เธอไม่ต้องการแม้แต่บาทเดียว

ทางฝั่งเด็กๆเธอหวังว่าบุริศร์จะปิดบังพวกเด็กๆไว้ชั่วคราว รอ พวกเขาโตหน่อยแล้วค่อยบอก

นรมนรู้ ชั่วชีวิตนี้จะตกหลุมรักผู้ชายคนนึงหมดหัวใจแบบนี้มัน

เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว

หลังจากเธอทำเรื่องพวกนี้เรียบร้อยแล้ว คุมทิพย์เองก็ถือ กับข้าวเข้ามา

“คุณหมอรมิดาไปโรงพยาบาลแล้ว ให้พวกเราเคลื่อนไหวได้ อิสระ รีบกินเถอะ มีแต่ของที่เธอชอบกินทั้งนั้น

“ฉันไม่อยากอาหาร

นรมนพูดอย่างทุกข์ใจ “คมทิพย์ ปล่อยปัญญ์ไว้ที่นี่เธอวางใจ

ไหม?”

มือของคนทิพย์กระตุกเล็กน้อย

“เธอจะไป?”

“ใช่ ฉันไม่อยากเจอเขาอีก”

“แต่เธอจะไม่ฟังเขาอธิบายหน่อยหรอ?”

“ไม่มีอะไรต้องอธิบายแล้ว ฉันถามไปแล้ว เขาก็พูดแล้ว เกี่ยว กับเหตุผลเขาไม่อยากพูดเยอะ งั้นก็ไม่ถามแล้ว หลังจากนี้ไป ทางใครทางมัน จากกันด้วยดีเถอะ”

เสียงของนรมนแหบแห้งอย่างรุนแรง
เธออยากที่จะดิ้นรนลุกขึ้นมา คมทิพย์รีบพยุงเธอไว้

“ระหว่างพวกเธออาจจะมีเรื่องเข้าใจผิด

“เข้าใจผิดมันอธิบายได้ แต่ท่าทางของเขาเด็ดขาดมาก ไม่ อยากพูดไม่ยอมพูดไม่ยินดีที่จะพูด ในเมื่อเป็นแบบนี้ฉันก็ไม่ถาม แล้ว พอดีเลย เรามาเดินบนเส้นทางนี้ ลองดูว่าจะสามารถเซ็น สัญญากับบริษัทภาพยนตร์ได้ไหม”

คำพูดของนรมนทำให้คมทิพย์ชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็ถามขึ้น “จะเปิดบริษัทภาพยนตร์ด้วยตัวเองจริงๆหรอ? ถ้าเธอหย่ากับบุรี ศร์แล้ว ก็ไม่มีเงื่อนไขที่สะดวกขนาดนั้นแล้ว เปิดบริษัท ภาพยนตร์ลำบากหนักมาก ตอนนี้เธอก็ท้องอยู่ นรมน ฉันว่าฉัน พุ่งออกไปอีกหน่อยดีกว่า เธอก็ไม่ต้องรีบร้อนเปิดบริษัท ภาพยนตร์ พวกเราค่อยเป็นค่อยไป

“ฉันอยากเปิด”

นรมนแม้ว่าจะพูดแค่สามคำ แต่คมทิพย์รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เมื่อ ดื้อรั้นขึ้นมาแล้ว วัวสิบตัวก็ดึงกลับมาไม่ได้

ก็ดี

ความรู้สึกได้รับบาดเจ็บแล้ว ก็ให้งานมาชดเชยความบอบช้ำ ในใจเถอะ บางทียิ่งขึ้นมาแล้วจริงๆ นรมนอาจจะไม่คิดเรื่อง ความรักขึ้นมาก็ได้

คมทิพย์พยักหน้า หลังจากไปทักทายปัญญ์ที่ห้องสองสาม ประโยคแล้วก็พยุงนรมนออกจากบ้านตระกูลเชาวนภูตินโมนทิ้งข้อความไว้ให้มิดาขอบคุณในความช่วยเหลือของ เธอ บอกว่าตนมีธุระด่วนต้องไปจัดการ จากไปชั่วคราว

ตอนนี้เธอต้องการเงิน แต่ไม่ต้องการเงินของตระกูลโตเล็กซัก บาทเดียว ทํายังไงดีล่ะ?

ทันใดนั้นนรมนก็นึกถึงบ้านของพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนขึ้น มาได้

บางทีเธอควรต้องไปหาเนตราแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ