แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1338 ผมจะปกป้องคุณ



บทที่ 1338 ผมจะปกป้องคุณ

“คุณคิดว่าขอมากเกินไปหรือเปล่า”

เสียงของบุริศร์เย็นจนเหมือนก้อนน้ำแข็ง

นรมนกลับดึงมือเขา “อย่าพูดอย่างนี้เลยค่ะ ถึงอย่างไรราเชน ก็เป็นลูกชายของป้า เรื่องนี้พวกเราช่วยได้ก็ช่วยเถอะค่ะ ที่สุด แล้วก็คือชีวิตคนคนหนึ่ง

ภรรยาพูดอย่างนี้แล้ว บุริศร์ยังจะพูดอะไรได้อีก เขาได้แต่ยืน ข้างๆ ไม่พูดอะไร

นงลักษณ์น้ำตาคลอเบ้า มองนรมน พูดเสียงแผ่วเบา “นรมน ป้ารู้ว่าพวกเธอไม่ชอบป้า ป้ารู้ด้วยพี่สาวเป็นคนอย่างไร บางที ชาตินี้ป้าทำไม่ได้อย่างที่พี่สาวทำ เธอมีเกียรติ หลักการและ ขอบเขตอะไรควรไม่ควร ส่วนป้าเห็นแก่ตัว เรื่องอะไรก็คิดถึงแต่ ตัวเอง ถ้าป้าเป็นพวกเธอ ป้าก็ไม่อยากรับคนแบบนี้เป็นพวก แต่ ป้าเป็นอย่างนี้ เพราะตั้งแต่เล็กจนโต ไม่รู้ว่าควรเชื่อใคร ป้ามี ความหวังและเชื่อได้แค่ตัวเองเท่านั้น ป้าถึงได้เคยระมัดระวัง พวกเธอ ป้าขอโทษจากใจจริง ตอนนี้พวกเธอไม่เปิดใจ ป้าก็พูด อะไรไม่ได้ ตอนนี้ได้แต่ขอร้องให้พวกเธอจะต้องช่วยราเชนออก มาได้มั้ย”

เมื่อกี้เพียงแต่ขอร้อง ตอนนี้จะต้องทำให้ได้ บริศรขมวดคิ้ว แน่น กำลังจะคิดพูดอะไรบางอย่าง นรมนก็พูดขึ้น “ป้า พวกเรา จะพยายามเต็มที่ แต่ป้าก็รู้ บางเรื่องยากที่พวกเราจะดูแลตัวเองอยากจะปกป้องคนหนึ่งไม่ใช่แค่พูดง่ายๆ ในเมื่อป้าพูดอย่างนี้ หนูก็ได้แต่รับปาก พวกเราจะพยายามเต็มที่ แต่ไม่อาจรับรองจะ ทําสําเร็จ”

บางเรื่องทุกคนรู้ดีแก่ใจ นงลักษณ์พูดอย่างนี้แล้ว นรมนย่อม ไม่อยากให้บริศร์โมโหอีก และไม่อยากให้ความขัดแย้งระหว่าง สองคนเพิ่มขึ้น จึงได้แต่ชิงพูดแทนบุริศร์

คำพูดพวกนั้นรมนพูดได้ แต่บุริศร์พูดไม่แน่ว่านงลักษณ์จะ ยอมรับได้ นี่คือความแตกต่างระหว่างหลานสาวและหลานเขย

นงลักษณ์พยักหน้า ครุ่นคิดนิดหนึ่ง ก็พูดขึ้น “งั้นป้าฝากพวก

เธอด้วย”

หลังจากนรมนกับบุริศร์กลับมาถึงห้อง บุริศร์ก็ถอนหายใจพูด ขึ้น “คุณนี่นะ ดีกับนงลักษณ์มากเกินไป มีหลายเรื่องที่เธอไม่ได้ พูดความจริงกับเรา”

“ฉันรู้ค่ะ แต่เธอพูดก็ถูก ตั้งแต่เด็กจนตัวใช้ชีวิตในสภาพ แวดล้อมที่ไม่อาจเชื่อใครได้ นี่คือวิธีการปกป้องตัวเองอย่างหนึ่ง คุณเป็นห่วงฉันถึงได้รู้สึกว่าเธอไม่จริงใจกับฉัน ที่จริงจะพูดไป แล้ว เธออาจจะทำได้ไม่เลวแล้ว

คำพูดของนรมนทำให้บริศร์เซ็ง

“คุณนี่นะ ใจกว้างกับญาติมากเกินไป

“คุณก็ใจกว้างกับฉันเหมือนกันไม่ใช่หรือคะ” นรมนรู้ว่าบุริศร์เป็นห่วงตัวเอง และเป็นเดือดเป็นร้อนแทนตัวเอง ก็รีบกอดแขนเขาอ้อน

เธอเป็นอย่างนี้ บุริศร์จะพูดอะไรได้

สองคนรออยู่ในห้อง ให้ความสำคัญกับเรื่องไปประเทศมาก เฮลิคอปเตอร์ของคุณชายธเนศพลมาถึงเร็วมาก

บุญทิวากับนงลักษณ์ถูกจัดให้ขึ้นเครื่อง

มองเฮลิคอปเตอร์บินลับตาไป นรมนก็ถอนหายใจ “หวังว่าต่อ ไปพวกเขาจะมีชีวิตราบรื่นนะคะ”

“คุณคิดมากไปแล้ว คิดอย่างนั้นคิดว่าต่อไปเราจะทำยังไง

ไม่ได้

บริศร์ไม่ค่อยพอใจที่คนอื่นทำให้นรมนหลุดโฟกัส

นรมนรีบพูด “มีประธานบริศร์อยู่ด้วย จะปล่อยให้ฉันปวดหัว กับเรื่องพวกนี้ได้อย่างไรคะ จริงมั้ย

“คุณนี่นะ”

บุริศร์ในที่สุดก็ต่อว่าเธอไม่ลง จากนั้นก็ชวนเธอกลับห้องพัก ไปเก็บข้าวของ

คริชณะน่าจะได้รับแจ้งแล้ว บุริศร์เพียงแต่ส่งข้อความบอก แล้วก็พานรมนไปจากที่นั่น

พวกเขาก็นั่งเครื่องบินส่วนตัว แต่เป็นวินเซนต์ส่งมาให้

นรมนได้รู้ว่าอาการบาดเจ็บของกานต์ดีขึ้นมากจนแทบหายสนิทแล้ว กิจจากับกผลมีความสุขดีที่สหภาพQT รอการไต่สวน เสร็จสิ้นก็จะส่งพวกเขากลับเมืองชลธี และเข้าเรียนอนุบาลตาม ปกติ

กานต์ กมล และกิจจาอยู่ด้วยกันครึกครื้นมาก และมีชีวิตชีวา มากด้วย

พวกเขาวิดีโอคอลกับนรมนและบริศร์แล้ว กมลยังน้อยใจอยู่ หน่อย บ่นที่พ่อแม่ไปเที่ยวแต่ไม่พาพวกเธอไปด้วย โตแล้วเธอ ไปเที่ยวจะไม่พาทั้งสองคนไปด้วย ทำเอานรมนหัวเราะไม่หยุด

กานต์ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแต่กำชับให้บริศร์ดูแลนรมน

ขณะที่กิจจาเตือนนรมนระวังแพ้ยา

เด็กสามคนเหมือนพี่เลี้ยงตัวเล็กๆ พูดจนนรมนรู้สึกอบอุ่นใน

หัวใจ

บุริศร์สุดท้ายพูดสรุปถึงได้จบการพูดคุยครั้งนี้

นรมนพิงไหล่บุริศร์ เสียงอ่อนโยน “เมื่อเราเผชิญกับความมืด มิดในชีวิต เราคิดถึงลูกๆ สามคน ก็มีแรงจูงใจที่จะก้าวต่อไป ขอบคุณสวรรค์จริงๆ ที่ให้ชีวิตพวกเรามีพวกเขา เพราะมีพวกเขา แม้ว่าเบื้องหน้าจะเป็นพายุลมแรง ฉันจะฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้ เพราะเราต้องการให้พวกเขามีสภาพแวดล้อมการดำรงชีวิตที่ มั่นคง เพื่อให้การวางแผนเล่นงานและการสมรู้ร่วมคิดทั้งลับๆ และเปิดเผยนั่นอยู่ห่างไกลจากพวกเขา”

บุริศร์กอดเธอ พยักหน้า “ผมจะเดินเคียงข้างไปกับคุณ รอเรื่องพวกนี้จบลง ผมจะพาคุณไปเที่ยวป่าเขา เป็นเพื่อนคุณวาด ภาพธรรมชาติ ให้คุณใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการจริงๆ

“จริงนะคะ”

นรมนดวงตาเป็นประกาย

เธอปรารถนาจะมีชีวิตเช่นนี้เหลือเกิน

“แน่นอนสิ”

บุริศร์ทั้งชีวิตนี้มีเรื่องเดียวที่อยากทำ นั่นก็คือทำให้ภรรยา ของตัวเองมีความสุข ส่วนเรื่องอื่น เขาไม่สนใจแล้ว

นรมนพิงเขารู้สึกมีความสุข นั่งเครื่องบินส่วนตัวออกจาก หมู่บ้านดารายน

เธอไม่รู้บุริศร์จัดการมิลินอย่างไร และไม่รู้บุริศร์ให้ใครดูแล หมู่บ้านดารายน รู้แต่บอดี้การ์ดพวกนั้นไม่ได้ติดตามบุรีศรมาสัก คน เพียงแต่เตรียมสัมภาระง่ายๆ ออกเดินทาง

สองคนท่าทางไม่เหมือนไปประเทศ ทำเรื่องใหญ่ แต่เหมือน ไปท่องเที่ยวมากกว่า

เมื่อเครื่องบินไปถึงน่านฟ้าประเทศ นรมนก็รู้สึกว่า บรรยากาศผิดปกติ มีเฮลิคอปเตอร์กองทัพทหาร Wz – 10 ลำ หนึ่งบินตรงเข้ามาบีบพวกเขา

“ประธานบริศร์ เครื่องบินรบของประเทศครับ

นักบินรีบรายงาน
นรมนกังวลทันที

สงคราม เธอยังไม่เคยมีประสบการณ์

บุริศร์กลับพูดขึ้น “หลบพวกเขา หลีกเลี่ยงเรดาร์ เข้าไปใน เขตบินต่ำ แล้วเข้าเขตแดนประเทศ ลับๆ ทำได้มั้ย

นักบินขมวดคิ้วนิดหนึ่ง แต่พูดหนักแน่น “ได้ครับ”

“ฝากด้วย”

บทสนทนาระหว่างบุริศร์กับนักบินทำให้นรมนรู้สึกค่อนข้าง กังวล มือของเธอยื่นไปจับมือบุริศร์โดยไม่รู้ตัว

“ไม่ต้องกลัว มีผมอยู่

คำพูดสั้นๆ ของบริศ ทำให้นรมนสบายใจ

นักบินน่าจะเป็นมือดี ตอนที่ถูกเฮลิคอปเตอร์กองทัพทหาร Wz – 10 บังคับให้ลงจอดทันใดนั้นก็บินฝ่าเข้าไปในเมฆ ออกจาก น่านฟ้าของประเทศทันที

อีกฝ่ายเห็นพวกบุริศร์บินไปแล้ว ก็ได้แต่กะพริบเตือน จากนั้น

ก็กลับไป

บุริศร์ยิ้มเย็น “ประเทศเล็กๆ แต่อาวุธยุทโธปกรณ์ไม่ธรรมดา”

นรมนไม่รู้เขากำลังพูดอะไร อีกฝ่ายไม่ใช่แค่บินเข้ามาหรือ ดู ออกได้ยังไงอาวุธยุทโธปกรณ์ไม่ธรรมดา ตอนนี้นักบินถาม “ประธานบริศร์ครับ ต้องเปิดการติดตามดาวเทียมหรือไม่ครับ ส่งเรื่องทั้งหมดที่นี่กลับไป

“ส่งภาพหน้าจอมาที่มือถือผม เดี๋ยวผมจะส่งไป อย่าเปิดระบบ ดาวเทียมของคุณ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะถูกระบบติดตามตำแหน่ง ดาวเทียมจับได้”

“โอเคครับ”

บริศ ออกคําสั่งใจเย็น

นรมนมองบุริศร์ในตอนนี้ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าบริศร์เป็นแบบนี้ สําหรับเธอเหมือนคนแปลกหน้า เขาเหมือนเดิม ยังคงสุขุมและ เฉลียวฉลาด แต่ดูเหมือนจะมีรัศมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มองไม่เห็นเพิ่ม ขึ้นมา

ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงรูปของบุริศร์ที่กำแพงเกียรติยศ ที่แท้ ตอนนี้เขาหล่อมาก

รู้สึกได้ถึงสายตาหลงรักของภรรยา ในใจของบุริศร์ก็อึ้งนิด

หนึ่ง จากนั้นก็มีความรู้สึกอิ่มใจขึ้นมา

“กลัวมั้ย”

“มีคุณอยู่ด้วย ฉันไม่กลัวค่ะ

นรมนยิ้มเรียบๆ หน้าตาอ่อนโยน

“ผมจะปกป้องคุณ ไม่ว่าตอนไหน ผมจะปกป้องคุณเสมอ

นี่คือคำสัญญาของบุริศร์

ประเทศ อันตรายมาก การเดินทางครั้งนี้จะพาคนมามากเกินไปไม่ได้ ดีที่สุดก็คือมาคนเดียว ถ้าหากเลือกได้ละก็ แม้แต่นรมน บุรีศร์ก็ไม่อยากพามาด้วย แต่เขารู้ดี ถ้าเขาไม่พานแมนมาด้วย นรมนไม่มีทางวางใจ

อย่างนี้ก็ดี

สองคนอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น บางทีพวกเขาอาจ จะไม่ต้องเสียใจแล้ว

บุรีศกุมมอนรมนแนน นรมนมั่นใจ สองใจแนบชิด มุ่งไปข้าง หน้าอย่างห้าวหาญ

นักบินพาเครื่องบินบินออกไปช่วงหนึ่งจู่ๆ ก็หันกลับ นรมนรู้สึก

ใจเต้นขึ้นมา

เธอรู้ดี สงครามแท้จริงเริ่มขึ้นแล้ว

ไม่รู้เพราะอะไร นรมนไม่รู้สึกกลัว แต่กลับตื่นเต้นมากกว่า เพราะเธอรู้ว่าตัวเองกับบริศร์ พวกเธอยังมีพวกคุณชายธเนศ พลอยู่เบื้องหลัง และมีคนอีกมากที่คุ้มครองด้วย

เครื่องบินบินกลับเข้าไปในน่านฟ้าประเทศอีกครั้ง ลดระดับ กะทันหัน ความรู้สึกที่เครื่องบินดิ่งลงทำให้นรมนตกใจจน หลับตา ความรู้สึกเหมือนหัวใจตกวูบลงไป

หัวใจเต้นตึกตัก เร็วผิดปกติ

บุริศร์ปกป้องเธอในอ้อมกอด ทั้งตัวหมอบลง การบินต่ำอย่างนี้เป็นเทคนิค โดยพื้นฐานแล้วต้องการเข้าไปในเขตบินต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อหลบการตรวจจับของ เรดาร์และดาวเทียม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดต้องปิด ไม่ อย่างนั้นข้อความสั้นก็อาจจะเปิดเผยตัวตนได้

บริศร์ขึ้นเครื่องบินไม่นานก็ให้นรมนปิดมือถือ

นรมนไม่เคยรู้ว่าเครื่องบินจะบินได้ขนาดนี้ นอกจากความ

กลัวแล้วยังตื่นเต้นด้วย มองลอดแขนบุริศร์ออกไปข้างนอก สายตาใครรู้นั้นเหมือนเด็กเล็กๆ ทำให้บริศรอดไม่ได้ที่จะมีรอย ยิ้มที่มุมปาก

“เทคนิคการบินอย่างนี้ประเทศอื่นทำไม่ได้ พวกเราเป็น

ประเทศแรกที่ทำได้ ภูมิใจมั้ย”

“แน่นอนค่ะ”

นรมนตอบเบาๆ ราวกับถ้าพูดดังจะถูกคนจับได้

บุริศร์ยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารัก

ไปต่อก็จะถึงเขตเตือนแล้ว บุริศร์ขมวดคิ้วนิดหนึ่ง โอบนรมน เข้ามา จากนั้นริมฝีปากเย็นก็ประทับริมฝีปากของนรมน

ดวงตาของเธอเบิกโต มองเห็นแต่ขนตายาวของบุริศร์ และ

ความระมัดระวังที่ฉายในดวงคู่งาม

ความตื่นเต้นเมื่อครู่ถูกความประหม่าเข้าแทนที่ เวลานี้จูบของ บริศร์ครอบครองทุกระบบประสาทสัมผัสของเธอ ทำให้เธอไม่มี เวลาคิดอะไรมาก ตกอยู่ในภวังค์ ท่ามกลางความร้อนแรงก็ได้ ยินนักบินพูดขึ้น “ประธานบริศร์ ใกล้ถึงแล้วครับ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ