แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1248 คุณนแผนการร้ายเยอะนักนะ



บทที่ 1248 คุณนแผนการร้ายเยอะนักนะ

“ผลเป็นยังไง?”

จริงๆบุริศร์ก็คาดการณ์เรื่องเกวลินไว้แล้ว แต่ไม่ได้คิดอะไร มากมาย ตอนนี้ไม่คิดว่านรมนจะต้องการสืบเรื่องนี้ เป็นไปได้ มากว่าเธอต้องการจะทำอะไรบางอย่าง

นึกถึงที่ภรรยาของตนเองอยากทำอะไร บุริศร์ก็สนับสนุน อย่างเต็มที่อยู่แล้ว

ลูกน้องรีบพูดขึ้น “พวกเรานำตัวอย่างเลือดของเกวลินไป ทําการเปรียบเทียบและวินิจฉัยกับพ่อแม่ของทรรศยาแล้ว ผลคือ เกวลินเป็นลูกของตระกูลตรีนิกร และคุณหญิงกุลนิภาก็บอกว่า ตอนที่ทรรศยาสิบขวบพวกเขาให้กำเนิดลูกสาวอีกคนหนึ่ง เพียง แต่เพิ่งเกิดได้สองวันก็โดนแจ้งว่าขาดอากาศหายใจตาย ตอน นั้นเรื่องนี้ที่โรงพยาบาลก็มีการบันทึกเอาไว้

“ขาดอากาศหายใจตาย? เกิดมาได้สองวัน? งั้นทำไมเกวลิน ถึงยังมีชีวิตอยู่?”

ถ้าคิดตามช่วงเวลา ตอนนี้เกวลินอายุสิบแปด ทรรศยาเสีย ชีวิตไปเมื่อแปดเก้าปีก่อน และเกิดตอนที่ทรรศยาสิบขวบ ช่วง เวลานี้ตัวตนของเกวลินถูกต้องอย่างแน่ชัด

บุริศร์ขมวดคิ้วครุ่นคิดแล้วถามขึ้น “หน้าตาของเกวลินกับทร รศยาเหมือนใคร?”
“คุณปฤษฎีครับ พวกเขาหน้าเหมือนพ่อทั้งคู่ พูดแล้วลูกน้องก็ส่งรูปภาพของคุณปฤษฎีไปให้บริศร์

บุริศร์เคยเจอทรรศยามาก่อน แต่ตอนที่เห็นรูปยังตกตะลึงเล็ก น้อย

ทรรศยาเหมือนพ่อมากจริงๆ ส่วนเกวลินมองเผินๆก็เหมือน เธอมากจนแยกไม่ออก แต่ถ้ามองอย่างละเอียด ดวงตาคู่นั้นยังมี ความแตกต่างอยู่เล็กน้อย

ดวงตาของเกวลินเหมือนแม่

“ยืนยันแล้วใช่ไหม? ในเมื่อตอนนั้นเกวลินโดนประเมินว่าขาด อากาศหายใจตาย ทำไมถึงปรากฏตัวอยู่ที่สวนลูกแพร์โบราณที่ ต่างประเทศได้?”

คำพูดของบุริศร์ทำให้ลูกน้องส่งเอกสารในมือไปให้

“คนของเราสืบมาแล้วครับ เริ่มที่หมอกับพยาบาลทำคลอด โดนคนติดสินบน พวกเขาบอกสามีภรรยาของตระกูลตรีนิกรว่า ลูกขาดอากาศหายใจตายไปแล้ว เนื่องจากเพิ่งเกิด โดยทั่วไป เด็กที่เพิ่งเกิดจะมีหน้าตาที่ไม่ต่างกันมาก ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ เด็กที่ขาดอากาศหายใจตายจริงๆแทน ตอนนั้นสามีภรรยา ตระกูลตรีนิกรเสียใจมากจนเกินไป ไม่มีความคิดจะทำการ ทดสอบอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นก็คิดไม่ถึงว่าภายในโรงพยาบาล ใหญ่จะมีคนทำเรื่องอย่างนี้ ดังนั้นเรื่องนี้จึงจบลงทั้งที่ไม่ควรจบ เพราะเรื่องนี้คุณหญิงกุลนิภาก็อัดอั้นตันใจอยู่นานถึงจะเดินหน้า ต่อไปได้ ทุกคนในครอบครัวต่างก็ไม่กล้าพูดเรื่องของเด็กคนนี้ต่อหน้าของเธออีกเลย เมื่อเวลาผ่านไปทุกคนก็ลืม ไม่ได้พูดขึ้น มาอีก”

บุริศร์ฟังอยู่เงียบๆ แต่ทว่าความคิดกลับเคลื่อนไหวอย่าง

รวดเร็ว

“หมอกับพยาบาลที่รับสินบนได้บอกไหมว่าคนเบื้องหลังที่ให้ เขาทำอย่างนี้เป็นใคร?

“บอกครับ พวกเขาบอกว่าพวกเขาก็ไม่รู้จัก เป็นคนนอกพื้นที่ แค่บอกว่าทำธุรกิจค้ามนุษย์ อยากร่วมมือกับพวกเขา ตอนนั้นผู้ หญิงคนนั้นให้เงินเยอะมาก ดังนั้นพวกเขาจึงหวั่นไหว ยังคิดจะ ใช้หน้าที่การงานหาเด็กหลายๆคนขายออกไป แต่ผู้หญิงคนนั้น กลับไม่ปรากฏตัวออกมาอีก

คำพูดของลูกน้องทำให้บริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ผู้หญิงเหรอ?”

“ครับ พวกเขาบอกว่าตอนนั้นคนที่ให้พวกเขาทำอย่างนั้นเป็น ผู้หญิงอายุสี่สิบกว่าปีคนหนึ่ง สำเนียงการพูดไม่ใช่คนในพื้นที่ ดู แล้วพูดอะไรก็เหมือนพวกค้ามนุษย์จริงๆ อีกอย่างผู้หญิงคนนั้น บอกว่าที่เธอทําเป็นเครือข่ายต่างประเทศทั้งหมด แค่นำตัวเด็ก มาให้เธอ เธอก็มีวิธีขายเด็กออกไปนอกประเทศ รับประกันว่าจะ ไม่เดือดร้อนมาถึงพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงยอมเสี่ยงดู

แววตาของบุริศร์เย็นชาขึ้นมาเล็กน้อย

ใช้ประโยชน์จากผู้หญิงที่เพิ่งคลอดลูกร่างกายอ่อนแอแล้วถือโอกาสขายเด็กออกไปธุรกิจที่ไร้หัวใจอย่างนี้ ไม่นึกว่าบุคลากร ทางการแพทย์จะมีส่วนร่วมอยู่ในนั้นด้วย ช่างเป็นความผิดที่ไม่ ควรได้รับการให้อภัยเลยจริงๆ

“ตอนนั้นมีแค่เกวลินคนเดียวที่โดนพาตัวไปใช่ไหม?”

“ไม่ครับ ตามที่พวกเขาเล่า ประมาณหนึ่งสัปดาห์นั้น พวกเขา ขายทารกที่เพิ่งเกิดออกไปเจ็ดแปดคน ส่วนสาเหตุที่จําเกวลินได้ แม่น นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ของเด็กเจ็ดแปดคนนั้นแม้จะเจ็บปวด เสียใจ แต่ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยารุนแรงเท่าคุณหญิงกุลนิภา ตามที่ พูดกันว่าตอนแรกคุณหญิงกุลนิภาเกือบจะเอาหัวโขกกำแพง ตาย อยากจะตามลูกไปด้วย เพราะหมอบอกว่าเธอเป็นสาเหตุที่ ทำให้ลูกอยู่ในท้องนานเกินไปจึงทำให้ขาดอากาศหายใจตาย ตอนนั้นคุณหญิงกุลนิภาตัดสินใจคลอดธรรมชาติแต่วันแล้วก็ ยังไม่คลอด สุดท้ายจึงต้องผ่าท้องคลอดแทน เธอเอาแต่โทษ ตนเองอย่างหนัก คิดว่าเป็นเพราะความผิดพลาดของตนเองถึง ทำให้ลูกตาย ดังนั้นจึงไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้ หลังจาก นั้น คุณหญิงกุลนิภาก็เป็นโรคซึมเศร้าอย่างรุนแรง ฆ่าตัวตาย ทำร้ายตนเอง ในทุกๆวัน และคุณปฤษฎีเพื่อดูแลเธอ จึงไม่ได้ ใส่ใจตรวจสอบเด็กที่บอกกันว่าขาดอากาศหายใจตายคนนั้น เรื่องนี้จึงผ่านไปอย่างนี้ครับ”

เปลวไฟที่เดือดดาลพุ่งสูงขึ้นภายในร่างกายของบุริศร์

ตอนนี้เขาก็เป็นพ่อคนหนึ่ง เข้าใจถึงความลำบากของแม่ที่อุ้ม ท้องถึงสิบเดือนอยู่แล้ว ในวันหนึ่งที่คลอดออกมา ลูกกลับโดน คนขายออกไปเหมือนเป็นสินค้า แล้วยังมาบอกว่าลูกของตนเองขาดอากาศหายใจตายไปแล้ว นี่จะทำให้แม่รับได้ยังไง?

เขาจึงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเด็กสองคนนั้นของตนเองอีกครั้งที่ ไม่มีวาสนาต่อกัน

ในตอนนี้บุริศร์ค่อนข้างเศร้าใจ

ไปสืบมาให้ฉัน! หมอกับพยาบาลพวกนี้ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน ต้องตามหาพวกค้ามนุษย์พวกนั้นมาให้ฉันให้ได้ ถ้าโดนประหาร ชีวิตไปแล้วก็ช่าง แต่ถ้าผู้หญิงคนนี้ยังใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ยัง ทำเรื่องที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ประเภทนี้อยู่อีก งั้นตัดแขนตัดขา ของเธอก่อนแล้วค่อยโยนไปที่สถานีตำรวจ

“ครับ”

ลูกน้องพยักหน้าแล้วเดินออกไป

ไม่รู้ว่านรมนตื่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ พิงกำแพงมองบุริศร์ที่เฉียบ ขาด มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย

เธอก็รู้ เนื้อแท้ของบริศ เป็นคนดี

ราวกับรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังมองตนเองอยู่ที่ด้านหลัง บุริศร์หัน กลับไปทันที จึงสบเข้ากับดวงตาที่มีรอยยิ้มของนรมน

ดวงตาคู่นั้นเหมือนเป็นความชุ่มชื้นในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้กัน บึ้งของหัวใจบริศ อบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย

“ทำไมไม่นอนอีกหน่อย?”

“ถ้านอนอีกหน่อยก็ไม่ได้เห็นท่าทางเด็ดขาดของผู้ชายของฉันนรมนยิ้มบางๆ แล้วเดินเข้าไป

บริศร์ดึงๆเสื้อผ้าของเธอ ป้องกันเธอเป็นหวัด แล้วจึงพูดขึ้น “อุตส่าห์คิดอย่างดีแล้วเชียวแต่ก็นึกไม่ถึงว่าจะเป็นการค้า มนุษย์”

“ใช่น่ะสิ กี่วันก่อนฉันยังเห็นข่าวอยู่เลย บอกว่าตอนนี้พวกค้า มนุษย์กำเริบเสืบสานมาก โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ บางคนก็มีส่วนร่วมอยู่ในนั้นด้วย น่ารังเกียจจริงๆ อีกอย่างบ้าน เกิดของทรรศยาน่าจะเป็นเมืองเล็กๆสินะ ปัจจัยการรักษา พยาบาลที่ด้านนั้นเป็นยังไงก็ไม่รู้ แต่บุคลากรทางการแพทย์ที่ เกิดขึ้นอย่างนี้ทำให้คนหวาดผวาจริงๆ ตอนนี้ยืนยันแล้วว่าเกวลิ นเป็นน้องสาวแท้ๆของทรรศยา คุณคิดจะทำยังไงต่อ?

นรมนมองบุริศร์ แต่บุริศร์กลับส่ายหัว “ไม่รู้เลย ผมเคยบอก ไปแล้ว เรื่องนี้ยังต้องให้วินเซนต์ตัดสินใจเอง จริงๆนี่เป็นเรื่อง ของเขา ต่อให้เกวลินไม่ได้ฆ่าทมโภลีตาย แต่ที่วินเซนต์บาดเจ็บ เกวลินก็เป็นคนทำอยู่ดี ตอนนี้ความแค้นเคืองของสหายใน สหภาพถึงได้มีมากมาย ถ้าเราให้อภัยเธออย่างนี้กลัวว่าจะโน้ม น้าวใจทุกคนไม่ได้ อีกอย่างหลายปีนี้เป็นวินเซนต์ที่พาเหล่า สหาย ให้พยายามกันอย่างเต็มที่ มิตรภาพระหว่างพวกเขาผมไม่ ควรพูดอะไร รอให้วินเซนต์ฟื้นแล้วค่อยว่ากันดีกว่า”

“วินเซนต์จะฟื้นไหม?”

นรมนไม่ค่อยแน่ใจ
แต่บุริศร์กลับยิ้ม “ฟันสิ

“คุณรู้อะไรใช่ไหม? หรือจะบอกว่าวินเซนต์แกล้งเหรอ?”

นรมนมองรอยยิ้มนั้นของบุริศร์ เอาแต่รู้สึกว่าเขาน่าจะรู้อะไร บางอย่าง

แต่บุริศร์กลับส่ายหัวพูดขึ้น “ผมไม่รู้ วินเซนต์ก็ไม่ได้แกล้ง แต่ ความรู้สึกที่วินเซนต์มีต่อทรรศยาจริงแท้แน่นอน เพียงแค่ต้องใช้ วิธีที่ถูกต้อง เขาถึงจะฟื้นได้

“คุณมีวิธีแล้วเหรอ?”

“อื้ม แต่ว่าต้องให้เกวลินร่วมมือด้วย

นรมนเห็นบุริศร์อย่างนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “คุณนี่แผนร้าย เยอะนักนะ”

“คุณไม่ชอบเหรอ?”

พูดๆแล้วมือของบุริศร์ก็โอบเอวบางๆของนรมนเอาไว้

จู่ๆนรมนก็นึกถึงพายุฝนโหมกระหน่ำที่ไม่นานก่อนหน้านี้ รู้สึก ขาอ่อนขึ้นมาทันที

“สามี ฉันผิดไปแล้ว

เสียงนุ่มๆของเธอ มาพร้อมกับความสั่นไหว แต่กลับทำให้เขา เอ็นดูมากขึ้น

บุริศร์อยากจะจับผู้หญิงที่แววตาเป็นประกายตรงหน้ากินเสีย ให้ได้จริงๆ แต่เขาเห็นดวงตาที่อ่อนเพลียของนรมนแล้ว
เขาควบคุมอารมณ์ของตนเองเอาไว้ เสียงแหบพร่าพูดขึ้น “คุณผิดตรงไหน? ผมผิดเอง พอแล้ว คุณไปหาเกวลินเถอะ ผมจะ ไปพักผ่อนหน่อย

“อั้ม”

นรมนรู้ว่าบริศ ปล่อยตนเองไป การพักผ่อนที่เขาเรียกคงจะกลับห้องไปอาบน้ำเย็นสินะ

นรมนยิ่งยิ้มอย่างเบิกบาน

บริศ สายๆหัว จูบเธอด้วยความหลงใหล แล้วถึงหมุนตัวกลับ

ห้องนอน

นรมนรู้สึกว่าในใจมีฟองอากาศผลุดออกมามากมาย อบอุ่น หวานๆ หวานชื่นเหลือเกิน

เธอเดินมาถึงหน้าห้องของเกวลิน เคาะประตู ด้านในมีน้ำเสีย

งอ่อยๆของเกวลินลอยออกมา

“เข้ามา”

นรมนผลักประตูเข้าไป ก็เห็นเกวลินงอเข่าพิงหน้าต่างสไตล์ ฝรั่งเศสอยู่ที่ระเบียง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ร่างของเธอโดดเดี่ยวเงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูก ทำให้คนที่ได้ เห็นปวดใจขึ้นมาทันที

นรมนเดินเข้าไป ส่งเอกสารในมือให้เกวลิน

“อะไรคะ?”
เกวลินมองเอกสารในมือของนรมนด้วยความงงงัน ไม่รู้อะไร

เลย

“ข้อมูลประวัติของเธอ ดูซะหน่อยสิ”

นรมนไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องประวัติของเธอกับเด็กคนนี้ยังไงดี

พวกค้ามนุษย์มากมายที่ซื้อเด็กไปมักจะตัดมือตัดขาของพวก เขาเพื่อให้ไปขอทานข้างถนน ใช้ประโยชน์จากพวกเขาหาเงิน เหมือนเกวลินอย่างนี้ โดนขายไปที่ต่างประเทศ แต่ยังมีชีวิตยังมี สุขภาพที่ดีได้จนถึงตอนนี้ ไม่รู้ควรจะบอกว่าโชคดีหรือโชคร้าย กันแน่

แต่ถ้าเกวลินโดนครอบครัวธรรมดาซื้อตัวไป ก็คงไม่ถึงกับ ต้องเป็นนักฆ่าโง่ๆหรอก แล้วยังทำรักแรกของตนเองหายไปอีก

นรมนค่อนข้างเห็นอกเห็นใจเกวลิน

เด็กคนหนึ่งที่เติบโตอยู่ในองค์กรนักฆ่า คุณจะขอให้เธอมี

ทัศนคติสามด้านที่ถูกต้องได้ยังไง?

อย่างน้อยตอนนี้เกวลินยังไม่ถือว่าเกินเยียวยานัก

ภายใต้การจ้องมองของนรมนเกวลินกำลังเปิดเอกสาร แต่ว่า ยิ่งดูเยอะเท่าไหร่ สีหน้าของเกวลินก็เปลี่ยนไปทีละนิดๆ สุดท้าย น้ำตาเม็ดใหญ่ก็ร่วงเผลาะลงมา

“นี่เป็นความจริงเหรอ? พี่สาวของฉันคือทรรศยาจริงๆเหรอ?” “ใช่ เธอดูรูปพวกนี้ เป็นรูปของพี่สาวเธอทั้งหมด เธอดูสิ พวกเธอหน้าตาเหมือนกันใช้ได้เลยนะ นอกจากดวงตาคู่นั้น ดวงตา ของเธอเหมือนแม่เธอ แต่พี่เธอเหมือนพ่อ

คำพูดของนรมนทำให้เกวลินสะอึกสะอื้น

ตอนที่วินเซนต์พูดเรื่องทรรศยากับเธอ เธอยังไม่มีความรู้สึก มากมายเท่าไหร่ แต่ตอนที่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นพี่น้องของตนเอง ความเศร้าโศกเสียใจก็ทะลักขึ้นมา

บางที อาจจะเป็นความมหัศจรรย์ของสายเลือดเดียวกัน “พี่ฉันเป็นทหารเหรอ? เธอเป็นวีรสตรีที่สละชีพเพื่อชาติใช่ ไหม?”

“ใช่ ทรรศยาพี่สาวเธอเป็นวีรสตรีที่สละชีพเพื่อชาติ เป็นฮีโร่ เป็นความภาคภูมิใจของประชาชน แม้เธอจะมีชีวิตเพียงแค่ยี่สิบ กว่าปี แต่ตลอดชีวิตเธอจะโดนผู้คนกล่าวขวัญ ชื่อของเธอจะ จดจำอยู่บนอนุสรณ์ของผู้กล้าตลอดไป ทิ้งชื่อเสียงที่ดีเอาไว้ ตลอดกาล”

แต่คําพูดของนรมนกลับทำให้เกวลินสายหัว ร้องไห้ คร่ำครวญ “แต่เธอยังอายุน้อยแค่นั้น เธอก็จากไปอย่างนี้แล้ว ไม่กลับมาอีกแล้ว

จู่ๆความเศร้าโศกที่ไร้ขอบเขตก็เต็มไปทั่วทั้งห้อง อัดอั้นจน ทําให้หายใจไม่ทัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ