แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 311 ตัวตลกคู่หนึ่ง



บทที่ 311 ตัวตลกคู่หนึ่ง

“ไม่!

นรมนรีบโต้แย้งทันที

มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

ตกลงให้เขากับนลินอยู่ร่วมกันสามเดือนก็ทำให้เธอเสียใจสุดๆ แล้ว ขึ้นเตียงอีก? เธอไม่ได้โง่จริงๆ นะ

ค่าตอบนี้ของนรมนทำให้บริศร์พอใจอย่างเห็นได้ชัด แต่สีหน้าเขา ยังคงรับไม่ได้สุดๆ

คุณคิดว่าฉันอยู่ร่วมกับเธอสามเดือนแล้วจะไม่มีความรู้สึกเหรอ?”

หมายความว่าไง?”

ทันใดนั้นนรมนก็นิ่งอึ้งไป

ไม่ใช่มั้ง?

บริศ อยากพูดอะไร?

หรือเขาสนใจนลินอยู่บ้าง?

ทันใดนั้นหัวใจนรมนก็หยุดชะงัก ขณะที่มองบุริศร์ ใบหน้าบุริศร์ไร้ อารมณ์ มองไม่ออกเลยว่าตอนนี้ในใจเขากำลังคิดอะไรอยู่

“บริศร คุณคงไม่….

” ตอนแรกฉันก็เพิ่งมีความรู้สึกหลังจากแต่งงานและอยู่ด้วยกันกับ คุณไม่ใช่เหรอ? มนุษย์น่ะ วันเวลาผ่านไปนานๆ ก็จะเกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกันคุณไม่รู้เหรอ? ”

บุริศร์นึกถึงตอนที่ตัวเองโดนนรมนเอาไปเจรจาซื้อขายเหมือนสินค้า ในใจเขาอึดอัดมาก แต่ก็ดุด่าไม่ได้ ในสถานการณ์แบบนั้น ถ้าเป็นเขา เขาจะเลือกอย่างไร?

แต่ก็ยังต้องให้บทเรียนแก่นรมน ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าครั้งหน้าผู้หญิง คนนี้จะเอาเขาไปทําอะไรอีก

แต่นรมนไม่รู้สิ่งที่บุริศร์คิดในใจ แค่เพราะประโยคนี้ของบุริศร์น่าตก ตะลึงเล็กน้อย และตามสถานการณ์แล้วขี้เกียจโต้เถียงกับบุริศร์ อย่างไรมันก็เป็นแบบนี้แล้ว โต้เถียงไปจะมีความหมายอะไร?

อีกอย่างเธอก็เถียงแพ้บุรีศรีด้วย

คิดถึงตรงนี้ นรมนหลับตาตรงๆ แล้วถอยไปด้านหลังทันที

“นรมน!”

ทันใดนั้นบริศร์ก็ตกใจ รีบยื่นมือไปกอดนรมนไว้

นรมนแกล้งตายเก่งมาก ตกตะลึงดวงตาไม่ขยับเลย ทำให้บริศร์ ตกใจจนอุ้มเธอวิ่งไปทางห้องฉุกเฉิน

คุณหมอ คุณหมอรีบมาเร็ว!”

ความรีบเร่งและความเครียดของบุริศร์ทำให้นรมนรู้สึกลำบากใจนิด หน่อย หลายครั้งที่อยากเอ่ยปากบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร แต่ก็กลั้น

ไว้

ขึ้น

ล้อเล่น ถ้าตอนนี้บอกว่าตัวเองเสแสร้ง ในเวลาต่อมาเธอจะรู้สึกดี

นรมนถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน บุริศร์รออยู่ด้านนอกอย่าง กระวนกระวายใจ

เธอนั่งขึ้นมาทันที ทำให้คุณหมอและพยาบาลตกใจสะดุ้ง จากนั้นก็ เห็นนรมนกะพริบตาปริบๆ และพูดกับพวกเขาว่า “ฉันไม่เป็นอะไร แต่ ห้ามออกไปเร็วเกินไป ขอร้องล่ะค่ะ”

คุณหมอราวกับเข้าใจอะไรบางอย่าง แค่ยิ้ม และร่วมมือกับนรมน

บริศ รออยู่ข้างนอกอย่างกระวนกระวาย นรมนก็ทนไม่ไหว พูดกับ คุณหมอว่า “บอกเขาว่าฉันอารมณ์ไม่มั่นคง ร่างกายอ่อนแอเกินไป ต้องการพักผ่อน

ครับ คุณนายบริศร์” ความสนุกนิดๆ ระหว่างพวกเขาสามีภรรยา คุณหมอก็ไม่ได้รู้สึก รังเกียจมากนัก

เมื่อนรมนถูกเข็นออกไปอีกครั้ง บุริศร์ก็เป็นห่วงมาก “คุณหมอ เธอเป็นยังไงบ้าง?”

คุณหมอพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นอะไร ร่างกายอ่อนแอเกินไป ทน ความตกใจไม่ไหวเลยเป็นลมไป

ทันทีที่บุริศร์เห็นนรมนและได้ยินประโยคนี้ก็กลอกตา

เขาค่อนข้างพูดไม่ออก

นรมนในตอนนี้เหมือนเด็กเลย ทำไมไร้เหตุผลแบบนั้น?

ในที่สุดเขาก็รู้ว่ากานต์มีนิสัยเจ้าเล่ห์แบบนี้เหมือนใคร

“ส่งเข้าไปในห้องคนไข้ ฉีดยาบำรุงร่างกายให้เต็มที่ ถ้าไม่ทำตาม จะใช้วิธีอื่นก็ได้ ตระกูลโตเล็กรวย!”

คําพูดของบริศทาให้นรมนลืมตาขึ้นทันที

“ฉันไม่ฉีดยา ฉันสบายดีแล้ว! จริงๆ นะ!”

“โอ้ สบายดีเร็วจังนะ”

บริศ กอดอกมองภรรยาตัวน้อยตรงหน้า มองเธอด้วยใบหน้าเย็นชา

นโมนซวยแล้ว

เธอกลัวการฉีดยา ได้ยินว่าต้องฉีดยา ก็เผลอต่อต้านขึ้นมาโดยไม่รู้ ตัว ลืมเสแสร้งต่อไปเลย ตอนนี้จะเสแสร้งต่อได้อย่างไร?

“เฮอะๆ”

นรมนยิ้มหน้าไหว้หลังหลอกให้กับบุริศร์อย่างยั่วยวน น่าเสียดายที่บุ ศ ส่งสายตาเย็นชาให้เธอโดยตรง จากนั้นก็หันตัวเดินไปอย่างสง่า

ผ่าเผย

“เฮ้ บุริศร์ คุณอย่าไปนะ!”

บริศร์กลับไม่สนใจนรมน ยกเท้าเดินไปหาคุณนายโตเล็ก กานต์ถูกคุณหมอวางยา ถึงใบหน้าเล็กนั้นจะดูน่าตกใจ แต่ก็ดีขึ้น มากแล้ว

คุณนายโตเล็กสงสารจะตายอยู่แล้ว กานต์ก็เป็นเด็กอวดฉลาด เอาแต่เรียกคุณย่า และเอาแต่พูดว่าเจ็บมาก ทำให้หัวใจคุณนายโต เล็กได้กําไร

บริศ เห็นลูกชายเป็นแบบนี้ ก็นึกถึงนรมนอีกครั้งอย่างอดไม่ได้ แม่ลูกสองคนนี้เหมือนกันเป๊ะ!

“แม่ แม่ไปดูกมลเถอะ ผมกลัวว่าเธอจะกังวล นรมนก็สุขภาพไม่ค่อย ดี ผมอยู่ฝ้าทีนี่เอง”

บริศ พูดขึ้นเรียบๆ

กานต์หดคอทันที ดึงมือคุณนายโตเล็กมาแล้วพูดขึ้น “คุณย่า ผมไม่ อยากให้คุณย่าไป คุณย่าให้แต๊ดดี้ไปอยู่กับกมลเถอะครับ”

“คุณย่าลูกอายุมากแล้ว โดนลูกทรมานอยู่ที่นี่ต่อไปก็ทนไม่ไหว

หรอก และสุขภาพคุณย่าลูกก็ไม่ดี ปล่อยมือ

บริศร์จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเจ้าเด็กแสบคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เห็นได้ ชัดว่าไม่อยากอยู่กับเขา แต่ทำไมล่ะ?

เขาเดาอะไรบางอย่างได้เล็กน้อย

เมื่อกานต์ได้ยิน ก็ปล่อยคุณนายโตเล็กไปชั่วขณะหนึ่ง

“คุณย่า งั้นคุณย่าไปพักผ่อนเถอะครับ ผมไม่เป็นอะไรแล้ว”

เห็นหลานชายเป็นเด็กดีและรู้ความ คุณนายโตเล็กก็ยิ่งรักและเอ็นดู

มาก

“ย่าไปเดี๋ยวก็กลับ หลานรักษาแผลให้ดีนะรู้ไหม?”

“อืม!”

กานต์เป็นเด็กดีจนทำให้รักและเอ็นดูมากจนแทบอยากมอบหัวใจทั้ง ดวงให้แก่เขา คุณนายโตเล็กไม่อยากออกไปเลย

เมื่อในห้องคนไข้เหลือเพียงกานต์และบุริศร์สองคน กานต์ก็กระโดด ขึ้นมาทันที ทันใดนั้นก็เว้นระยะห่างกับบุริศร์ไกลมากแล้วพูดขึ้น “คุณ ห้าม ผม”

“ทำไมพ่อต้องตีลูก?”

บริศ สองมือกอดอกมองลูกชายตัวเอง

ถ้ากานต์ไม่ได้ไปโวยวายแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่านลินจะเข้ามายุ่งวุ่นวายใน ตระกูลโตเล็กไปถึงเมื่อไร

ถ้าเธอแค่อยากได้เงิน หรือรู้จักวางตัวนิดหน่อย บางทีตระกูลโตเล็ก และบริศรก็อาจจะเลี้ยงเธอได้ทั้งชีวิตจริงๆ น่าเสียดายที่เธอใจกล้า มากเกินไป มาแตะต้องเกล็ดมังกรของเขา เล่นงานนรมนและกานต์

สองคนนี้บริศร์อย่างเขารังแกได้คนเดียว ถ้าคนอื่นมารังแก เขา อยากจะหั่นคนคนนั้นออกเป็นชิ้นๆ

นลินควรดีใจที่โชคดีที่เธอช่วยชีวิตกมลไว้ ไม่อย่างนั้นตอนนี้เธอคง โดนจัดการไปแล้ว และถูกโยนทะเลเพื่อให้อาหารปลา

แต่คําพูดเหล่านี้บริศ พูดกับกานต์ไม่ได้อย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้เจ้า

เด็กแสบคนนี้อวดเก่ง

กานต์จะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้บุริศร์กำลังคิดอะไรอยู่ แค่ได้ยินบุริศร์ ย้อนถาม เขาก็เผลอกลืนน้ำลายแล้วพูดขึ้น “ผมจะไปรู้ได้ยังไง? ยังไง คุณก็เห็นผมขัดหูขัดตา”

ท่าทางที่มๆ ของลูกตอนนี้มันขัดหูขัดตาจริงๆ”

ขณะที่บริศ พูดก็นั่งขอบเตียง

กานต์นั่นเรียกว่ากลัดกลุ้ม

เขาเหมือนแบบนี้เหรอ?

แต่ไม่อย่างนั้น จะไล่นลินออกไปได้อย่างไร? จะทำให้ความคับ ข้องใจของหม่ามี้ชำระสะสางได้อย่างไร? คิดถึงตรงนี้ กานต์ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ

“เฮอะ คนทีมอย่างผมก็ยังแข็งแกร่งว่าใครบางคน ภรรยาตัวเองโดน คนอื่นรังแก แถมยังโดนบอกว่าแพ้เครื่องสําอางอีก คนคนนี้พ่ายแพ้

มากเลยนะ?”

ดวงตาบุริศ จ้องไปที่กานต์ทันที

กานต์อดตัวสั่นไม่ได้ พบว่าตัวเองขี้ขลาดจริงๆ เขาแสร้งทำเป็นชูคอ ขึ้นอย่างเข้มแข็ง เชิดคางขึ้น จ้องมองบุริศร์ด้วยท่าทางที่ไม่กลัวอะไร ทั้งนั้น

“ลูกมานี่”

บริศรเอ่ยปากเรียบๆ อย่างสงบนิ่ง แต่ทำให้กานต์ไม่สบายใจอย่าง

มาก

“ค-คุณมานี่!”

ลิ้นของเขาพันกันเล็กน้อย

ให้เขาไป?

ไปทําไม?

ตีเหรอ?

เขาไม่ได้โง่แบบนั้นนะ

กานต์จ้องมองบริศ เหมือนเม่น แค่บุริศร์ขยับตัวเพียงเล็กน้อย เขาก็ วางแผนจะทานํามันบนฝ่าเท้าแล้วเริ่มวิ่งหนีทันที

อย่างไรก็ตามออกจากที่นี่ไป เขายังไปหาคุณย่าให้ปกป้องได้

บุริศร์เห็นกานต์ในตอนนี้ทั้งๆ ที่กลัวแทบตาย แต่ยังคงทำท่ายึดมั่น

ราวกับเห็นท่าทางของนรมนเมื่อห้าปีก่อน

เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา

สองแม่ลูกนี่เป็นแม่ลูกกันจริงๆ เป็นตัวตลกคู่หนึ่ง

เหีนบุรีศรยิ้ม กานต์ก็กลุ้มอกกลุ้มใจนิดหน่อย แต่ก็ถามลอง เชิง “คุณยิ้มอะไร?”

“ยิ้มเพราะเจ้าทีมอย่างลูกน่ะสิ ถึงวิธีการจะโง่ไปหน่อย และทำให้ตัว เองบาดเจ็บ แต่ยังฉลาดมาก ควรค่าแก่การชื่นชม”

“เอ?”

กานต์ตกตะลึงทันที

เขานึกว่าบุริศร์จะมาเพื่อตีเขา อย่างไรแล้วเขาที่เป็นเด็กคนหนึ่งก็ จัดการผู้ใหญ่ทุกคนด้วยตัวเอง แถมทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บอีก บุริ ศร์ไม่น่าเขาก็ถือว่าเบาแล้ว แต่ตอนนี้ไม่คิดว่าบุรีศร์จะชมเขา

อะไรกันเนี่ย!

ไม่คิดว่าแด๊ดดี้จะชมเขาจริงๆ !

กานต์รู้สึกว่าตัวเองเกิดอาการประสาทหลอนทางการได้ยิน

“คุณบุริศร์ เมื่อกี้คุณว่าไงนะ?”

กานต์มองไปที่บริศ อย่างไม่แน่ใจ ถามขึ้นอีกครั้ง

” พ่อบอกว่าครั้งนี้ลูกทำได้ดีมาก ตอนที่พ่อไม่สามารถปกป้องหม่ามี้ ลูกได้ดี ลูกสามารถใช้สติปัญญาช่วยหม่ามี้ลูกได้ สมควรแก่การ ชื่นชม”

มุมปากบริศร์ยกขึ้นเล็กน้อย

กานต์ถามขึ้นอย่างประหม่าทันที “คุณไม่ตีผมเหรอ?

“ไม่ดี!”

“ไม่ด่าผม?”

“ไม่ด่า”

“คุณแน่ใจนะ?”

“แน่ใจ”

“งั้นเราสองคนมาเกี่ยวก้อยกัน!” กานต์เผื่อเอาไว้ รีบวิ่งไปแล้วยื่นนิ้วก้อยตัวเองออกมา

ดวงตาบุริศ เป็นประกาย ฉวยโอกาสตอนกานต์ไม่โต้ตอบ ก็กอด กานต์เอาไว้

เด็กดี ดูสิว่าคราวนี้จะวิ่งหนีไปไหน?”

ตอนนี้กานต์ก็รู้ตัวแล้วว่าตัวเองถูกหลอก

“อ๊าก! คุณบุริศร์ คุณใจร้ายเกินไปแล้ว คุณก็ปล่อยผม!” ! คุณปล่อยผมนะ! มีปัญญา

ขณะที่กานต์ตื้น ก็ถูกบุริศร์พาดบนบ่า พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “นี่เรียก ว่าการทหารไม่เบื่อหน่ายกลอุบาย ต่อไปก็เรียนรู้เอาไว้ เจ้าเด็กแสบ เทียบกับคนอย่างพ่อ ลูกยังห่างไกล”

ขณะที่พูดเขาก็โยนกานต์ขึ้นไปบนอากาศ

“อ๊าก!”

กานต์กรีดร้องขึ้นมา สองมือโบก แต่กลับไม่มีแรงเลย

รางกายเขาหล่นลงมาในแนวตั้ง ทำให้กานต์ตกใจจนหน้าซีด ในตอนนี้ บุริศร์ก็คว้าร่างกานต์เอาไว้ พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “กล้าขนาด นี้เชียว? แล้วกล้าโวยวายใส่พ่อไหม? หึม?”

ขณะที่พูด เขาก็โยนกานต์ขึ้นไปกลางอากาศอีกครั้ง

“อ๊ากกกก!”

ครั้งนี้กานต์ไม่ได้กลัวขนาดนั้น เขามองออกว่า บุรีศร์กำลังเล่นกับ

เขาอยู่

เมื่อก่อนอิจฉาเด็กๆ เหล่านั้นที่มีแด๊ดดี้อุ้มลูกตัวเองพาดบ่าแล้วออก ไปข้างนอก ตอนนี้เขาไม่เพียงแต่ได้รับมัน แต่ยังได้เล่นกับบริศ อย่าง สนุกสนานอีกด้วย

ในที่สุดใบหน้าเล็กของกานต์ก็ยิ้มออกมา

“สูงขึ้นอีกหน่อย คุณบุริศร์ ทำให้ผมสูงขึ้นอีกหน่อย!” หลังจากกานต่ละทิ้งความหวาดกลัว ก็เริ่มเล่นขึ้นมา เขารู้สึกว่านี่มัน น่าตื่นเต้นแท้ๆ เลย

บริศรก็ตามใจเขาเช่นกัน โยนขึ้นกลางอากาศครั้งแล้วครั้งเล่า รับ เขาไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงแม้จะมีบาดแผลนิดหน่อย แต่ได้ยินเสียง หัวเราะที่มีความสุขของกานต์ ทันใดนั้นเขาก็คิดว่านี่คือโน้ตดนตรีที่ สวยงามที่สุดในโลก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ