แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 550 ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย



บทที่ 550 ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย

รถวิ่งต่อไปตามทิศทางที่กำหนดไว้แล้ว ตอนที่นรมนรู้สึกตัวอีกครั้ง เธออยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย เธอมองไปรอบๆ ไม่มีใครเฝ้าเธอ และเธอก็ปกติดี จึงลุกขึ้นนั่ง

ภาพก่อนที่จะหลับไปอยู่ต่อหน้า

นรมนขมวดคิ้ว ในใจเกิดความสงสัย เลิฟ ไม่ใช่คนของ ประธานเคน หรือ

หรือว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนร้าย

เลิฟ พาเธอมาหา ประธานเคน

แต่ถ้ามาหา ประธานเคน ต้องใช้วิธีลึกลับอย่างนี้หรือ อีก อย่างมีอะไรถึงพูดกันตรงๆ ไม่ได้ ต้องทำให้เธอสลบ คำถาม มากมายผุดขึ้นในหัวของนรมน

เธอลุกขึ้นเดินไปมา พบว่านอกจากของที่นำมาจากบ้านโพน ไม่อยู่กับตัวแล้ว ของอย่างอื่นยังอยู่ นรมนไม่อาจเข้าใจ พฤติกรรมของ เลิฟ อดไม่ได้ที่จะเปิดประตูเดินออกไป

ที่นี่เป็นคฤหาสน์หลังเดี่ยว หันหน้าหาทะเล แต่ไร้เงาของคน

นรมนเดินออกจากห้องถึงรู้ว่าข้างนอกยังมีการ์ด จำนวนไม่ น้อย ด้วยกำลังของเธอคนเดียวยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้
เวลานี้เอง เลิฟก็เดินเข้ามา “คุณนายบุริศร์ ตื่นแล้วหรือครับ “เลิฟ นายทำอย่างนี้หมายความว่ายังไง” มีหน้านบนไม่ค่อย

ตั้งแต่ป่วย ดูเหมือนเธอจะถูกกระทําตลอด ไม่ว่าจะเป็น กรินท์ หรือ เลิฟ ตอนนี้ ก็จัดการเธอได้ง่ายดาย

เธอเกลียดสภาพปวกเปียกอย่างนี้เหลือเกิน และยิ่งรู้สึก เกลียดสภาพที่เป็นฝ่ายถูกกระทำเป็นที่สุด ความรู้สึกถูกบีบใน คํามือของคนอื่นทําให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย

แม้แต่ตัวเองยังปกป้องไม่ได้ เธอจะปกป้องเด็กๆ และคุณท่าน ตระกูลโตเล็กได้อย่างไรกัน

เหมือนจะรู้ว่านรมน โกรธ ยิ้มให้เธอ “คุณนายบุริศร์ ผมไม่มี

เจตนาเป็นศัตรูกับคุณ ไม่ต้องกังวลเกินไป

“จริงหรือ ไม่มีเจตนาแล้วทําไมพาฉันมานี่ล่ะนายต้องการทำ อะไรกันแน่ รีบบอกฉันมา เราคุยกันรู้เรื่องก็คุย ตกลงกันไม่ได้ก็ แยกกันไป ทำไมต้องทำอย่างนี้

“คงจะไม่ได้ครับ คุณนายบุริศร์ ช่วงนี้คุณต้องอยู่ที่นี่ ไปไหนไม่ ได้ทั้งนั้น ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลอาหารให้อย่างดี จะทำให้คุณ พอใจทุกอย่างเท่าที่ทำได้ แต่ถ้าอยากไปจากที่นี่ ไม่ได้ครับ” คำ พูดของ เลิฟ ทําให้นรมน โมโหทีเดียว

“นี่เป็นความคิดของนายหรือความคิดของ ประธานเคน

“คุณนายปริศ อย่าถามอีกเลย ต่อไปคุณจะเข้าใจเอง ผมคุณนายบุรีศรีสุขภาพไม่ค่อยดี ผมเตรียมยาให้แล้ว ไม่ต้องห่วง ผมไม่มีทางทำร้ายคุณ

เลิฟ วางยาลงบนโต๊ะ

บรมนมองดู ไชยา โพนี่สั่งให้เธอ แต่ตอนนี้เธอไม่อยากกิน

“ฉันอยากเจอ ประธานเคน”

“ขอโทษครับ คุณนายบุริศร์ เรื่องนี้ผมทำไม่ได้” เลิฟพูดเชิง

ขอโทษ

นรมนกังวลใจมาก

เจตต์เกิดเรื่อง บุริศร์เป็นตายไม่รู้ หายตัวไป กิมจิก็เหมือนจะ เปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่ง ถึงกับยิงเธอ เรื่องราวทั้งหมดนี้แปลก ประหลาดเหลือเกิน เธอไม่มีทางนั่งเฉยๆ อยู่ที่นี่ รอฟังข่าวอย่าง เดียว

“งั้นเรื่องไหนที่นายทำได้

นรมนไม่ร้อนรน มอง เลิฟ เย็นชา

เลิฟ เห็นเธอเป็นอย่างนี้ ไม่รู้ว่านรมนกำลังคิดอะไร จึงพูดขึ้น “ถ้าเป็นเรื่องกินอยู่ของคุณนายบุริศร์ ผมทำได้

“งั้นนายไปได้ ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย”

นรมนพูดจบก็หันหลังให้

เลิฟ ทำหน้าไม่ถูก แต่ไม่ได้พูดอะไร ถอยออกไป นรมนนึกไม่ ถึงว่าเขาจะรับฟังเธอง่ายขนาดนี้ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
เธออยู่ลำพังในห้องอีกครั้ง นมนมองไปทั่วๆ ที่นี่ไม่ได้ติดตั้ง กล้องวงจรปิด แต่หลังออกจากห้อง ข้างนอกมีกล้องจับตามอง ทุกที่ หรือพูดได้ว่านอกจากความเป็นส่วนตัวของตัวเอง ที่นี่ทุก ซอกมุมอยู่ภายใต้การควบคุมของคนอื่น นมันไม่รู้ว่าควรจะ ขอบคุณที่อีกฝ่ายเคารพตนเองหรือไม่ เพียงแต่รู้สึกน้อยใจมาก

สภาพร่างกายของเธอไม่ยอมให้เธออยู่นานเกินไป

สภาพของเธออยากจะฟื้นฟูจนแข็งแกร่งที่สุดดูเหมือนจะเป็น ไปไม่ได้ แต่รอข่าวอยู่ที่นี่ หรือรอจนมีคนมาช่วย นั่นไม่ใช่สไตล์ ของเธอ ควรทําอย่างไรดี

นรมนกระวนกระวายใจมาก

ช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว

โพนฟื้นขึ้นพบว่าบรมนหายไปแล้ว ร้อนใจแทบตาย สั่งให้คน ของตัวเองออกหาข่าวของนรมน เมื่อรู้ว่าเธอออกจากเมืองชล ไปแล้ว ก็กังวลใจมาก รีบโทรไปหาป้อง

เมื่อป้องรู้เรื่องสภาพร่างกายของนรมน ส่งคนไปแกะรอยตาม สถานที่บริศร์หายตัวไป แต่ก็ไม่เจอร่องรอยของนรมน จำต้อง บอกข่าวทีนรมนหายตัวไปกับธรณี

ธรณีร้อนใจมาก สั่งให้คนของตัวเองออกตามหานรมนเช่นกัน

ไม่นาน ทั้งเมืองชลธีก็ตึงเครียดอีกครั้งเพราะการหายตัวไป ของนรมน แต่ทั้งหมดนี้นรมนไม่รู้เรื่องแม้แต่นิดเดียว เธอถูกขัง เหมือนนกในกรง ร้อนใจแทบแย่ แต่ไม่มีใครสักคนมาพูดอะไรกับเธอ

นรมนรู้ว่าเธอไม่อาจทนอย่างนี้ต่อไปได้

ตอนนี้อยากจะหนีไปจากที่นี่ ดูท่าต้องมีชั้นเชิง คิดถึงตรงนี้ ตั้งใจทุบแก้วที่อยู่ตรงหน้าแตก นรมนกรีดร้อง แล้วสลบไป รู้ข่าวนรมนสลบก็รีบเข้ามา

“เกิดอะไรขึ้น บอกให้พวกนายดูแลเธอดีๆ ไง

เลิฟ ระเบิดอารมณ์ ไม่เหมือนท่าทางเคารพนบนอบที่อยู่ต่อ หน้านรมนสักนิด

การ์ดไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เลิฟ เคยสั่งพวกเขา ห้ามเข้าใกล้ นรมนมากเกินไป ตอนนี้นรมนเกิดเรื่อง เขาไม่ผิดจริงไหม แต่ แน่นอนว่าเขาพูดอย่างนี้ออกไปไม่ได้

เห็นการ์ดเงียบ เลิฟก็ผ่อนคลายอารมณ์ลง “ไปเรียกหมอ

ประจําบ้านมา”

“แต่คุณนายปริศ เป็นอย่างนี้ ผมกลัวว่าหมอประจำบ้านจะ รักษาไม่ไหว”

การ์ดเห็นใบหน้าของนรมนซีดเผือดไม่มีเลือด อดไม่ได้ที่จะ

เป็นห่วง

เลิฟ ก็ขมวดคิ้วเช่นกัน ออกคำสั่ง “เรียกมาดูก่อนละกัน จะพา คุณนายบุรีศร์ออกไปไม่ได้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นมา พวกเรารับผิด ชอบไม่ไหวแน่ ขอแค่ให้เธอปลอดภัย ทุกอย่างก็คุยกันได้
นรมนแอบฟัง ไม่รู้ว่าคนพวกนี้คือใครบ้าง ทำไมต้องทำอย่าง นี้กับตัวเอง แต่เธอมองเห็นหน้าพวกเขาไม่ชัด

การ์ดรีบออกไปเรียกหมอประจำบ้าน

ขณะที่นรมนคิดจะฉวยโอกาสควบคุมเลิฟ แล้วให้เลิฟ พาตัว เองออกไปจะทำได้ไหม ทันใดนั้นก็มีคนโจมตี เลิฟ

เห็นเขาอ่อนแออย่างนี้ นึกไม่ถึงว่า เลิฟ จะเป็นยอดฝีมือ ต่อย คนที่เข้ามาสลบไป เสียงต่อสู้ทำให้การ์ดที่อยู่ข้างนอกเข้ามา

สั่งเสียงเย็น “โยนมันออกไป คงเป็นคนของครินท์ เพิ่มการคุ้ม กัน อย่าให้คนของตนท์เข้ามาทำร้ายคุณนายบุริศร์ได้

“ครับ!”

การ์ดออกไปอย่างรวดเร็ว

นรมน ในใจปาดเหงื่อ

ที่แท้ เลิฟ เก่งขนาดนี้!

ถ้าเมื่อครู่ตัวเองลงมือล่ะก็ ไม่มีทางชนะแน่ แต่ฟังจากที่เขาพูด เขาไม่ใช่คนของครินท

เขาเป็นใครกันแน่

ประธานเคนที่อยู่เบื้องหลังเขาเป็นเพื่อนของบุริศร์มาหลายปี จริงหรือ

ความสงสัยทั้งหมดนี้คงต้องรอเจอหน้าบุริศร์เท่านั้นถึงจะรู้ว่

ตอบ
บรมนแกล้งสลบต่อ ไม่ส่งเสียงใดๆ

เลิฟมองนรมน สับสนครู่หนึ่ง ก็อุ้มเธอขึ้นไปวางบนเตียง หมอ ประจำบ้านเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นนรมันก็ตะลึง

“คุณนายบุรีศร?”

“ใช่แล้ว คุณต้องรักษาเธอให้หาย

เลิฟ พยักหน้า

หมอประจำบ้านมองนรมน พูดขึ้น “พวกคุณออกไปก่อนเถอะ ผมจะดูว่ารักษาเธออย่างไร

เลิฟ ไม่พูดอะไรออกไปจากห้องตามที่หมอบอก

ในห้องเหลือเพียงแค่สองคน ขณะที่หมอกำลังยื่นมือมา นรมน ก็จับข้อมือเขาแน่น พละกำลังพอดีกับที่ทำให้หมอขยับมือไม่ได้

หมอตกใจ แต่ทําเป็นไม่ตื่นเต้น “คุณนายบุริศร์ คุณจะทำ

อะไร”

“ฉันจะทําอะไรคุณไม่ต้องยุ่ง ฉันแค่อยากจะให้คุณพาฉันหนี เหงื่อเย็นผุดบนใบหน้านามน

เธอไม่ได้แกล้งทั้งหมด เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายจริงๆ ไม่อย่าง นั้นคงไม่แกล้งได้เหมือนขนาดนั้น ตอนนี้เธอไม่สนอะไรทั้งนั้น แล้ว คิดแต่จะออกจากที่นี่ไปให้เร็วที่สุด

หมอประจำบ้านชะงัก แล้วพูด “คุณออกไปไม่ได้ ผมก็พาคุณ ไปไม่ได้ ข้างนอกมีแต่การ์ตเต็มไปหมด อาศัยความสามารถของผมไม่มีทางพาคุณออกไปได้ ผมขอร้องให้คุณอยู่ที่นี่เถอะ อีก อย่างร่างกายคุณก็ดูไม่ไหวจริงๆ ถ้าไม่รักษาล่ะก็ เกรงว่า….

“ไม่ต้องพูดมากแล้ว ตอนนี้ฉันต้องไปจากที่นี่ ทางที่ดีคุณช่วย หาทาง ไม่อย่างนั้นฉันจะลากคุณไปนรกด้วยกัน

“คุณนายบุรีศร์ เลิฟ ไม่อ่อนนะ คุณคิดว่าเขาจะมองคุณลงมือ กับผมเฉยๆ หรือ”

หมอประจําบ้านไม่กังวลสักนิด

นรมนมเย็น หยิบมีดสั้นออกมาจากในแขนเสื้อ จี้คอของ หมอประจําบ้าน

“งั้นคุณก็ลองดู หมัดเขาไว หรือมีดฉันไวกว่า

ประกายแสงของมีดคมกริบทําให้หมอประจําบ้านตะลึง นึก ไม่ถึงว่า นรมนที่ดูอ่อนแอจะเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ ไม่อาจนิ่งสุขุมได้อีก ต่อไป

“คุณนายบุริศร์ คุณก็น่าจะรู้ ผมเป็นแค่หมอเท่านั้น

“ตอนนี้สำหรับฉันแล้ว ฉันไม่สนใจสถานะและอาชีพของคุณ ฉันแค่อยากไปจากที่นี่ อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำอีกได้ไหม ไม่อย่าง นั้นฉันไม่รู้จริงๆ จะทำอะไรได้บ้าง

ตอนนั้นมันทำท่าเอาจริง

เธอร้อนใจมาก เธอเสียเวลาที่นี่ไปครึ่งวันแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้ เจตต์กับบริศ เป็นอย่างไรบ้าง ขึ้นเสียเวลาที่นี่ต่อไป เธอคงต้องไปเก็บศพพวกเขาจริงๆ

เมื่อเห็นหมอลังเล มือนแมนสั้น โจมตีหมอประจำบ้านทันที ทําให้เขามีเลือดออก บ

หมอรู้สึกหวาดกลัว

“ผมพาคุณออกไปไม่ได้ แต่ผมหาวิธีส่งคุณออกไปจากที่นี่ได้

“วิธีไหนคะ”

นรมนถามเสียงเย็น เผื่อใจอย่างที่แย่ที่สุดไว้แล้ว หมอคนนี้อาจหลอกเธอก็ได้ แต่ตอนนี้ถึงอย่างไรก็ต้องลองดู

ไม่ใช่หรือ

หมอเมื่อได้ยินนรมนถามเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ขอ แค่นรมนยอมพูดคุยกัน

พูดแล้ว เขาก็หยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋ายาประจำ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ