แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 165 อย่าทำให้น้องสาวของฉันตกใจ



บทที่ 165 อย่าทำให้น้องสาวของฉันตกใจ

นรมนกลัวเสียงดังรบกวนเด็กๆ จึงรีบหยิบโทรศัพท์ออก

ไปข้างนอก กิจจามองกานต์ที่นอนอยู่ข้างๆ จู่ๆก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา

ถ้าเขากับกิจจากลายเป็นพี่น้องกันจริงๆ อย่างนั้นคุณน้า ก็จะกลายเป็นหม่ามี้ของเขาด้วยใช่ไหม?

ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงหม่ามี้ของเขา

ตั้งหลายวันแล้ว เขายังไม่เห็นหม่ามี้เลย แล้วก็ยังไม่ได้ รับสายจากหม่ามี้สักสาย หรือว่าเธอลืมไปแล้วว่าเขาคนนี้ เป็นลูกของเธอ?

กิจจาถอนหายใจ จากนั้นก็แอบหยิบโทรศัพท์ของกานต์ ออกมา แล้วกดโทรออกหาเขมิกา

ปลายสายไม่มีคนรับเลย ดวงตาของกิจจาจึงเริ่มฉาย แววผิดหวัง

อีกด้านหนึ่งเมื่อนรมนกดรับสายก็ถามเสียงเบาขึ้นมาว่า “มีเรื่องอะไร?”

เจตต์เป็นคนโทรมา

หลังจากที่สังเกตได้ว่านรมนมีเรื่องไม่สบายใจ เจตต์ก็ เริ่มทำการตรวจสอบว่าช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานี้มีอะไรเกิด ขึ้นกับนรมนหรือเปล่า

แต่ไม่ว่าจะเป็นตระกูลโตเล็กหรือตระกูลทวีทรัพย์ธาดาต่างก็ปิดปากเงียบสนิท กว่าเขาจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ใช่ ง่ายๆ แต่ว่าทุกอย่างมันไม่ทันเสียแล้ว

เจตต์รู้ว่าถ้าเขาโทรมาหานรมนตอนนี้อาจจะรบกวนการ พักผ่อนของเธอ แต่ว่าเขาทนไม่ไหวแล้ว

ทำไมทุกครั้งที่นรมนมีเรื่อง เขาถึงไม่ได้อยู่กับเธอตลอด เลยล่ะ?

น้ำเสียงของเจตต์ดูร้อนใจเป็นอย่างมาก

“นรมน ตกลงเธอเห็นฉันเป็นเพื่อนไหม? ทำไมพอมีเรื่อง แล้วถึงไม่บอกฉันล่ะ? ในสายตาของเธอ ฉันก็แค่คนเจ้าชู้ ที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลยใช่ไหม?”

“นายเป็นอะไรอีก?”

ตะคริวเริ่มกินแขนของนรมน จนรู้สึกยุบยิบ ทรมานเป็น

อย่างมาก พอได้ยินคำถามของเจตต์ เธอก็ไม่ทันได้คิดว่า มันเรื่องอะไร เพียงแค่เอ่ยถามออกไปอย่างไม่คิดอะไร “ฉันเป็นอะไรงั้นเหรอ? ฉันจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? ในสาย

ของเธอ ฉันก็เป็นลูกคนรวยที่ไม่ได้เรื่องยังไงล่ะ?”

พูดจบเจจต์ก็ตัดสายทันที

นรมนรู้สึกงุนงง

ตกลงเจตต์โทรมาทำไมนะ?

เธอเหนื่อยจริงๆ จึงไม่ได้ใส่ใจท่าทีและคำพูดของเจตต์ เท่าไหร่ หลังจากที่วางสาย นรมนก็กลับเข้ามาในห้อง ก็ พบว่ากิจจานอนซบกานต์หลับไปแล้ว เธอจึงเดินไปห่มผ้าให้พวกเขาอย่างแผ่วเบา จากนั้นถึงได้เดินเข้าห้องน้ำไป

น้ำอุ่นราดลงบนแขนของเธอ ทำให้เส้นประสาทและ เส้นเลือดที่เหน็บชาเริ่มกลับมาไหลเวียนอีกครั้ง”

ความรู้สึกทรมานจึงหดหายไป หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ จึงรู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะ

ในห้องมีเตียงแค่หลังเดียว ถ้านรมนขึ้นไปนอนบนนั้น ด้วยต้องเบียดมากแน่ๆ

เธอจึงนั่งลงที่โซฟา พร้อมกับหาวออกมา สุดท้ายก็หลับ ไปอย่างทนไม่ไหว

เมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามานรม นก็รู้สึกตัว เมื่อเธอเห็นภาพกานต์ลุกขึ้นนั่ง แล้วค่อยๆห่ม ผ้าให้กิจจาเบาๆ เธอก็รู้สึกรักและเอ็นดูเป็นอย่างมาก

มันทำให้เธอนึกไปภาพที่กานต์ดูแลกมล

“กานต์ อรุณสวัสดิ์”

“หม่ามี อรุณสวัสดิ์ครับ”

กานต์ยิ้มอย่างร่าเริง รอยยิ้มนั้นทำให้นรมนสบาย

อารมณ์เป็นอย่างมาก

“กานต์ คิดถึงกมลไหม?”

“คิดถึงสิครับ เมื่อไหร่เราจะได้กลับไปหากมลเหรอ?”

กานต์คิดถึงกมลจริงๆ แต่ปกติถ้านรมนไม่พูด เขาก็ไม่ กล้าพูด เพราะกลัวว่าหม่ามีจะกังวลและคิดถึง
นรมนลูบหัวของกานต์แล้วพูดว่า “ใกล้แล้ว รอให้กิจจา ผ่าตัดเสร็จ เราก็จะกลับไป หลังจากนั้นเราก็พากมลมา เมืองชลธีดีไหม?”

“ดีครับ!”

“กมลคือใครเหรอ?”

ไม่รู้ว่ากิจจาตื่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อได้ยินที่กานต์และ นรมนพูด ก็ถามออกมาทันที

กานต์พูดยิ้มๆว่า “กมลคือน้องสาวของฉัน น้องสาวแท้ๆ แล้วก็สวยมากๆด้วย ถ้าเจอกันนายห้ามแกล้งเธอนะ”

“ผมไม่ทำหรอก!”

กิจจาส่ายหัว แล้วพูดขึ้นอย่างสนใจว่า “เธอสวยมากเห รอ? เหมือนเจ้าหญิงไหม?”

“ไม่ใช่แค่เหมือน แต่น้องสาวของฉันเป็นเจ้าหญิงเลย ต่างหาก ฉันจะบอกนายให้นะ นี่เป็นความลับระหว่างเรา นายห้ามบอกคุณบุริศร์เด็ดขาด”

“ทำไมล่ะ?”

กิจจาคิดว่าไม่มีเรื่องอะไรให้ปิดบังบุริศร์เสียหน่อย

กานต์ส่งเสียงที่ออกมา “ฉันบอกห้ามพูดก็คือห้ามพูด ถามอะไรเยอะแยะ”

“อืม! ถ้าหม่ามของผมมีน้องสาวน่ารักๆให้ผม มันต้อง สนุกมากแน่ๆเลย”

คำพูดของกิจจาทำให้นรมนเจ็บปวด
เขมิกาคงมีน้องสาวให้กิจจาไม่ได้อีกตลอดชีวิตนี้ แต่ว่าเธอไม่รู้จะบอกกิจจายังไงดี

กานต์โอบต้นคอของกิจจาเอาไว้พร้อมพูดว่า “น้องสาว ฉันก็เป็นน้องสาวนายเหมือนกันไม่ใช่หรือไง? มันต่างกัน ตรงไหน? ฉันจะบอกให้นะ ฉันแบ่งน้องสาวให้นายก็ได้ นายเองก็มาเป็นน้องชายของฉัน แต่ถ้านายไม่ชอบก็ไม่ เป็นไร น้องสาวฉันมีคนมาชอบเยอะอยู่แล้ว”

“ใครบอกว่าผมไม่ตกลงล่ะ? ผมตกลง! เฮีย เฮียสบายใจ ได้ น้องสาวของเฮียก็คือน้องสาวของผมเหมือนกัน ผมรับ ประกันว่าจะดูแลเธอให้ดี ว่าแต่มีรูปไหม? ขอผมดูหน่อย สิ”

กิจจาพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคัก

กานต์ส่งเสียงหืออกมาแล้วพูดว่า “ดูจากสภาพของนาย แล้ว บอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าห้ามทำให้น้องสาวฉันตกใจ”

“ไม่ทำๆ!”

กิจจาอ้อนวอนขอดูไม่หยุด กานต์จึงหันไปมองนรมน เมื่อเห็นว่านรมนไม่ได้คัดค้านอะไร ถึงได้หยิบโทรศัพท์ ขึ้นมาวิดีโอคอลหากมล

เมื่อสายถูกกดรับ ภาพของกมลนอนพิงอยู่บนเตียงก็ ปรากฏขึ้นมา เมื่อเห็นหน้ากานต์ก็ดีใจเป็นพิเศษ

“พี่คะ!”

“กมล วันนี้ดีขึ้นหรือยัง?”
เมื่อกานต์เห็นท่าทางซีดเซียวของกมล ก็รู้สึกสงสารเป็น อย่างมาก เสียงพูดอ่อนลงไปเยอะพอสมควร

ด้านกมลพูดยิ้มๆว่า “หนูดีขึ้นมากแล้ว หนูลงจากเตียง

เองได้แล้วนะ พี่อย่าเป็นห่วงเลย”

“ไฮ น้องสาวคนสวย ฉันชื่อกิจจานะ เป็นพี่ชายของเธอ

อีกคนล่ะ!”

กิจจาซะโงกหน้าเล็กๆเข้าไปใกล้หน้าจอโทรศัพท์ ใกล้ จนแทบจะมุดจอ

กมลประหลาดใจ แต่เมื่อเห็นกิจจาใส่ชุดผู้ป่วยเหมือน กับที่ตัวเองใส่ ก็พูดยิ้มๆว่า “สวัสดีพี่กิจจา”

“สวัสดีๆๆ! น้องกมล เธอน่ารักจัง เหมือนตุ๊กตาเลย ผิว ของเธอต้องนุ่มมากแน่ๆใช่ไหม?”

กิจจายิ้มเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็ถูกกานต์ดันออกไปด้านข้าง

“กิจจา น้ำลายไหลหมดแล้ว”

“ไม่มีสักหน่อย”

กิจจารีบเช็ดปากตัวเอง

กมลไม่เคยเจอพี่ชายที่ตลกขนาดนี้มาก่อน จึงหัวเราะ

คิกคักออกมาอย่างร่าเริง

เมื่อนรมนได้ยินเสียงหัวเราะของลูกสาว รู้สึกสบายใจ

ขึ้นมา

เพราะอาการป่วยของกมล เธอจึงไม่ค่อยได้ออกไปเล่น กับเพื่อนวัยเดียวกัน น้อยครั้งมากที่ได้ออกไปข้างนอกพอตอนนี้มีกานต์กับกิจจามาเล่นกับเธอ จึงทำให้นรมน รู้สึกสบายใจขึ้นมาก

กมลถูกกิจจาดึงดูดความสนใจไปทั้งหมด

เขากับกานต์นิสัยต่างกันอย่างสิ้นเชิง

กานต์มีความเป็นผู้ใหญ่ ไม่เหมือนเด็กเลยสักนิด แต่ว่า กิจจากลับซุกซน ชอบเล่นอะไรตลกๆ ทั้งยังชอบยิ้มและ หัวเราะ

กมลเอ่ยถามอย่างดีใจว่า “พี่กิจจา พี่จะมาเล่นกับหนู ไหม?”

“ไปสิรอให้ฉันผ่าตัดเสร็จ ฉันก็จะไปหาเธอ แล้วก็จะ พาเธอออกไปเล่นข้างนอกกับเฮียกานต์ด้วยเป็นไง?”

“จริงเหรอ? งั้นเรามาเกี่ยวก้อยสัญญากันไหม?”

“ได้สิ!”

กิจจารีบยื่นนิ้วออกไป แต่ไม่สามารถเกี่ยวก้อยกันผ่าน หน้าจอโทรศัพท์ได้ กิจจาขมวดคิ้วมุ่น

“เฮีย มันทำยังไง?”

“เจ้าโง่!”

กานต์รู้สึกว่ากิจจานี่ปัญญาอ่อนเสียจริง แต่เมื่อหันหน้า ไปหากมลสีหน้าของเขาก็พลันอ่อนโยนขึ้นมา

“กมล รอให้หมอนผ่าตัดเสร็จก่อนนะ พี่กับหม่ามี้จะไป รับเธอที่อเมริกาแล้วพากลับมาเมืองชลธีด้วยกัน พี่จะ บอกให้นะ เมืองชลธีมีของกินอร่อยๆเยอะมาก ที่หลังเดี๋ยวพี่จะพาเธอไปกิน”

“แล้วก็ยังมีสถานที่สนุกๆอีกเยอะเลย ฉันได้ยินมาว่า สวนสนุกน่ะสุดๆแล้ว รอเธอกลับมา พวกเราสามคนค่อย ไปด้วยกันนะ ไปขึ้นเรือโจรสลัด แล้วก็ม้าหมุนเป็นไง? ฉันเลี้ยงสายไหมเธอได้นะ! สายไหมน่ะเหมือนก้อนเมฆบน ท้องฟ้าเลย ทั้งขาวทั้งหวาน”

เมื่อพูดถึงสายไหมกิจจาก็น้ำลายไหล

ท่าทางแบบนั้นของเขาทำให้กานต์รับไม่ได้ จนต้องมอง อย่างเอื้อมๆ

แต่กมลกลับโหยหาเป็นอย่างมาก

“พูดแล้วต้องเป็นคำพูดนะ พี่กิจจา เมื่อไหร่จะผ่าตัดล่ะ? พี่กลัวไหม?”

“กลัวสิ! ห้องผ่าตัดใหญ่ๆ มีฉันอยู่แค่คนเดียว จะไม่กลัว

ได้ยังไง”

กิจจานึกไปถึงภาพนั้นก็หัวหดทันที

กมลกลับพูดยิ้มๆออกมาว่า “พี่กิจจาไม่ต้องกลัวนะ จริงๆ แล้วพี่หลับตาลงไม่ต้องไปดูก็ไม่เป็นอะไรแล้ว หนูเข้าห้อง ผ่าตัดมาตั้งแต่เด็กๆ จนชินแล้วล่ะ พี่อย่าลืมนะ ว่าข้าง นอกยังมีคนที่เป็นห่วงเรารอเราอยู่ข้างนอกตั้งหลายคน ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องออกมาจากห้องผ่าตัดอย่างปลอดภัย พวกเราจะได้ไม่เป็นห่วงเรามาก”

ปลายจมูกของนรมนเริ่มแสบร้อน เธอจึงเปิดประตูเดิน ออกจากห้องไป
เธอผิดเองที่ทำให้ลูกสาวต้องมาแบกรับทุกอย่างแบบนี้ เรื่องของลูกเหมือนกริชแหลมคมที่บาดลึกลงที่กลางใจ ของเธอ

กานต์เองก็รู้สึกเสียใจ มีแต่เจ้าโง่กิจจาเท่านั้นที่พยัก หน้าหงึกๆตามที่กมลพูด

“ว้าว น้องกมล เธอเก่งแล้วก็กล้ามากเลย! ฉันคงต้อง เรียนรู้จากเธอแล้วล่ะ! รอให้ฉันผ่าตัดเสร็จ ฉันจะโทรไป หาเธอนะ!”

“สัญญาแล้วนะ!”

“สัญญา!”

เด็กทั้งสามคนสร้างมิตรภาพอันลึกซึ้งผ่านวิดีโอ

นรมนยืนพิงหน้าต่างมองแสงแดดที่กำลังเปรี้ยงปร้างข้าง นอก รู้ตัวว่าเวลาของตัวเองที่นี่เหลือไม่เยอะแล้ว

คุณนายตระกูลวัชโรทัยพูดออกมาขนาดนี้แล้ว เธอ จำเป็นต้องร่างแบบให้เสร็จก่อนที่รเมศจะลงมือทำอะไร ต้องไม่ให้เขาหาข้ออ้างในการทำไม่ดีกับตระกูลโตเล็ก

ไม่เคยคิดเลยว่า พอมาถึงเวลานี้ แม้แต่บุญคุณห้าปี ก็ ไม่อาจทำให้เธอยอมปล่อยให้ใครก็ตามมาแตะต้องบุริศร์

ได้

นรมนหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องพักฟื้น ก็พบว่า กานต์วางโทรศัพท์ลงแล้ว และกำลังเล่นกับกิจจา

เด็กผู้ชายเล่นกันแรงกว่าเด็กผู้หญิงเสมอ ตอนนี้กิจจาไม่สามารถเล่นต่อสู้กับกานต์ได้ แต่พวกเขาก็ยังวาดบาง อย่างเล่นบนกระดาษ เหมือนจะเป็นหมากรุกจีน

นรมนดูพวกเขาเล่นไม่เป็น และขี้เกียจจะสนใจด้วย ใน

ความคิดของเธอ ไม่จำเป็นต้องไปฝืนดูอะไรตามวิถีของ

เด็กผู้ชายหรอก

เธอจึงหยิบกระดาษวาดรูปออกมาจัดการงานออกแบบ ของตัวเองให้เสร็จ

แบบร่างอันนี้ต้องใช้เวลาอีกสักระยะถึงจะเสร็จ จากนั้น การร่วมงานของทั้งสองบริษัทก็จะเข้าสู่วาระการประชุมต่อ ไป ถึงจะไม่รู้ว่าตอนนั้นมันจะเป็นไปในรูปแบบไหน แต่นร มนก็หวังว่าจะสามารถจัดการได้อย่างราบรื่น

ด้านบุริศร์ก็กำลังตามหาหมู่เลือดของกิจจาอย่างเร่งด่วน พร้อมกันนั้นในเวลาเดียวกันก็มีผู้ชายใส่ชุดกาวน์สีขาวมา ที่สถานีตำรวจ

ผู้ชายคนนี้หน้าตาสะอาดสะอ้าน ดูเป็นคนเรียบร้อยและ นุ่มนิ่ม ถ้าไม่ใช่ว่าเขาถือบัตรประจำตัวแพทย์มาด้วย คิด ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคงไม่ปล่อยให้เขาเข้ามา ที่ห้องของเขมิกาแน่ๆ

เมื่อวานเขมิการู้เรื่องที่กิจจาถูกส่งไปรักษาที่โรง พยาบาลแล้ว จากที่ได้ยินมาบอกว่ามีน้ำลายฟูมปาก แขน ขาชักกระตุก อาการแทบจะไม่ไหว

เธอกังวลจนจะตายอยู่แล้ว คิดจะออกไปข้างนอกอยู่ หลายครั้ง แต่ก็ถูกลากกลับมาทุกที เพราะมัวแต่เป็นห่วงกิจจา เธอจึงลืมกินยาที่ตั้งเมให้เธอมา จนก่อนหมอจะมา เธอถึงพึ่งนึกได้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันเสียแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ