แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1320 ยิ้มจากก้นบึ้งของหัวใจ



บทที่ 1320 ยิ้มจากก้นบึ้งของหัวใจ

“ร่างกายของพรวลัยยังไม่หายดีไม่ใช่เหรอ?”

นรมนแปลกใจ

บุณพจน์กลับยิ้ม “ถือเป็นคำขอบคุณที่คุณช่วยแก้ปมเจตนา แก้แค้นของเธอ อีกสักพักผมจะอุ้มเธอไป รับรองว่าไม่ปล่อยให้ เธอโดนลม เปรียบเทียบกับผมและพวกคุณ เธออยากรู้ยิ่งกว่า ใครว่าผลตรวจดีเอ็นเอจะเป็นอย่างไร”

คําพูดนี้เป็นความจริง

พรวลัยรักบุณพจน์มานานหลายปี ทรมานกับความรักและ ความแค้นระหว่างตระกูลมาตลอด และยิ่งเพื่อหนี้แค้นเด็กหลาย คนจึงถูกกําจัดอย่างต่อเนื่อง เธออยากรู้ผลจริงๆ

บุริศร์เห็นบุณพจน์ตัดสินใจเช่นนี้ จึงพยักหน้ากล่าว “ได้ พวก นายเตรียมตัว ฉันกับนรมนจะออกไปเดินข้างนอก

“อย่าเดินไปไกลมาก ที่นี่ยังมีอิทธิพลที่เหลือที่ฉันยังไม่ได้เข้า

ยึด กลัวจะเกิดอะไรขึ้น

บุณพจน์ไม่ใช่พระเจ้า ถึงจะเป็นลูกชายของฉัตรพล แต่ความ จริงแล้วหลายปีที่ผ่านมาฉัตรพลไม่ได้มอบอำนาจแก่เขา วันนี้ ฉัตรพลหายตัวไป ถึงแม้บุณพจน์จะใช้วิธีการสายฟ้าฟาดยึด ครองอำานาจชั่วคราว แต่ความจงรักภักดีอันแรงกล้าของบรรดา คนเหล่านั้นที่ติดตามฉัตรพลมานานหลายปีเขายังไม่สามารถรับช่วงต่อได้ในเวลาอันสั้น แน่นอนบริศ เข้าใจ

สองพี่น้องพยักหน้าให้กัน บุริศร์พานรมนออกมาจากบ้าน ด้านนอกมีการทำความสะอาดไปไม่น้อยแล้ว จึงไม่ได้กลิ่น คาวเลือดอะไรอีก แต่สิ่งที่ถูกยับยั้งเอาไว้ภายใต้ความสงบมักจะ ทะลักขึ้นมาในหัวใจ

นรมนไม่ชอบที่นี่เอามาก แต่ก็ไม่สามารถออกไปได้ชั่วคราว สังเกตอยู่สักพักหนึ่ง พบว่าหลังบ้านมีอ่างเก็บน้ำเล็กๆ จึงอดดึง แขนเสื้อบุริศร์ไม่ได้ “พวกเราไปนั่งตรงนั้นกันเถอะ”

“เอาสิ”

บริศร์รู้ความคิดของนรมน จึงจูงมือเธอเดินไป

ที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบและสวยงาม น้ำในอ่างเก็บน้ำใสมาก จนสามารถมองเห็นปลาที่เลี้ยงอยู่ข้างในว่ายอย่างเบิกบาน

นรมนอดยิ้มกล่าวไม่ได้ “ฉัตรพลคนนี้ยังรู้จักเสพสุข คิดไม่ ถึงว่าจะเลี้ยงปลากินเอง”

คิ้วของบุริศร์กลับขมวดขึ้นมาเล็กน้อย

“นี่ไม่ใช่ปลากิน นี่คือปลาไฟฟ้า

“อะไรคือปลาไฟฟ้า? ”

นรมนประหลาดใจ
แววตาของบริศ เคร่งขรึม ตอบเสียงเบา “บนตัวของปลา เหล่านี้มีไฟฟ้า ตัวเดียวยังไม่ค่อยเท่าไหร่ ปลาไฟฟ้าจํานวนมาก แบบนี้ หากตกลงไปกระแสไฟฟ้าจำนวนมาก ช็อตคนตายได้

นรมนตกใจทันที

น้ำเป็นสื่อนำไฟฟ้า แถมกระแสไฟฟ้าของตัวปลาเองเข้าไป ด้วย ถ้าตกลงไป……

นรมนอดตัวสั่นไม่ได้

“ไปเถอะ”

ไม่ว่าเมื่อสักครู่เพราะอะไรนรมนถึงอยากมา ในตอนนี้บริศร์ รู้สึกได้เพียงความอันตราย

นรมนก็ไม่หยุดอยู่ตรงนั้น ก้าวเดินตามบริศร์ออกไป แต่หัน

กลับไปมองปลาไฟฟ้าในอ่างเก็บน้ำด้วยความแปลกใจอีกครั้ง

คิ้วขมวดเบาๆ

จู่ๆ มีเงาด่าแวบผ่านไป รวดเร็วจนนรมนเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน

“มีคน”

ฝีเท้าของนรมนหยุดลงเบาๆ บุริศร์ดึงเธอมากอด ในอ้อมแขน กล่าวเสียงเบา “ไม่ว่าจะเป็นใคร ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”

อาจเพราะสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดของบริศร์ นรมน ในอ้อม แขนของบริศ เดินออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว

แต่สุดท้ายพวกเขาก็ช้าไปหนึ่งก้าว
บุรีศรีรู้สึกแค่เพียงเงาดำตรงหน้าสั่นไหว ยังไม่ทันมีการตอบ สนอง เจอกลิ่นคาวปะทะใบหน้า

“กลั้นหายใจ นรมน”

บริศร์รีบเดือนนรมนอย่างรวดเร็ว ตนเองกลับสูดผงฝุ่นเข้าไป จำนวนหนึ่ง วิงเวียนในชั่วพริบตา

เพราะการปกป้องของบริศ นรมนจึงไม่ได้สูดผงฝุ่นเข้าไป ใน ตอนนี้เห็นสภาพของบุริศร์ เธอรีบหยิบขวดน้ำในมือแล้วเปิด ออก ราดลงบนใบหน้าของบุริศร์โดยตรง

โชคดีที่เมื่อสักครู่เธอถือโอกาสหยิบขวดน้ำมาด้วย คิดจะเอา มาดื่ม ตอนนี้ไม่คิดว่าจะได้ใช้

บุริศร์ถูกน้ำเย็นปะทะใส่ได้สติขึ้นมาหลายส่วน เขารีบพูดกับนรมน “คุณรีบกลับไปหาบุณพจน์ซะ”

“แล้วคุณล่ะ? ”

นรมนไม่วางใจบริศร์

นัยน์ตาของบุริศร์เย็นชาเล็กน้อย มองตรงที่ที่เงาดำหายไป และพูดว่า “ผมจะจับมันออกมา

“ไม่ได้นะ คุณต้องกลับไปกับฉัน คุณอยู่ตรงนี้อันตรายเกินไป” นรมนไม่เห็นด้วย มากเสียจนฝืนลากบุริศร์กลับโดยไม่สนใจ การต่อต้านของเขา

เดิมทีบุริศร์คิดจะพยายามดิ้น แต่เห็นท่าทางเป็นห่วงของนรมน สุดท้ายเขาจึงใจอ่อน

เขาจูงมือนรมนเดินออกไป แต่ยังคงหันไปมอง

ด้านข้างอ่างเก็บน้ำเต็มไปด้วยหญ้า ระดับความสูงของหญ้า เท่าตัวคน ถ้าจะซ่อนคนจำนวนหนึ่งก็ไม่ใช่ปัญหา

บริศร์จดจําทุกอย่างเงียบๆ จากนั้นพานรมนกลับมาที่บ้าน

บุณพจน์เห็นพวกเขากลับมา ยิ้มกล่าว “เดินเล่นเสร็จเร็วจัง

“ดูเหมือนบุริศร์จะถูกผงฝุ่นอะไรเข้า น้ำเสียงของนรมนร้อนรน ทำให้บุณพจน์ตึงเครียดขึ้นมาทันที

“เกิดอะไรขึ้น? ”

“อ่างเก็บน้ำด้านหลังมีคนอยู่

คำพูดของบุริศร์ทำให้รูม่านตาของคุณพจน์หดตัวทันที

“พวกนายไปอ่างเก็บน้ำด้านหลัง? ”

“อืม เดิมทีคิดจะไปนั่งสักพัก ตรงนั้นค่อนข้างเงียบสงบ คิดไม่ ถึงว่าเกือบจะเกิดเรื่องขึ้น

บุริศร์ก็ไม่ปิดบัง

บุณพจน์รีบเรียกคุณหมอมา

คุณหมอตรวจให้บริศร์สักพัก พบว่าเป็นเครื่องเทศที่ทำให้คน หมดสติชั่วคราว ไม่ทำร้ายร่างกายอะไรมากเกินไป แค่ทำให้คน สลบไสล สูญเสียการเคลื่อนไหวแค่นั้น
นรมนนึกถึงสถานการณ์ตอนนั้น ถ้าบุริศร์สลบไสลไป จากนั้น ถูกโยนลงไปในอ่างเก็บน้ำ ปลาไฟฟ้าเหล่านั้นจะกินบุริศร์หรือ เปล่า?

แค่คิดถึงตรงนี้ นรมนก็สั่นไปทั้งตัว

หลังจากคุณหมอรักษาควันสลบของบริศร์แล้วก็กลับไป

เพราะเกี่ยวข้องกับควันสลบ ร่างกายของบุริศร์จึงปวดเมื่อยได้ เรี่ยวแรง ทําได้เพียงนั่งพิงโซฟา

มองเห็นดวงตาที่เป็นกังวลของนรมน เขายิ้มกล่าว “ไม่เป็นไร

นะ นี่ผมก็ดีขึ้นแล้ว”

“ถึงเมื่อกี้ฉันไม่ดึงคุณไว้ คุณคิดจะรนหาที่ตายเหรอ”

นึกถึงเมื่อสักครู่ที่บุริศร์คิดจะอยู่ตรงนั้นอย่างไม่คาดฝัน นรมน

โมโห

บุริศรเห็นภรรยาโมโห รีบกล่าวว่า “ผมไม่ได้คิดไปเองว่าผม ไม่เป็นไรหรือไง?

“คุณคิดไปเอง คุณคิดไปเองมีประโยชน์ไหม ฟังฉันนะบุริศร์ ต่อจากนี้ถ้าคุณกล้าไม่สนทุกสิ่งทุกอย่างอีก ฉันจะฉันจะไม่สนใจ คุณ”

สุดท้ายนรมนก็ไม่สามารถพูดอะไรที่โหดเหี้ยมเกินไปได้ เดิมที่บุณพจน์คิดจะพูดอะไร ในเวลานี้เต็มไปด้วยความอิจฉาอดกลุ้ม ใจไม่ได้
“ฟังฉันนะพวกนายสองผัวเมีย ระวังตัวหน่อย

บริศร์กลับไม่สนใจความไม่พอใจของเขา ถามเสียงเบา “ปลา ไฟฟ้าเหล่านั้นมันเรื่องอะไรกัน? ”

นัยน์ตาของบุณพจน์เคร่งขรึม

“ฉัตรพลเลี้ยงเอาไว้ ติดตั้งโดยเฉพาะเพื่อจัดการลูกน้องที่ไม่ เชื่อฟัง ในกรณีที่มีคนทำเรื่องผิดพลาด จะถูกจับโยนลงไป หลัง จากถูกช็อตตายก็จะงมขึ้นมาเอาไปทิ้งหลังภูเขาเป็นอาหารหมา ที่นั่นยังมีสุนัขตัวใหญ่สิบกว่าตัว”

บรมนงงงัน

เธอเคยจินตนาการด้านมืดของนิสัยมนุษย์มามาก แต่กลับพบ ว่าตนเองตั้งแต่ต้นจนจบไม่อาจจินตนาการความอำมหิตของ ฉัตรพลได้เลย

ฝ่ามือของเธอมีเหงื่อซึมออกมา

โชคดีที่ฉัตรพลถูกพรวลัยใช้ค่ายกลขังเอาไว้ไม่อย่างนั้นคง เป็นหายนะบนโลกมนุษย์จริงๆ

บริศร์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้กำลังคิดอะไร

“จะไปหาฉัตรพลเมื่อไหร่? ”

“อีกสักพักแหละ พรวลัยกำลังเก็บกวาด อีกอย่างตอนนี้ ร่างกายของนายต้องการการฟื้นฟู พวกเรารอมามากแค่ไหนแล้ว

ก็ไม่ต่างกับช่วงเวลาสั้นๆ นี้หรอกจริงไหม? ”
อันที่จริงบุณพจน์เตรียมตัวเสร็จแล้ว ตอนนี้ควันสลบของบุรีศร ต้องใช้เวลาสิบถึงยี่สิบนาทีในการคืนสู่สภาพเดิม เขาจึงพูดแบบ นี้โดยปริยาย

บุริศร์ก็ไม่พูดอะไรอีก

นรมนนึกถึงเงาดำนั้น จึงพูดอย่างกังวลไม่ได้ “เงาดำนั้นจะ เป็นคนของฉัตรพลหรือเปล่า? ”

“น่าจะใช่ ผมยังจับไม่ได้

นี่ก็คือจุดที่บุณพจน์ไม่สบายใจ

เล่ห์เหลี่ยมอันเด็ดเดี่ยวของเขาก็เพื่อจะควบคุมอำนาจ ภายนอก ส่วนคนในส่วนกลาง ตอนนี้เขาติดต่อได้ไม่มาก

นรมนกลับกล่าวอย่างกังวล “ในเมื่อจับไม่ได้ ทำไมคุณถึงกล้า

อาศัยอยู่ที่นี่? หากคนเหล่านั้นทำร้ายพรวลัยจะทำอย่างไร?

ตอนนี้ร่างกายของเธออ่อนแอ ไม่มีแรงต่อต้านด้วยซ้ำไป

เห็นนรมนกังวลใจพรวลัยแบบนี้ มุมปากของคุณพจน์ยกขึ้น

เบาๆ

“สบายใจได้ ผมไม่กลัวพวกมันมาหรอก กลัวจะไม่มามากกว่า”

ได้ยินบุณพจน์พูดเช่นนี้ และเห็นท่าทางมั่นใจเต็มเปี่ยมของ เขาอีก นรมนก็รู้ว่า บุณพจน์เตรียมตัวเต็มที่มานานแล้ว

คิดแบบนี้ นรมนก็ไม่มีอะไรจะพูด
ในระหว่างรอ บุริศร์จับมือนรมนแน่น ถึงแม้จะหลับตา แต่ใน ใจกลับครุ่นคิด

เงาเมื่อสักครู่นั้นต้องการอะไรกันแน่?

ต้องการลงมือกับเขาและนรมนเหรอ?

หรือมีจุดประสงค์อื่น?

บริศ คิดไม่ออก

ถึงแม้นรมนจะไม่ได้คิดอะไร แต่มองเห็นสภาพอ่อนแรงใน ตอนนี้ของบุริศร์ ก็รู้สึกค่อนข้างแย่

เมื่อสักครู่ถ้าตนเองไม่ลากบริศร์เข้าไป ตอนนี้คงไม่เป็นแบบนี้ ใช่ไหม?

บริศ คล้ายจะรู้ว่านรมนกำลังคิดอะไร กล่าวเสียงเบา “เล่ห์เหลี่ยมของฉัตรพลไม่อาจคาดเดาได้ หลายปีที่ผ่านมา เขา สามารถปลอมตัวเป็นคนอื่นโดยไม่ทำให้คนอื่นค้นพบ เห็นได้ว่า มีวิธีการไม่ธรรมดา อีกสักพักถ้าไปหาฉัตรพลที่ค่ายกล คุณตาม หลังผม ห้ามพรวดพราดไปข้างหน้าเข้าใจไหม? ”

นโมนพยักหน้า

“ฉันเข้าใจแล้ว คุณรีบรักษาร่างกายให้หายดีเถอะ” บุณพจน์ให้คนไปชงชาโสมมาให้บุริศร์ดื่ม “สิ่งนี้จะช่วยบำรุงกำลัง นายจ ายจะดีขนหน่อย”

บุริศร์ก็ไม่เกรงใจ ดื่มลงไปทันที
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง พละกำลังของบุรีศรีฟื้นคืน ส่วนพร วลัยก็เก็บของเรียบร้อย ถึงแม้ด้านนอกอากาศจะไม่เย็น แต่พร วลัยยังคงติดอาวุธครบมือ บุณพจน์เห็นแล้วน่าขำ

“ตอนนี้คุณเหมือนนกแพนกวินเลย”

“รังเกียจฉันเหรอ?

พรวลัยชายตามองบุณพจน์ ด้วยหน้าตาน่าหลงใหล

อาจเพราะปมในใจถูกแก้ ตอนนี้พรวลัยมีการตอบสนองต่อ บุณพจน์ตามปกติเมื่อผู้หญิงอยู่ต่อหน้าคนรัก สีหน้าแสร้งทำเป็น โกรธเคืองเหมือนกรงเล็บของแมวน้อยสะกิดหัวใจของบุณพจน์ จนจั๊กจี้อย่างทนไม่ไหว

ล่าบากเขาจริงๆ

นรมนพยักหน้ายิ้มให้พรวลัยและกล่าวว่า “ลำบากเธอหน่อยนะ”

“ไม่ลำบากหรอก ถ้าไม่มีเธอ ฉันยังไม่รู้ว่าตอนนี้จะสมเพช ตนเองยังไงเลย”

เป็นครั้งแรกที่พรวลัยยิ้มมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

มองรอยยิ้มของเธอ นรมนพบว่าความจริงแล้วพรวลัยหน้าตา สวยงามมาก โดยเฉพาะตอนยิ้มยิ่งดูสวย

บุริศร์จับมือนรมน ส่วนพรวลัยก็ถูกบุณพจน์อุ้มเดินไปดั่งเจ้าหญิง
ด้านนอกมีรถจอดรออยู่แล้ว

หลังจากทั้งสี่คนขึ้นรถ บุริศร์เป็นคนขับ นรมนนั่งตำแหน่งข้าง

คนขับรถ บุณพจน์อุ้มพรวลัยนั่งเบาะด้านหลัง รถขับออกไป ภายใต้การเตือนความจำของพรวลัย รถขับมาถึงในด้าน หลังหมู่บ้านน้ำใส มาถึงตอนนี้นรมนถึงจะกระจ่างแจ้ง ไม่คิดว่าพรวลัยจะขังฉัตรพลเอาไว้ที่นี่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ