แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่113 ฉันสามารถเฝ้าได้ไหม



บทที่113 ฉันสามารถเฝ้าได้ไหม

นรมนไม่สนใจความคิดของธรณี เธอลุกขึ้นยืนคนแรก แล้วรีบมาที่ประตูห้องผ่าตัด

“หมอคะ เขาเป็นยังไงบ้าง?”

ฝ่ามือของนรมนมีเหงื่อออก

เธอไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว ความตึงเครียดแบบนั้นดู เหมือนจะตึงเครียดกว่าตอนที่เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นร้อยเท่าพันเท่า

คุณหมอถอดหน้ากากลง พูดด้วยความโล่งใจ: “ตอนนี้ ไม่มีอะไรแล้วครับ แต่ยังคงต้องคอยดูว่าคืนนี้จะมีไข้หรือ เปล่า ถ้าผ่านคืนนี้ไป ตื่นขึ้นมาในวันพรุ่งนี้ได้ ก็ไม่มีปัญหา อะไรแล้วครับ ถ้าไม่ได้…”

คำพูดหลังจากนี้หมอไม่ได้พูด แต่นรมนก็ฟังเข้าใจแล้ว

คืนนี้เป็นคืนสำคัญที่สุด

“ฉันสามารถเฝ้าได้ไหม?”

นรมนรู้บาดเจ็บที่บุริศร์ได้รับนี้ อาจจะถูกส่งไปยังห้องผู้ ป่วยหนัก หอผู้ป่วยหนักที่จะไม่อนุญาตให้สมาชิกใน ครอบครัวเข้าเฝ้า แต่ถ้ากลับไปแบบนี้ นรมนไม่สบายใจ

เลย

เธอพยายามบอกตัวเองว่า บุริศร์เป็นความหวังเดียวของกมล และเธอต้องเฝ้าดูเขามีชีวิตขึ้นมา กมลถึงจะมีความ หวัง

คุณหมอลำบากใจเล็กน้อย พฤกษ์กลับมาในเวลานี้พอดี

“ให้เธออยู่เฝ้าเลยครับ เธอเป็นคู่หมั้นของประธานบุริศร์ นายหญิงของตระกูลโตเล็กในอนาคต!”

คำพูดนี้ของพฤกษ์ทำให้นรมนอึ้งเล็กน้อย คุณหมอเห็นพฤกษ์พูดแบบนี้ ก็รีบเคารพกับนรมนอย่าง รวดเร็ว

“คุณนรมนครับ โปรดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ปราศจากเชื้อ แล้ว ตามเราไปที่ห้องผู้ป่วยหนัก แต่เมื่อคุณเข้าไปในห้องผู้ป่วย หนัก คุณควรกินอะไรล่วงหน้าดีกว่า เพราะเราไม่อนุญาต ให้สมาชิกในครอบครัวกินและดื่มในห้องครับ คุณก็รู้ ผู้ ป่วยได้สารอาหาร”

คำพูดของคุณหมอทำใหนรมนพยักหน้า

แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่หิว แต่เพื่อมีแรงดูแลบุริศร์ เธอก็ ต้องฝืนตัวเองกินสักหน่อย จากนั้นก็ไปเปลี่ยนชุด ปราศจากเชื้อ แล้วตามบุริศร์เข้าไปในห้องผู้ป่วยหนัก

ในขณะนี้ธรณีอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ไม่มีใครเปิด โอกาสให้เขาพูด

พฤกษ์เห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็พูดอย่างเฉยชาว่า “คุณธรณี ครับ คุณรออยู่ข้างนอกก่อนเถอะครับ คุณนรนมนบอกแล้วว่า ตราบใดที่ประธานบุริศร์ยังไม่พ้นอันตราย คุณก็ไป ไม่ได้”

“ตลก! ฉันธรณีอยากไปไหนก็ไปไหน ต้องรอให้ผู้หญิง คนหนึ่งสั่งกัน?”

ธรณีเพิ่งพูดคำนี้เสร็จ บอดี้การ์ดของตัวเองก็กลั้นขำไม่

อยู่

ไม่ใช่ผู้หญิงคนหนึ่งพูดสั่งได้ คุณธรณีคุณไปสิ จะรออยู่ ที่นี่ทำไม จะจ้องจนบุริศร์ออกมาถึงจะยอม? แต่คำพูดนี้ไม่มีใครกล้าพูดกับธรณี นอกจากว่าไม่อยาก

มีชีวิตแล้ว

พฤกษ์ดูเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของธรณี และเขายังคง พูดอย่างเย็นชา “ที่ที่คุณธรณีอยากไปไม่มีใครกล้าที่จะ ห้าม แม้ว่าคุณจะยืนปืนที่ถนนก็ไม่มีใครกล้าขัดคุณไม่ใช่ เหรอ?”

คำพูดนี้พูดซะธรณีรู้สึกผิด ตัวเขาเองทำแบบนั้นจริงๆ เขานั่งบนรถเข็นอย่างโกรธๆ พูดกับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ “ไป ไปซื้อของกินให้ฉันหน่อย นายอยากให้ฉันหิวตายหรือ ไง?”

ตั้งแต่ได้รับข่าวว่านรมนกลับมาในประเทศ ธรณีก็รีบมา โดยไม่หยุด แต่ไม่รอเขาได้ทำอะไร ก็ถูกบุริศร์ก็เล่นงาน ก่อน และตอนนี้ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว เขาก็ยังไม่ได้กินอะไร

เลย

ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นนรมนกินข้าวในเมื่อกี้ เขาเกือบลืมไปว่าตัวเองก็ไม่ได้กินข้าวเย็นเหมือนกัน

บอดี้การ์ดไม่กล้าที่จะรอช้า รีบไปซื้ออาหาร พฤกษ์จัด งานรักษาความปลอดภัยโดยรอบ ไม่ต้องสนว่าธรณีจะอยู่ หรือไม่ก็ตาม

ธรณีรู้สึกว่าวันนี้เขาเฮงซวยแบบซวยสุดๆไปเลย

มือถือดังขึ้นอีกครั้ง เห็นว่าเป็นสายของคุณย่าบ้าน ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ธรณีถอยหายใจเบาๆไปทีหนึ่ง แล้ว กดปุ่มรับ

“แม่”

“บุริศร์ยังไม่ตื่นเหรอ?”

เสียงของคุณย่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นกังวลเล็ก น้อย

แม่ที่หลอกลวงลูกชาย?

วันนี้ธรณีถือว่าเข้าใจแล้ว

“เพิ่งออกจากห้องผ่าตัด แต่สถานการณ์ไม่ค่อยดี คุณ หมอบอกว่าต้องดูว่าพรุ่งนี้จะตื่นมาได้ไหมครับ”

เสียงของธรณีมีความเหนื่อยล้าเล็กน้อย

เขาเข็นรถเข็นออกไปในมุมหนึ่ง พูดเสียงเบาว่า “แม่ครับ นี่มันอะไรกันครับ? แม่บอกให้ผมเข้าใจหน่อยได้ไหม? ผม ดูออกนะ เรื่องนี้อาจจะไม่ได้มีความสัมพันธ์เกี่ยวแคทเธอรี ผู้หญิงคนนั้นจริงๆ”

คุณย่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาได้ยินลูกชายถามแบบนี้ นิ่งเงียบไปไม่กี่วินาที ถอนหายใจแล้วเล่าทุกสิ่งทุกอย่าง ให้กับธรณี

หลังจากที่ธรณีฟังจบ ก็รู้สึกไม่ดีไปทั้งคน

“แม่ครับ ทำไมแม่เบลอแบบนี้? เกียรติยศที่แลกมาด้วย หลายชีวิตของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเพื่อไปหาลูกนอก สมรสไม่แน่นอนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา แล้วยังใช้วิธีที่ เลวแบบนั้นไปหาเรื่องผู้หญิงที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย ท่านคิด อย่างไรกันแน่ครับ?”

“แม่ก็รีบลนจนไม่มีวิธีละไง?อีกฝ่ายบอกแค่ว่าให้แม่ทำ แบบนี้ ก็จะบอกเบาะแสของนาวินให้แม่ แม่…”

“ยังไม่พูดถึงเรื่องที่นาวินเป็นคนบ้านตระกูลทวีทรัพย์ ธาดาหรือเปล่า แม้จะใช่ ตามกฎระเบียบของตระกูลทวี ทรัพย์ธาดา ลูกหลานแบบนี้ไม่รับก็ได้ พี่ชายของผมเป็น ฮีโร่ เป็นผู้พลีชีพ ถ้าเขารู้ว่าแม่ทำแบบนี้กับคนที่บริสุทธิ์ เพื่อลูกนอกสมรสของเขา แม่คิดว่าเขาอีกโลกหนึ่งจะสงบ ไหม?”

ตอนนี้ธรณีแทบอยากจะมุดรูหนีเข้าไป

เขารู้สึกเป็นเกียรติ ที่เป็นคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา เสมอ ถึงขั้นรู้สึกว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาซื่อตรงไม่ยกยอ ประจบสอพลอใคร ยุติธรรม ไม่ทำเรื่องหาเรื่องแบบนั้น แน่นอน อีกทั้งคนๆนั้นยังเป็นคุณย่าที่เคารพนับถือของ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ดังนั้นเขาเลยโมโหแบบนี้ ขอความ เป็นธรรมให้คุณแม่โดยไม่สนใจอะไรสักอย่าง แต่กลับคิด ไม่ถึงว่านี่เป็นแผนการที่คุณแม่ได้วางแผนไว้!
เมื่อนึกถึงใบหน้าที่ไม่ยอมใครของนรมน ตอนนี้ธรณีรู้สึก ว่าใบหน้าที่บวมของเริ่มปวดและชาขึ้นอีกครั้ง เพียงแค่ว่า ครั้งนี้ได้รับโดยแม่แท้ๆของเขา

คุณย่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาคิดไม่ถึงว่าเรื่องมันจะ ใหญ่โตถึงขนาดนี้ เธอแค่อยากจะหาลูกหลานของตระกูล ทวีทรัพย์ธาดาดกลับมา คิดแค่ว่าเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา คนหนึ่ง ใครจะรู้ว่าบุริศร์จะปกป้องขนาดนี้ ถึงขั้นรุกรานไป ถึงตระกูลธนเกียรติโกศลในเมืองหลวง!

“ตอนนี้ทำไงดี?”

คุณย่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเริ่มกระสับกระส่าย ธรณีรู้สึกแค่มีคดีเต็มสมอง

“จะให้ทำไงอีกล่ะครับ? เรื่องนี้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทำ ไม่ดีเอง ไม่ว่าบุริศร์จะเอาคืนยังไง ผมแบกไว้เอง ส่วนทาง แคทเธอรี ผมจะขอโทษต่อหน้าเธอเอง เธออยากได้ค่า ตอบแทนอะไร ผมจะพยายามให้เธอ แต่ว่าแม่ครับ คนที่ให้ ข่าวกับแม่แม่สืบเจอหรือยังครับ?”

“ยังเลย”

พูดถึงเรื่องนี้ คุณย่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดายิ่งโมโห เข้าไปใหญ่

เธอทำถึงขั้นที่ไม่คำนึงถึงหนังหน้าแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับ หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย ถึงขั้น คนที่เธอส่งไปก็ไม่มีเบาะแส

ธรณีรู้ ตัวเองถือว่าเจอคู่ต่อสู้แล้ว
“เรื่องนี้ท่านไม่ต้องยุ่งแล้วครับ ผมจัดการเอง ธรณีถอนหายใจ

คุณย่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเพิ่งจะรู้สึกว่าสร้าง ความเดือดร้อนให้กับลูกชาย และตระกูลทวีทรัพย์ธาดา “ลูก ถ้าแม่ไปขอโทษด้วยตัวเอง ลูกว่าจะดีกว่าไหม?”

คุณย่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดารู้ว่าลูกชายตัวเองหยิ่ง ทะนงตัว ตอนนี้อย่าว่าให้เธอคนแก่ไปขอโทษเลย แม้จะให้ คุกเข่า เธอก็จะทำตาม แค่อย่าหักล้างตระกูลทวีทรัพย์ ธาดาก็พอ

ธรณีจะให้คุณแม่ตัวเองทำแบบนี้ได้ไง?

“แม่ครับ แม่ไม่ต้องมาละครับ สุขภาพร่างกายแม่ก็ดี แม่ รออยู่ที่โรงพยาบาลเถอะ ฝั่งนี้มีผมอยู่ครับ”

ธรณีวางสายโทรศัพท์ รู้สึกหงุดหงิดเหลือเกิน เขาไม่ได้ สูบบุหรี่มาหลายปีแล้ว ในขณะนี้เขามีความรู้สึกอยากสูบบุ หรี่จริงๆ

แต่นี่เป็นโรงพยาบาล เขาไม่สามารถทำโดยเอาแต่ใจได้

กลับมาที่ข้างนอกห้องผู้ป่วยหนัก อารมณ์ความรู้สึกของ ธรณีแตกต่างจากเมื่อก่อน

เป็นตระกูลทวีทรัพย์ธาดาที่เข้าใจบุริศร์ผิด และพวกเขา เป็นคนใส่ร้ายแคทเธอรี

เมื่อเขานึกถึงตระกูลทวีทรัพย์ธาดาที่ซื่อสัตย์สุจริตได้ ทำสิ่งนั้น ธรณีก็รู้สึกหดหูเล็กน้อย แต่การหลีกเลี่ยงปัญหาไม่ใช่สไตล์ของเขาเข้าทำได้เพียงรอให้บุรศรัตินขนมาเพื่อ ขออภัยจากเขาและนรมน

หลังจากที่นรมนเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ปราศจากเชื้อและตามบุ ริศร์เข้าไปในห้องผู้ป่วยหนัก พยาบาลก็รีบห้อยน้ำเกลือให้ บุริศร์ และบอกกับนรมนว่ามีอะไรให้เรียกพวกเขา จากนั้น ก็เดินออกไป

เหลือเพียงนรมนและบุริศร์เท่านั้นที่อยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก อากาศเงียบและน่ากลัว ราวกับว่านอกจากเสียงหยดของ น้ำเกลือแล้ว แม้แต่เสียงเต้นของหัวใจก็ไม่ได้ยิน

นรมนมองบุริศร์ที่ใบหน้าซีดเหมือนกระดาษบนเตียงผู้ ป่วย อารมณ์ความรู้สึกก็ซับซ้อนเหลือเกิน

เธอไม่ได้เห็นบุริศร์อ่อนแอแบบนี้มาหลายปีแล้ว

เธอรู้สึกมาตลอดว่าไฟเมื่อห้าปีก่อนนั้นได้เผาความรู้สึก ทั้งหมดในใจของเธอให้กลายเป็นเถ้าถ่านไปหมดแล้ว แต่ ในขณะนี้ เธอเพิ่งจะพบว่า เธอยังคงมีเยื่อใยต่อบุริศร์

บุริศร์ที่อยู่ในอาการโคม่าเงียบมาก เงียบจนราวกับว่าจะ จากไปได้ทุกเมื่อ ทำให้เธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงกมล

ตั้งแต่กมลแรกเกิดจนถึงปัจจุบัน ใช้เวลาในการนอนหลับ มากกว่า เวลาในการตื่นน้อยกว่า เหมือนกับบุริศร์ในเวลานี้

กำลังคิด ก็มีเสียงเรียกเข้าคำขอวิดีโอคอลจากโทรศัพท์

ของนรมน

นรมนรีบหายใจเข้าลึกๆ ปรับตัวให้ปกติ เพิ่งจะเห็นว่า เป็นลูกสาวของเธอกมลที่ส่งมา
นี่ถือว่าเป็นกระแสจิตหรือเปล่า?

นรมนยิ้มอย่างขมขื่น แต่ก็กดปุ่มยอมรับอย่างรวดเร็ว

“แม่คะ”

เสียงที่นุ่มนวลของนรมนลอยมา ราวกับมือคู่หนึ่งมือที่ อ่อนโยน ค่อยๆรักษาความเจ็บปวดในหัวใจของนรมน

“กมล เพิ่งตื่นเหรอคะ?”

“อืม วันนี้พระอาทิตย์อบอุ่นมากเลย!แต่ว่าแม่คะ หนูรู้สึก ไม่สบายที่หน้าอก แม่อยู่ไหนคะ? อยู่โรงพยาบาลเหรอ? แม่ป่วยเหรอคะ?”

กมลอยู่ในโรงพยาบาลตลอดหลายปี เธอคุ้นเคยกับการ ตกแต่งของโรงพยาบาลอย่างเป็นธรรมชาติ ห้องผู้ป่วย หนักก็เป็นสถานที่ที่พบบ่อยสำหรับเธอ ตอนนี้เห็นนรมนอยู่ ที่นี่ แล้วเธอก็รู้สึกตื่นตระหนักขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อเห็นลูกสาวกังวลมาก นรมนจึงรีบพูดว่า “เปล่าค่ะ แม่ ไม่ได้ป่วย แค่มีเพื่อนคนหนึ่งไม่สบาย แม่อยู่ที่นี่เพื่อดูแล เขาเท่านั้น”

“เพื่อนของแม่เหรอคะ? กมลรู้จักไหม? เป็นผู้ชายหรือผู้ หญิงคะ? แม่คะ ให้หนูดูหน่อยได้ไหม?”

กมลไม่ใช่เด็กหญิงที่อยากรู้อยากเห็น แต่ในเวลานี้จู่ๆ เธอก็อยากดูเพื่อนคนนี้

ทันใดนั้นหัวใจของนรมนก็จุก

“ทำไมกมลอยากดูเพื่อนคนนี้ของแม่ล่ะคะ?”
“ไม่รู้ค่ะ แค่อยากดู แม่คะ ไม่ได้เหรอ?”

ริมฝีปากของกมลมีความซีด เหมือนกับบุริศร์ในตอนนี้ เป๊ะๆเลย

นรมนว่าจะปฏิเสธ แต่สุดท้ายเธอก็อดไม่ได้ และเอา โทรศัพท์จ่อไปที่ใบหน้าของบุริศร์เบา ๆ

นี่เป็นครั้งแรกที่กมลเห็นบุริศร์ ความรู้สึกแปลกๆวนเวียน อยู่ในอกของเธอ จนเธออดไม่ได้ที่จะถามออกมา

“แม่คะ เขาคือใครคะ? ทำไมหน้าเหมือนหนูจังเลย?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ