แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 306 ผู้หญิงอย่างคุณต้องสั่งสอนให้เข็ด



บทที่ 306 ผู้หญิงอย่างคุณต้องสั่งสอนให้เข็ด

คมทิพย์มองหน้ากานต์ด้วยสายตาสงสัย ทำให้กานต์อีดอัด ไม่สบายอย่างมาก

“เอ๊ะ ก็บอกแล้วไงครับว่าไม่มีอะไร”

กานต์พยายามดิ้นให้หลุดจากการควบคุมของคมทิพย์ ระหว่างที่กำลังจะหนีอยู่นั้น กลับถูกคมทิพย์ตาไว้แล้วคว้า ข้างหลังคอเสื้อของเขาไว้ได้

“คิดว่าน้ารู้ไม่ทันเจ้าตัวแสบอย่างนายรีไง? อย่ามา ตอแหลเลยนะ พูดมา มันเรื่องอะไรกันแน่ ? หม่ามของนาย

ล่ะ? ”

ตั้งแต่ที่กลับจากฐานฝึกทหาร นรมนกับเธอก็ขาดการ ติดต่อไปเลย บอกว่าเพื่อหวังดีกับเธอ คมทิพย์เลยไม่ได้ถาม อะไรมาก

ตลอดเวลาเธอรู้สึกว่าบุริศร์ไม่ใช่คู่แท้ของนรมน แต่เห็น ว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน เธอไม่อยากทะเลาะกับนรมนเพราะเรื่อง นี้ หลายเรื่องที่นรมนไม่บอกให้เธอรู้ และเธอก็รู้ว่าที่นรมนทำ แบบนี้ก็เพื่อหวังดีกับเธอ

ก็เหมือนเมื่อห้าปีก่อน ชีวิตเธอที่อยู่ในตระกูลไฮโซต้อง เจอกับอะไรบ้าง เธอก็ไม่เคยบอกกับคมทิพย์เลย แต่คมทิพย์ก็เป็นที่พึ่งและที่หลบภัย โค้งสุดท้ายของเธอ

ขอแค่วันไหนที่นรมนต้องการเธอ เธอคมทิพย์ก็จะให้ ความช่วยเหลือหลอนได้ทุกเมื่อ และถ้าหากวันไหนนรมนไม่ ต้องการเธอแล้ว เธอก็จะหายตัวไปเอง โดยที่ไม่ทำให้นรมน ต้องลำบากใจ นี่ก็คือมิตรภาพระหว่างพวกเขา

ตอนนี้ จู่ๆเธอถูกกานต์เรียกออกมาแบบนี้ แถมเขายังตัว คนเดียว คมทิพย์รู้สึกเป็นห่วง

กานต์เสียใจมากที่เรียกเธอออกมา

เขาก็แค่ต้องการเอาเธอมาเป็นที่กำบังเพื่อเลี่ยงคำถาม ของคนขับแท็กซี่ ใครจะไปรู้ว่าคมทิพย์เป็นตายก็ไม่ยอม ปล่อยเขาไป แล้วนี่จะทำยังไงดี เขาไม่อยากให้หม่ามี้รู้ แผนการของตัวเองล่วงหน้าหรอกนะ

ระหว่างที่กานต์กำลังกลุ้มใจอยู่นั้น จู่ๆเขาก็เห็นคนรู้จักคน

นึงเข้า

กานต์ยิ้มขึ้นเบาๆ แล้วตะโกนใส่คนที่อยู่ไม่ไกล โดยตรง: “คุณอาเจตต์คุณอาเจตต์ครับ ช่วยผมด้วย

ครับ! ”

เรื่องอาการป่วยของแม่ทำให้เจตต์เศร้าใจมาตลอด แต่ พออาการป่วยของแม่ทรงตัวดีขึ้นแล้ว พ่อก็อาละวาด โวยวายต่ออีก เขาทั้งโกรธและเครียดเลยวิ่งออกจากโรงพยาบาล และทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเด็กคุ้นเคยเรียกเขา

เจตต์มองไปตามเสียง ก็เห็นคมทิพย์กำลังหิ้วคอเสื้อของ กานต์ไว้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดุร้าย : “ช่วยอะไร? วันนี้ ไม่ว่า ใครหน้าไหนมาก็ช่วยนายไม่ได้ ไม่พูดกับน้าให้รู้เรื่องตอนนี้ ก็อยากหวังเลยว่าจะได้ไป! ไป ไปกับน้าเดี๋ยวนี่! ”

ระหว่างที่พูด คมทิพย์ก็นิ้วกานต์ไว้แล้วจะไปทันที

“คุณอาเจตต์ครับ คุณอาเจตต์ ! ”

กานต์โบกมือให้เจตต์แล้วพยายามตะโกนเรียกเขา

ในที่สุดเจตต์ก็ดูออกว่าเด็กน้อยที่อยู่ในมือของคมทิพย์

นั้นคือใคร นี่เป็นลูกของนรมนไม่ใช่หรอ?

“ช้าก่อนครับ! คุณผู้หญิงคนข้างหน้า ! ”

เจตต์รีบวิ่งมาขวางคมทิพย์ไว้อย่างรวดเร็ว

ทันทีที่คมทิพย์เห็นหน้าของเจตต์นั้น เธออึ้งไปครู่นึง แต่ หลังจากนั้นก็นึกถึงเรื่องตอนที่เกิดในฐานะฝึกทหารนั่น พริบ ตาเดียว ความรู้สึกที่เธอมีต่อเจตต์นั้นก็แย่ลงถึงสุดขีดเลย

“ไสหัวไปซะ! ”

คมทิพย์ไม่สนใจหรอกนะว่าเขาจะเป็นคุณชายของตระกูล รัตติกรวรกุลหรือว่าใคร คนที่เธอไม่ชอบหน้า ล้วนแล้วแต่ไม่ อยู่ในสายตาของเธอทั้งนั้น
สำหรับบุริศร์แล้ว ที่เธอไม่พูดอะไรมาก ก็เพราะเธอกลัวว่า พูดไปแล้วจะกระทบกับนรมน แต่กับนายเจตต์คนนี้ เธอไม่ แคร์หรอกนะ

เจตต์ไม่เคยเจอผู้หญิงที่ไร้มารยาทกับเขาแบบนี้มาหลาย

ปีแล้ว

นอกจากนรมนแล้ว ก็มีแต่คมทิพย์คนเดียว เป็นผู้หญิงที่ ไม่เคยให้สีหน้าดีแก่เขาเลย เขายังจำตอนที่อยู่ฐานฝึกได้ ผู้ หญิงคนนี้ลงมือกับเขาอย่างโหด ไม่ออมมือเลย

เห็นชัดว่านายเจตต์ก็จำเธอได้

“ผมยังนึกว่าใครสักอีก ที่แท้ก็ผู้หญิงปากเถื่อนอย่างคุณ นี่เอง ปล่อยกานต์ลงเดียวนี้ นะ นี่คุณจะทำอะไร? ”

เจตต์เพิ่งจะพูดจบ เจ้ากานต์ก็รีบทำน่าสงสารแล้วพูด: “คุณอาเจตต์ครับ คุณน้าคมทิพย์จะตีกันของผมครับ คุณอา รีบช่วยผมด้วยนะครับ! ”

“เจ้าตัวแสบ ฉันยังไม่ทันได้ดีเลยนะ”

การที่กานต์ทำตัวสนิทสนมกับนายเจตต์มากแบบนี้ ทำให้ คมทิพย์หมดคำพูดกับเขาเลย

หรือว่า เขามองไม่ออกเลยหรอ ว่านายเจตต์คนนี้คิดไม่ชื่อ กับหม่ามีของเขา? ถึงได้ขอความช่วยเหลือจากผู้ชายคนนี้ ได้!
เธอไม่ใช่ยักษ์สักหน่อย ต้องทำถึงขั้นนี้เชียวเลยหรอ?

นายเจตต์ได้ยินแล้ว ขมวดคิ้วในทันที

“คุณยังคิดจะตีเด็กนั้นหรอ? คุณคิดว่าคุณเป็นใคร? ผม มั้ย? ”

สั่งให้คุณปล่อยเด็กลง ได้ยิน

“ฉันบอกให้คุณไสหัวไป คุณฟังไม่เข้าใจใช่มั้ย? ”

เดิมที คมทิพย์นอนไม่พออยู่แล้ว แถบตอนนี้นายเจตต์ก็ เป็นพวกที่เธอไม่อยากจะเห็นหน้าอยู่แล้ว และตอนนี้ เขายัง มาริเริ่มหาเรื่องเธออีก ไฟโกรธของคมทิพย์พุ่งขึ้นในทันที

เจตต์โกรธจนชำออกมา

“ไหนคุณรองทำท่าใสหัวให้ผมดูหน่อยซิ คุณชายอย่างผม เห็นมาเกือบทุกอย่าง เว้นก็แต่ไม่เคยเห็นว่าผู้หญิงทำท่า ใสหัวยังไง มามะ คุณรองทำให้ผมดูหน่อย”

คำพูดของนายเจตต์ได้ทำให้ความโกรธของคมทิพย์สูง ขึ้นไปอีก

เธอยกแขนขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วตบไปทางหน้าของนาย เจตต์ทันที

“หมาดีไม่ขวางทาง หลบไปซะ! ”

ฝ่ามือของคมทิพย์ยังไม่ทันตบลงที่หน้าของเจตต์ เขาก็ ออกมือไปก่อนแล้ว
เขาไม่ใช่ผู้ชายสุภาพบุรุษตั้งแต่ไหนอยู่แล้ว ยิ่งไม่เคยถือ กฏว่าผู้ชายห้ามตีผู้หญิง ฝ่ามือของคมทิพย์ตบมาทางหน้า ของตัวเองแล้ว ถ้าเขายังอยู่เฉย นั้นเขาก็โง่เต็มทีแล้ว

ทันใดนั้นคมทิพย์รู้สึกเจ็บที่ข้อมือ และสีหน้าก็ซีดลงใน

ทันที

“นี่คุณยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า? ถึงได้ลงมือกับผู้ หญิงแบบนี้? ”

คมทิพย์รู้สึกตกใจกับท่าทีของเขาอย่างมาก

อย่างน้อยนายเจตต์ก็ถือว่าเป็นคุณชายในสังคมชนชั้นสูง ทำไมถึงได้ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาสักเลย

ตามที่เธอคาดเดาเอาไว้นั้น มือของตัวเองที่ตบไปนั้น นาย เจตต์คงต้องรีบหลบไปแน่ พอถึงตอนนั้น เธอก็รีบหาโอกาส พากานต์หนีไป ใครจะไปรู้ว่านายเจตต์ไม่ได้ทำตามแผนที่ วางไว้

เขากลับริเริ่มลงมือกับเธอ!

คมทิพย์ลืมตาโตแล้วตกใจ สีหน้าของเธอดูน่าเหลือเชื่อ

นายเจตต์กลับเยาะเย้ยพูด: “ผมเป็นผู้ชายหรือเปล่า คุณ อยากจะรองดูมั้ยล่ะ? ”

“ฤย ไอ้คนลามก! ”
พูดคำแบบนี้ต่อหน้าของกานต์ ทำให้ความรู้สึกที่คมทิพย์ มีต่อนายเจตต์นั้นยิ่งแย่ลง

ระหว่างที่ทั้งสองคนฉุดกระชากไปมาอยู่นั้น กานต์ก็ฉวย โอกาสหนีจากการควบคุมของคมทิพย์ไปได้

“เจ้าตัวแสบ กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!

คมทิพย์กำลังคิดจะหันไปตามกานต์อยู่นั้น กลับถูกเจตต์ ฉุดกระชักเอาไว้ ด้วยเท้ายืนไม่นิ่งเซไปมาเธอเลยล้มเข้าไป ซุกอกของเจตต์

“แหม นี่มันอะไร? จะมอบตัวให้ผมรึไง? ”

เสียงชั่วร้ายของเจตต์ดังขึ้น คมทิพย์โกรธจนแทบอยากจะ กัดเขาแรงๆ ที่นึ่ง

“คุณคิดมากไปแล้ว ผู้ชายเจ้าชู้อย่างคุณ ฉันกลัวจะติด โรคซะมากกว่า คุณปล่อยฉันนะ!

คมทิพย์พยายามขัดขืน ด้วยท่าทีของเธอใหญ่ไปหน่อย ระหว่างที่เคลื่อนไหว กลิ่นหอมบนตัวอ่อนๆได้โชยเข้าไปแตะ จมูกของเขา ทันใดนั้นเขาเกิดอารมณ์ขึ้นในทันที

แม่ง ช่วงนี้คงอดอยากถือศีลมานานว่ะ ถึงได้มีอารมณ์กับ ผู้หญิงป่าเถื่อนแบบนี้ได้?

เจตต์ขมวดคิ้วแล้วผลักเธอออกจากอ้อมกอดของเขาด้วย สัญชาตญาณ แต่เขาก็ยังคงไม่ได้ปล่อยมือเธอออก
เขาพูดกับกานต์ที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยท่าทางเป็นห่วง: “รีบ เข้าไปหาหม่ามี้ของผมซะ เธออยู่ชั้นสามห้อง308”

ได้ยินที่เจตต์พูดแล้ว กานต์ค่อยยังวางใจ

โดยปกติแล้ว เขาก็ไม่ค่อยชอบหน้านายเจตต์สักเท่าไหร่ แต่ช่วงนี้ เขาได้รองสืบค้นข้อมูลประวัตของนายเจตต์บน เว็บไซต์ดูแล้ว เห็นว่าเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายที่เลวไม่เลือกเลย พอ เห็นผู้หญิงคนไหนก็ชอบไปหมด

โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างคมทิพย์ ยิ่งไม่อยู่ในความสนใจ ของเขาและไม่เคยคิดอยากได้ด้วย อีกอย่างคมทิพย์ก็ไม่ใช่ ผู้หญิงย่อย เธอไม่ปล่อยให้ตัวเองเสียเปรียบแน่

พอนึกแบบนี้แล้ว กานต์ก็หันไปแลบลิ้นใส่คมทิพย์ทำหน้า ผีให้เธอแล้วพูด: “คุณน้าคมทิพย์ กับคุณอาเจตต์เล่นให้ สนุกนะครับ ผมไปก่อนละ”

“เจ้าตัวแสบ จะทิ้งน้าไว้แบบนี้เลยหรอ ? เจ้าตัวแสบ กลับ

มานะ! ”

คมทิพย์รู้สึกว่าตัวเองน่าเจ็บใจจริงๆ

ที่ถูกเจ้าตัวกระเปี๊ยกอย่างกานต์หักหลังเธอจนได้?

นายเจตต์กลับพูดอย่างสมน้ำหน้าดีใจ: “ถ้าคุณสามารถ ดิ้นหลุดจากมือของผมได้ ผมก็จะยอมปล่อยคุณเป็นไง? ”
คมทิพย์โกรธจนถุยใส่หน้านายเจตต์

นี่เป็นครั้งแรกที่เจตต์ถูกผู้หญิงถุยน้ำลายใส่แบบนี้

เขาเป็นใคร?

เขาเป็นถึงคุณชายของตระกูลรัตติกรวรกุลเชียวนะ! และเป็นคนมีฐานะชื่อเสียงอันดับสองของเมืองชลธี!

ตั้งแต่เล็กจนโต ผู้หญิงที่เข้ามาหาเขามีเป็นพันๆ ไม่เคย เห็นผู้หญิงที่หยาบคายไร้มารยาทแบบนี้มาก่อน?

ถูกถุยน้ำลายใส่?

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เรื่องแบบนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดของนาย เจตต์มาก่อน แต่ตอนนี้ กลับเกิดขึ้นต่อหน้าของเขา แถมยัง เกิดกับตัวของเขาเอง

นายเจตต์อึ้งไปนาน

เขารู้สึกหน้ามันเปียกๆ ไม่ใช่ว่าน้ำลายมันสกปรกมากแค่ ไหนหรอกนะ แต่เขารู้สึกทนไม่ไหวกับพฤติกรรมแบบนี้แต่ง หาก

“ผู้หญิงอย่างคุณต้องสั่งสอนเช็ด? ”

นายเจตต์ไม่เคยโมโหแบบนี้มาก่อน

เขายกแขนขึ้นในทันที คมทิพย์ก็เงยหน้าขึ้น แล้วพูดอย่าง ไม่อ่อนข้อ : “คุณตัน 1 ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายจริง ก็รองตนให้ฉันดู ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าไอ้ผู้ชายที่ยืนอย่างคุณ จะลงมือตบผู้หญิงลงได้! ”

น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการท้าทายยั่วยุของเธอได้ไปกระตุ้น ต่อมความโกรธของเจตต์เข้าอย่างจัง

มือของเขาที่ยกขึ้นไม่ได้ตบลงที่หน้าของเธอสักที แต่ ความโกรธในใจกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว

“นี่คุณกำลังหาว่าผมเป็นผู้ชายสาระเลวใช่มั้ย?

“ถือว่าคุณยังฉลาดพอที่คิดได้”

คมทิพย์พูดเมินใส่

นายเจตต์โกรธจนหัวเราะขึ้นมา พยักหน้าติดต่อกันเป็น หลายครั้ง จากนั้นก็พูด : “ได้ วันนี้ผมจะทำให้คุณรู้เองว่า %3D

ผู้ชายสาระเลวมันเป็นยังไง!

พูดจบ เขาก็แบกคมทิพย์ขึ้นมาทันที แล้วเดินไปทางที่รถ

จอด

คมทิพย์มีนงงไปหมด

จากที่คิดว่าตัวเองคงต้องถูกนายเจตต์ตบแน่แล้ว ใครจะ ไปรู้ว่าเขากลับไม่ทำตามที่คาดไว้อีกครั้ง

ผ่านไปนานสักพัก คมทิพย์ถึงได้สติกลับมา แต่เจตต์ได้พา เธอเดินไปถึงที่หน้ารถของตัวเองแล้ว และประตูรถก็ถูกเปิดเอาไว้แล้วด้วย เขาโยนคมทิพย์เข้าไป

“คุณจะทำอะไรฉัน? หลีกไปนะ! ” ในที่สุดคมทิพย์ก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจนได้

เธอใช้เท้าถีบนายเจตต์อย่างใช้แรงไปทีนึ่ง

แต่ถูกนายเจตต์หลบทัน แล้วมุดเข้าไปในรถทันที จากนั้น ก็ล็อกประตูเรียบร้อย

คมทิพย์กลัวในที่สุด

“ฉันขอเตือนคุณเลยนะ ฉันเป็นเพื่อนสนิทของนรมน ถ้า คุณกล้าทำอะไรฉันแล้วละก็ ฉันจะทำให้คุณกลายเป็นขันที คนสุดท้ายของประเทศจีนไปเลย!

นายเจตต์ไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรกับคำขู่ของคมทิพย์ แม้แต่น้อย เหยียบคันเร่งแล้วขับรถออกไปอย่างเร็วโดยไม่ สนใจเธอ

“อ้า! คย

นายเจตต์เหยียบคันเร่งความเร็วดิ่งพุ่งขึ้นไปถึงร้อยยี่สิบ คมทิพย์ตกใจจนกรี๊ดดังออกมา

“หุบปาก! ”

นายเจตต์ยังไม่หายโกรธ พอได้ยินคมทิพย์กร็ดดั้งขนาดนี้ ยิ่งทำให้เขารู้สึกรำคาญ
แต่เสียงของคมทิพย์ยิ่งร้องยิ่งดัง ราวกับว่าจงใจ ถึงขั้น คิดจะใช้เสียงของเธอฆ่าไอ้สารเลวคนนี้ให้ตายไปซะเลย

นายเจตต์หาผ้าขนหนูมาผืนนึงแล้วยัดปากของคมทิพย์ เอาไว้ และมัดเธอติดกับเบาะนั่งรถไว้

“อืม..”

คมทิพย์ไม่สามารถพูดได้ และมือก็ถูกมัดไว้ขยับไม่ได้ เธอ โมโหใช้เท้าที่ยังขยับได้ถีบไปที่ตัวของเจตต์

นายเจตต์รำคาญที่จะสนใจเธอ เขาขับรถตรงไปที่หน้า ประตูสุสาน จากนั้นก็แก้มัดเธออย่างคล่องแคล่วแล้วแบก เธอขึ้นที่ไหล่อีกครั้ง เดินไปทางสุสาน

“อืม..อืม….”

คมทิพย์รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ !

ถึงได้พาเธอมาที่สุสานแบบนี้!

เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?

หรือว่าเขาคิดจะข่มขืนเธอจากนั้นค่อยฆ่าเธอในที่สุสาน หรอเนี้ย?

พอคิดแบบนี้แล้ว คมทิพย์รู้สึกแค่ว่าแผ่นหลังเปียกเหงื่อ

ไปทั่ว

ไม่หรอกมั่ง?
อย่างน้อยนายเจตต์ก็เป็นคุณชายของสังคมชนชั้นสูง ไม่ได้โรคจิตแบบนั้นแน่? คง

แต่พอนึกถึงพฤติกรรมแย่ๆของนายเจตต์ในอดีตแล้ว คม ทิพย์ก็ยังรู้สึกกลัวโดยไม่มีสาเหตุ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ