แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 198 ผมจะอยู่ข้างๆคุณ



บทที่ 198 ผมจะอยู่ข้างๆคุณ

พฤกษ์ไปแล้ว แต่บุริศร์ยังไม่ได้เข้าไปข้างใน เขารู้ว่าตอนนี้สภาพจิตใจของนรมนยังรับอะไรไหว ไม่ ว่าใครเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็คงไม่สามารถทำใจ ยอมรับได้หรอก ก็เหมือนกับนรมน แต่ก็ยังถือว่าดีอยู่ อย่างน้อยก็ไม่ถึงขนาดซึมเศร้า

บุริศร์ปลอบใจตัวเอง แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ

อยู่ดี

เขาอยากสูบบุหรี่ แต่สุดท้ายก็ล้มเลิกความคิดนั้น

ไป

คุณนายตระกูลโตเล็กเดินมา ก็เห็นลูกชายเป็น

แบบนี้ จึงถามเสียงเบาว่า “เป็นอะไรไป? ทะเลาะกัน

เหรอ?”

บุริศร์ส่ายหน้า “ทะเลาะกันก็คงดี ตอนนี้เธอ เอาแต่หดตัวอย่างกับเต่าในกระดอง ไม่คิดจะออกไป

ไหนเลย”

“ให้เวลาเธอหน่อย ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนผ่านเรื่อง ราวแบบนี้มาก็คงรับไม่ได้ทั้งนั้นแหละ ช่วงนี้ฉันจะไม่ ให้กิจจาพากมลมาที่นี่ก็แล้วกัน ปล่อยให้เธอรักษา ตัวอย่างสบายใจเถอะ ตระกูลเราติดค้างเธออยู่นะ”

คุณนายตระกูลโตเล็กเป็นผู้หญิงเหมือนกัน จึงรู้ดี

ว่าการเสียลูกไปแล้วยังจะมาเจอเรื่องแบบนี้อีกมันสะเทือนใจขนาดไหน

“ถ้าไม่ไหวจริงๆ ให้แม่โน้มน้าวเธอให้ไหม?” จริงๆแล้วคุณนายตระกูลโตเล็กถูกใจลูกสะใภ้คน นี้มาก

บุริศร์ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “เรื่องของผมกับเธอให้ เราสองคนจัดการเองเถอะครับ แม่ไม่ต้องยุ่งหรอก ถ้าผลตรวจของแม่ออกมา ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง แม่ก็ ต้องฟังผมนะ”

คุณนายตระกูลโตเล็กส่ายหัวยิ้มๆ

“แกนี่นะ ยุ่งขนาดนี้ ยังจะมาห่วงฉันอีก รอผลอ อกค่อยพูดกันอีกทีก็แล้วกัน”

คุณนายตระกูลโตเล็กเดินจากไปแล้ว หน้าประตู จึงเหลือแค่บุริศร์คนเดียวอีกครั้ง

เขายืนอยู่ตรงนั้น เอาแต่มองเข้าไปข้างในไม่ หยุด ทว่าข้างในกลับเงียบมากๆ เงียบจนเขารู้สึกไม่

สบายใจ

“นรมน คุณอยู่ไหม? นรมน?”

บุริศร์หนังตากระตุก

เขาเคาะประตู แต่นรมนไม่ตอบอะไรกลับมา บริ ศร์ตระหนกจนต้องเปิดประตูวิ่งเข้ามา แต่กลับพบว่าน รมนกอดซักโกรดอาเจียนอีกแล้ว

บนโต๊ะมีน้ำแก้วหนึ่ง บนนั้นมีรอยน้ำหกด้วยแสดงว่านรมนอยากดื่มน้ำ แต่ยังอาเจียนออกมา เหมือนเดิม

บุริศร์สงสารเป็นอย่างมาก

เขารีบเดินเข้าไปช่วยตบหลังเธอเบาๆ เพื่อให้เธอ อาเจียนได้ง่ายขึ้น

“ถ้าไม่ไหวจริงๆก็พอเถอะ อย่าฝืนตัวเองเลย หมอก็บอก ว่าโรคนี้เราต้องค่อยๆรักษา ผมจะบอก หมอเข้าน้ำเกลือให้คุณก่อน เรามาค่อยๆเป็นค่อยๆไป กันโอเคไหม?”

เมื่อเห็นนรมนเป็นอย่างนี้ บุริศร์รู้สึกทนไม่ได้ซะ ยิ่งกว่าตอนตัวเองเจ็บเสียอีก

นรมนหอบหายใจ จากนั้นก็นั่งลงบนชักโครก แล้วมองมาที่บุริศร์ “ค่อยๆเป็นค่อยๆไปแล้วมันต้อง นานเท่าไหร่? หนึ่งสัปดาห์? หนึ่งเดือน? หรือหนึ่งปี? ฉันไม่อยากเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันต้องการลุกขึ้นมาด้วย ตัวเอง ฉันยังมีกมล ฉันยังต้องไปตามหากานต์ และ ฉันก็ยังอยากอยู่กับคุณจนหัวหงอก กุมมือกันไป ตลอดชีวิต แต่ฉันไม่อยากเคียงข้างคุณด้วยสภาพ แบบนี้ บุริศร์ ฉันก็มีความภาคภูมิใจของฉัน คุณ เข้าใจไหม?”

ดวงตาของเธอปริ่มไปด้วยน้ำตา

เธอพยายามแล้ว แต่ทำไมยังไม่ได้อีกล่ะ?

ทำไมกัน?
ความรู้สึกพ่ายแพ้แบบนี้มันทำให้นรมนรู้สึกพัง ทลายได้จริงๆ

เธอไม่อยากรักษาระยะห่างกับบุริศร์ ไม่อยาก คอยแห่งมองผู้ชายคนนี้ เธออยากเดินเคียงบ่าเคียง ไหล่ไปพร้อมๆกันกับเขา อยากบอกทุกคนอย่างตรง ไปตรงมา ว่าเธอคือภรรยาของบุริศร์ เธอคู่ควรกับบุริ ศร์!

แต่ว่า ทุกอย่างในตอนนี้มันแย่ไปหมด แย่จนเธอ หมดแรงใจแล้ว

แล้วทำไมบุริศร์จะไม่รู้ว่านรมนมีความภาคภูมิใจ เป็นของตัวเองล่ะ?

เขาอุ้มนรมน แล้วเดินกลับมาที่เตียง พูดเสียงเบา ว่า “ผมจะให้เวลาคุณประกอบความภาคภูมิใจของคุณ ขึ้นมาใหม่ ให้คุณได้กลับไปยืนในจุดที่ดีที่สุดของคุณ แต่ว่านรมน คุณต้องรับปากผม ว่าคุณจะไม่ทำร้ายตัว เอง เห็นคุณเป็นแบบนี้ ผมเจ็บปวดมากคุณรู้ไหม?”

“ฉันต้องไปเจอเขา ฉันถึงจะเอาชนะมันได้”

“ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น? คุณบอกผมไม่ได้เหรอ? ผมจะเอาชนะมันไปพร้อมกับคุณ เราจะเอาชนะมันไป ด้วยกัน!”

เธอก็ยังคงหนักแน่นอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ก็เพราะหนักแน่นมากเกินไป ถึงได้ทำให้เขา

สงสารมากกว่าเดิม
“คนคนหนึ่งแบกรับความเจ็บปวดไว้คนเดียว ก็ เหมือนมีภูเขาลูกใหญ่มากดทับ แต่ถ้าคุณแบ่งเบา ความเจ็บปวดนั้นมา เราสองคนก็จะแบกรับมันด้วยกัน แบบนั้นคุณก็จะสบายใจมากขึ้น นรมน เราเป็นสามี ภรรยากัน ยังมีอะไรที่ไม่สามารถแบกรับอะไรร่วมกัน ได้อีกเหรอ? หรือในใจของคุณ คิดว่าผมจะทอดทิ้ง คุณเพราะเรื่องที่คุณเจอมา?”

บุริศร์ไม่อยากพูดเสียงดังกับนรมน แต่ว่าเขา ควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ

นรมนในตอนนี้มักจะสร้างใยให้ตัวเองเหมือน ดักแด้ แล้วขังตัวเองไว้ในนั้น ใครก็ไม่สามารถเข้าไป หาได้ นอกเสียจากว่าวันใดวันหนึ่งเธอจะกลายเป็น ผีเสื้อแล้วบินออกไป ไม่อย่างนั้นใครก็ไม่สามารถ

เข้าหาเธอได้

นรมนเงียบ เธอนั่งกัดริมฝีปากอยู่ตรงนั้น แววตา ว่างเปล่า ทว่ากลับวาววับไปด้วยหยาดน้ำตา

ทันใดนั้นบุริศร์ก็ใจอ่อน

เขาดูด่าเธอไม่ลง และไม่กล้าใช้คำแรงๆกับเธอ

ด้วย

บุริศร์โอบนรมนเข้ามาในอ้อมกอด แล้วพูดว่า “คุณอยากให้ผมทำยังไงกับคุณ?”

นรมนจับเสื้อของเขาแน่น อยากพูดขอโทษ แต่ กลับรู้สึกอ่อนแรง
บรรยากาศกดดันถาโถมเข้าใส่บุริศร์ และในตอน นี้เองที่เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นมา

บุริศร์หยิบโทรศัพท์ออกมา ก็พบว่าเป็นสายจาก ไมค์ จึงปล่อยนรมนออกแล้วพูดว่า “ผมออกไปรับ โทรศัพท์นะ”

“ได้!”

นรมนไม่ได้ห้าม

บุริศร์กลัวเผลอพูดเรื่องของรเมศออกไปต่อหน้า นรมน จนไปกระตุกความทรงจำที่ไม่ดีของเธอ ดังนั้น เขาจึงต้องออกมาข้างนอกก่อน

เมื่อบุริศร์ออกมาข้างนอก ถึงได้โทรกลับไป

“เป็นยังไง?”

“ช่วยออกมาได้แล้วใช่ไหม?”

ไมค์ค่อนข้างกังวล

บุริศร์ตอบกลับว่า “ช่วยออกมาได้แล้ว”

“งั้นพาออกมาเจอกันหน่อยสิ ยังไงก็เป็นถึงพี่ สะใภ้ของฉัน”

“สถานการณ์ไม่ดีเท่าไหร่ คิดว่าช่วงนี้น่าจะออก ไปไหนไม่ได้”

เสียงของบุริศร์ทุ้มลึก แต่ก็ยังพกพาความรู้สึก สงสารมาด้วย
ไมค์ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ทำไมเหรอ? เกิดอะไรขึ้น? ไอ้สารเลวรเมศนั่น ทำอะไรพี่สะใภ้?”

อย่างแรกที่ไมค์นึกถึงคือเรื่องนี้

บุริศร์ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “เปล่า เพราะเรื่องอื่น ฉันให้พฤกษ์ส่งข้อมูลให้นายได้รับหรือยัง?”

“ฉันโทรมาหานายก็เพราะเรื่องนี้แหละ นาย ซื้อFallen heavenมาไม่ได้หรอก ผู้หนุนหลังของตระ กูลนั้นน่ะใหญ่มาก ขนาดพ่อฉัน ยังต้องคิดแล้วคิดอีก เลย ว่าแต่นายจะซื้อFallen heavenไปทำไม? สถาน ที่แบบนี้นายคิดว่านายบริหารได้เหรอ? หรือว่านายจะ ซื้อมาไว้เพื่อฟอกขาว? ถ้าเป็นอย่างหลัง นายเลิกคิด ซะเถอะ ถ้าฟอกขาว Fallen heaven ก็จะไม่มีลูกค้า เลยนะ อีกอย่างเบื้องหลังก็มีแต่กลุ่มแก๊งกับคอนเน็กชั่ นอีกเป็นชุด คนที่นายไปขัดแข้งขัดขาไม่ได้มีแค่คน เดียวนะ”

คำพูดของไมค์ทำให้บุริศร์ขมวดคิ้วมุ่น

“ไม่มีวิธีอื่นเลยเหรอ?”

“ไม่มี Fallen heavenไม่ใช่สถานที่ที่เอาไว้ ค้าขาย ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังเป็นใคร มีไม่กี่คน เท่านั้นที่รู้ รู้แค่ว่าคนคนนั้นไม่ใช่บุคคลที่คนธรรมดา สามารถแตะต้องได้ ไม่งั้นนายคิดว่าเครือข่ายค้า มนุษย์ที่ใหญ่ขนาดนี้ ทำไมไม่มีใครมาตรวจสิบล่ะ?ทุกคนถึงรู้ว่ามีสินค้าใหม่ทุกวัน แต่ทำไมยังทำตามกฎ ของที่นั่น นี่ ตกลงนายอยากซื้อFallen heavenไป ทำไม?”

ไมค์สงสัยจริงๆ

บุริศร์ไม่ใช่คนที่สนใจอิทธิพลมืดอะไรขนาดนั้น ทำไมจู่ๆถึงได้อยากซื้อFallen heavenล่ะ?

บุริศร์ครุ่นคิดอยู่สักพักถึงได้พูดออกมาว่า “ฉัน สงสัยว่านรมนถูกลงโทษยังไงตอนอยู่Fallen heaven ถึงได้ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเธอขนาดนั้น อาการป่วยของเธอตอนนี้ค่อนข้างซับซ้อน เธอไม่ยอม พูดอะไรเลย ฉันเลยอยากรู้สาเหตุเผื่อจะช่วยรักษา เธอได้”

“ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ถ้านายแค่อยากรู้กฎและบท ลงโทษของที่นั่น ฉันคิดว่าฉันน่าจะช่วยนายได้ แต่ว่า เรื่องซื้อFallen heavenนะ นายเลิกคิดเถอะ ฉัน แนะนำให้นายปัดตกความคิดนี้ทิ้งไปซะ”

เมื่อได้ยินไมค์พูดแบบนี้ บุริศร์ก็พยักหน้า

“ก็ได้ ขอแค่ฉันได้รู้ว่าสิ่งที่ฉันสงสัยคืออะไร ซื้อ หรือไม่ซื้อก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก”

“งั้นนายรอฟังข่าวเอาแล้วกัน เรื่องนี้จะใจร้อนไม่

ได้ ฉันยังต้องสร้างคอนเน็กชั่น ถ้าได้เรื่องอะไรฉันจะ

บอกนายก็แล้วกัน”

“ได้”
หลังจากที่บุริศร์วางสาย จู่ๆก็รู้สึกขึ้นมาว่าที่นี่ซับ ซ้อนกว่าในประเทศเยอะ ถ้าไม่ใช่ว่าที่นี่มีไมค์ บางที หลายๆ เรื่องเขาอาจจะเดินเรื่องลำบากก็ได้

ไม่รู้ว่าทางรเมศจะเป็นยังไงเมื่อรู้ว่านรมนหายไป คิดว่าคงไม่คิดจะหยุดง่ายๆล่ะมั้ง

บุริศร์คิดมาถึงตรงนี้ ก็เรียกพฤกษ์มาหา พร้อม ออกคำสั่งให้เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยทั้งบริเวณ รอบนอกและข้างในเป็นเท่าตัว

การกระทำทั้งหมดนี้ ต่างให้ความรู้สึกเคร่งเครียด แม้แต่นรมนยังรู้สึกได้

เธอรู้ ว่าระหว่างบุริศร์กับรเมศไม่มีทางดีกันได้ จริงๆ

จริงๆแล้วหลังจากที่ได้รู้ธาตุแท้ของรเมศ เธอก็ไม่ สามารถเผชิญหน้ากับรเมศได้อย่างสบายใจเหมือน เมื่อก่อน แต่ว่าบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตและให้การ ศึกษากับเธอและลูกๆเมื่อห้าปีก่อน เธอกลับไม่สามารถ ลืมมันไปได้

นรมนพยายามฝืนบังคังตัวเองให้ดื่มน้ำครั้งแล้ว ครั้งเล่า และก็อาเจียนออกมาในทุกๆครั้ง จนทั้ง ร่างกายพัง

บุริศร์ไม่ได้พูดอะไรออกมา ถึงแม้จะสงสาร แต่ก็ รู้ว่าตัวเองห้ามนรมนไม่ได้

เธอดื้อมาก
บุริศร์รู้ข้อนี้มาตั้งแต่ห้าปีที่แล้ว ไม่อย่างนั้นผู้หญิง คนนี้คงอดทนไม่ได้ตั้งหลายปีขนาดนี้หรอก ที่ชอบ ผู้ชายอย่างบุริศร์แค่คนเดียวไม่คิดเปลี่ยนใจ

แต่ว่าเขาก็ยังสงสาร

หลังจากนรมนอาเจียนเสร็จ เขาก็ไม่เคยคิด รำคาญที่จะอุ้มเธอกลับไปที่เตียง ไม่รำคาญที่จะเช็ด ตัวและเช็ดปากให้เธอ และไม่เคยแม้แต่จะรำคาญที่ ต้องเรียกหมอมาเข้าน้ำเกลือให้เธอ

สามวันต่อมา นรมนอ่อนระโหยโรยแรง แต่ก็ไม่มี อะไรดีขึ้นเลย

เธอมองบุริศร์ แล้วพูดออกมาอย่างอับจนหนทาง ว่า “คิดว่าฉันเรื่องมากไหม?”

“ไม่ คุณอยากทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ผมบอกแล้ว ว่าจะอยู่ข้างๆคุณ”

สามวันมานี้ บุริศร์เองก็ผอมลงเยอะมาก แม้ว่า เวลาอยู่ต่อหน้านรมนเขาจะแสดงออกว่าเขายังดีๆ แต่ ว่ารอยคล้ำใต้ตาของเขากลับไม่เป็นใจ

นรมนพิงหัวเตียง พูดออกมาอย่างอ่อนแรงว่า “จ้างจิตแพทย์มาให้ฉันหน่อยสิ”

ในที่สุดเธอก็ยอม

บางเรื่องเธอก็อยากจัดการและเอาชนะมันด้วยตัว เอง แต่ว่าสุดท้ายเธอก็พ่ายแพ้
เธอดูออกว่าบุริศร์ตั้งใจดูแลเธอ และก็ดูออกด้วย ว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เวลาสามวัน ไม่ได้มีแค่เธอที่ โรยแรง บุริศร์เองก็ไม่ไหวเหมือนกัน

เธอไม่อยากทรมานแบบนี้ต่อไปแล้ว

ถ้าไม่มีบุริศร์อยู่ข้างๆ อย่าว่าแต่สามวันเลย ต่อ ให้หนึ่งเดือน เธอก็ไม่สามารถอดทนได้ แต่ว่าตอนนี้ เธอค้นพบแล้วว่าเธอทนเห็นบุริศร์ลำบากไม่ได้ และ ทนเห็นเขาในสภาพแบบนี้เพราะเธอไม่ได้เหมือนกัน

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ