แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 196 เธอป่วยซะแล้ว



บทที่ 196 เธอป่วยซะแล้ว

ในตอนที่บุริศร์กำลังจะพูดอะไรกับนรมนต่อ ก็ พบว่านรมนหมดสติไปแล้ว

เขาตกใจจนหน้าถอดสี . รีบเช็ดตัวให้นรมน จาก นั้นก็เอาชุดนอนมาใส่ให้แล้วอุ้มเธอออกไปข้างนอก

เมื่อชุดนอนอยู่บนร่างของนรมนจึงค่อนข้างตัว ใหญ่ เหมือนเสื้อคลุมตัวยาว ยิ่งสะเทือนสายตาของบุริ ศร์

เขาเช็ดน้ำตาตรงหางตาออกอย่างรวดเร็ว จากนั้น

ก็เรียกหมอมาหา

หมอทำการตรวจทั้งร่างกายให้นรมน จึงพบว่าน – อกจากรอยแผลบนร่างกายของเธอแล้ว นรมนก็ไม่ ได้มีบาดแผลอื่นใดๆ แต่เป็นเพราะว่าร่างกายของเธอ อ่อนแอเกินไปถึงได้เป็นแบบนี้

เพียงแค่ได้ยินคำพูดเหล่านี้จากปากของหมอ บุริ

ศร์ก็พอจะจินตนาการออกว่านรมนต้องเจอกับโหดร้าย

ขนาดไหน

แล้วทำไมการทำงานของระบบย่อยอาหารถึงผิด ปกติล่ะ?

เมื่อพฤษ์ได้ยินว่านรมนกลับมาแล้ว เลยคิดจะมา หา แต่กลับถูกบุริศร์ขวางไว้นอกประตู

“ไปสืบมาว่าคนที่ถูกขายขึ้นเรือกินอะไรไปบ้าง” บุริศร์ต้องการรู้ทุกอย่าง

ไม่นานพฤกษ์ก็หาคำตอบให้เขาได้

“ประธานบุริศร์ คนบนเรือกินอาหารเหลือและ อาหารบูดครับ คนพวกนั้นไม่เห็นพวกเธอเป็นคนเลย ทั้งด่าทั้งดูถูก ทั้งข่มเหงรังแกสารพัด บางครั้งก็ถึง ขนาดบังคับให้พวกเธอกินเยี่ยวเพื่อความสะใจ”

ในตอนที่พฤกษ์ได้ยินเรื่องพวกนี้ก็ลังเลอยู่นานว่า ควรบอกบุริศร์ดีไหม แต่สุดท้ายเขาก็เลือกบอกบุริศร์ ไป

สีหน้าของบุริศร์เปลี่ยนเป็นสีหน้าน่ากลัว แต่กลับ ไม่ได้พูดอะไรออกมา จากนั้นก็หันหลังเดินกลับเข้าไป ในห้องพักผู้ป่วยอย่างเรียบนิ่ง

นรมนยังคงหลับอยู่ ทว่าเธอกลับหลับไม่สนิท สองมือกอดขาที่งอเข้าหากันเหมือนกุ้งเอาไว้แน่น บุริศร์พยายามทำให้ร่างกายของเธอยืดหยุ่น แต่

กลับไม่ได้ผล ราวกับนรมนที่ตกอยู่ในห้วงนิทรากำลัง

ป้องกันตัวเองอย่างสุดชีวิตด้วยแรงทั้งหมดที่มี

เป็นวิธีการป้องกันตัวภายใต้จิตสำนึก แต่กลับ ทำให้คนเห็นรู้สึกเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างมาก

บุริศร์ถอดรองเท้า แล้วขึ้นไปบนเตียง จากนั้นก็ ดึงนรมนเข้ามากอดไว้แน่น พูดเสียงแผ่วเบาว่า “ไม่ ต้องกลัว ผมอยู่นี่ ทุกอย่างผ่านไปแล้ว นรมน ผ่อน คลายนะ อย่าทำร้ายตัวเองอย่างนี้ ผมคือบุริศร์ไง”
ในตอนที่เขาเริ่มพูด นรมนไม่ฟังเลยสักนิด เธอต่อ ต้านโดยอัตโนมัติ ทั้งยังหันหลบ และใช้ฟันกัดลงบน ข้อมือกับแขนของบุริศร์อย่างแรง และในทุกๆที่ที่เธอ สามารถกัดได้

เธอกางอุ้งมือเพื่อป้องกันตัวราวกับเป็นแมวดำ

ไม่นานบนร่างกายของบุริศร์ก็เต็มไปด้วย บาดแผล แต่เขากลับไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด เพราะว่า บริเวณหัวใจเจ็บกว่าบริเวณภายนอกเยอะ

หญิงสาวที่เคยร่าเริงสดใส เปลี่ยนไปได้ถึงขนาด นี้ ความผิดใครกัน?

ความผิดของเขาไง!

เพราะเขาไม่ได้ปกป้องเธอให้ดีๆ ถึงทำให้เธอได้ เผชิญกับทุกอย่างแบบนี้ บุริศร์ปล่อยให้นรมนกัด แต่ เขากลับกอดเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

ในที่สุดนรมนก็หยุดกัด และหลับลึกลงไปอีกครั้ง ทว่ากลับดูผ่อนคลายขึ้นเยอะ

บุริศร์ยังคงกอดเธอเอาไว้ แต่ก็พบว่าเธอยังคงสั่น อยู่ และต่อต้านเป็นบางครั้ง

เธอได้กลิ่นของบุริศร์ แต่ร่างกายก็ยังมีอาการ ตอบสนองแบบนี้ออกมาโดยอัตโนมัติ

ในฝัน ผู้หญิงหลายคน ถูกโยนลงบนท้องเรือ ราวกับเป็นสิ่งของ พร้อมกับถูกฉีกกระชากเสื้อผ้าออก และถูกคนป่าเถื่อนพวกนั้นปู่ยี่ปู่ย่าต่อหน้าทุกคน
เสียงร้องไห้ เสียงร้องขอความช่วยเหลือพวกนั้น ไร้ความหมายและไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ท่ามกลาง มหาสมุทร

ที่นั่นคือนรกบนดิน คือความทรมานที่ไร้ซึ่งความ หวัง

ถ้าไม่ใช่ว่าต้องเหลือพวกเธอเอาไว้เพื่อนำไป ประมูล นรมนก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองจะเจอกับอะไรบ้าง

ผู้หญิงหลายคนถูกกระทำอย่างหยาบคายจนเสีย ชีวิต. จากนั้นก็จะถูกโยนลงทะเลด้วยสภาพดูไม่ได้ ร่างกายจมหายไปกับทะเลลึก ตอนแรกรอบกายเธอ เบียดแน่นไปด้วยเพื่อนร่วมชะตากรรม. จนไม่สามารถ ขยับตัวได้ ต่อมาก็ค่อยๆมีพื้นที่ว่างในการขยับตัว แต่ กลับแลกมาด้วยความรู้สึกหวาดผวาและสิ้นหวังที่อัด อั้นอยู่ในหัวใจ จนสุดท้ายก็ดูดกลืนตัวตนของพวกเธอ

ไปจนหมดสิ้น

“อย่า! อย่า!

นรมนดิ้น พร้อมกับตะโกน แต่กลับไม่สามารถตื่น

จากฝันร้ายได้

ร่างกายของเธอเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

“นรมน ตื่น ตื่นขึ้นมา”

บุริศร์ทนเห็นเธอทรมานอยู่ในฝันร้ายไม่ได้ จึง เขย่าตัวให้เธอตื่น แต่กลับไม่ค่อยได้ผล

ภาพในความฝันของนรมนตัดมาที่ห้องของรเมศ
เธอถูกรเมศมัดไว้บนเตียง ผู้ชายที่เคยดีแสนดี ตอนนี้กลับกลายมาเป็นปีศาจ ที่ฉีกกระชากเสื้อผ้าของ เธอออกอย่างโหดร้ายทารุณ เพื่อทำไม่ดีไม่ร้ายกับเธอ

“ไม่!”

นรมนกรีดร้อง ใบหน้าเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา แต่ ฝันร้ายเหล่านั้นช่างเหมือนกับคำสาป ที่สะกดนรมน เอาไว้ ทำให้เธอไม่สามารถหลุดพ้นได้

“อย่ามายุ่งกับฉัน! ออกไป! ไปให้พ้น!”

นรมนกรีดร้อง แกว่งมือสะเปะสะปะไปหมด และ มักจะฟาดถูกใบหน้าของบุริศร์โดยไม่ได้ตั้งใจ แรง มากพอที่จะทำให้บุริศร์เจ็บฟัน

เขาเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่ สามารถปลุกนรมนได้ เมื่อทำอะไรไม่ได้เขาจึงก้มหน้า ลงไปจูบนรมนเอาไว้นรมนตื่นตูมเหมือนกระต่าย จึง ใช้ฟันกัดลิ้นของบุริศร์ ด้วยระดับความรุนแรงที่ราวกับ จะกัดลิ้นของอีกฝ่ายให้ขาด

บุริศร์ไม่สนใจ ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บ แต่เจ็บถึงขั้วหัวใจ เขาทนเห็นเธอทรมานแบบนี้ไม่ได้ ในเมื่อปลุกไม่ตื่น งั้นก็ดำดิ่งไปด้วยกัน อย่างน้อยในความฝันอันโหด ร้ายก็ยังมีคนคอยอยู่เคียงข้างเธอ เธอจะได้ไม่ต้อง รู้สึกโดดเดี่ยว

รสชาติขมปร่าของเลือดสดๆลอยคลุ้งทั่วโพรง ปากของทั้งสองคน กลิ่นคาวเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดนรมนก็ตื่นขึ้นมา

ในวินาทีที่ตื่นขึ้นมา ก็พบว่าร่างกายของเธอนอน ราบอยู่ แต่ยังงุนงงกับเหตุการณ์เบื้องหน้า

มุมปากของบุริศร์มีเลือดไหลซิบออกมา เลือดสี แดงสดดูบาดตาเป็นอย่างมาก กลิ่นคาวเลือดในโพรง ปากทำให้เธอเข้าใจทุกอย่างในทันที

“ฉันขอโทษ บุริศร์ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ

ฉัน…”

บุริศร์จูบลงบนปากของเธออีกครั้งอย่างลึกซึ้ง

เขาจูบเธอด้วยความอ่อนโยน แผ่วเบา และ

ทะนุถนอม

นัยน์ตาของนรมนสั่นระริก สุดท้ายเธอก็ร้องไห้

ออกมา

เธอไม่อยากร้องไห้แล้ว

เธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอ และไม่ใช่ผู้หญิงที่อ่อน

ไหวง่าย แต่ทว่าทำไมตอนนี้เธอถึงร้องไห้ออกมาได้ ง่ายๆล่ะ? นรมนกำลังจะดันบุริศร์ออก. แต่บุริศร์กลับ กอดเธอเอาไว้แน่นราวกับครีมหนีบ ทำให้เธอไม่อาจ

ดิ้นหลุดจากอ้อมกอดของเขาได้

ภายใต้การกอดรัดที่หนักแน่นของเขา ราวกับนร มนได้ยินเสียงหัวใจของบุริศร์ ผู้ชายนิ่งขรึมคนนี้ ถึงจะรักและผูกพันมากแต่ก็ไม่แสดงออกให้มันชัดเจน

ทันใดนั้นเธอก็พลิกเป็นฝ่ายจู่โจมเมื่อถูกกระตุ้น เรียกร้องทุกอย่างของบุริศร์อย่างบ้าคลั่ง

ทุกอย่างดำเนินไปอย่างดุเดือด อารมณ์ทุกอย่าง เตรียมพร้อมที่จะปะทุ

ในตอนที่ทั้งสองแทบจะรวมร่างกัน นรมนก็ส่ง เสียงออกมาเบาๆ ความใกล้ชิดที่แนบกันสนิท เหมือน ครึ่งวงกลมสองอันที่ยึดติดกันจนกลายเป็นวงกลมใน ที่สุด

บุริศร์พยายามสกัดกั้นความวู่วามของตัวเอง ไม่ให้ เผลอทำให้นรมนเจ็บตัว เมื่อเห็นเขาต้องตั้งใจแบบนี้ นรมนก็ถอนหายใจออกมา แล้วดึงหัวของเขาเข้ามา ประชิด จากนั้นก็เป็นฝ่ายส่งริมฝีปากสีสวยเข้าไป ประกบ

ในหัวของบุริศร์ราวกับมีเสียงดังสนั่น สติสัมปชัญญะทั้งหมดพังทลาย

เขาเริ่มลุ่มหลง อารมณ์เริ่มคึก แสดงความ ต้องการออกมาอย่างปล่อยตัวปล่อยใจ

ในตอนที่ทุกอย่างดำเนินมาถึงจุดสูงสุด ก็รู้สึก ราวกับดอกไม้ทุกชนิดเบ่งบาน ดวงดาวบนท้องฟ้าพลัน ส่องแสงสว่างไสว เติมเต็มความว่างเปล่าทั้งหมดที่มี

นรมนเอนซบอกแกร่งของบุริศร์อย่างเหนื่อยล้า เมื่อได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้น ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกมา กลัวว่าถ้าพูดอะไรออกไปในตอนนี้จะทำลาย ช่วงเวลาดีๆ ในบรรยากาศเงียบๆแบบนี้

บุริศร์สางผมยาวสลวยของนรมนอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็จูบลงบนหางคิ้วของเธอ ราวกับว่ายังออกจาก อารมณ์เมื่อสักครู่ไม่ได้

ทั้งสองกอดกันอยู่นาน. นรมนก็นอนนิ่งอยู่อย่าง นั้น

บุริศร์ก้มลงไปมอง ก็พบว่าเธอหลับไปแล้ว

ทว่ามุมปากของนรมนกลับปรากฏรอยยิ้มออกมา รอยยิ้มที่แสนสดใสนั้น แทบจะพรากวิญญาณของคน ที่ได้พบเห็น

บุริศร์ยกยิ้มขึ้นน้อยๆ เขาประทับจูบลงบนริม

ฝีปากสวยของเธอ พร้อมกับอุ้มเธอไปอาบน้ำ จากนั้นก็ จัดการแต่งตัวให้เธอเสร็จสรรพ แล้วถึงได้เอนตัวลง

นอนข้างกายของเธอ ตอนนี้เขาไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น. แค่อยากอยู่ ข้างๆกับนรมจแบบนี้ไปตลอดทุกภพทุกชาติ ชั่วฟ้าดิน

สลาย

สักพัก บุริศร์ก็เริ่มง่วง เขาหลับตาลง ตั้งแต่นรมน และกานต์หายตัวไป ครั้งนี้เป็นครั้งที่เขานอนหลับสนิท ที่สุด

ระหว่างนั้นพฤกษ์ก็มาหา แต่ก็ไม่ได้เข้าไปรบกวน อะไร ถึงขนาดแขวนป้ายห้ามรบกวนให้ด้วยซ้ำ
คุณนายตระกูลโตเล็กเองก็มาหา. ตอนที่เธอได้รู้ ว่าบุริศร์พานรมนกลับมาได้แล้ว ก็เพียงแค่ยิ้มออกมา จากนั้นก็เดินจากไปโดยไม่ได้พูดอะไร

กิจจาและกมลไม่รู้ว่าพวกเขากลับมาแล้ว จึงไม่มี

ใครมารบกวน

บุริศร์และนรมนหลับจนถึงช่วงเย็น

บุริศร์ตื่นขึ้นมาเพราะหิว

ตอนที่ลืมตาค้นมาถึงได้พบว่านรมนนอนจ้องเขา โดยไม่ละสายตาไปไหน . แววตานั้นทำให้เขาอด สงสารขึ้นมาไม่ได้

” “เป็นอะไรไป?”

บุริศร์เพิ่งตื่นนอน, เสียงจึงค่อนข้างแหบ นรมนส่ายหน้า แต่กลับไม่ยอมปล่อยบุริศร์

ราวกับกลัวว่าถ้าปล่อยมือ แล้วเขาจะลอยหายไป ความรู้สึกไม่สบายใจของเธอทำให้บุริศร์เป็นห่วง

“เดี๋ยวผมไปทำอะไรให้กินเอาไหม?”

“ฉันไม่หิว”

นรมนพูด ยังคงไม่ปล่อยบุริศร์เหมือนเคย

บุริศร์ยิ้มออกมา “ผมหิวแล้วอีกสักพักกินข้าวด้วย กันดีไหม?”

นรมนเงียบไป
ขณะที่บุริศร์กำลังคิดว่าเธอคงไม่ตอบ. นรมนกลับ พยักหน้า “ได้สิ. แต่ว่าฉันไม่กินเยอะนะ”

“ไม่เป็นไร . แค่กินเป็นเพื่อนผม”

ในตอนที่บุริศร์เปิดผ้าห่มออก. ใบหน้าของนรมนก็ แดงระเรื่อ

เมื่อบุริศร์เห็นแบบนี้ ก็ยกมุมปากขึ้นนิดๆ

เขายื่อมือออกไปปัดจมูกของนรมน แล้วพูดอย่าง ะ ะ เอ็นดูว่า “คนเคยๆกันทั้งนั้น. ยังจะเขินอะไรอีก?”

นรมนไม่ได้พูดอะไร. แต่ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดตัวเอง เอาไว้ , แต่กลับไม่สามารถปกปิดริ้วแดงบนใบหน้าได้

นรมนที่เป็นแบบนี้ยิ่งดูฮอต และทำให้บุริศร์

อารมณ์ดี

เมื่อเขาใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกไปจากห้อง ทันใด นั้นนรมนก็รู้สึกว่าห้องนี้มันช่างว่างเปล่า ไม่มีความรู้สึก ปลอดภัยเลย ถึงขนาดรู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งคอย เอาแต่จ้องเธออยู่ตรงมุมใดมุมหนึ่งของห้อง นรมนสั่น ระริกใช้ผ้าห่มห่อตัวเองเอาไว้ ทว่าก็ยังรู้สึกได้ถึง สายตาที่จ้องมองมาอย่างเยือกเย็น ราวกับติดตามกัน เป็นเงา

เธอรู้ว่าตัวเองคงป่วยเอาซะแล้ว. ถึงได้จินตนาการ ไปเองอย่างนี้ แต่เธอไม่สามารถเอาชนะมันได้ เธอไม่ กล้าอยู่คนเดียว และไม่กล้าเผชิญกับความว่างเปล่าใน ห้องแบบนี้
นรมนจับผ้าห่มคลุมกายแล้วลงไปมุดตัวอยู่ใต้ เตียง เธอขดตัวอยู่ตรงมุม ราวกับว่ามีเพียงแค่ความมืด เท่านั้นถึงจะทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ