แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 839 เหมือนจะไม่ได้หมายความอย่างนั้น



บทที่ 839 เหมือนจะไม่ได้หมายความอย่างนั้น

“อย่างแกจะทําอะไรฉันได้? ฉันว่าบุริศร์คงไม่ได้สอนอะไรดีๆ ให้แกหรอก คงสอนแต่อะไรที่ขัดคำสั่งผู้ใหญ่ล่ะท่า? ถึงยังไง เรณุกาก็คือแม่ของเขา และเลี้ยงดูเขามาจนโต เขาจะไม่ไว้หน้า กันเลยสักนิดเลยหรือไง?

นรมนอยากโต้แย้งคำพูดของคุณท่านตระกูลพรโสภณ แต่ แรงบีบที่มือของเขาทำให้หน้าผากของนรมนมีเหงื่อออก

คนที่ได้ชื่อว่าเป็นคุณตาลงไม้ลงมือตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน นร มนเกลียดอะไรแบบนี้มากๆ

“นอกจากรังแกเด็กกับผู้หญิง คุณยังทำอะไรได้อีกไหมคะ? ฉัน ว่าที่คุณได้เกษียณมาอยู่ที่นี่ คงจะฝืนทนพอให้ผ่านๆไปสินะ? อย่างคุณไม่น่าจะมีความสามารถจริงๆหรอก ไม่อย่างนั้นจะ ทำตัวไม่รู้จักผิดจักถูกแบบนี้ได้ยังไง?”

ถึงแม้จะถูกบีบอยู่ แต่ปากของนรมนก็ยังดีเหมือนเดิม สีหน้าของคุณท่านตระกูลพรโสภณเริ่มดูไม่ได้

“แกจะไปรู้อะไร!”

“ค่ะฉันไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่าที่คุณทำมันน่าขายหน้ายิ่งกว่าอะไรดี ขนาดคนน่ารังเกียจอย่างเรณุกาคุณก็ยังคิดจะช่วยเลย คุณไม่ เหมาะกับการอยู่ที่นี่เลยแม้แต่น้อย! ”
นโมนไม่สนว่าต่อไปต้องเจออะไร เพราะยังไงก็ไม่สามารถ ขัดขืนเจตจำนงมาประนีประนอมให้กันได้แล้ว

ยิ่งมารู้ว่าชายชราคนนี้กักขังแม่ของเธอไว้ เพลิง โกรธในใจ ของเธอก็ยิ่งลุกฮือ เธอแทบอยากจะเผาที่นี่ทิ้งให้มอดไหม้

คุณท่านตระกูลพรโสภณเพิ่มแรงบีบ จนนรมนรู้สึกราวกับ แขนของตัวเองกำลังจะขาด แต่เธอก็ยืนกัดฟันนิ่งไม่ยอมส่ง

เสียงอะไรออกไปสักแอะ

ในตอนที่คิดว่าคุณท่านตระกูลพรโสภณกำลังจะบีบแขนเธอ ให้หัก จู่ๆคุณท่านตระกูลพรโสภณก็ปล่อยแขนเธอ

นรมนเซถอยหลังในทันที รู้สึกราวกับได้เกิดใหม่ปฏิเสธไม่ได้ เลยว่า ถึงแม้คุณท่านตระกูลพรโสภณจะมีอายุมากแล้ว แต่ก็ยัง แข็งแรงมาก ประมาทไม่ได้เลย ถ้าต้องสู้กันขึ้นมาจริงๆ เธอจะ สู้คุณท่านตระกูลพรโสภณได้หรือเปล่าก็ไม่รู้

“นั่งลงซะ”

คุณท่านตระกูลพรโสภณกักเก็บความดุร้ายอย่างฉับไว หลัง จากพ่นหายใจออกมาก็กลับมานั่งที่เดิม

นรมนยืนงง

นี่มันอะไรกัน?

แต่เธอก็ไม่อยากจะยืนสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อกี้เพิ่งถูกรังแกมา อีกอย่างแบบนั้นก็คงดูเหมือนเด็กทำความผิดที่กำลังยืนรอรับ โทษ
นโมนจึงกลับมานั่งที่เดิม น้ำที่วางอยู่ข้างๆเย็นชืดหมดแล้ว

เธอกำลังจะเรียกคนมาเปลี่ยนแก้วให้ใหม่ แต่พอลองคิดดูอีก ทีก็ตัดสินใจปล่อยมันไป ไม่อย่างนั้นตาแก่คนนี้จะทำอะไรอีก

หรือเปล่าก็ไม่รู้ ทุกอย่างอยู่ในสายตาของคุณท่านตระกูลพรโสภณ เขา กระแอมไอ แล้วตะโกนเรียกคนข้างนอก “เอาน้ำอุ่นเข้ามาเสิร์ฟ

หน่อย”

“รับทราบ”

คนข้างนอกขานรับ ไม่นานหลังจากนั้นก็ยกแก้วน้ำอุ่นๆเดิน

เข้ามา นอกจากนี้ยังมีผลไม้กับของกินติดมือมาด้วย “กินเสียสิ ร่างกายของแกตอนนี้ไม่ได้แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน

ต้องเพิ่มพลังงาน ไม่อย่างนั้นถ้าเด็กเกิดมาแล้วไม่แข็งแรง

เดี๋ยวก็มานั่งทุกข์ใจอีก

คุณท่านตระกูลพรโสภณพูดจบก็โบกมือไล่ ชายคนนั้นจึงเดิน ออกไปอีกครั้ง พร้อมกับปิดประตูลงให้

นรมนรู้สึกว่าคุณท่านตระกูลพรโสภณก็คือตาเฒ่าประหลาด ดีๆนี่เอง

“ฉันไม่กิน คุณใส่อะไรลงไปข้างในหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าเกิด ฉันกินยาพิษเข้าไปจะทำยังไง?

คำพูดของนรมนทำให้อะดรีนาลีนในร่างกายของคุณท่าน ตระกูลพรโสภณพุ่งขึ้นสูงอีกครั้ง
“แกนสมกับเป็นเด็กตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจริงๆ เก่งนักล่ะ เรื่องพูดให้คนอื่นโมโห ถ้าฉันจะวางยาพิษให้แกตายจริงๆ คิด ว่าตอนนี้แกจะได้มานั่งเถียงฉันฉอดๆอยู่ตรงนี้เหรอ?”

“ก็ไม่แน่นะคะ เผื่อคุณอยากเห็นฉันทรมานก่อนตายไง? ไม่ อย่างนั้นคุณจะจับแม่ฉันไปขังทำไมล่ะ?”

นรมนกำลังทำตัวไม่มีเหตุผล

คุณท่านตระกูลพรโสภณโมโหจนหน้าอกไหวกระเพื่อม เขา จึงรีบดื่มน้ำเพื่อข่มมันเอาไว้

“ฉันว่าแล้ว ว่าไม่ควรให้แม่แกคบหากับคนของตระกูลทวี ทรัพย์ธาดา ไม่อย่างนั้นเด็กที่เกิดมาต้องเป็นเด็กเวรที่ทำให้ฉัน โมโหตายแน่”

“ตอนนี้คุณท่านก็ยังมีชีวิตอยู่ดีไม่ใช่เหรอคะ?”

“นั่นก็เพราะว่าก่อนหน้านี้แกไม่เคยเจอฉันไง! ”

หลังจากพูดออกไปคุณท่านตระกูลพรโสภณถึงได้รู้สึกว่าตัว เหมือนเด็กขี้โมโห

“จะกินไม่กินก็แล้วแต่ ยังไงเด็กในท้องของแกก็ไม่ใช่คนของ ตระกูลพรโสภณอยู่แล้ว”

จู่ๆนรมนก็รู้สึกว่าอาการแบบนี้ของคุณท่านตระกูลพรโสภณ ค่อนข้างน่ารัก

เธอปรับอารมณ์ลง แล้วพูดเสียงเบาว่า “คุณตา ปล่อยแม่เถอะนะคะ เธออายุมากขนาดนั้นแล้ว แถมที่ผ่านมายังใช้ชีวิต มาอย่างขมขื่นอีก แล้วคิดว่าจะขังเธอไปอีกกี่ปีคะ? อีกอย่างนะ ทำไมต้องขังแม่ฉันด้วย? เธอเป็นผู้ใหญ่แล้วนะคะ! แค่เพราะ เธอไม่เชื่อฟังเลยยังเธอไว้งั้นเหรอ สั่งสอนแบบนี้อำมหิตเกินไป หรือเปล่าคะ?”

“ฉันอำมหิตแล้วทำไม?”

คุณท่านตระกูลพรโสภณถามกลับราวกับเด็กที่กลัวแพ้ ซึ่งเป็นอะไรที่นรมนคิดไม่ถึงเลย

เธออยากขาออกมา แต่ก็ไม่กล้า จึงลุกขึ้นเดินมาอยู่ข้างหลัง คุณท่านตระกูลพรโสภณ แล้วใช้สองมือบีบไหล่ของเขาเอาไว้ “คุณตา ตกลงมันเพราะอะไรถึงอยากช่วยเรณุกานักล่ะ? โทษ ของเธอคืออะไรคุณตาก็น่าจะรู้นี่ คำพูดของฉันไม่กี่คำไม่ สามารถประกันตัวเธอออกมาได้หรอกนะ ขนาดคนอย่างคุณตา ยังประกันตัวเธอออกมาไม่ได้ แล้วอย่างฉันจะไปทำอะไรได้ล่ะ คะ?”

ไม่รู้ว่าเพราะการกระทำหรือคำพูดของนรมนที่ทำให้คุณท่าน ตระกูลพรโสภณ ใจอ่อนลง เขาถึงได้ถอนหายใจออกมา แล้วพูด ว่า “แกคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าเธอมีโทษติดตัวมากมาย? เพียงแต่ ว่าตอนนี้ให้เธอเข้าคุกไม่ได้จริงๆ

“ทำไมล่ะ? คุณตาก็บอกมาสักที

“แกนี่มันเหมือนแม่แกจริงๆ เอาแต่ถามอยู่ได้ว่าทำไมๆ คน แบบแก ถ้าไปอยู่ในเขตทหารคงถูกยิงตายไปแล้ว”
ถึงแม้คุณท่านตระกูลพรโสภณจะอายุปูนนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่ สามารถเปลี่ยนนิสัยลึกๆได้เหมือนเดิม

นรมนกลับรู้สึกว่าคุณท่านตระกูลพรโสภณที่เป็นแบบนี้น่ารัก

มากๆ

“ฉันไม่ใช่ทหารซะหน่อย เพราะงั้นฉันถามได้อยู่แล้ว”

“แก..……….

คุณท่านตระกูลพรโสภณกำลังจะพูดออกมา แต่ทันใดนั้นนร มันก็บีบถูกบางจุดบนไหล่ จนทำให้สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไป

“หยุดๆ ปล่อยมือออก! ”

“เป็นอะไรคะ?”

นรมนก็ว่าตัวเองไม่ได้บีบแรงเท่าไหร่ ทำไมคุณท่านตระกูล พรโสภณดูเจ็บขนาดนี้ล่ะ?

คุณท่านตระกูลพรโสภณกั้นเจ็บแล้วพูดว่า “ตรงนั้นมีกระสุน ตั้งอยู่บนเส้นประสาทไม่สามารถผ่าเอาออกมาได้ วันดีคืนดี ก็ เจ็บจนใจแทบขาด ขนาดมือเล็กๆอย่างแก ยังทำเอาฉันแทบ กระโดดเหยง แกไปนั่งเถอะ อย่าเหนื่อยเลย

นรมนชะงักเล็กน้อย

กระสุนฝังอยู่ในบ่า?

ถ้านับตามอายุของคุณท่านตระกูลพรโสภณแล้ว เขาเคยเข้า ร่วมสงคราม อาจจะทุ่มเทเพื่อประเทศมากกว่าที่เห็นด้วยซ้ำ ถ้าพูดกันตามเหตุผล คนประเภทนี้ไม่มีทางไม่รู้จักถูกผิด แต่ทำไม เขาถึงทำอย่างนี้ล่ะ?

นรมนยังคงคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จากนั้นก็ถูกคุณท่านตระกูล พรโสภณจับมือเอาไว้ แล้วลากเธอไปนั่งลงบนเก้าอี้

“เฮ้อ! ”

คุณท่านตระกูลพรโสภณถอนหายใจออกมา

เขามองนรมน แล้วพูดเสียงเบา “บางเรื่องฉันก็บอกแกไม่ได้ จริงๆ มันเป็นความลับของประเทศ ฉันบอกได้แค่ว่า ยังเรณุกา เอาไว้ในนั้นก็ไม่ได้อะไรหรอก ได้แค่จับกุมเธอเท่านั้นแหละ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย สิ่งที่พวกเราต้องการก็คือถอนรากถอน โคนผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลังของเธอให้หมด เข้าใจหรือยัง?”

“พวกเรา? ความหมายของคุณตาคือไม่ได้แค่คุณตาคนเดียว แต่ยังมีคนที่อยู่เบื้องหลังคุณตา…….

“เงียบปาก รู้แค่นี้ก็พอแล้ว อย่าพูดมันออก แล้วก็ห้ามถาม อะไรมั่วซั่วด้วย”

แม้ว่าคุณท่านตระกูลพรโสภณจะพูดออกมาแบบนี้ แต่ก็ยอม ตอบคําถามของนรมนอย่างเลี่ยงๆ

ฉับพลันนรมนก็เข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง

“แต่ถึงจะอย่างนั้น ทำไมคุณตาต้องทำให้พฤกษ์เกิดอุบัติเหตุ ด้วยล่ะคะ?”
“เพื่อความสมจริง และเพื่อตบตาอีกฝ่าย เรื่องนี้ฉันไม่ สามารถออกหน้าไปหาบุริศร์ได้โดยตรง เพราะถ้าหากพวกฉัน ติดต่อกันเมื่อไหร่ ก็จะมีคนจับสังเกตได้ ฉันจึงต้องพาแกมา เพื่อบีบให้บริศมาหาฉันและตอบตกลงเรื่องเรณุกา เรื่องนี้ยัง ต้องการความร่วมมือจากแก ถึงแม้แกจะไม่ใช่ทหาร แต่สามีแก ตาของแก แม่ของแก ล้วนแล้วแต่เคยเป็นทหาร ยิ่งพ่อของแกยิ่ง ถึงขั้นอุทิศชีวิตเพื่อประเทศชาติ ดังนั้นแกต้องร่วมมือกับฉัน

คุณท่านตระกูลพรโสภณตบหลังมือของนรมนอย่างสื่อความ หมาย

นรมนเข้าใจในทันที

เธอมองคนชราตรงหน้า จากนั้นก็ยื่นแขนออกไปกอดคอของ เขาเอาไว้อย่างตื้นตันใจ

“คุณตา! ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ล่ะคะ?”

เมื่อถูกนรมนกอดคุณท่านตระกูลพรโสภณก็อึ้งไปเล็กน้อย ทว่าสุดท้ายก็ยิ้มออกมา

“ถ้าฉันบอกแกตั้งแต่แรก ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าแกเป็นคนแบบ ไหน? ที่เล่ากันมาก็ใช่จะจริงทั้งหมด ฉันไม่รู้ด้วยว่าแกกับแม่ ของแกนิสัยเหมือนกันไหม ยังดี ที่แกไม่ทำให้ฉันผิดหวัง แก สบายใจได้เลย ที่ฉันยังแม่แกไว้ ด้านหนึ่งเพื่อตบตาคนอื่น อีก ด้านก็เพื่อความปลอดภัยของเธอ เรื่องพวกนี้มันเกินขอบเขต ในการใช้ชีวิตของแกแล้ว ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็ไม่อยากให้แกเข้า มายุ่งด้วยหรอก แต่ว่านะ ฉันเองก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ แกรู้ไหม? ว่าตาเองก็กลัวว่าแกจะเป็นอะไรไปเหมือนกันนั่นแหละ แต่ว่ามันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ แกเข้าใจตาได้ไหม?

จู่ๆขอบตาของนรมนก็เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา

“ค่ะ คุณตา อยากให้ฉันทำอะไร ฉันก็จะร่วมมือทุกอย่าง

“เด็กดี! แกอยู่ที่นี่กับตาก่อนไหม อีกสักพัก บริศ เจ้าหมอ นั่นต้องมาที่นี่แน่ๆ พอถึงตอนนั้นจะเอายังไง เราสองคนค่อยมา ปรึกษากันอีกที

“ค่ะ”

นรมนรู้สึกว่าตอนนี้คุณท่านตระกูลพรโสภณน่ารักมากๆ

คุณท่านตระกูลพรโสภณดึงนรมนเข้ามา แล้วพูดอย่างเสียใจ ว่า “เมื่อก่อนแม่ของแกก็เคยอยู่กับฉันแบบนี้แหละ แต่ว่าต่อมา เธอก็ไม่ค่อยมีเวลาให้ฉัน พอเธอมาหา ฉันก็เอาแต่ทำตัวให้ เธอรำคาญ ไม่รู้ว่าครั้งนี้แม่แกจะโกรธฉันไหม”

“ไม่หรอก คุณตาคะ ถ้าแม่รู้ว่าคุณตาทำเพื่อชาติ แม่ไม่มี ทางโกรธคุณตาแน่นอน”

“หวังว่าอย่างนั้นนะ ไป ฉันจะพาแกไปดูห้องแม่แก ไหนๆ เธอก็ไม่ได้มาอยู่บ้านหลายปีแล้ว และฉันเองก็ไม่ได้เตรียมห้อง ไว้ให้แกด้วย แกก็พักในห้องแม่แกซะนะ”

สายตาของคุณท่านตระกูลพรโสภณทอแววอบอุ่นใจดี มัน ทำให้นรมนรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก
สายเลือดเดียวกันกับเธอเริ่มมีเยอะขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกแบบ นี้มันดีมากจริงๆ

ในตอนที่นรมนเปิดประตูออกมาพร้อมกันกับคุณท่านตระกูล พรโสภณ ปาณีก็รีบพุ่งเข้ามาทันที

“คุณนาย ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ? ตอนนี้เรากลับได้หรือยัง

คะ?”

“ยัง เราจะอยู่ที่นี่ต่อ”

คำพูดของนรมนทำให้ปาณีนิ่งอึ้งไปทันที

“หมายความว่าไงคะ?”

“อย่าเพิ่งถามอะไรเลย ตามฉันมาก็พอแล้ว

นรมนพูดจบ คุณท่านตระกูลพรโสภณก็พูดกับผู้ชายข้างๆว่า “ออกไปหาคนขับรถคนนั้น แล้วบอกให้เขากลับไปบอกบุริศร์ ว่าถ้าต้องการภรรยาคืน ก็ให้ทำตามที่ฉันบอก ไม่อย่างนั้น ฉัน จะไม่ให้เขาเจอเมียอีกตลอดชีวิต! ”

เมื่อปาณีได้ยินที่คุณท่านตระกูลพรโสภณพูด ใบหน้าของเธอ ก็ซีดขาวทันที

“คุณจะทําอะไรคุณนาย? ฉันจะบอกอะไรให้นะ คุณนายกำลัง ท้องอยู่ ถ้าคุณทำอะไรไม่ดีกับเธอ ระวังบาปหนานะ”

คุณท่านตระกูลพรโสภณเหลือบมองปาณีที่กำลังกลัวแท้ๆแต่ กลับเอาตัวมาบังนรมนไว้อย่างช้าๆ “ยัยเด็กตลกดีเหมือนกันนะ ฉันชอบ เอาอย่างนี้ดีไหม มาอยู่กับฉันเป็นไง?

” ตาเฒ่าหัวงู! ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองบ้างนะ แก่ปูนนี้แล้ว ยังคิดจะกินหญ้าอ่อนอีก ไม่กลัวติดฟันหรือไง!

คําพูดของปาณีทําให้คุณท่านตระกูลพรโสภณโมโหจนแทบ บ้า แต่นรมนกลับกลั้นขำเอาไว้ไม่ไหวจนต้องหัวเราะพรืดออกมา

ที่คุณท่านตระกูลพรโสภณพูดเหมือนจะไม่ได้หมายความ อย่างนั้นนะ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ