แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่830 ไม่ต้องอาลัยอาวรณ์



บทที่830 ไม่ต้องอาลัยอาวรณ์

เดิมทีนรมนไม่ได้ใส่ใจเสียงเอะอะข้างนอก ตั้งใจจะนอนลงจีบ แต่เสียงคุณนายใหญ่วัชโรทัยดังออกขนาดนั้น ถึงไม่อยากได้ยิน ก็ได้ยินอยู่ดี

“นรมร นรมนออกมานะ! ผู้หญิงลืมบุญคุณ! ถ้าไม่ใช่เพราะ บ้านวัชโรทัย ห้าปีก่อนแกตายไปแล้ว ตอนนี้ทำกับพวกเราแบบ นี้ ไม่ละอายหรือไง”

คุณนายใหญ่วัชโรทัยแหกปากตะโกน

ปาณีฟังออกเรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างนรมนกับคุณนาย ใหญ่วัชโรทัย จึงขมุ่นคิ้ว บอกบอดี้การ์ดว่า “รออะไรอีกล่ะ รอ คุณบุริศร์กลับมาจัดการพวกนายหรือไง หรือรอให้คุณนายโมโห จนล้ม รีบเอาออกไปสิ! ”

เพราะคำพูดของปาณี บอดี้การ์ดสองสามคนจึงเดินขึ้นหน้า คนหนึ่งหนึ่งอุดปากคุณนายใหญ่วัชโรทัยไว้ อีกคนยกขาแบก ออกไป

นรมนคิดออกไปดู แต่ไม่ได้ยินเสียงข้างนอกแล้ว เธอชะงัก ปาณีผลักประตูเข้ามา

“คุณนายคะ จะทำอะไรน่ะ ไปห้องน้ำหรือคะ ฉันประคอง พูดพลาง รีบถลาเข้าไปใกล้นรมน
นรมนายหน้า ถามเสียงค่อยข้างนอกเกิดอะไรขึ้น”

“ไม่มีอะไรค่ะ แค่หญิงชราเอะอะโวยวาย อย่าใส่ใจเลย รีบพัก ผ่อนเถอะค่ะ”

ปาณีประคองนรมน ให้นอนลง

นรมนมองเธอ ถาม”เธอรู้เรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างฉัน กับเขาหรือเปล่า”

“ไม่ทราบค่ะ แต่คุณเป็นนายหญิงของฉัน ฉันต้องคิดถึง สุขภาพคุณเป็นหลัก สภาพร่างกายคุณไม่เหมาะรับแขก โดย เฉพาะแขกที่เอะอะโวยวาย คุณต้องการการพักผ่อนค่ะ”

นรมนได้ยินดังนั้น ยิ้มแล้วพูดต่อไปคนที่ไม่ได้เรื่องก็กันให้ ฉันหน่อยแล้วกันนะ”

“ได้ค่ะ คุณนาย จะพักหรือยังคะ

“ตกลง”

นรมนพูดจบจึงเอนกายหลับตา

ปาณิสาละวนอย่างเบาไม้เบามือ ทำความสะอาดห้องน้ำ ตอน ที่จะออกไป เปิดประตูไปเจอนภดลเข้า “คุณมามีอะไรคะ” ตอนที่ปาณีมองนภดล แววตาเป็นประกาย

นภดลรู้สึกตัวเองเหมือนเนื้อก้อนโต ที่โดนหมาป่าจ้องอยู่ ความรู้สึกนั้นชวนขนลุกโดยแท้ เขาถึงขนาดรู้สึกเสียใจ

“คุณนายนอนหรือยัง”
“นอนแล้ว เพิ่งนอน มีธุระกับคุณนายหรือคะ”

ต่าพูดปาณีทำให้นภดลเซ็ง

ทำไมเวลามาหานามนต้องเจอยัยนี่ทุกที

“ไม่มีไร เมื่อกี้เธอจัดการดีมาก ขอบใจ”

นภดลเตรียมหันหลังกลับ

ปาณิชะงัก

“เดี่ยว หมายความว่าไง คุณดูแลความปลอดภัยคุณนายเหรอ

คะ”

มือของปาณีกามือนภดลแน่น

นภดลขมุ่นคิ้ว พูดเสียงเย็น”ปล่อยมือ

“ไม่ปล่อย นอกจากคุณจะบอกฉัน คุณดูแลเรื่องอะไร ตอนนี้ยัง ไงฉันก็เป็นคนสนิทของคุณนาย ไม่รู้ว่าคุณทำอะไรต่อไปฉันจะ จัดการยังไง”

“เธอจะจัดการยังไงก็เรื่องของเธอ ถ้ายังไม่ปล่อยมือ ฉันจะหัก มือเธอ เชื่อมั้ย”

นภดลมีแต่รังสีสังหาร

ปาณีตกใจ ตะลึง และถือโอกาสนี้ชักมือกลับไป

“นี่ คุณหน้าตาก็ดี ทำไมไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย ฉันเป็นแค่เด็ก สาวนะ! คุณจะมีฉันเหรอ”
“อย่ายั่วโมโหฉัน ไม่งั้นฉันไม่สนว่าเธอจะเป็นเด็กสาวหรือไม่ ในสายตาฉันมีแต่คนเป็นกับคนตาย

นภดลพูดจบจีงเดินจากไป

ปาณีเซ็งมาก

คนอะไรเนี่ย!

ทั้งๆที่เขามายั่วโมโหตัวเองก่อน

ปาณีมองขยะเป็นนภดลแล้วโยนลงถัง และก็ไม่อยู่ข้างนอก นาน รีบกลับเข้าห้องผู้ป่วย

เธอเห็นนรมนหลับอยู่ จึงระมัดระวังให้เสียงเบาที่สุด แล้วนวด

ขาให้นรมนเบาๆ

ตอนที่บุริศร์กลับมา ปาณีรีบลุกขึ้นยืนรายงานเสียงเบา จาก

นั้นจึงออกไป

ได้ยินว่าคุณนายใหญ่วัชโรทัยมารบกวนการพักผ่อนนรมน แววตาบุริศร์จึงเย็นเฉียบ

เขาเห็นนรมนนอนอยู่ ตัวเองจึงออกจากห้องไป เห็นปาณีนั่ง เล่นนิ่มมืออย่างเบื่อหน่ายอยู่บนเก้าอี้

“ปาณี ไปเรียกนภดลมา”

นภดล? ใครกันคะ? ”

ปา งงเล็กน้อย
บริศ หยิบรูปนภดลให้ปาณี

ปาณีมองดู ยิ้มขึ้นมา

“ที่แท้เขาชื่อนภดลเหรอเนี่ย! แหม ทำที่ไม่บอกเรา แต่ฉันก็รู้ ชื่อคุณจนได้”

ปาณีหัวเราะคิกคักเดินออกไป

บุริศร์หันกลับเข้าห้องผู้ป่วย

เขาเห็นว่านรมนตื่นแล้ว

“ตื่นเมื่อไหร่กัน”

“เมื่อกี้เอง ทำไมเพิ่งมาคะ”

นรมนอ่อนเพลียเล็กน้อย บุริศร์รีบพยุงเธอขึ้น

“ซื้ออะไรมากินคะ”

“ตอนนี้คุณยังกินอะไรไม่ได้ ผมเลยซื้อโจ๊ก คุณกินหน่อยเถอะ รอสองวันค่อยกินของอร่อย”

“แต่ฉันอยากกินเนื้อนา

นรมนออดอ้อนน่าสงสาร บุริศรอดยิ้มไม่ได้

“คุณกินไม่ได้”

“ลูกอยากกิน”

ได้ยินนรมนเอาลูกเป็นข้ออ้าง บุริศร์จึงยิ้ม
“โตขนาดนี้แล้ว อายมั้ยเนี่ย”

“อยากกินทําไงได้

“อย่างมากให้กินโจ๊กไข่เยี่ยวม้า อย่างอื่นกินไม่ได้

เห็นบริศ พูดแบบนี้ นรมนถอนหายใจ

“ก็ได้ งั้นรอสองวัน”

“เชื่อฟัง! ”

บุริศร์ลูบหัวนรมน รู้สึกอบอุ่นและมีความสุข

นรมนูพิงหัวเตียง ยิ้มแล้วถามคุณออกไปนานขนาดนี้ คง ไม่ใช่แค่ซื้อโจ๊กมั้ง”

“อืม ทําธุระ”

“เรื่องบ้านวัชโรทัยเหรอคะ”

นรมนมองบุริศร์

บุริศร์ชะงัก มองนรมนแล้วถามจะขอร้องแทนพวกเขาเหรอ ได้ยินว่าคุณนายใหญ่มา หล่อนพูดอะไรกับคุณ

“เปล่าค่ะ ปาณีขวางไว้ แล้วให้คนลากออกไป ฉันไม่ได้เจอ และไม่ได้คิดจะขอร้องแทน”

นรมนชี้ไปที่แอปเปิล

บุริศร์หยิบมา นั่งลงปอกแอปเปิลข้างนรมน
นรมนยิ้มแล้วพูด “คุณคิดว่าฉันจะขอร้องแทนเขาเหรอ”

“อืม”

บริศ เสียงค่อย เห็นได้ว่าเซ็ง

นรมนรู้ว่าเขาคิดอะไร แต่ก็แค่อยากแหย่เล่น

“ถ้าฉันจะขอร้องแทนล่ะ คุณจะปล่อยบริษัทวัชโรทัยมั้ย

บุริศร์มือค้าง

“ถ้าหากเหรอ หมายความว่าไง คุณจะขอร้องแทนเธอเหรอ”

“ไม่ใช่ไม่ได้ คุณคิดดู ห้าปีก่อนถ้าไม่ใช่เพราะคุณนายใหญ่ ฉันกับลูกคงตายแล้ว ดังนั้นบุญคุณใหญ่เท่าฟ้า ตอนนี้คุณจะ ฆ่าหมดบ้าน ข่าวลือออกไปคงไม่ดี”

นรมนยิ้มซุกซน เสียดายบุริศร์ไม่เห็น

“ไม่ดีก็ไม่ดีสิ ผมบุรีศร์ไม่ได้ต้องการชื่อเสียง อีกอย่าง เรื่องนี้

ผมทำ ไม่เกี่ยวกับคุณ คนอื่นไม่ว่าคุณหรอก”

“ว่าคุณฉันก็ไม่แฮปปี้นี่นา ฉันถามคุณ ถ้าฉันเอ่ยปากขอร้อง คุณจะปล่อยไหม”

คำถามนรมนทำให้บริศสับสนอยู่นาน

เธอเองก็ไม่ได้เร่งรัดคำตอบจากบุริศร์ แต่หยิบแอปเปิลมา จากมือ แล้วปอกเอง จากนั้นกินเอง

เสียงกรอบของแอปเปิ้ลดังกังวานในหูบุริศร์ เขามองดูท่าทางนรมน ถอนหายใจ พูดอ่อนใจ ถ้าคุณจะขอร้องแทนพวกเขาให้ ได้ ผมจะทำอะไรได้อีก คุณไม่ถือสา แล้วผมจะกัดไม่ปล่อยได้ไง

พูดพลางหยิบมือถือ โทรหาพฤกษ์ ให้เขาหยุดทุกอย่าง แต่คิด

ไม่ถึงว่านรมน มือถือเขาไว้

นรมนสีหน้าตึงเครียด เธอมองบุริศร์แล้วถามทำไม ต่อให้ คุณโกรธแค่ไหน เพียงแค่คำขอร้องของฉัน คุณก็จะหยุดทุก อย่างที่วางแผนไว้เหรอ”

บุริศร์ยิ้มอ่อน สีหน้าอ่อนโยน

“คุณคือทุกอย่างของผม ขอแค่คุณอยู่ดี คุณอยากให้เป็นยังไง ต่อให้เอาโลกทั้งโลก ผมก็จะหามาประเคน แต่ถ้าอารมณ์ส่วนตัว ผมทำให้คุณไม่สบายใจ หรือรู้สึกแย่ ผมก็ยอมทน

ได้ยินบริศ พูด นรมนน้ำตารื้น

“ตาบ้าเอ๊ย! ดูสิคนแบบคุณเนี่ยจะเป็นเจ้าพ่อเมืองชลธีได้ไง คนพวกนั้นมีสมองมั้ยนะ ขนาดตาที่มแบบคุณยังเอาชนะไม่ได้”

“ตาทึ่มก็ตาทีมสิ มีคุณ ทุกวันเป็นวันฟ้าใส”

บุริศร์ยิ้มพร้อมขยี้หัวนรมน

นรมนกัดแอปเปิลคำสุดท้าย พอโยนลงถังขยะ ครุ่นคิดแล้ว พูด“บ้านวัชโรทัย ไม่ต้องอาลัยอาวรณ์หรอก”

“อะไรนะ”

บริศร์ประหลาดใจ
ในใจเขา นรมนเป็นคนใจดี ถึงขนาดชื่อบื่อก็ว่าได้ ไม่ต้องพูด อย่างอื่นหรอก พูดแค่เรื่องบุญคุณบ้านวัชโรทัยที่ช่วยเธอเมื่อห้า ปีก่อน เขาก็รู้สึกว่านรมนจะต้องร้องขอให้คุณนายใหญ่วัชโรทัย แน่นอน และนี่ก็เป็นสามารถที่เขาไม่ฟังบ้านวัชโรทัย ให้ราบเป็น หน้ากลอง เพราะเขากลัวว่าตอนที่นรมนขอร้อง เขาจะทำทุก อย่างกลับคืนไม่ได้ ก็เลยทำให้แค่ตระกูลวัชโรทัยล้มละลาย แล้ว เขากว้านซื้อแค่นั้น

ตอนนี้ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ บุริศร์จะไม่แปลกใจได้อย่างไร

“ได้ยินไม่ชัดเหรอคะ”

นรมนยังคงยิ้ม แต่บุริศร์เห็นความอบอุ่นในรอยยิ้มนั้น “รเมศยั่วโมโหคุณถึงขีดสุดแล้วเหรอ”

บริศ ถามเสียงแผ่ว

นโมนพยักหน้า

“บ้านวัชโรทัยมีบุญคุณกับฉัน แต่สิ่งที่รเมศทำกับฉัน ก็มาก พอที่จะลบบุญคุณห้าปีนั้นแล้วล่ะ คราวที่แล้วรเมศทำอะไร คุณ ฉัน รเมศรู้ดีแก่ใจ คุณให้โอกาสเขาครั้งหนึ่งแล้ว ถือว่าตอบแทน ไปแล้ว ถ้าพวกเขาเดินถูกทาง ไม่เกินห้าปี ตระกูลวัชโรทัยจะ กลับมารุ่งเรืองดังเดิม เสียดาย ทำชั่วไม่ควรมีชีวิตอยู่ ฉันใจดีได้ ตอบแทนได้ แต่ฉันให้คนอื่นใช้บุญคุณมาล้างแค้นไม่ได้ ใช้บุญ คุณทําร้ายฉันตลอดเวลา ทำร้ายครอบครัวฉัน ในเมื่อพวกเขาไม่ สนใจความเป็นตายของฉัน ฉันจะต้องสนใจความเป็นตายพวก เขาทำไม คุณจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ วางใจได้ ฉันจะไม่ขอร้องเพื่อใครทั้งนั้น เพื่อฉันยังมีคนที่ต้องปกป้อง ฉันจะใช้ความใจดี และใจอ่อนมาทําให้พวกเขาโดนทำร้ายไม่ได้

คําพูดนรมนทําให้บริศ ประหลาดใจ

จู่ๆเขาค้นพบว่า หลังจากผ่านความยากลำบาก บรมนเติบโต ขึ้น หลักแหลมขึ้น สวยขึ้น น่าหลงใหล

ขึ้น

“คุณอยากปกป้องใครเหรอ”

บริศ พูดออกมาคำหนึ่ง แววตานรมนมองกลับมา แววตาที่ อ่อนโยนดุจสายน้ำนั้นแทบจะทำให้คนละลายตรงหน้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ