แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1150 ลูกอย่าคิดมากเกินไป



บทที่ 1150 ลูกอย่าคิดมากเกินไป

“ไม่ได้นะ ไม่ว่าแกจะกลายเป็นแบบไหน แกคือแก้วตาดวงใจ ของฉันกับหม่ามีของแก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันกับหม่ามีของแก จะไม่ทอดทิ้งแกไป

บริศ กอดกานต์ไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง รู้สึกว่าลูกชายช่าง บอบบาง ทำไมถึงเคยคิดว่าลูกชายสามารถกลายเป็นอัจฉริยะ อยู่ในเขตทหารที่มีสภาพแวดล้อมโหดร้ายเช่นนั้นได้

เขาเสียใจ โทษตัวเอง และยิ่งอยากช่วยให้กานต์ผ่านช่วง เวลายากลำบากนี้ไปให้ได้

กานต์ยังคงคิดจะพูดอะไร ก็ได้ยินบุริศร์พูดเสียงเบาว่า “หม่า

มีของแกอยากให้แกพักสักช่วงหนึ่ง ถ้าแกชอบเป็นทหารจริง ๆ

รออายุครบสิบแปดปี พวกเราจะส่งแกไปฝึกที่เขตทหารสองปี

กานต์ ตระกูลของพวกเรามีธุรกิจมากมาย ไม่สามารถไร้คน

สืบทอดได้ กิจจาเลือกเรียนหมอ แกคือคนดูแลครอบครัวรุ่นต่อ

ไป”

บุรีศร์รู้ว่าพูดแบบนี้กับกานต์โหดร้ายไปหน่อย แต่เขาไม่ อยากเสี่ยงสูญเสียลูกชายไปอีกแล้ว

ตอนแรกเขาก็เข้าร่วมกองทัพอย่างเลือดร้อน ไม่ใช่การเสีย สละ แต่หลังจากมีลูกเขาถึงรู้ว่า เขาทนเห็นลูกบาดเจ็บไม่ได้ ทน เห็นภรรยาเสียใจไม่ได้
ถึงแม้การจะอยากเข้าร่วมกองทัพ รอให้อายุถึงค่อยส่งไป

ลูกชายของเขาไม่สามารถทนต่อความสะเทือนใจขนาดนั้นได้

ส่วนกานต์ก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้พูดว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สองคนไม่ได้สนิทกันกลับกอดกันกลมอยู่นานสองนาน นรมน ทำโจ๊กไข่เยี่ยวม้า ใส่เนื้อไม่ติดมันเสร็จ กลับไม่เห็นกานต์ รีบวิ่ง มาหาบุริศร์อย่างกังวลจึงเห็นภาพสองพ่อลูกกอดกันอยู่ อด นํ้าตาคลอไม่ได้

“เอาล่ะ ในเมื่อตื่นแล้ว ลุกขึ้นไปกินโจ๊กเถอะ ฉันทำเอาไว้เยอะ เลย

นรมนตั้งใจทําเสียงผ่อนคลาย

กานต์ออกมาจากอ้อมแขนของบุริศร์ เมื่อเห็นนรมน แววตาม ความละอายใจมาก

นรมนหัวใจแหลกละเอียด

“มา ลูก หม่ามี้จะอุ้มลงไป

“ผมเดินเองได้ครับ”

กานต์หลบแขนของนรมน จนแม้แต่หลีกเลี่ยงขอบเขตที่ ปลอดภัยของเธอ

เขากลัว

กลัวเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ตนเองจะกลายเป็นอีกคนหนึ่ง กลัว ตนเองทำร้ายหม่า อย่างไม่รู้ตัวมองเห็นกานต์เป็นแบบนี้ นรมนน้ำตาไหลออกมาทันที “หม่า อย่าร้องไห้นะครับ ไม่ใช่แบบนั้น ผม…….

กานต์เห็นนรมนร้องไห้ ลุกลี้ลุกลนทันที

เขาตื่นตระหนกขอความช่วยเหลือจากบริศร์

บุริศร์ก้าวขึ้นมา อุ้มกานต์เอาไว้ในอ้อมแขน จากนั้นลุกขึ้น พูด กับนรมนด้านข้าง “เอาล่ะ ลูกหิวแล้ว พวกเราลงไปกินโจ๊กกัน เถอะ”

“ค่ะ”

นรมนเช็ดน้ำตา ลงไปข้างล่างกับบริศร์

กิจจาตื่นแล้ว และไม่กล้าหลับ ตอนนี้ทั้งบ้านมีแค่กมลที่นอน เธอบิดขี้เกียจ ได้กลิ่นหอม ๆ รีบพูดทันที “เอ๋? หม่ามทำอะไร

หลับฝันหวาน

กินนะ? หอมจังเลย

นรมนยิ้ม แต่กลับฝืนใจเล็กน้อย

พวกเขานั่งลงที่โต๊ะ

นรมนยังทำเครื่องเคียงเล็กน้อย ต่างเป็นสิ่งที่ลูก ๆ ชอบกิน

นัยน์ตาของกมลเป็นประกายทันที

“ว้าว วันนี้หม่ามน่ารักที่สุด”

กมลชมเชยอย่างเต็มที่กานต์กลับเลือกนั่งห่างออกไป

นรมนเห็นลูกชายเป็นแบบนี้ อดรู้สึกเป็นห่วงอีกครั้งไม่ได้ เธอยังไม่ทันพูดอะไร กมลก็เดินเข้าไปทันที จับแขนของกานต์ เอาไว้ “พี่ ทำไมนั่งไกลจังเลย? พี่มาช่วยฉันแกะเปลือกไข่หน่อย

กานต์คิดจะสะบัดกมลออกทันที แต่ไม่รู้ว่าตนเองเข้าใจผิด หรือเปล่า กมลหลบเทคนิคแยบยลของเขาอย่างเจ้าเล่ห์มาก ใบหน้าเล็ก ๆ ขาวกระจ่างใสยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “พี่อย่าขี้เกียจ ฉัน รู้นะ พี่หยุดแล้ว แต่ก่อนพี่ก็ช่วยฉันแกะเปลือกไข่กิน ตอนนี้หยุด แล้วอย่าคิดหนี เร็วเข้า! ”

กมลพูดแล้วก็ดึงมือของกานต์ ลากบังคับเขามานั่งลงไปข้าง ตนเอง

“นี่ โจ๊กไข่เยี่ยวม้า ใส่เนื้อไม่ติดมันของพี่ ฉันไม่แย่ง ฉันอยาก กินไข่ไก่ ช่วยฉันแกะเปลือกหน่อย ยังมีกุ้งนั่นอีก ยุ่งยากไป หน่อย พี่ช่วยฉันแกะด้วยนะ”

กมลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ กลับทำให้กานต์ไม่อาจปฏิเสธได้

นึกถึงว่าตนเองไม่ได้กินข้าวกับน้องสาวนานมากแล้ว จึงหยิบ ไข่ไก่มาแกะเปลือกให้เธออย่างเชื่อฟัง

นรมนกับบุริศร์เห็นฉากนี้ อดโล่งใจไม่ได้ กิจจาก็โล่งอกเล็กน้อย
กลัวกานต์ไม่ไว้หน้ากมลจริง ๆ

กมลแกว่งขาสองข้าง มองนรมนกับบุรีศร์ “แด๊ดดี้หม่า วันนี้ ต้องไปบ้านคุณตาทวดใช่ไหมคะ?

“อืม”

นโมนพยักหน้า

กมลถามอีก “งั้นหนูกับพี่ไปช้าหน่อยได้ไหม? ”

“ลูกจะทำอะไร? ”

บุริศร์แปลกใจเล็กน้อย

ตอนนี้กานต์เหมือนระเบิดเวลา เขากลัวเหลือเกินว่าจะเกิด อะไรขึ้นกับลูกสาวคนนี้อีก จึงอดถามออกไปไม่ได้

กมลยิ้ม “ไม่ได้ทำอะไร แค่อยากออกไปเดินเล่น ไม่ได้อยู่กับ

พี่ชายนานแล้ว วันนี้พวกเราทุกคนออกไปเดินเล่นกันนะคะ

น้อยครั้งมากที่นอกจากกินกมลยังมีอารมณ์สุนทรีย์อยากเดิน เล่น แต่ไม่มีใครพูดอะไร

บุริศร์ก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ขณะนั้นกานต์ก็เอ่ยขึ้น

“ผมเหนื่อยนิดหน่อย ไม่อยากไป ทุกคนไปเถอะ ผมอยากพัก ผ่อน”

ไม่เอา พี่ไม่ได้อยู่กับคนในบ้านมานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างตอนสิ้นแล้ว ข้างนอกคนไม่เหรอ”

คำพูดของกมลทำให้กานต์อดคิ้ว

โธ่เอ๊ย เลิกฉันของคุณตาทวดเป็นเพื่อนฉัน คุณตาทวดไม่พวก

กมลด่าจนกานต์ปฏิเสธ

ครอบครัวรับประทานเช้ามื้ออย่างอบอุ่นภายใต้ ความกระตือรือร้นของกมล

ถึงแม้ทุกคนจะค่อนข้างเหนื่อย แต่ไม่ใจแข็งพอความสนใจของกมล

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ กมลตามบุริศร์ไปที่ห้อง นอน ขอเงินค่าขนม

กานต์ยังคงลังเลจะ

เกิดคลุ้มคลั่งในบ้านแล้วนั้นชื่อเสียงของตระกูล

เหมือนว่ากานต์คิดอะไร กิจจากล่าวเสียงเบา ฉันอยู่ นายสบายใจแบกกลับมา”
“เอาตามที่นายพูด ถ้าเกิดฉันคนนั้นออกมา นายอย่าเกรงใจ ทำให้ฉันสลบแบกกลับมามัดเอาไว้”

กานต์พูดอย่างไร้เยื่อใยมาก นรมนปวดใจไม่ไหว

“ลูก อย่าคิดมากเกินไป แค่ออกไปข้างนอกไม่นาน ไม่มีอะไร หรอก”

กานต์ไม่อาจเผชิญหน้ากับนรมนที่มีท่าทางเสียใจได้จริง ๆ รู้ ว่าตนเองไม่ออกไปคือสิ่งที่ดีที่สุด กลับยังคงพยักหน้า

ในไม่ช้ากมลกับบริศร์ก็ออกมา

มองเห็นกมลสวมชุดเจ้าหญิงสีขาว กานต์อดตาเป็นประกาย

ไม่ได้

“กมลเธอสวยจริง ๆ

“ขอบคุณค่ะพี่”

กมลยิ้มสวยสดงดงาม เข้าไปควงแขนกานต์ กานต์ตัวแข็ง คิดจะดิ้นออก กลับทำไม่ได้

เขายิ้มเจื่อน ๆ

กมลก็เรียนเทคนิคการป้องกันตัวมาสองสามวัน แต่ยังไม่อาจ ทำให้เขาขยับตัวไม่ได้ เพียงแต่ยังใจไม่แข็งพอ ดังนั้นจึงพอ อดทนต่อกมลได้

เนื่องจากคนในบ้านต่างหยุดหมด บุริศร์จึงทำหน้าที่เป็นคนขับรถ
ครอบครัวห้าคนออกไปข้างนอก

เดิม กมลอยากไปเดินเล่น แต่บังเอิญเห็นโฆษณาแสดงโคม น้ำแข็งที่ชานเมืองก่อน จึงอยากไปดูมาก

ไม่มีทางเลือก นี่คือเจ้าหญิงตัวน้อยของครอบครัว แน่นอนจึง เปลี่ยนเส้นทางทันที

เพียงแต่ตอนนี้ใกล้สิ้นปีแล้ว คนส่วนมากไปซื้อของปีใหม่ใน เมือง ตรงกันข้ามงานแสดงโคมน้ำแข็งที่ชานเมืองจึงคนน้อย อย่างเห็นได้ชัด

กมลกลับตื่นเต้นมาก

เธอไม่กลัวหนาว หลังจากลงรถ กระโดดโลดเต้นไปที่แสดง

โคมนาแข็ง

“กมล อย่าวิ่งเร็ว”

กานต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เพื่อนออกไปอย่างไม่รู้ตัว แต่กมลไม่ ฟัง แถมยังวิ่งเร็วขึ้น

ทันใดนั้นเธอสะดุดอะไรเข้าสักอย่าง

กานต์เครียดทันที

เขาวิ่งไปหากมล แต่ยังไม่ทันจะวิ่งไปถึงตัวเธอ กมลถูกคน สวมหน้ากากอุ้มขึ้น จากนั้นรีบวิ่งไปที่รถด้านข้าง

เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้ทำให้บริศร์กับนรมนต่างตกใจ

“หยุดนะ! แกเป็นใคร ?

ปล่อยลูกสาวของฉัน!
เพราะกมลอยู่ในมือของอีกฝ่าย บุริศร์จึงไม่กล้าทำอะไร

บุ่มบ่าม

นรมนหน้ายิ่งชัด

กมลตกใจร้องไห้ออกมา

“พี่ชาย! แอ๊ด หม่ามี ช่วยด้วย!

กมลพยายามดิ้น คนสวมหน้ากากกลับควักปืนออกมา จ่อไปที่

ขมับของกมล

“พวกแกอย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามาฉันยิงนั่งเด็กนี่แน่! ”

เหตุการณ์ที่คล้ายกันทำให้สมองของกานต์เกิดเสียงนิ่ง ๆ มี

อะไรแตก

ราวกับเขามองเห็นคนลอบยิงแด๊ดดี้กับหม่ามีที่แอฟริกาใต้

ไม่ได้!

แววตาของกานต์บ้าคลั่งขึ้นมาทันที

“ปล่อยเธอนะ! ถ้าแกกล้าทำอะไรเธอ รับรองว่าแกจะต้อง

ชดใช้! ”

การเปลี่ยนแปลงฉับพลันของกานต์ทำให้นรมนกับกิจจาตกใจหน้าซีด

“กิจจา! ”
นรมนไม่อยากให้ลูกคลุ้มคลั่ง แต่เธอรู้ว่ากานต์ในเวลานี้ ไม่ใช่ลูกชายที่เป็นเด็กดีรู้จักคิดของเธอ

กิจจาก็ตกใจกลัว

นี่เป็นเหตุการณ์ที่เขาไม่ได้คาดคิด ตอนนี้เขาสามารถแน่ใจว่า บุคลิกที่ซ่อนอยู่ของกานต์ได้ปรากฏตัวแล้ว

กิจจารีบหยิบเข็มคิดจะปักไปที่ตำแหน่งบนร่างกายของกานต์ แต่เหมือนกานต์จะมีตาด้านหลัง ในชั่วพริบตาที่กิจจาจะลงมือ ก็ หมุนตัวเตะทันที เตะเข็มในมือของกานต์ออกไป

เพราะมีแรงมาก กิจจาแทบจะล้มลง เขารีบตรงเข้ามาลงมือกับกานต์ แต่เป้าหมายของกานต์ไม่ใช่เขา กานต์พุ่งตรงไปที่โจรเรียกค่าไถ่ที่ตัวกมลอยู่อย่างบ้าคลั่ง

“กานต์!

นรมนตกใจจนหัวใจแทบจะกระเด็นออกมา เธอกำลังจะวิ่งไป

ก็ถูกบุริศร์กอดเอาไว้

“อย่าเข้าไป! อีกฝ่ายมีปืน”

“แต่พวกเราจะไม่สนใจกานต์กับกมลไม่ได้นะ

นรมนร้องไห้ตะโกน ก็ได้ยินเสียง “ ปัง “ปืนในมือของคน สวมหน้ากากลั่นขึ้น
เลือดสีแดงกระเด็นออกมาจากชุดเจ้าหญิงสีขาวของกมล ราวกับดอกเหมย สายตาของทุกคนเลือนรางทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ