แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 870 คุณไม่ใช่บริศร์



บทที่ 870 คุณไม่ใช่บริศร์

บุริศร์กำลังใช้คอมพิวเตอร์ทำงาน ทันใดนั้นคอมพิวเตอร์จอ ดำ จู่ๆ ก็ไม่ทำงาน

จากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังเข้ามา

“ประธานบริศร์ คอมพิวเตอร์ทั้งหมดของบริษัทเป็นอัมพาต

แล้ว

เลขาสีหน้าซีดเผือด

บุริศร์เป็นคนทำไฟร์วอลล์บริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดเอง ปกติแล้ว ไม่มีใครโจมตีได้ มีแต่ตอนที่กานต์เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก โจมตีเข้ามา ก็เป็นบริศร์ที่แก้ไขเอง

ตอนนี้อินเทอร์เน็ตทั้งบริษัทเป็นอัมพาต เลขาหวังว่าบุริศร์จะ

รีบแก้ไขโดยเร็ว

บุริศร์สีหน้าบอกบุญไม่รับ

“บริษัทเลี้ยงพวกดูแลอินเทอร์เน็ตเสียข้าวสุกหรือไง ทุกเรื่องก็ ต้องมาหาผมหรือไง สั่งพวกเขาแก้ไขไม่ได้ก็ไสหัวไปซะ! บริษัท ฮัวยูกรุ๊ปจำกัดไม่เลี้ยงคนใช้ไม่ได้”

บุริศร์สีหน้าแย่ เสียงเย็นเหมือนน้ำแข็ง ถึงกับมีความโมโหอยู่ ในน้ำเสียง

เลขาตกใจจนตัวสั่น รีบวิ่งออกไป
กานต์กอดอกมองหน้าจอคอมพิวเตอร์

กล้ารังแกหม่ามี้หรือ

คิดว่าหม่ามีของเขารังแกกันได้ง่ายๆ หรือ

กานต์คํานวณเวลา บุริศร์มีฝีมือเหนือกว่าตัวเองมาก เขามี เวลาโจมตีไม่นาน แต่ช่วงนี้อยู่ในค่ายทหาร เขาเรียนรู้เทคนิค ของแฮคเกอร์ไม่น้อย ตอนนี้ลองดูบุริศร์มีเวลานานแค่ไหนที่จะ จัดการกับไวรัสที่เขาเพิ่งปล่อยเข้าไป

เวลาผ่านไปแต่ละนาที

เลขาวิ่งเข้ามาในห้องทำงานของบริศร์อีกครั้ง น้ำเสียงสั่น เครือ “ประธานบริศร์ แผนกไอทีแจ้งว่าพวกเขาทำไม่ได้ขอลา ออกทุกคน ไวรัสครั้งนี้แก้ไขไม่ได้จริงๆ

บุริศร์ขมวดคิ้ว

“ให้พวกเขาพยายามต่อ แก้ไขได้ผมจะให้โบนัส

บุริศร์โบกมืออย่างรำคาญ เลขาก็ออกไป แต่ในใจรู้สึกสงสัย ขนาดนี้แล้ว ทำไมประธานบริศร์ถึงไม่ลงมือเอง

กานต์เห็นไวรัสไม่ถูกโจมตีสักที เวลาผ่านไปเกือบห้านาทีแล้ว ขืนปล่อยไว้อีกสองสามนาที ข้อมูลสำคัญพวกนั้นจะหายไปจริงๆ แล้ว

หรือว่าบริศร์ไม่อยู่ที่บริษัท

กานต์ขมวดคิ้วนิดๆ รีบเข้าเว็บไซต์ค้นหา
อีกฝ่ายยังคงจัดการกับไวรัส แต่ร่องรอยไม่ใช่ของบริศร์ เขา ลองตรวจดู พบว่าคอมพิวเตอร์ห้องทำงานของบุริศร์เปิดอยู่ เห็น ชัดว่าเขากำลังใช้งาน หมายความว่าบุริศร์อยู่ที่บริษัท

แต่ทำไมบุริศร์ไม่กำจัดไวรัสนะ

เขาไม่มีทางไม่รู้ถ้าไม่รีบจัดการบริษัทจะเผชิญกับสถานการณ์ อย่างไร

กานต์ครุ่นคิด ในหัว

แผนกไอทียังคงพยายามต่อไป แต่ยังคงไม่สำเร็จ ไม่กล้าไป ขอให้บริศ ช่วย ร้อนใจเหมือนมดในกระทะร้อน

กานต์ในที่สุดก็ทนไม่ไหว ในเวลาช่วงสุดท้ายกำจัดไวรัส อย่างรวดเร็ว

แผนกไอทีเห็นไวรัสจู่ๆ ก็หายไป ข้อมูลทั้งหมดก็กลับมาปกติ ถอนหายใจโล่งอก แม้ว่าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ เป็นเรื่องดี

“ให้ทุกคนตรวจดูเร็วข้อมูลหายไปบ้างมั้ย

คนของแผนกไอทีรีบให้ทุกคนตรวจสอบ

บริศ เห็นคอมพิวเตอร์ตรงหน้ากลับมาปกติ คิ้วที่ขมวดอยู่ก็ คลายออก

เขาโทรไปหาแผนกเลขา

“บอกแผนกไอทีหน่อย พวกเขาทำดีมาก ครั้งนี้แก้ไขไวรัสได้สิ้นเดือนผมจะให้โบนัสหนึ่งพัน

แผนกไอทีได้ยินเช่นนี้ ต่างมองหน้ากัน

บริศ เป็นยอดฝีมือด้านคอมพิวเตอร์ ทำไมดูไม่ออกว่าพวก เขาไม่ได้กำจัดไวรัสสำเร็จสักหน่อย

กานต์เจาะเข้าไปในระบบภายใน ได้ยินที่บุริศร์โทรไปแจ้ง

แผนกเลขา หรี่ตาขึ้นมาทันที

มือเล็กๆ ประคองหัว แววตาครุ่นคิด

ธรรสเห็นนรมนอารมณ์ไม่ดี ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไร ลองถาม กมลด กมลงอน “แด๊ดดี้ทะเลาะกับหม่ามีค่ะ หม่ามีคงจะโกรธ

“ทะเลาะงั้นหรือ ทำไมล่ะ

ธรรคแปลกใจ

“ไม่รู้สิคะ แด๊ดดี้อยู่ๆ ก็ขึ้นมา หนูตกใจหมด

กมลยิ่งพูดยิ่งน้อยใจ ตาโตๆ คู่นั้นกะพริบ ทำให้รู้สึกว่า สงสารเหลือเกิน

ธรรสขมวดคิ้ว กิจจารีบพูด “อาจเป็นเพราะเรื่องบางอย่าง ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณอาสาม ผมเชื่อแด๊ดดี้เดี๋ยวก็หายโกรธ เขารักหม่ามี้มาก ไม่มีทางทำให้หม่ามโกรธจริงๆ หรอก”

“ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นละกัน”

ธรรคไม่พอใจ สายตาอดไม่ได้มองไปทางนรมน เห็นเธอเหมือ ลอย ก็รู้สึกสงสาร
“ไม่ได้ เดี๋ยวอาต้องจัดการบริศร์ซะหน่อย ทำเกินไปแล้ว นร มนลําบากเพื่อเขาขนาดไหน ทำไมยังรังแกได้ คิดว่าบ้านเราไม่มี คนหรือไง”

ธรณีพูดเบาๆ “นายใจเย็นก่อนเถอะ ตอนนี้ยังไม่รู้เรื่องอะไร เป็นอะไร นายก็รู้ดีนรมนรู้สึกยังไงกับบริศร์ เกิดทีแรกเรื่องไม่มี อะไร นายเข้าไปยุ่ง เข้าใจผิดไปกันใหญ่ นายก็จะกลายเป็นคน ผิดไปด้วย”

“ฉันเป็นห่วงหลานสาวก็ผิดเหรอไง”

ธรรค โมโห

“ไม่ได้บอกว่าผิด แต่สามีภรรยาทะเลาะกัน เดี๋ยวก็ดีกัน นาย อย่าเข้าไปยุ่งเลย”

คำพูดนี้ทำให้ธรรศเงียบไป

“แล้วต้องทนเห็นนรมนเสียใจแบบนี้หรือ

“นายไปทําอะไรอร่อยๆ กินเถอะ ไม่แน่กินสักมื้ออะไรๆ จะดี

ธรณีออกความเห็น

ธรรคจึงยอมทําตาม

นรมนไม่รู้ว่าสองพี่น้องตระกูลทวีทรัพย์ธาดาถกเถียงกันเพราะ เธอ ตัวเองยังมัวแต่คิดจะทำอย่างไรดีถึงจะทำให้บุริศร์อารมณ์ดี ขึ้นหน่อย ทะเลาะกับเขาครั้งแรกในชีวิต ใจรู้สึกเจ็บแปลบๆ
กานต์เดินออกมาจากห้องหนังสือ มองนรมน กระซิบกับเธอ “หม่ามี้ ผมอยากคุยกับหม่ามีหน่อย

“อืม ว่าไงจ๊ะ”

นรมนราวกับเพิ่งได้สติ เห็นท่าทางกานต์อยากจะพูดแต่ก็ ชะงักไว้ อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

กานต์มองนรมน พูดเบาๆ “ผมรู้สึกว่าคุณบุริศร์แปลกๆ ไป ครับ”

“เป็นอะไรไป เพราะเขาทะเลาะกับหม่ามี้ ก็เลยแปลกๆ หรือ ลูกอย่าพูดอย่างนี้เลย กานต์ หม่ามีรู้ว่าลูกปกป้องหมา ให้เวลา หน่อย แด๊ดดี้กับหม่ามี้จะดีกัน ลูกไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ

นรมนคิดว่ากานต์ยังสับสนเพราะเธอทะเลาะกับบุริศร์ รีบพูด ให้เขาคลายกังวล

กานต์ส่ายหน้า “ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่เรื่องที่ทะเลาะกัน หรือว่า หม่ามี้ไม่รู้สึกเหรอคุณบุริศร์จู่ๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เมื่อไม่ ก่อนไม่ว่าเขาจะโกรธแค่ไหนก็ไม่มีทางทะเลาะกับหม่า ยิ่งไม่มี ทางไม่สนใจสุขภาพของหม่าม เมื่อผมเพิ่งใช้คอมพิวเตอร์ แฮคข้อมูลบริษัทฮัวยกรุ๊ปจำกัด หม่ามีรู้มั้ย คุณบุริศร์อยู่ที่บริษัท แต่กลับไม่สนใจการโจมตีเลยสักนิด นั่งดูข้อมูลบริษัทเกือบจะ หายไปก็ไม่ลงมือทำอะไร ปล่อยให้แผนกไอทีแก้ไข ไม่ว่ายังไง คุณบุริศร์ไม่มีทางไม่สนใจไฟร์วอลล์ของบริษัทใช่มั้ยครับ

นรมนได้ฟังกานต์บอกว่าแฮคระบบบริษัทฮัวกรุ๊ปจำกัด อยากจะอบรมเขา แต่เมื่อได้ยินกานต์พูดต่อจากนั้น อดไม่ได้ที่จะไป

“ลูกบอกว่าไม่สนใจเลยหรือ

“ครับ ผมรอตั้งกำจัดไวรัส ไวรัสที่ผมปล่อยเป็นเรื่องจ๊อยสำหรับคุณบุริศร์ เขาควรจะทัศนคติแบบนี้ ละลายหรือครับ ได้แยแสเลยสักนิด”

ได้ยิน

“ลูกบ้าอะไรกัน บริษัทฮัวยกรุ๊ปจำกัดจะล้มละลายได้ยังไง

ผมถึงบอกว่ามันแปลกไงล่ะ”

กานต์ลูบหัวตัวเองพูดน้ำเซ็ง

นรมนตกใน

ครุ่นให้ดี บุริศร์เหมือนไม่สนใจเรื่องสุขภาพเธอจริงแต่คนนั้นก็บริศร์แน่นอน

เดี๋ยวก่อน

นรมนทันใดนั้นคิดถึงพูดของคมทิพย์ เธอเล่าเห็นตา บริศร์พาพรรคพวกทำร้ายตระกูลตาย แต่ตอนนั้นนรมนคิดบุริศร์อยู่กับตัวเอง ไม่น่าจะทำเรื่อง อย่างนี้

ตอนกานต์ยังบอกบุริศร์ทำแปลกอีก เธอคิดแม้บุริศร์หน้าตาเหมือนเดิม แต่สายตานั้นที่มองเธอไม่มีความรักหลงเหลือเลย

ถ้าจะพูดว่าเขาโกรธเรื่องที่คมทิพย์วางแผนก็จริง แต่ความ

รู้สึกตลอดแปดปีนี้จู่ๆ ก็หายไป นรมนรู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้ ความคิดไร้สาระแวบเข้ามาในหัวของเธอ จนตัวสั่น โดยไม่ได้

ตั้งใจ

“หม่ามี้ เป็นอะไรไปครับ”

กานต์เห็นสีหน้านรมนไม่ค่อยดี รีบถามเธอ

“ไม่เป็นไรจ้ะ แค่คิดอะไรนิดหน่อย เดี๋ยวหม่าไปบริษัทฮัวยู กรุ๊ปจำกัด ลูกกับพี่น้องรออยู่ที่นี่ก่อนนะ”

นรมนพูดพลางลุกขึ้น แต่ถูกกานต์ดึงชายเสื้อไว้

“ผมไปด้วยครับ”

“ไม่เป็นไรจ้ะ หม่ามีไม่เป็นอะไรหรอก”

“ให้ผมไปด้วยนะครับ

กานต์ดึงดันจะไปให้ได้ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่ นโมนไม่มีทางเลือกอื่น จึงรับปากให้เขาไปด้วย

สองคนบอกกับธรรสจะออกไปข้างนอก ซื้อของนิดหน่อย ธร รศคิดว่านรมนอารมณ์ไม่ค่อยดี ออกไปข้างนอกเดินเล่นหน่อยก็ น่าจะดี เขาจึงตอบตกตกลง และยังกำชับให้กานต์ดูแลนรมน ให้
กานต์พยักหน้า

นรมนพากานต์ออกจากตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ขับรถตรงไปที่ บริษัทฮัวยูกรุ๊ปจํากัด

ทุกคนเห็นนรมนกับกานต์มาที่บริษัท ก็ให้ความเคารพ เลขา

รีบไปเรียน ให้บริศทราบทันที

บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ไม่ได้ห้าม

ตอนที่นรมนกับกานต์มาถึงห้องทำงาน บุริศร์กำลังทำงาน เห็นพวกเขาเข้ามาก็พูดขึ้นโดยไม่เงยหน้ามอง “ผมบอกแล้วไง ผมกินมื้อกลางวันเอง พวกคุณไม่ต้องเอาอาหารมาให้

นรมนกับกานต์อึ้งอีกครั้ง หันมาสบตากัน

บุริศร์ไม่เคยให้นรมนกับกานต์ทำอาหาร ซึ่งไม่เคยพูดให้นร มนมาส่งอาหาร แต่ตอนนี้ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าจู่ๆ ก็พูดเรื่องนรมน ส่งอาหารให้เขา ยิ่งทำให้นรมนกับกานต์สงสัยมากขึ้น

นรมนพูดโดยไม่แสดงสีหน้าอารมณ์ “วันนี้ฉันไม่ค่อยสบาย ไม่ได้ทำกับข้าว พอดีผ่านร้านขายขนม เห็นมีเครปมะม่วงน่ากิน เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ เดี๋ยวฉัน ให้พวกเขาเอามาให้ คุณกินหน่อย คะ ตอนเช้าคุณก็ไม่ได้กินอะไรเลย”

“ก็ดี ที่บริษัทยิ่งๆ ผมไม่ออกไปกินข้าวแล้ว เดี๋ยวกินนิดหน่อย ก็ได้”

บุริศร์ยังคงไม่เงยหน้า แต่นรมนกับกานต์หน้าถอดสี
ก็ดีอย่างนั้นหรือ

บุริศร์ไม่แพ้มะม่วงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน หรือจะพูดว่าผู้ชายคนนี้แม้แต่ตัวเองแพ้อะไรก็จำไม่ได้งั้นหรือ นรมนกับกานต์แววตาเคร่งขรึม นรมนถามเสียงเย็น “คุณไม่ใช่บุริศร์! คุณคือใคร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ