แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่1216 หรือว่าเคยชินจนเป็นธรรมชาติไปแล้ว?



บทที่1216 หรือว่าเคยชินจนเป็นธรรมชาติไปแล้ว?

ภายในโลหิตหยกดูเหมือนมีเลือดไหลเวียนอยู่ นรมนขยี้ตาอย่างรวดเร็ว ตอนที่มองดูให้ละเอียดอีกครั้ง ก็พบ

ว่าโลหิตหยก ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

หรือว่าเมื่อกี้ตนตาฝาดไปเอง?

นรมนส่ายหน้ายิ้มทันที

เธอเป็นอะไรไป?

ปรากฏการณ์ประหลาดแบบนี้เจอได้แค่ในหนังสือเท่านั้นหรือ เปล่า?

เธอวางหยกโลหิตไว้ด้านข้างตามสะดวก จากนั้นก็ล้างเนื้อตัว

ให้เรียบร้อย สวมใส่เสื้อผ้า เหลือบมองดูหยกโลหิต นึกขึ้นได้ว่า

บนตัวบุริศร์ก็มีอยู่อีกชิ้น แล้วจึงสวมมันอีกครั้ง

ไม่ว่ายังไง ก็ถือว่าเป็นคู่กัน ความหมายดีมาก เธอคิดซะว่า สวมแล้วอารมณ์ดีแล้วกัน

หยกโลหิตเย็นๆไหลผ่านผิวหนัง ทำให้นรมนรู้สึกชัดเจน

หลังจากที่เธอสวมใส่เรียบร้อยก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถจาก ด้านนอก ยังไม่ทันรอให้เธอออกประตูไป เสียงดีใจของกมลก็ดัง สวนเข้ามา

“ว้าว สวยจังเลย!”
มุมปากของนรมน โค้งขึ้นเล็กน้อย

กานต์เองก็รู้สึกถึงความต่างนิดหน่อย แต่เด็กผู้ชายมักจะไม่ ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้มากนัก เขากับกิจจาเดินตามหลังกมล มองดู กลมกระโดดโลดเต้นราวกับนกน้อยวิ่งเข้ามา

นรมนรีบออกมาต้อนรับ

“ลูกรัก กลับมาแล้ว?

“หม่ามี! ที่นี่สวยจังเลย

หนูชอบมาก!!

กมลโผเข้าไปในอ้อมแขนของนรมนโดยตรง

นรมนอุ้มกมลขึ้นมา พูดยิ้ม “หม่ามีก็ชอบมากเหมือนกันค่ะ”

บริศ เดินออกมาจากห้องหนังสือ เห็นใบหน้าพึงพอใจของ กานต์และกิจจา อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วเอ่ยถาม “พวกลูกสองคนวัน นี้ได้อะไรมาไม่น้อยเลยใช่ไหม?”

“อื้ม แด๊ดดี้ คุณหมอเดวิดคนนั้นสุดยอดมากเลย”

ท่าทางโผบินของกิจจาทำให้นรมนที่มองอยู่รู้สึกประหลาดใจ

เดินคนนี้เดิมทีหน้าตาก็ดูดี ก่อนหน้านี้นิ่งเงียบเกินไป ทำให้ คนมองข้ามความหล่อเหลาของเขา วันนี้อาการท่าทางโผบินของ เขาราวกับเป็นแสงสว่างกะทันหัน ทำให้ประกายแสงของกิจจา เจิดจ้าออกมาแล้ว

นรมนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ายืนของตระกูลโตเล็กนั้นดีเกินไป หน่อยแล้ว
บริศ ลบศีรษะของเขา “หลังจากนี้ก็มีโอกาส แอดวีแชทไว้ หรือยัง?”

“แอดแล้ว”

กิจจารีบพยักหน้า

แล้วบุริศร์ก็มองไปที่กานต์ ยังไม่ทันเอ่ยปาก ก็ได้ยินกานต์พูด อย่างภาคภูมิใจ “ตอนนี้158องค์กรผมไม่อยากเข้า

“เอ๋? รู้ระยะห่างของตัวเองแล้ว? ก่อนหน้านี้มักจะรู้สึกว่าตัว เองเป็นอัจฉริยะ ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า?”

การปราบของบริศ ไม่ได้ทำให้กานต์ไม่พอใจ ตรงกันข้ามเขา หยักหน้าอย่างหนักแน่นพร้อมพูดว่า “อื้ม เมื่อก่อนผมหยิ่งผยอง เกินไป หลังจากนี้ผมจะตั้งใจเรียนรู้ ให้แน่ใจว่าสอบเข้า 158ได้ ด้วยความสามารถของตัวเอง”

อันที่จริงเด็กน้อยอายุ5ขวบอย่างกานต์มีความสามารถแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่บริศร์ไม่หวังให้เขาพอใจในตัวเองมากเกินไป เขาจะมีปัญหาที่ไม่จำเป็นสำหรับตัวเขาเองในอนาคต

การปรามที่เหมาะสมยังเป็นวิธีการให้ความรู้แก่เด็กอีกด้วย ตอนนี้ทัศนคติของกานต์ทำให้บุริศร์พึงพอใจมาก

“โอเค ล้างมือกินข้าวกัน พรุ่งนี้พาพวกลูกไปเที่ยว”

“เยี่ยมเลย!”

กมลกระโดดด้วยความดีใจ
กานต์และกิจจาเองก็รู้สึกมีความสุข ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นครั้ง แรกที่ทั้งครอบครัวได้ไปเที่ยวด้วยกัน

เด็กๆถูกคนใช้พาไปล้างมือ

นรมนูพึ่งจะพบว่าภายในสวนมีคนใช้ที่แปลกหน้าเพิ่มมานิด หน่อย

“จัดเตรียมมาเมื่อไหร่?

“เดิมทีก็มีอยู่แล้ว ตอนที่พึ่งมาถึงฉันไม่ชอบให้พวกเขามารบก วนเธอ ให้พวกเขาออกไป

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนกระตุกปากเล็กน้อย

ผู้ชายคนนี้ดีกับเธอมาก แต่สำหรับคนอื่นเป็นความยาก

ล่ามาก

“มีที่ไหนให้คนอื่นมาทำตามแนวทางของเรา?

“เธอเป็นผู้หญิงของฉัน สมควรที่จะได้รับการปฏิบัตินี้

คำพูดแห่งความรักของบุริศร์มาแล้ว นี่ใช่บุริศร์ผู้เย็นชาเห็น ห่างในตอนนั้นจริงๆ หรือ?

แต่ในใจนรมนนั้นหวานอย่างปฏิเสธไม่ได้

ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกัน ก็มีเสียงเครื่องยนต์รถดังมาจาก ด้านนอกอีกครั้ง

“ขวัญตามาถึงแล้ว”
นโมนมีความสุขอย่างเห็นได้ชัดเจน

ดวงตาบุริศ เผยร่องรอยความไม่เป็นสุข เขาไม่ชอบให้นรมนชื่นชอบคนอื่น ความปรารถนาอย่าง เผด็จการนี้ทำให้เขาประหลาดใจทันที

นี่มันอะไรกัน?

หรือว่าเป็นผลกระทบของพิษสีทองเช่นกัน?

บุริศร์ระงับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจอย่างรวดเร็ว มองนรมน จูงมือขวัญตาเข้ามาด้วยใบหน้าสงบนิ่ง

ขวัญตาดูสวยขึ้นกว่าตอนแต่งงาน

นรมนพูดแซวเล่น “เอ๊ะ นี่มันต่างจากชุ่มฉ่ำเพราะความรักนะ ดูใบหน้าเล็กๆนั่นสิ นุ่มนวลเชียว น่าหยิกเสียจริง

ใบหน้าของขวัญตาแดงทันที แต่พูดอย่างไม่เต็มใจ “พูด อย่างกับว่าเธอไม่มีความรักที่ชุ่มฉ่งั้นแหละ ดูที่คอเธอสิ มีต้น สตรอเบอรี่ก็ไม่รู้จักซ่อนไว้เสียหน่อย กลัวคนอื่นไม่รู้ว่าพวกเธอ รักกันดีใช่ไหม?”

คำพูดนี้ทำให้นรมนลูบคอของตัวเองอย่างไม่รู้ตัวทันที

“ไม่ใช่มั้ง? มีหรอ?”

ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่ออยู่กับเด็กๆ งั้นไม่ใช่ว่าถูก เด็กๆเห็นเข้าแล้วหรอ?

ตายแล้ว ขายหน้าจริงๆ
นรมมหดหู่ทันที

เมื่อคิ้วของภรรยาขมวดแน่นเข้าด้วยกัน บุริศร์ก็ดูต่อไปไม่ไหว

“หล่อนหลอกเธอ”

พูดค่านี้ออกไป นรมนกับขวัญตาก็ชะงัก

ขวัญตาคิดว่าการหยอกล้อระหว่างหญิงสาวบุริศร์คงไม่เข้ามา

นรมนเองก็นึกไม่ถึงว่าบุริศร์จะปกป้องตน อดไม่ได้ที่จะชะงัก เล็กน้อย

ขวัญตาพูดอย่างหดหูเล็กน้อย “พวกเธอรังแกคนเกินไปหรือ เปล่า? เห็นว่าเจตต์ไม่อยู่สามีภรรยาก็ร่วมมือกันหยอกล้อฉัน?”

“พูดอย่างกับว่าเจตต์อยู่แล้วพวกเธอจะชนะ”

คำพูดนี้ของบุริศร์ทำให้สำลักไปอีกครั้ง

“นรมน ฉันฉันฉัน……..

ขวัญตาแทบจะร้องไห้แล้ว

บริศ เมื่อก่อนไม่เป็นแบบนี้ วันนี้เป็นอะไรไป? นรมนรีบพูดยิ้ม “เขาล้อเล่นน่า ก็แค่พูดแซวอย่างเฉยเมย เอา ล่ะ รีบเข้ามาล้างมือกินข้าว

ขณะที่พูดก็จ้องเขม็งไปที่บุริศร์ ส่งสัญญาณให้เขาไม่ต้องพูด อะไรแล้ว
ตอนนี้สภาพร่างกายของบุริศร์ไม่เหมาะที่จะบอกคนอื่น เธอได้ เพียงรีบพาขวัญตาเดินเข้าไปข้างใน

บุริศร์กลับนั่งลงอย่างไม่ใส่ใจ

เขาก็ไม่ได้พูดผิด

ความสามารถในการต่อสู้ของเจตต์จะแกร่งไปกว่าเขาหรอ?

เฮ้อ

ตอนนี้ความจริงก็ไม่ให้พูด

บุริศร์ส่ายหน้า สุ่มมือหยิบพวงองุ่นขึ้นมากิน

ในตอนที่เด็กๆ นรมนและขวัญตากลับมา บุริศร์ก็กินองุ่นหมด พวงแล้ว

กมลเม้มปากเอ่ยถาม “แด๊ดดี้ องุ่นหวานมั้ยคะ?”

“หวาน แต่ลูกต้องกินข้าวก่อนถึงจะกินได้

คำพูดของบุริศร์ทำให้กมลไม่พอใจทันที

“แต่แด๊ดดี้ก็ยังไม่ได้กินข้าว

“พ่อเป็นผู้ใหญ่ กระเพาะอาหารดีกว่าเด็กอย่างลูก เชื่อฟัง ไป นั่งกินข้าว”

บุริศร์คือเป็นตัวอย่างของการยินยอมให้รัฐก่อกองไฟ แต่ไม่ อนุญาตให้ประชาชนจุดไฟ

กมลมุ่ยปาก แต่ก็ยังนั่งลงอย่างเชื่อฟัง
เด็กทั้งสามคนนั่งลงอย่างเรียบร้อย ขวัญตานั่งลงด้านข้าง ร มนแล้วนรมนก็นั่งด้านข้างบุริศร์

บริศนำซุปชามหนามาวางไว้ตรงหน้านรมน พูดขึ้น “กินซุป ก่อนเถอะ บำรุงร่างกาย

ขวัญตารู้สึกว่าตนเองยังไม่ได้กินข้าวก็อิ่มเอมแล้ว

เธอต่างหากที่เป็นคู่แต่งงานใหม่

ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความรัก ในที่สาธารณะใดๆก็ตาม มัน ควรจะเป็นเธอไม่ใช่หรอ?

ทำไมตอนนี้กลับถูกคู่สามีภรรยาที่แต่งงานมาเจ็ดแปดปีล่วง ละเมิดไปซะแล้วล่ะ?

เธอคิดถึงเจตต์ขึ้นมาทันที

นรมนรับซุปมาดื่มหนึ่งอีก เห็นขวัญตามองตนอย่างอุ่นเคือง ก็ เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “พี่สะใภ้ ทำไมหรอ? ไม่ถูกปากเธอ

หรอ?” ขวัญตารู้สึกว่าตอนนี้ตนเหมือนคนงี่เง่าคนหนึ่งจริงๆ

มองดูท่าทางแบบนี้ของนรมน ไม่รู้เลยซักนิดว่าตัวเองกำลัง แสดงความรักต่อหน้าสาธารณะ

เอาเถอะ ก็คงจะทำจนเคยชินเป็นธรรมชาติ เธอเริ่มจะอยากกลายเป็นมะนาวกลั่นแล้ว เจตต์ ฉันคิดถึงนายแล้ว
ขวัญตาพิมพ์ในใจ แต่โบกมือพูด “ไม่มีอะไร รีบกินของเธอ เถอะ ฉันแค่กำลังคิดว่าเจตต์จะกลับมาได้เมื่อไหร่

คำพูดนี้ทำให้นรมนรู้สึกผิด

เธอลืมเจตต์กับพรรษาไปเลย

“อะแฮ่ม จะโทรไปหาเขาหน่อยไหม?”

“ไม่ต้อง ด้านวินเซนต์จัดการได้ รีบกินข้าวเถอะ”

บริศ เอ่ยปากพูดนิ่งๆ

ได้ฟังเรื่องที่วินเซนต์ติดตามพรรษาด้วยตัวเอง นรมนก็วางใจ ลงได้

“มีวินเซนต์อยู่ก็ไม่มีปัญหาแล้ว พี่สะใภ้ รีบกินข้าวเถอะ ไม่ อย่างนั้นลูกพี่ลูกน้องจะปวดใจ

คำพูดนี้ทำให้ใบหน้าของขวัญตาแดงก่ำ

“พูดไร้สาระ”

“ปากไม่ตรงกับใจ เฮ้อ ผู้หญิง”

นรมนทำที่เป็นส่ายหน้า บรรยากาศบนโต๊ะครึกครื้นขึ้นมา ทันที

กมลกินอย่างมีความสุข กานต์และกิจจาเองก็เป็นเพราะ อารมณ์ดี เลยกินกับข้าวเยอะหน่อย แล้วนรมนเองก็กินอย่างอิ่ม เอมจากการตักอาหารให้ของบริศร์
ทั้งหมดทั้งมวลคนที่กินไปไม่เท่าไหร่มีแค่บุริศร์ นรมนเห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็บังคับให้เขากินผักเยอะๆ ดื่มซุปอีก ชามก็นับว่าเรียบร้อย

ขวัญตาถูกแสดงความรักต่อหน้าอีกครั้ง

เธอตัดสินใจไม่ว่ายังไงก็จะไม่ค้างที่นี่แล้ว เพราะจะได้รับการ ทารุณ

หลังกินข้าวเสร็จ นรมนก็ดึงขวัญตามาพูดคุย พวกเด็กๆเองก็ มีกิจกรรมสนุกสนานของแต่ละคน

บุริศร์เดิมที่วางแผนจะอยู่กับภรรยา แต่ตอนนี้ภรรยาถูก ขวัญตาครอบครองไว้ เขาทำได้เพียงไปห้องหนังสือ

ขวัญตามองดูบ้านที่สวยงามนี้ พูดยิ้ม “คุณบุริศร์ของบ้านเธอ รักเธอเข้าไปในหัวใจจริงๆนะ

“พูดอย่างกับว่าลูกพี่ลูกน้องฉันไม่รักใคร่เธออย่างนั้นแหละ

คำพูดของนรมนทำให้ขวัญตาโค้งมุมปากเล็กน้อย

“นั่นก็ใช่ เจตต์ของบ้านเราก็ดีมากๆ

คำพูดนี้ทำให้นรมนรู้สึกเสียวฟันเล็กน้อย แต่ก็พอใจมาก

นึกถึงตอนที่พึ่งรู้จักกับเจตต์ เธอไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะผู้หญิง สวยงามเท่สมาร์ทอย่างขวัญตาได้

พรหมลิขิต บางครั้งก็ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ
ทั้งสองนั่งอยู่ใต้ต้นพลัม มองดูท้องฟ้าด้านนอกค่อยๆมืดลง เริ่มรู้สึกว่าหนาวแล้ว

“เข้าไปเถอะ คาดว่ากว่าจะกลับมาคงอีกซักพัก

นรมนดึงมือของขวัญตาแล้วพูด

ขวัญตากลับขมวดคิ้วพูดขึ้น “พ่อสามีตกอับมากเลยหรอ?”

คำถามนี้เธออยากถามมานานแล้ว แต่กลัวว่าเจตต์จะไม่มี ความสุข ดังนั้นจึงอดทนไว้ หลังจากมาถึงที่นี่พวกบุริศร์ก็ต้อนรับ อย่างอบอุ่น ทำให้เธอหาโอกาสถามไม่ได้

ตอนนี้พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้ว เจตต์ยังไม่กลับมา ขวัญตา อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นห่วง

นรมนครุ่นคิดท่าทางของพรรษา ไม่รู้ควรจะพูดว่ายังไง เพียง แค่พูดเสียงต่ำ “พี่ชายจะจัดการได้อย่างเรียบร้อย เธอวางได้ก็ พอ”

ขณะที่พูด บุริศร์ก็เดินออกมาจากด้านใน ในมือถือเสื้อขนสัตว์ สีขาวคลุมให้นรมน อีกด้านมีคนรับใช้ถือเสื้อขนสัตว์อีกตัวมาส่ง

ให้ขวัญตา

“ขอบคุณ”

นรมนพูดเสียงต่ำ ก็ได้ยินบุริศร์พูดขึ้น “ใส่เสื้อผ้าออกไปข้าง นอกกับฉัน เกิดเรื่องกับพรรษาแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ