แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 468 ผมคิดถึงคุณ



บทที่ 468 ผมคิดถึงคุณ

“คุณนายบุริศ !”

พยาบาลตกใจจนหน้าซีดขาว รีบเข้าไปช่วยพยุงเอาไว้

นามนกลัวว่าตัวเองจะช้า จนบริศรวางสายไป จึงไม่สนสภาพ ของตัวเองในตอนนี้ รีบพยาบาลเพื่อลุกขึ้นยืนแล้วพูดออกมา ว่า “ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ

“เดี๋ยวฉันพาไปค่ะ”

“ไม่ต้อง คุณไม่ต้องเข้ามา แล้วก็อย่าส่งเสียงพูดด้วย นรมนพูดจบก็เดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเธอกดรับสาย ก็อยู่ในสภาพกระหืดกระหอบแล้ว

“เป็นอะไรไป?”

บุรีศร์ไม่ได้เจอภรรยามาห้าวัน พอตอนนี้ได้เห็นหน้ากรมน จู่ๆก็ยิ่งรู้สึกคิดถึงมากกว่าเดิม

“ไม่มีอะไร กำลังเข้าห้องน้ำ

นรมนพยายามทำเสียงให้ดูปกติ แต่ว่าฝ่ามือกลับขึ้นไปด้วย เหงื่อ บริเวณหัวเข่ามีอาการเจ็บนิดๆ

เมื่อกี้คงล้มแรงน่าดู

เมื่อบริศ เห็นนมันผอมลง ดวงตาก็พลันทอแววลุ่มลึก จากนั้นจึงเอ่ยถามขึ้นมาว่า “ตอนผมไม่อยู่บ้านคุณไม่ค่อยกินข้าวไข่ ไหม? ทำไมผมรู้สึกว่าคุณดูผอมลง?”

“ใช่ไง หลังจากคุณหายไปก็ไม่เห็นโทรมาเลย โทรไปก็ไม่ ติด ฉันกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะไม่รู้ว่าคุณเป็นยังไงบ้าง ก็ เลยผอมลง ไง”

คําพูดของนรมนทําให้บริศ ชะงักไปเล็กน้อย

“คุณโทรมาหาผมด้วยเหรอ?”

“โทรสิ ทำไมเหรอ?”

นรมนรู้สึกว่าบุรี รถามแปลกๆ แต่ก็เลือกตอบเขาไป

บริศร์ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่ยิ้มแล้วพูดว่า “สงสัยผม ไม่เห็น ช่วงนี้ค่อนข้างยุ่ง ไม่มีเวลาเล่นโทรศัพท์เลย

ตอนแรกนรมนอยากถามว่า คุณกำลังยุ่งอยู่กับอะไร แต่ก็ เปลี่ยนไปถามคําอื่น

“คุณจะกลับมาเมื่อไหร่?

“น่าจะอีกสามวัน ผมถึงจะกลับ

คําพูดของบริศ ทําให้นมนพยักหน้าเบาๆ

“คุณก็ผอมลงเหมือนกัน”

“ไม่เท่าไหร่หรอก อาหารข้างนอกไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่คิดถึงอาหารที่คุณทําแล้ว

“รอคุณกลับมา ฉันจะทำให้คุณกิน

นรมนยิ้มออกมาบางๆ ในรอยยิ้มมีแต่ความใจดี

“ครับ”

บริศร์รู้สึกว่านรมนที่เป็นแบบนี้ช่างงดงาม งดงามจนทำให้ เขาหายใจติดขัด ถ้าได้อยู่ข้างๆเธอตอนนี้คงดี

“ใช่สิ นี่ไม่ใช่ห้องน้ำบ้านเรานี่นา คุณออกมาข้างนอกเห รอ?”

“อืม มาช็อปปิ้งนะ

นโมนพยักหน้า

“ช่วงนี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”

“ไม่นะ ทุกอย่างปกติดี”

นรมนไม่ได้พูดถึงเรื่องของตัวเอง

ถึงบริศ จะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่นรมนก็สังเกตเห็นกรอบ ตาคล้ำๆ รวมไปถึงคางที่ซบเซียวลงของเขาได้

เขาไปทําอะไรมา?

ทำไมถึงผอมลงอย่างนี้

หรือว่ากำลังเผชิญกับอาการป่วยเหมือนอย่างเธอในตอนนี้
หรือว่ามีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้เกิดขึ้น?

คำถามเหล่านี้ลอยวนอยู่ในหัวของนรมน

เธออยากถามให้แน่ใจ แต่พอได้เห็นบริศรพูดคุยกับตัวเอง อย่างสบายใจ และพอได้เห็นความรักของเขาที่มีต่อเธอในแวว ตาของเขา นรมนก็ไม่อยากถามอะไรอีกต่อไปแล้ว

สิ่งที่สำคัญที่สุดในความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาก็คือความเชื่อ

ใจ

ในเมื่อบริศ ไม่บอกเธอ เขาก็คงมีเหตุผลที่ไม่อยากบอก ขอ แค่ในใจของเขายังมีเธอและครอบครัวอยู่ในนั้นก็ไม่มีเรื่องอะไร ให้ทั้งสองต้องจับเข่าคุยกัน

ตอนนี้บุริศร์อยู่ห่างไกล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเขาหรือเรื่องของ เธอ พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ การคุยกันจากทางไกลคงไม่สามารถ ดับความคาใจลงได้ มีแต่จะทำให้ต่างฝ่ายต่างกังวล ดังนั้นไม่ ต้องพูดยังจะดีกว่า

เขาบอกเอง ?

ว่าอีกสามวันก็จะกลับมาแล้ว!

รอเขาอีกสามวันจะเป็นอะไรไป

“ตอนคุณกลับมา ฉันจะไปรับคุณ”

นามนยิ้มบางๆ รอยยิ้มของเธอยิ่งทำให้บริศร์คิดถึงบ้าน มากกว่าเม
“ได้สิ ถึงวันแล้วผมจะบอกเวลาเที่ยวบินนะ”

“อื้อ!”

“บรมน”

“หม?”

“ผมคิดถึงคุณ”

ตอนที่บุริศรพูดคำนี้ออกมา จู่ๆนรมนก็รู้สึกแสบร้อนจมูก ความน้อยอกน้อยใจตลอดหลายวันที่ผ่านมาพลันก่อตัวขึ้นมา จนทำให้เธอเกือบหลุดปากพูดออกทุกอย่างออกไป

ถ้าตอนนี้ได้อยู่ในอ้อมกอดของบุริศร์, มันจะดีแค่ไหนนะ? แต่ทุกคำพูดกลับติดอยู่ในลำคอ และสุดท้ายนรมนก็ฝืนกลืน

ทุกคําพูดลงไป

เธอเชื่อว่าบุริศร์ไม่ใช่คนใจจืดใจดำแบบนั้น และเธอก็รู้ว่าเขา หนีออกจากเมืองชลธี ที่ตอนนี้ไม่ติดต่อกับใครอาจเป็นเพราะ กำลังเจ็บปวดกับอะไรบางอย่างอยู่

นโมนไม่อยากทําให้บริศร์ลำบากใจ จึงทำได้แค่ปล่อยให้ตัว เองน้อยใจไปก่อน

“ฉันก็คิดถึงคุณ”

คําพูดมากมายสรุปออกมาได้เป็นประโยคนี้ ในถ้อยคำ ประกอบไปด้วยความคิดถึงและความรักอย่างล้นเหลือ จนทำให้ บริศรสะอึกขึ้นมาทันที เมื่อเขาเห็นกรอบตาแดงๆ และท่าทีอีกๆ
อักๆของนรมน เขาก็แทบอยากจะติดปีกบินกลับไปหาเธอตอนนี้

แต่พอคิดได้ว่าตัวเองยังมีพิษที่ยังไม่ได้กำจัดออก และนึกไป ถึงท่าทางน่าอนาถของตัวเองยามพิษออกฤทธิ์แล้ว เขาก็จำต้อง อดทนเอาไว้

“ห้าวันที่อยู่บ้านมีใครทำอะไรคุณหรือเปล่า?”

บุริศร์รู้ว่าตัวเองไม่ควรถาม แต่ถ้าไม่ถามให้รู้ก็คงไม่สบายใจ สักที

“ไม่มี ใครจะมาทำอะไรฉันได้? คุณนั่นแหละ อยู่ข้างนอกคน เดียว ต้องกินเยอะๆนะรู้ไหม ถึงจะกินไม่ลง ก็อย่าปล่อยให้ตัว เองหัว ฉันอยู่ที่บ้านทุกอย่างปกติดี คุณแม่ก็ดีกับฉันมาก ลูกๆก็ รอให้คุณกลับมา ไม่ว่าคุณจะกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าทุกอย่าง เรียบร้อยแล้ว ก็รีบกลับมานะ”

นรมนไม่กล้าพูดอะไรต่อ กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ที่ สำคัญก็คือเธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอเริ่มจะไม่ไหวแล้ว

“ครับ ผมจะพยายามจัดการทุกอย่างให้เร็วที่สุดแล้วจะรีบ กลับไป รอผมนะ”

“อืม!”

นรมนไม่อยากวางสาย เพราะกลัวว่าหลังจากวางสายไปแล้ว จะไม่ได้เจอกันอีก

เขาบอกว่าอีกสามวันจะกลับมา
เวลาสามวันทําไมมันนานอย่างนี้

เมื่อก่อนไม่เคยรู้เลยว่าความรู้สึกของการไม่ได้เจอกันสามวัน

เหมือนไม่ได้เจอกันสามปีมันเป็นยังไง ในที่สุดเธอก็ได้สัมผัสมัน เองแล้ว ช่วงที่ผ่านความเป็นความตายมา สิ่งที่เธอห่วงหาและปล่อย วางไม่ได้ ก็ยังเป็นเรื่องของผู้ชายคนนี้

ไม่ว่าในอดีตจะเคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ก็ไม่สามารถถอนความ รักที่ฝังรากลึกออกมาได้ และเธอก็ไม่สามารถไม่รู้สึกเป็นห่วง หลังจากได้เห็นเขาผอมลง

ทั้งสองสบตากันนิ่งผ่านหน้าจอโทรศัพท์ ราวกับว่าเวลาหยุด เดิน ราวกับว่าทั้งสองเดินทางทะลุเวลาและระยะห่าง มายืนอยู่ ตรงหน้าของกันและกัน พร้อมกับใช้แววตาโอบกอดกันเอาไว้ อย่างอาลัยอาวรณ์

บุริศร์เอื้อมมือมาลูบใบหน้าของนรมนผ่านจอโทรศัพท์ เธอผอมเกินไปแล้ว!

ไม่ได้เจอกันห้าวัน ทำไมเธอถึงผอมลงขนาดนี้?

หัวใจของบุริศร์บีบรัดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เขาเริ่มไม่ สบายใจ

“คุณปวยเหรอ?”

เขาไม่อยากวางสาย เขาเสียดายช่วงเวลาที่ได้พูดคุยกับนรมนในขณะที่พิษยังไม่ออกฤทธิ์

เต็ม นามนอยากพูดว่าไม่ได้เป็นอะไร แต่เมื่อนึกถึงตัวเองใน สภาพซูบผอม จึงจำต้องพูดยิ้มๆออกมาว่า “ไม่ได้ป่วย สงสัย เพราะประจำเดือนมามั้ง เลยไม่ค่อยอยากกินอะไรเท่าไหร่

พูดจบ ใบหน้าของเธอก็ปรากฏวแดง จึงทำให้ใบหน้าที่เคย

ซีดเซียวของเธอมีสีสันขึ้นมา

ดวงตาของบริศ วาววับ

“ไม่หิวก็ต้องกินนะ เดี๋ยวคราวหลังผมจะโทรบอกแม่ให้ทำ อาหารให้คุณกิน ผมได้ยินมาว่าคุณหมอโพนี่จัดยาให้คุณเป็น เพราะยาหรือเปล่าคุณถึงไม่อยากอาหาร?”

“อืม!”

นรมนตอบอย่างสนๆ จากนั้นก็รีบพูดขึ้นมาว่า “คุณไม่ต้อง โทรหาคุณแม่หรอก ช่วงนี้เธอต้องดูแลทั้งกมลทั้งฉัน คงเหนื่อย มากแน่ๆ ถ้าคุณเป็นห่วงฉัน ก็รีบกลับมาดูแลฉันเองไวๆ ได้ ไหม?”

บริศร์แอบปฏิญาณในใจ ว่ากลับไปครั้งนี้ ไม่ว่ายังไงก็ต้อง ขุนนรมน ให้อ้วนให้ได้

จริงๆแล้วทั้งสองมีเรื่องอยากคุยกันมากมาย แต่กลับไม่รู้ว่า ต้องพูดอะไร จึงทำได้เพียงมองตากันนิ่ง
ทันใดนั้นเสียงของคนทิพย์ก็ดังมาจากข้างนอก

“นรมนล่ะ? นรมนไปไหน?”

นรมนได้สติทันที

ถ้าให้คมทิพย์รู้ว่าตัวเองวิดีโอคอลกับบริศร์ คมทิพย์ต้อง บอกทุกอย่างกับบริศ อย่างไม่สนสิ่งใดแน่ๆ

เธอไม่อยากเป็นภาระของบุริศร์

ในเมื่อได้รู้แล้วว่าเขาไม่เป็นอะไรและสบายดี เธอก็ไม่ต้องการ อะไรแล้ว เรื่องที่เหลือ เธอเชื่อว่าบุริศร์จะกลับมาบอกเธอ

คิดมาถึงตรงนี้ นรมนก็พูดเสียงเบาว่า “ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว ถ้ายังเอาแต่อยู่ในห้องน้ำ คมทิพย์ต้องกังวลแน่ๆ”

“อืม อย่าอยู่ข้างนอกนานนักล่ะ รีบกลับบ้านนะ”

“รู้แล้วน่า”

นโมนไม่อยากตัดสาย แต่เสียงฝีเท้าของคนทิพย์ก็ดังเข้ามา

ใกล้เรื่อยๆ

เธอจึงรีบพูดว่า “ฉันจะรอคุณกลับมา คิดถึงคุณนะ”

พูดจบ นรมน รีบกดวางสาย

มือของเธอ น ตัวของเธอยิ่งสั่น

ความกังวลหลังจากเฝ้ารอมาหลายวัน รวมถึงความโล่งใจที่ ได้รู้ว่าอีกฝ่ายสบายดี วินาทีนี้อารมณ์ต่างๆ ผสมปนเปกันไปหมด และมันก็ทำให้เธอสบายใจในที่สุด

“นรมน แกทําอะไรอยู่?

คมทิพย์เปิดประตูพรวดเข้ามา ก็เห็นนรมนนั่งอยู่บนชักโครก ด้วยใบหน้ายิ้มๆอย่างเหลอหลา

“ไม่ใช่ว่าไม่สบายอีกแล้วนะ?”

คมทิพย์รีบใช้มือองหน้าผากของเธอ เมื่อพบว่าตัวไม่ได้ร้อน และนรมนก็ยังยิ้มอยู่อย่างนั้น คมทิพย์จึงรู้สึกเสียวหนังหัวไป หมด

“นรมน แกไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

“ฉันไม่เป็นไร สบายดีมาก ดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

อารมณ์ของเธอพลันผ่อนคลาย รอยยิ้มสดใสของเธอทำให้ คมทิพย์รู้สึกประหลาดใจ

“ยังจะมาพูดว่าไม่เป็นอะไรอีก? ทำไมไม่ให้พยาบาลพาแก เข้าห้องน้ำ? อีกอย่าง แกนั่งบนชักโครกทั้งๆที่ไม่ถอดกาง เกงเนี่ยนะ เข้าห้องน้ำยังไงของแก? แล้วแต่งตัวแบบนี้คิดจะไป ไหน?”

คมทิพย์เพิ่งสังเกตว่านรมนถอดชุดคนไข้ออก จึงเริ่มขมวดคิ้ว

นรมนกลับพูดยิ้มๆว่า “ไม่มีอะไร ตอนแรกว่าจะเปลี่ยนชุด ออกไปข้างนอก แต่จู่ๆก็อยากเข้าห้องน้ำ พอเข้ามาก็ไม่ได้รู้สึก ปวดหนักเท่าไหร่ ก็เลยนั่งสักพัก แต่คราวนี้เหมือนจะเริ่มปวดแล้ว เพราะงั้นแกออกไปก่อนเถอะ ฉันจะได้จัดการตัวเอง

เมื่อเห็นว่า บรมนูพูดมีเหตุผลน่าฟัง แม้คมทิพย์จะยังสงสัย อยู่ก็ตาม แต่ก็ต้องพยักหน้าไปให้

เมื่อเธอเดินออกไป นรมนกกโทรศัพท์ไว้แน่น

ไม่ได้อยากจะปิดบังคมทิพย์ เพียงแต่ว่าถ้าบุริศร์กำลังมีเรื่อง ลำบากอยู่จริงๆ และถ้าคมทิพย์รู้เรื่องที่บุริศร์วิดีโอคอลมา เธอ คงโมโหขึ้นมาแน่ๆ

ในเมื่อตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ให้บริศร์รู้เรื่องป่วยของตัวเอง เธอ จึงอยากจะปิดบังบริศร์ไปจนกว่าเข้าจะกลับมา

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ นรมนก็รีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อย จาก

นั้นก็ผนังลุกขึ้นยืน แล้วจึงพบว่าเข้าของเธอมีอาการเจ็บ

อย่างรุนแรง

เธอจึงส่งเสียงอื้ออึงออกมาอย่างห้ามไม่ได้ บนหน้าผากก็มี เหงื่อไหลซึมออกมา

อย่าบอกนะ?

เธอก็แค่ล้มเบาๆเอง หรือว่าเธอกลายเป็นคนอ่อนแอไปแล้ว

จริงๆ?

นรมนยิ้มเยาะออกมา พยายามเดินออกไปข้างนอก แต่กลับ ไม่มีเรี่ยวแรงเลย แรงที่มีเพราะได้เจอกับบุริศร์เมื่อกี้ ไม่รู้หาย

ไปไหนหมด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ