แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 685 นรมน เธอโง่หรือ



บทที่ 685 นรมน เธอโง่หรือ

“นรมน เธอต้องเข้มแข็งต่อไป บุริศร์ในตอนนี้เราไม่อยากให้มัน เป็นแบบนี้ แต่มันคือวิธีรักษา ฉันจะติดต่อกับเพื่อนร่วมรบ เพื่อน ในชั้นเรียน ถามทั่วทุกแห่ง และดูว่ามีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถ รักษาบุริศ ได้หรือเปล่า เธออย่าเพิ่งท้อใจ

เมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของนรมน ป้องก็อดไม่ได้ที่จะปลอบ ใจ

ทำไมนรมนถึงจะไม่รู้ว่าป้องหมายถึงอะไร?

ถ้าแม้แต่ป้องไม่สามารถทำอะไรได้ เธอก็ไม่รู้ว่าใครจะ สามารถช่วยบริศร์ได้

“ฉันเข้าใจแล้ว ลำบากพวกคุณมากแล้ว”

แม้ว่านรมนจะเสียใจและปวดใจมากแค่ไหน แต่ยังคงรักษา มารยาทขั้นพื้นฐานอยู่ พูดขอบคุณป้องและแพทย์คนอื่น ๆ

“อย่าพูดแบบนี้ ฉันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ถ้าอย่างนี้โอเคแล้ว ฉัน จะรีบกลับเมืองชลธี เริ่มหาคอนแทคหมอที่มีชื่อเสียงทั้งหมด ถ้า มีข่าวอะไร ฉันจะรีบติดต่อไปนะ”

ป้องก็กระวนกระวายใจ

นรมนพยักหน้า

ทั้งสองแยกจากกัน
นรมนกลับไปที่ห้องICU และมองไปที่บริศร์บนเตียง ในใจเสีย ใจเป็นพิเศษ

เธอกอดบุริศร์และร้องไห้อย่างเงียบๆ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นเช็ด น้ำตา ก่อนจะจับมือของเขา และพูดในใจ “ฉันจะหาทางรักษา คุณ ให้ได้ แน่นอน”

นรมนบอกตัวเองว่าอย่าท้อแท้ ต้องมีความหวัง

เธอจูบอรุณสวัสดิ์แก่บุริศร์ ทันใดข้างนอกก็มีเสียงเคาะประตู งมา

นรมนนิ่งไปนิด ก่อนจะลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อออกมาก็เห็น เวทีสและคนอีกคนอยู่นอกห้อง

เธองงเล็กน้อย

เวทัสพูดอย่างรวดเร็วว่า “คุณนายบุริศร์ ผมมีเรื่องต้องการพูด

กับคุณ”

นรมนพยักหน้า เธอกลัวว่าเสียงจะดังรบกวนบุริศร์ จึงพาเวทั สกับคนอีกคนเดินออกมาที่สวนข้างนอก

“นี่คือ รองนายกเทศมนตรี เจนภพ”

เวทัส แนะนำ หลังจากนั้นจึงพูด “เป็นอย่างนี้ครับ อสังหาริมทรัพย์ของนลินคุณเป็นคนรับช่วงต่อ ตอนนี้ชยนต์คนที่ ร่วมมือกับเธอก็หนีหายไปแล้ว ผ่านคำสารภาพของคนพวกนั้น พวกเราพบว่าชยนต์ทำผิดกฎหมายมามากมาย เบื้องบนมีการ ออกหมายจับ ดังนั้นตอนนี้ทรัพย์สมบัติของชยนต์ได้ถูกอายัดไว้หมดแล้ว ความหมายของรองนายกเทศมนตรีเจนภพคืออยากจะ มาถามคุณนายบุริศร์ ว่าสนใจที่จะมาจัดการอุตสาหกรรมการ ท่องเที่ยวไหม? ถ้าหากคุณสนใจแล้ว ก็นำเงินของชยนต์ไป ชดเชย อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนี้ก็จะกลายเป็นทรัพย์สมบัติ ของคุณนายบุริศร์ อย่างนี้ ในเมืองยังจะให้นโยบายการรักษา พิเศษบางประการ

เมื่อได้ยินสิ่งที่เวทัสพูด ในที่สุดนรมนก็เข้าใจ

ชยนต์ได้หลบหนีไปแล้ว และยังมีคนงานจำนวนมากที่ยังรอ เงินเดือน

เธอมองบุริศร์ที่ยังนอนอยู่บนเตียง ตอนนี้บริศร์ไม่สามารถ ย้ายไปไหนได้ และอาจจะต้องอาศัยอยู่ที่นี่สักพัก ถึงแม้ตระกูล โตเล็กจะมีเงินมากมาย แต่เธอก็ไม่อยากให้ใครอื่นรู้ว่าบุริศร์ เป็นเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นบริษัทฮัวยกรุ๊ปจำกัดจะยุ่งเหยิงอลหม่าน แน่

แต่ถ้าหากเงินค่ารักษาพยาบาลนี้ถูกจ่ายออกไป

หากเธอจ่ายเงินจํานวนนี้ ไม่มีแหล่งเศรษฐกิจก็ไม่ได้

ถึงแม้จะมีห้างGolden Harvest ในเมือง แต่ไม่สามารถเติม

เต็มความต้องการได้

นรมนรู้ว่าเธอต้องพึ่งพาตัวเอง

เมื่อคิดถึงตรงนี้ นรมนก็พยักหน้า และเขียนลงในโทรศัพท์ ของตัวเอง “ได้ ฉันทุ่มเงินก้อนหนึ่งเพื่อลงทุนและจะเข้ามารับช่วงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนี้ แต่ฉันยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับด้านนี้ นัก ยังต้องการความช่วยเหลือจากรองนายกเทศมนตรีเจนภพ”

“นั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว ถ้าหากคุณมารับช่วงจริง แค่เซ็น สัญญากับเมืองเรา พวกเราจะทำให้ดี ใช่ไหม?”

คําพูดของรองนายกเทศมนตรีเจนภพ ทำให้นอนพยักหน้า

ปัญญ์และคมทิพย์กำลังเดินทางไปยังชายแดนจีน – เมียนมาร์ พวกเขาไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ หากดึงเงินทุนจากห้างGolden Harvest ตอนนี้ นรมนไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เธอลังเล ก่อนถาม “ฉันต้องจ่ายเงินเท่าไหร่?”

“ไม่มากครับ สองล้านก็โอเคแล้ว

คำพูดของรองนายกเทศมนตรีเจนภพทำให้นรมนชะงัก สองล้าน?

ถ้าเป็นตระกูลโตเล็ก เงินเล็กน้อยแค่นี้คงไม่สำคัญ แต่ตอนนี้ เธอจ่ายออกมาไม่ได้

“พรุ่งนี้ฉันจะส่งให้คุณ”

“ครับ!”

รองนายกเทศมนตรีเจนภพและเวกัสจากไป นรมนนั่งบนเก้าอี้ในศาลา คิ้วขมวดมุ่น สองล้าน?
ตัวของบุริศร์ไม่รู้ว่ามีสองล้านหรือไม่?

เธอคิดเรื่องนี้ ก่อนจะกลับไปที่โรงพยาบาล

บริศ สวมชุดของโรงพยาบาล นรมนเข้าไปหาหมอ และถาม ว่าเสื้อผ้าตอนที่ส่งตัวบริศร์มาไปอยู่ที่ไหน

คุณหมอพานรมนไปที่ห้องเก็บของ และมอบเสื้อผ้าของบริศร์

ให้กับนรมน

นรมนตรวจสอบ ในเสื้อผ้าไม่ว่าบัตรธนาคารหรือเงินอะไรก็ ไม่มีเลย

“ของของเขาละคะ?”

บรมนถาม

คุณหมอส่ายหัวและพูดว่า “ตอนที่ส่งมาก็ไม่เห็นมีของอะไร ชิ้นเดียวก็ไม่มี พวกเราเคยค้นดูแล้ว ถ้าหากคุณไม่เชื่อ ดูกล้อง วงจรปิดได้ บางทีตอนรถตกจากหน้าผา อาจจะระเบิดหายไป แล้วก็ได้”

หัวใจของนรมนหนักอึ้ง

คนพวกนั้นจะเอาบัตรธนาคารของบุริศร์ไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีรหัสก็ไร้ประโยชน์ แต่บัตรธนาคารบนตัวเขาและเงินละ

นรมนหาไม่เจอ

เธอกลับไปที่วอร์ดของบริศ อย่างไม่มีกำลังใจ

“คุณเอาบัตรธนาคารไปวางไว้ไหนกัน? หรือว่าอยู่ที่โรงแรม?”
นรมนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กลับไปที่โรงแรม แต่ไม่พบ ทรัพย์สินเงินทองของบุริศร์

ดูเหมือนว่ามันจะหายไปจริงๆ

จู่ๆ นรมนก็พบปัญหาที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้น บุริศร์เป็นคนรับผิด ชอบค่าใช้จ่ายของเธอทั้งหมด เธอรีบร้อนออกมาและไม่ได้นำ เงินใดๆออกมาด้วย เงินครั้งก่อนที่ผมทิพย์ให้เธอมาใช้ก็เอาไป ซื้อรถแล้ว เหลืออยู่นิดหน่อยก็เอาให้ค่าอุปกรณ์ติดตั้งกับกิมจิ ถึงแม้อุปกรณ์พวกนั้นจะไม่ได้ใช้ แต่ตอนนี้เธอก็ชักหน้าไม่ถึง หลังแล้ว

ถ้าหากจะเช็คเอาต์ เธอคาดว่าเงินจะเช็คเอาต์ก็คงไม่มี

ทํายังไงดี?

นรมนไม่เคยพบเจอกับสถานการณ์ที่น่าอับอายเช่นนี้

ในเวลานี้ กานต์ก็ได้ส่งคำขอวิดีโอคอลกับเธอมา

นรมหลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่รีบจัดการตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อน กดตอบรับ

“หม่ามี้ กับคุณบุริศร์เป็นยังไงบ้าง? คุณบุริศร์ละ?”

กานต์อยู่บนเตียงในโรงพยาบาล และ กิจจากกำลังปอกส้ม ให้เขาอยู่ข้างๆ ดูเหมือนพี่ชายใหญ่

นรมนแสดงภาษามือพูดออกไป “แด็ดดี้ของลูกออกไปแล้ว คิดถึงเขาหรือ?”
“ผมคิดถึงแม่”

กานต์ปากหวานมาก

จู่ๆนรมนก็หัวเราออกมา

“เด็กดี อยู่บ้านดีๆนะ ลุงปัญญ์ไม่อยู่ อย่าไปก่อเรื่องละ

“เห็นผมเป็นคนชอบก่อเรื่องหรือไง? แต่หม่ามี้ ผมคิดถึงกมล แล้ว ผมรับกมลมาที่นี่ได้ไหมครับ? พอถึงตอนที่หม่ามกลับมากับ คุณบุริศร์ จะได้เห็นพวกเราโอเคกัน หม่ามี้สบายใจเถอะ ผมกับ พี่จะดูแลน้องสาวเป็นอย่างดี

คําพูดของกานต์ทําให้นรมนรู้สึกผิดเล็กน้อย ช่วงนี้เธอยังเสียนลืมเด็กๆ ไปเลย

เมื่อคิดว่ากมลกำลังโดดเดี่ยวอยู่ในเมืองชลธีคนเดียว เธอก็ ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถกลับไปเมืองชลธีได้เมื่อไหร่ จึงพยักหน้า

“โอเค หม่ามี้จะให้คุณอาพฤกษ์ส่งกมลมา แต่พวกลูกต้อง

ดูแลน้องให้ดี รู้ไหม?”

“รู้แล้วหม่ามี้ โอเคครับ ขอให้หม่ามี้และคุณบุริศร์เที่ยวให้ สนุก บ๊ายบ่ายหม่ามี้

กานต์วางวิดีโอไปหลังจากพูดจบ

นรมนยิ้มอย่างขมขื่นให้กับจอโทรศัพท์ที่เปลี่ยนเป็นสีดำ ตอนนี้เธออยู่ในจุดที่จนตรอกเสียแล้ว นรมนนำเครื่องประดับของตัวเองออกมา มองไปยังเครื่องประดับเหล่านั้น นำไปจำนำ ก็ได้เงินไม่พอสองล้าน ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็เท่ากับบอกรองนายก เทศมนตรีเจนภพว่าตอนนี้เธอไม่มีเงิน

มีวิธีไหนบ้าง?

ไม่มีทางจริงๆ ที่ นรมนต้องโทรหาพฤกษ์ แต่น่าเสียดายที่ โทรศัพท์ของพฤกษ์ไม่มีใครรับ

เมื่อนรมนไม่รู้จะทำอย่างไร ก็มีโทรศัพท์ที่ไม่คาดคิด โทรเข้า มา

นรมนมองไปที่หมายเลขแปลกที่ไม่รู้จัก ก่อนจะวางสายไป

ตอนนี้เธอไม่มีกะจิตกะใจจะรับสายคนแปลกหน้า ยิ่งไปกว่า นั้นรับแล้วเธอก็พูดออกมาไม่ได้อีก ยิ่งรู้สึกไม่ดี

แต่หมายเลขนี้ดูเหมือนจะมีความอดทนเป็นพิเศษ ยังคงโทร

มาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

สุดท้ายนรมนก็ถูกทำให้รำคาญ เธอกดรับสายตามอำเภอใจ ทันใดเสียงที่คุ้นเคยก็ดังออกมาจากอีกฝั่ง

“นรมัน มีเรื่องอะไรทำไมถึงไม่บอกผมสักคำ? คุณเห็นผม เจต

ต์ ตายไปแล้วหรือ?”

นรมนตะลึง

เป็นเจตต์?

เธอรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
นานแล้วที่เธอไม่ได้ข่าวคราวจากเจต

ตอนแรกที่เธอถูกคุณนายโตเล็กข่มเหง โดนบังคับให้ออกไป จากเมืองชลธี เธอได้ยินมาว่าเจตต์ไปที่อื่นเพื่อพัฒนาธุรกิจของ เขา ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปที่ไหน และจะไปนานแค่ไหน แม้แต่ พฤกษ์ก็ไม่รู้ที่อยู่ของเจตต์

ตอนนี้เขาดูราวกับเทพจากสวรรค์ที่มาปรากฏ และยังมา ปรากฏในเวลาแบบนี้

นรมนรู้สึกตื่นเต้นเหลือเกิน แต่กลับพูดไม่ออก ร้อนใจเสียจน เหงื่อชุม

“นรมน วางสายผมแล้วไปคุยกันต่อในวีแชท”

เจตต์วางสายหลังจากพูด แต่ในใจอึดอัดเป็นพิเศษ

เขาไม่เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงเมื่อเขาได้รับข่าวร้ายเกี่ยวกับนร มน แต่สายเมื่อตะกี้เขารอนานมาก ไม่รอให้นรมนได้เปิดปากพูด ได้ว่าเรื่องนี้เป็นจริงหรือไม่?

นรมนเป็นใบ้จริงหรือ?

หัวใจของเจตต์ราวถูกมีดเฉือน

ทําไมถึงออกจากเมืองชลธีไปในตอนนั้น?

ทำไมทุกครั้งที่นรมนเกิดเรื่อง เขาถึงไม่อยู่ข้างเธอ?

ทําไม?

เจตต์ตำหนิตัวเอง เมื่อได้ยินเสียง ทิ้ง จากโทรศัพท์ นรมนส่งข้อความมาทางวีแชทแล้ว

เป็นรูปยิ้ม

หน้าอกของงเจตต์ดูเหมือนจะมีอะไรมาปิดกั้น รู้สึกอึดอัดเหลือ เกิน

“ยิ้มยิ้มยิ้ม! เป็นแบบนี้แล้วยังยิ้มออกอีกหรือ? นรมน โง่หรือ ไง? ไม่รู้เรื่องหรือ? คุณถูกคนข่มเหงรังแกจนเป็นแบบนี้ ไม่โทร หาหรือส่งข้อความเลย? อย่ามาบอกผมนะว่าไม่รู้จักเบอร์วีแชท ผม”

เจตต์แทบคลั่งด้วยความโกรธ แต่เกลียดมากกว่าคือตัวเอง

เมื่อได้ยินเสียงคำรามของเจตต์อีกครั้ง ดวงตาของนรมนก็ขึ้น ขึ้นเล็กน้อย

เธอพิมพ์ตอบ “ฉันสบายดี จริงๆนะ นอกจากพูดไม่ได้ ตอนนี้ก็ โอเคดี คุณกลับเมืองชลธีแล้วเหรอ? ธุรกิจไปได้สวยไหม?”

เจตต์รู้สึกอึดอัดมากขึ้น

“ตอนไหน ที่คุณยังนึกถึงผมว่าเป็นอย่างไรบ้าง? นรมน เมื่อ ไหร่คุณจะดูแลตัวเองให้ดีเสียที จะทำให้ผมปวดใจใช่ไหม? บุรี ศร์ละ? นี่เขารักเมียเขาอย่างนี้หรือ? คุณให้เขาออกมา ผมต้อง เขาให้ตายเลยคอยดู

เจตต์พูดด้วยความโกรธ ราวกับมีคนอยู่ข้างๆกาย

หัวใจของนรมนเจ็บปวดเล็กน้อย ก่อนพิมพ์ว่า “ตอนนี้บุริศร์อยู่ในอาการโคม่า หมอบอกว่าไม่สามารถผ่าตัดให้เขาได้ ขนาด ป้องยังหมดหนทาง เจตต์ ฉันกลัวมาก กลัวว่าบุริศร์จะไม่ตื่นขึ้น มา คุณ เรื่องของฉันกับเขาไม่เกี่ยวกัน อย่าไปโทษเขา ฉันจะคุยกับ ให้ละเอียดภายหลัง

“คุณกำลังช่วยเขาอยู่

“เป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้ฉันเจอปัญหา ไม่รู้ว่าคุณจะช่วยฉันได้ ไหม”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ