แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 211 ก็แค่อยากกอดคุณ



บทที่ 211 ก็แค่อยากกอดคุณ

“ว้าก!”

กิจจาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ นรมนรีบ กอดเขาไว้ทันที จากนี้ก็ยิ่งแย่ไป กิจจาเองก็เผลอโอบ กอดนรมนไว้ และทำให้เสื้อผ้าของนรมนยิ่งสกปรก

บุริศร์ที่เห็นฉากนี้เข้าสายหน้าอย่างจนปัญญา ก่อนจะพูดว่า “ฉันกินคนได้ไหม”

“ไม่ได้ครับ”

กิจจากล่าวเสียงเบา

นรมนเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็รู้สึกปวดใจไม่น้อย

“เอาละ คุณทำหน้าแข็งที่อแบบนี้ พวกเด็กๆ พากัน

กลัวหัวหดหมดแล้ว กิจจา บอกหม่ามี้มาสิว่าลูกกำลัง ทำอะไรอยู่กันแน่”

นรมนถลึงตาใส่บุริศร์อย่างไม่พอใจ หลังจากนั้นก็ เอ่ยถามกิจจาเสียงเบา

กิจจาตอบกลับไปว่า “น้องสาวบอกว่าชอบผีเสื้อ มาก แต่ว่าโดนแดดไม่ได้ ก็เลยมักจะต้องคอยมอง ผีเสื้อผ่านทางหน้าต่างอยู่ตลอดเวลา ผมก็เลยอยากจะ จับผีเสื้อมาให้ บางทีเธออาจจะไม่ต้องเจ็บปวด มากมายขนาดนั้นแล้ว”

ทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงอันอ่อนวัยของกิจจา นรมนก็แสบร้อนไปทั่วทั้งจมูก ดวงตาของบุริศร์เองก็เปียกชื้น เล็กน้อย

“เด็กโง่ คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ แล้วก็ถ้าจะ ออกไปไหนลูกก็ต้องบอกหม่ามี้ก่อน รู้ไหมว่าหม่ามี้เป็น ห่วงมากที่ลูกเล่นวิ่งหนีหายไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แบบนี้”

“ขอโทษครับหม่ามี้ คราวหน้าผมจะระวัง”

กิจจานึกขึ้นได้ว่าบุริศร์และนรมนต้องออกมาตา มหาตนเอง จึงรู้สึกไม่ดีสักเท่าไหร่

“ไม่เป็นไร กิจจาของพวกเราเป็นเด็กที่รู้ความมาก ที่สุด กมลออกมาแล้ว แต่ว่ายังไม่ตื่น พวกเราไปดูกมล ด้วยกันดีไหม”

“ดีครับ!”

กิจจารีบยิ้มออกมาอย่างดีใจ

นรมนอุ้มกิจจาไว้ แต่กลับถูกบุริศร์รับไปแทน

“ผมอุ้มเอง ร่างกายของคุณยังไม่ฟื้นฟูดี เจ้าเด็ก นี่เองก็หนักขนาดนั้น”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเดินเองก็ได้”

กิจจาเอ่ยออกมาอย่างรู้ความ ถึงแม้ให้หม่ามี้อุ้มจะ สบายกว่า แต่เขาก็ยังคงตัดสินใจที่จะเดินเองอยู่ดี

“ไม่เป็นไร แด็ดดี้จะอุ้มลูกเอง”

บุริศร์ดึงตัวกิจจาออกมาจากอ้อมกอดของนรมนจากนั้นก็วางเด็กชายไว้บนไหลของเขาแทน

“ย้า!”

น้อยครั้งมากที่กิจจะจะถูกบุริศร์อุ้มขึ้นสูงขนาดนี้ จึงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขทันที

พอเห็นสองพ่อลูกมีความสุขกันแบบนี้แล้ว นรมนก็ คิดถึงกานต์ขึ้นมาทันที

ถ้าหากว่ากานต์ยังอยู่ บางทีอาจจะได้มีความสุข แบบนี้ก็ได้

ประกายแห่งความเจ็บปวดสายหนึ่งพาดผ่าน

นัยน์ตาของนรมน

เธอไม่รู้ว่ากานต์อยู่ที่ไหน ตอนนี้เธออยากรู้ว่า ลูกชายของเธอมีความเป็นอยู่ดีร้ายแค่ไหนจนแทบจะ ทนรอไม่ไหวแล้ว น่าเสียดายที่ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย แม้แต่สักนิดเดียว

คุณนายตระกูลโตเล็กแค่มอบอาณาจักรรัตติกาล ให้เธอ ส่วนที่ว่าต้องทำอะไร หรือคบค้ากับคนพวกไหน เธอไม่รู้อะไรเลยแม่แต่นิดเดียว

หลังจากที่บุริศร์เดินมาได้พักหนึ่ง ก็พบว่านรมนไม่ ได้ตามมาด้วย เขาจึงหยุดเดินด้วยความสับสนงุนงง “เป็นอะไรไป มีเรื่องในใจอย่างนั้นเหรอ”

“เปล่าหรอกค่ะ ฉันก็แค่คิดถึงกานต์”

คำพูดของนรมนทำให้ดวงตาของบุริศร์ปรากฏร่องรอยของความเจ็บปวด

“วางใจเถอะ พวกเราจะต้องหาเขาพบแน่นอน”

นรมนลูบศีรษะของเขา จากนั้นก็เดินกลับไปของ พักฟื้นของกมลพร้อมกับบุริศร์

กมลยังไม่ฟื้น กิจจาบอกว่าจะอย่างไรก็ต้องอยู่ เป็นเพื่อนกมล นรมนกับบุริศร์จึงไม่ได้บังคับเขา

ทั้งสองคนออกมาจากห้องพักฟื้น บุริศร์ตรงไป ห้องพักของแม่บุริศร์

แม่บุริศร์กำลังนอนหลับพักผ่อนอย่างสงบ ความรู้สึกของบุริศร์ในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อ ก่อนมาก

ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิดเขา แต่ เป็นคนที่คอยอบรมสั่งสอนและมอบความอบอุ่นให้กับ เขาตั้งมากมาย สมัยเด็กๆ ตอนที่เขาป่วย เธอก็คอยอยู่ ข้างกายเขาตลอดเวลา อดหลับอดนอนดูแลเขาตลอด ทั้งคืน

เขารู้สึกว่าแม่ค่อนข้างที่จะรักเขา และดูเหมือนว่า จะปฏิบัติกับตรินท์อย่างค่อนข้างที่จะเย็นชา แต่คิดไม่ ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ใช่แม่แท้ๆ ของตนเอง แต่แล้วยังไงล่ะ

ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่บุริศร์ก็รู้สึกขอบคุณที่ เธอคอยดูแลเขาอย่างดีในตลอดหลายปีที่ผ่านมาเทียบกับแผนการระยะยาวที่อยู่ในใจป้าโอแล้ว ท้าย ที่สุดบุริศร์ก็คิดอะไรได้มาก

นรมนไม่รู้ว่าบุริศร์กำลังคิดอะไรอยู่ เธอไม่รู้ด้วย ซ้ำว่าตัวเองควรจะพูดอะไร จึงทำได้เพียงยืนข้างเขา เงียบๆ

บุริศร์กล่าวเสียงเบา “ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร แต่ สำหรับผมแล้วเธอก็ยังเป็นแม่ เป็นคุณย่าของเด็กๆ”

“อื้อ! แม่คือผู้ที่ยิ่งใหญ่”

บุริศร์ไม่ปฏิเสธ

นรมนนึกไปถึงคำสั่งของคุณนายตระกูลโตเล็ก ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาว่า “ฉันขอออกไปข้างนอกแป๊บ หนึ่งนะคะ”

“ได้สิ”

บริศร์ไม่ได้ถามว่าเธอไปไหน เขาเพียงแค่พยัก

หน้า

นรมนรีบออกไปจากห้องพักฟื้นอย่างรวดเร็ว หลัง จากนั้นเธอก็ไปที่ห้องทำงานแพทย์ เพื่อพบหมอประจำ ตัวของคุณนายตระกูลโตเล็ก

“คุณหมอคะ ฉันอยากได้รายงานเรื่องอาการป่วย และรายงานเกี่ยวกับร่างกายของแม่สามีของฉันค่ะ”

“ได้สิครับ”

คุณหมอรู้สถานภาพของนรมนดี จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ชะงักไป จากนั้นก็ส่งรายงานทั้งสองฉบับให้ นรมนทั้งหมด

นรมนอยากจะเอ่ยกำชับคุณหมอต่ออีกสองสาม ประโยค แต่ท้ายที่สุดก็ออกมาจากห้องทำงานโดยไม่ พูดอะไร

ถึงแม้ว่าคุณนายตระกูลโตเล็กจะขอให้เธอ ทำลายและอย่าให้บุริศร์เห็นรายงานสองฉบับนี้ แต่เธอ ไม่อยากให้ผู้หญิงดีๆ อย่างคุณนายตระกูลโตเล็กถูก ป้าโอควบคุมไว้ ท้ายสุดยังต้องมาอดทนอดกลั้นกับ แผนการของป้าโอเพื่อบุริศร์อีก

เธอสามารถที่จะไม่ส่งรายงานพวกนี้ให้บุริศร์ด้วย มือของตัวเองได้ แต่ถ้าบุริศร์ต้องการจะสืบหา เธอก็ไม่ คิดที่จะขวางไม่ให้บุริศร์ได้รู้ความจริง

หลังจากนรมนน้ำรายงานออกมาแล้ว เธอก็ไม่ได้ ทำลายมันทันที แต่เก็บมันไว้ในกระเป๋าเอกสาร และ ซ่อนเอาไว้ข้างในตู้เก็บของส่วนตัว

หลังจากที่ทำทั้งหมดนี้เสร็จ นรมนก็กลับไปที่ห้อง พักฟื้น แต่กลับพบว่าบุริศร์ไม่อยู่ที่นั้นแล้ว

ที่สถานพักฟื้นมีห้องครัวขนาดเล็กอยู่ บุริศร์ตั้งใจ สร้างไว้ให้นรมนโดยเฉพาะ

นรมนมาที่ด้านนอกของห้องครัวเล็กตาที่พฤกษ์ บอกไว้

ห้องครัวมีขนาดไม่ใหญ่มาก มีขนาดประมาณห้องห้องหนึ่ง แต่ว่าอุปกรณ์ครบครัน มีหลายชิ้นที่ยังไม่ แกะห่อออก ราวกับเพิ่งซื้อมาอย่างไรอย่างนั้น

ตอนนี้เองบุริศร์ที่อยู่ด้านในก็ม้วนแขนเสื้อขึ้น เขา กำลังยุ่งมาก

อยู่ๆ นรมนก็รู้สึกว่าภาพนี้ช่างอบอุ่นและสะเทือน ใจเป็นอย่างมาก

แต่ก่อนเธอเคยเป็นผู้ที่ไล่ตามรอยเท้าอยู่ด้านหลัง บุริศร์มาโดยตลอด เธอคอยรอเขากลับบ้าน ทำอาหาร ที่เขาชอบ และเปลี่ยนดอกไม้ให้เขาทุกวัน แต่วันนี้ คุณชายผู้สูงศักดิ์อย่างเขาได้ถอดชุดสูทออก เข้าออก ห้องครัวแบบผู้ชายที่ดีเพียงเพื่อจะทำซุปให้เธอชาม หนึ่ง ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้นรมนซาบซึ้งเป็นอย่างมาก

ผู้หญิงช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนไหวง่ายเสียจริง

พวกเธอมักจะปล่อยให้หัวใจหลุดลอยหายไป เพียงเพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หลังจากนั้นก็ปฏิบัติต่อ ชายคนนั้นอย่างสุดหัวใจ ขอเพียงแค่เขาคุ้มค่าพอที่ เธอจะยอมทุ่มเท

นรมนเปิดประตูเบาๆ แล้วเดินเข้าไป

กลิ่นควันในครัวทำให้เธอคลื่นไส้เล็กน้อย

ถึงแม้ว่าเธอจะทานโจ๊กมาแล้วถ้วยหนึ่ง แต่ ร่างกายของนรมนก็ยังคงมีอาการต่อต้าน เรื่องบาง เรื่องต้องปล่อยให้เป็นไปตามทีละขั้น ไม่สามารถ

เหยียบลงไปในทีเดียว
ทว่านรมนยังคงพยายามอดทนกับความรู้สึก พะอืดพะอม หลังจากที่เดินมาถึงด้านหลังของบุริศร์ เธอก็ค่อยๆ กอดเอวแกร่งของเขาจากด้านหลัง

กลิ่นกายที่คุ้นเคยทำให้บุริศร์ตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็ยิ้มพลางพูดออกมาว่า “คุณมาที่นี่ทำไมกัน”

“มาดูว่าพ่อครัวบุริศร์ของพวกเราจะทำอะไรให้ฉัน กินยังไงละคะ”

นรมนแนบใบหน้าลงบนแผ่นหลังของบุริศร์ รับรู้ ได้ถึงความอบอุ่นและความกว้างใหญ่

บุริศร์วางของที่อยู่ในมือลง จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณออกไปก่อนเถอะ ที่นี่ควันเยอะมาก อย่าปล่อยให้ ตัวเองถูกรมควัน ผมได้ยินมาว่าคุณกินโจ๊กได้แค่ถ้วย เดียว แต่หมอบอกว่าอวัยวะช่วงท้องของคุณต้องค่อยๆ บำรุงอย่าง กลิ่นที่นี่คละคลุ้งมาก คุณทนไม่ไหวหรอก นะ”

“ฉันทนไม่ไหว แล้วคุณทนไหวอย่างนั้นเหรอคะ ประธานใหญ่บุริศร์”

นรมนยังคงไม่ปล่อยบุริศร์

เธอรู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับเด็กคนหนึ่ง อยากจะ เกาะติดบนตัวบุริศร์ไว้ตลอด

ความรู้สึกแบบนี้เหมือนรักแรกอย่างไรอย่างนั้น ทั้งตื่นเต้นดีใจทั้งกลัวว่าอีกฝ่ายจะรังเกียจที่ตัวเอง เกาะติดมากเกินไป
บุริศร์กลับยิ้มแล้วพูดว่า “ที่อยู่ตรงหน้าคุณมีเพียง สามี ไม่มีท่านประธาน

“ฉันไม่เห็นสามีสักคน ฉันเห็นแค่พ่อครัว”

นรมนใช้นิ้วมือวาดวงกลมบนท้องของบุริศร์อย่าง

ซุกซน

ร่างกายของบุริศร์แข็งค้างไปชั่วขณะ

“อย่าซน”

“ซนอะไรกันคะ”

อยู่ๆ นรมนก็รู้สึกสนใจขึ้นมา

คนที่เคร่งขรึมจริงจังหาใดเปรียบอย่างบุริศร์ นอกจากความเร่าร้อนของเขาที่รู้สึกได้ตอนอยู่บน เตียงแล้ว เวลาอื่นเขาก็ยังคงจริงจัง แต่มันกลับทำให้ นรมนอยากซุกซนมากขึ้น

เธอพูดพลางก็สอดมือเล็กๆ เข้าไปในเสื้อของบุริ ศร์ไปพลาง

มือของเธอค่อนข้างเย็น เมื่อสัมผัสลงไปบน ผิวหนัง บุริศร์ก็ชะงักไปเล็กน้อย หลังจากนั้นก็จับมือที่ ซุกซนของเธอไว้แล้วพูดออกมาว่า “หยุดเล่นก่อน ที่นี่ เป็นห้องครัวนะ”

“ก็ฉันไม่มีอะไรทำนี่นา”

นรมนยิ้มอย่างซุกซน คิดจะทำเรื่องชั่วร้ายต่อ แต่ กลับถูกบุริศร์ดึงแขนเอาไว้ หมุนกายพลิกตัวตัวเธอแล้วกดลงไปบนเคาน์เตอร์ครัว

“อำ!”

นรมนรู้สึกแค่ว่าเบื้องหน้ามีแสงวาบ จากนั้นตนเอง กับบุริศร์ก็สลับตำแหน่งกัน และดูเหมือนว่าตอนนี้ลม หายใจของเขาจะกระชั้นขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเรียวยาว คู่สวยเต็มไปด้วยความพร่ามัวและมืดลึก ภายในเต็มไป ด้วยความพลุ่งพล่าน

“คุณคิดจะทำอะไร”

“ไม่ทำอะไร ก็แค่อยากกอดคุณ”

นรมนยกยิ้มหยอกล้อ หลังจากนั้นก็กอดบุริศร์ไว้ แล้วแนบใบหน้าลงบนแผ่นอกของเขา ฟังเสียงหัวใจที่ เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็ยิ้มเหมือนแมวที่ขโมยปลา มาได้

บุริศร์ถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า “อยากทำที่นี่ อย่างนั้นเหรอ”

“อะไรนะคะ”

ความจริงแล้วเธอแค่อยากแกล้งเขาเล่นก็เท่านั้น ไม่ได้คิดจะทำอะไรเสียหน่อย ดังนั้นตอนที่อยู่ๆ บุริศร์ ก็ถามออกมา เธอจึงไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองในทันที

ท่าทางที่ตกตะลึงอย่างน่ารักของเธอ ทำให้บุริศร์ รู้สึกเหมือนถูกแมวข่วนในใจ

จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลงและประกบริมฝีปากของเชอร์รี่โดยตรง

“อื่ม…”

นรมนชะงักไปชั่วขณะ ตอนที่คิดจะขัดขืนก็พบว่า มีอของตัวเองถูกบุริศร์รวบเอาไว้ข้างหลัง แนบอยู่บน เคาน์เตอร์

เธอพยายามดิ้นรน แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับจูบอัน ร้อนแรงของเขา หลังจากนั้นไม่นานเธอก็รู้สึกสับสน เล็กน้อย

บุริศร์จูบอย่างดุเดือดถึงขีดสุด จนแทบจะดูดกลืน นรมนเข้าไปในร่าง

นรมนหอบหายใจอย่างแรง รู้สึกว่าอากาศในปอด ไหลออกอย่างรวดเร็ว ทั้งยังไร้เรี่ยวแรงใดๆ

จูบของบุริศร์ไหลลื่นไม่มีติดขัด

นรมนตัวอ่อนปวกเปียก สองขาอ่อนแรงจนเกือบ จะล้มลงไปบนพื้น

บุริศร์อุ้มเธอขึ้นไปวางไว้บนเคาน์เตอร์ ดวงตา เรียวยาวงดงามคู่นั้นมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ทั้งยังมี ประกายมอมเมา

“ลองไหม”

“อะไรคะ”

ตอนนี้สมองของนรมนว่างเปล่า ทำได้เพียงถาม ออกไปโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นก็พบว่าบุริศร์ใช้แรงกดเธอลง ความรู้สึกร้อนแรงทำให้เธอตระหนักถึงความ หมายของบุริศร์ได้ทันที ใบหน้างดงามเป็นสีแดงเรื่อไป จนถึงลำคอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ