แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1336 มิฉะนั้นฉันเสียสละตัวเองดีไหม



บทที่ 1336 มิฉะนั้นฉันเสียสละตัวเองดีไหม

บริศ ขมวดคิ้วแน่น พูดขึ้น “พวกเราลองคิดว่าตอนนี้เรื่องที่ พวกเราเจอ การขุดค้นสายแร่จะไม่ราบรื่น

จากนั้นก็รายงานทุกอย่างให้ธเนศพลฟัง แม้ว่ารู้ว่าคริชณะจะ ต้องรายงานกับเบื้องบน แต่หัวหน้าโดยตรงก็คือธเนศพล เขา เองก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติ

ธเนศพลได้ยินบุริศร์รายงานก็นอนต่อไม่ได้แล้ว

“ฉันจะไปคุยกับพ่อก่อน ดูท่านจะว่ายังไง มีวิธีอะไรดีๆ มั้ย ตอนนี้คุณอาบุญทิวาทางนั้นนายดูแลให้ดี ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ส่ง กลับมาเมืองหลวง ฉันจะส่งเฮลิคอปเตอร์ไปรับ

ธเนศพลคำนึงถึงปัญหาความปลอดภัยของบุญทิวา ตัดสินใจ ให้บริศร์ระงับแผนขุดสายแร่ชั่วคราว

บุริศร์จึงไม่คัดค้านอะไร

หลังจากวางสาย บุริศร์ก็กลับไปที่ห้องนอน นรมนก็เพิ่งคุย

โทรศัพท์เสร็จเช่นกัน

“ใครโทรมาครับ”

บริศร์ถามออกไปโดย

นรมนตอบเสียงเบา “พี่คริชณะค่ะ เขาบอกว่าเบื้องบนอยาก ให้หยุดขุดสายแร่ชั่วคราว รอหาวิธีที่เหมาะสมได้แล้วค่อยทำต่อตอนนี้มีคนตายมากเกินไป เบื้องบนรู้สึกว่าไม่ควรสูญเสียชีวิต พวกทหารมากอย่างนี้

“ความเห็นเกี่ยวกับคุณชายธเนศพล เขาอาจจะส่ง เฮลิคอปเตอร์มารับคุณอาบุญทิวาไปรักษาที่เมืองหลวง

บุริศร์รู้ว่าคุณอาบุญทิวาสำคัญกับนรมนมาก จึงบอกเรื่องนี้กับ

เธอ

นรมนอึ้งไปนิดหนึ่ง แต่ก็รู้สึกว่าการทำเช่นนี้ดีกับคุณอาบุญ ทิวา

“อย่างนั้นป้าล่ะคะ คุณเล่าเรื่องป้าแล้วยังคะ”

บริศพยักหน้า “คุณชายธเนศพลจะต้องรับนงลักษณ์กลับไป ด้วยแน่ ถึงอย่างไรเธอก็เป็นลูกสาวของคุณตา และยังเป็น ลูกสาวคนเดียวในตอนนี้ คุณตาทำงานหนักทั้งชีวิต พวกเขาไม่ อาจทําร้ายจิตใจคนแก่หรอก”

นรมนกลับพูดขึ้นอย่างกังวล แต่เมื่อป้าถูกรับกลับไปแล้ว คุณอาบุญทิวาก็ถูกพวกเราช่วยออกมา ราเชนก็จะตกอยู่ใน สถานการณ์อันตรายแล้ว

บุริศร์ส่ายหน้า “ถ้าหากสมชัยยังคิดจะควบคุมนงลักษณ์ต่อไป อย่างนั้นเขาจะต้องไว้ชีวิตราเซน มีแต่วิธีนี้ถึงจะได้ข่าวและอื่นๆ ที่ตัวเองต้องการจากนงลักษณ์ เขาคิดว่าแม่ลูกผูกพัน อีกอย่าง ท่าทีของนงลักษณ์ก่อนหน้านี้ก็เป็นห่วงราเชน สมชัยจะต้อง คิดถึงเรื่องนี้”
นรมนยังคงเป็นห่วง แต่เธอรู้ว่าที่บริศรพูดก็จริง แต่จนถึงตอน นี้ก็ยังไม่มั่นใจ

“พวกเราล่ะคะ จะทำอย่างไรดี ตามพวกเขากลับไปมั้ย พวก เรากลับไปแล้วการไล่ฆ่าคุณและการสอบสวนพี่คริชณะจะยุติมั้ย

“คงจะไม่เร็วขนาดนั้น คุณชายธเนศพลรู้เรื่องที่นงลักษณ์เล่า แล้ว ตอนนี้กำลังตรวจสอบผู้หญิงนามสกุลจันทรวงศ์ทุกคนก่อน ที่การตรวจสอบจะเสร็จสิ้น ผมกับพี่คริชณะยังต้องหายตัวไปเพื่อ หลอกศัตรูก่อน”

บริศ อธิบาย นรมนไม่มีอะไรที่ไม่พอใจ ในเมื่อเผชิญเรื่องราว มากมายขนาดนี้ จะต้องนานขึ้นจะเป็นอะไรไป

คิ้วของเธอขมวดแน่น เหมือนกับกำลังครุ่นคิดอะไร

บุริศร์เดินเข้าไป กอดเธอไว้ในอ้อมกอด พูดเสียงอ่อนโยน “ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงราเชน กระทั่งเป็นห่วง โสธร ใช่มั้ย

“อืม”

นรมนไม่ปิดบัง

โสธรหายเงียบไปนาน ที่จริงนรมนกลัวมาก กลัวว่าตัวเองจะ ปกป้องโสธรไม่ได้ กลัวว่าตอนนี้โสธรถูกกล้าณรงค์จับได้แล้ว กลัวว่าสุดท้ายแล้วตัวเองจะได้รับศพของโสธร เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นรมนก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

บุริศร์พูดเสียงแผ่วเบา “ถ้าหากคุณชายธเนศพลไม่มีภารกิจอื่นให้ผมทำ ผมจะพาคุณไปประเทศ ถึงตอนนั้นพวกเรามีความ คับข้องใจและความแค้นอะไรเราจะแก้แค้น ต้องปราบพวกนั้น ให้สิ้นซาก

*ได้หรือคะ”

บรมนเงยหน้าทันใด ดวงตามีแววของความคาดหวัง

บุริศร์ยิ้มพลางพูด “ได้สิครับ ถ้าหากสมชัยกล้าเหิมเกริม กักขังคุณน้าชัญญา อย่างนั้นประเทศเขาก็ใกล้ล่มสลายแล้ว”

“เรื่องนี้สหประชาชาติไม่สนหรือคะ”

“ประเทศ เป็นประเทศเล็กๆ ยังเข้าสหประชาชาติไม่ได้”

บุริศร์เห็นประเด็นนี้ถึงได้คิดที่จะกำจัดพวกทะเยอทะยานกลุ่ม

นี้

นรมนคิดถึงเรื่องที่คุณตาต้องทนกับทุกอย่าง คิดถึงแม่ต้องตา ยอย่างทรมาน คิดถึงครอบครัวของตัวเองและครอบครัวของบุรี

ศร์ถูกเล่นงาน ก็พูดขึ้น “ฉันรอไม่ไหวแล้วค่ะ”

“รออีกหน่อย จะต้องมีข่าวแน่ๆ”

บริศร์ปลอบใจนรมน

สองคนสวมกอดกันครู่หนึ่ง ท้องของนรมนร้องจ๊อกๆ ทำให้เธอเขินอาย

“ดูเหมือนฉันจะหิวแล้ว”

เธอกระซิบเสียงเบา
บริศ ยิ้มมุมปาก

“อืม ผมได้ยินแล้ว

“ได้ยินแล้วยังไม่ไปทำอะไรให้ฉันกิน คุณดูป้าของฉันสิ แต่เช้า ก็ลุกมาทำอาหารให้คุณอาบุญทิวากินแล้ว บุริศร์ คุณไม่รักฉัน แล้วหรือคะ”

นรมนแกล้งทําเป็นน

บุริศร์พูดไม่ออก “ขอร้องล่ะ นั่นคือนงลักษณ์ทำให้คุณอาบุญ ทิวาต่างหาก”

“อ้อ ความหมายคือคุณจะติฉันไม่ใช่เมียที่ดีใช่มั้ย

นรมนมองเขาแวบหนึ่ง บุริศร์รีบแก้ตัว

“ไม่ใช่ๆ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น เป็นความผิดผมเอง ปล่อยให้ที่รักหิวท้องกิ่ว สมควรถูกลงโทษ อย่างนั้นกินข้าวเสร็จ แล้วสามีจะปรนนิบัติอย่างดีเลยดีมั้ย”

สีหน้านโมนพลันแดงจนถึงคอ

“คุณนี่ยิ่งจะทะเล้นใหญ่แล้ว”

เธอพูดพลางผลักบุริศร์ออกไป แต่บุริศร์จับแขนเธอไว้แน่น แล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้ง จากนั้นก็จูบดูดดื่ม

นรมนรู้สึกหงุดหงิด ทำไมเธอถูกจูบอีกแล้ว

แต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืน แต่กลับให้ความร่วมมืออย่างดี
บริศ อยากจะกดตัวเธอลงบนเตียงท่าศึกใหญ่ใจแทบจะขาด แต่นึกถึงภรรยาท้องร้อง เขาจึงอดทนไว้ปล่อยตัวนรมน กระซิบ “ผมทำอะไรให้คุณกินก่อน

“ห้องครัวน่าจะทำอาหารเสร็จแล้ว คุณไปเอามาเถอะค่ะ ฉัน เหนื่อยนิดหน่อย”

นรมนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หมู่นี้รู้สึกว่าอารมณ์ไม่ค่อยดี บริศ พอได้ยินก็ค่อนข้างกังวล

“เดี๋ยวผมจะให้หมอมาดูคุณหน่อย

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ คุณอย่าตื่นตูมไป น่าจะเป็นเพราะครั้งก่อนไม่ ได้รักษาตัวให้ดี ต้องค่อยๆ ฟื้นฟู ช่วงนี้เกิดเรื่องมากมาย ไม่ได้ ดูแลสุขภาพให้ดี

นรมนรู้สภาพร่างกายตัวเอง แต่บุริศร์เป็นกังวลจึงรีบอธิบาย แต่เธอไม่อธิบายยังดี พออธิบายแล้วบุริศร์ยิ่งรู้สึกผิด

“ทั้งหมดเป็นความผิดผมเอง ผมสะเพร่า กิจจากลับไปแล้ว ผม ก็ลืมเรื่องนี้เลย ผมไม่ดีเอง เดี๋ยวผมจะเรียกหมอมาตรวจ จ่ายยา ให้กิน”

นรมนรู้ดีตัวเองถ้าปฏิเสธอีก บุริศร์จะต้องรู้สึกผิดมากแน่ จึง ได้แต่พูดขึ้น “ค่ะ คุณว่ายังไงก็ตามนั้น ฉันฟังคุณค่ะ”

“เด็กดี”

บุริศร์ยี้นิ้วไปลูบจมูกนรมน แล้วค่อยเดินออกไปจากห้อง
นรมนูรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว เธอนอนบนเตียงคิดจะพักสักครู่ แต่นึกไม่ถึงจะผล็อยหลับไป

ตอนที่บุริศร์กลับมาก็เห็นนรมนนอนหลับ ยิ่งรู้สึกเป็นกังวล

เขาเดินย่องเบาไปข้างตัวนรมน จังหน้าผากเธอ รู้สึกว่าไม่ร้อน มากก็ค่อยโล่งใจ

ตอนนี้เขาไม่เรียกนรมนลุกขึ้นกินข้าวก่อน แต่โทรไปหาหมอ

หมอตรวจนรมนแล้ว ก็พูดขึ้น “คุณชายบุริศร์ คุณนายบุริศร์ เลือดลมไม่ดี และยังปรับตัวกับอากาศที่นี่ไม่ค่อยได้ ถึงได้อ่อน ล้าเซื่องซึม ผมสั่งยาให้ดีที่สุดก็คือไปจากที่นี่ เมื่อเกี่ยวกับ ก็ไม่มีทางแก้ไขให้ดีขึ้นได้ครับ”

บุริศร์ได้ยินว่านรมนไม่เป็นไร ก็ค่อยวางใจ

“ครับ เข้าใจแล้ว

ไปส่งหมอแล้ว บุริศร์ยังลังเลจะปลุกนรมนดีมั้ย นรมนก็ถูก ท้องหิวปลุกให้ลืมตาขึ้นก่อน

“เอ๊ะ ฉันหลับไปได้ยังไงเธอรู้สึกงงบุริศร์ยิ้ม “ไม่เป็นไร คุณเพิ่งนอนไปไม่นาน

“เมื่อรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยนรมนลุกขึ้นนั่ง บิดขี้เกียจ
บุรีศร์วางหมอนให้พิงหลัง พูดขึ้น เมื่อวานช่วยคุณอาบุญ ทิวากลับมาคุณตื่นเต้นเกินไป ตลอดคืนหลับไม่สนิท ตอนนี้คุณ อาบุญทิวาไม่เป็นอะไรแล้ว จิตใจคุณผ่อนคลายแล้ว ก็เลยรู้สึก เหนื่อยล้าเป็นธรรมดา”

ได้ยินบริศ อธิบายอย่างนี้ นรมนคิดดูแล้วเหมือนจะเป็นอย่าง นี้จริงๆ เธอยิ้มไร้เดียงสา “เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วฉันนอนชดเชย หน่อยดีมั้ยคะ”

“ดี ผมเป็นเพื่อนคุณ”

ตอนนี้บุริศร์ยังไม่มีอะไรทำ ยังไม่มีข่าวจากทางคุณชายธเนศ พล เขานอนเป็นเพื่อนภรรยาไม่มีปัญหาอะไร

แน่นอนว่านรมนดีใจ ไม่ว่าตอนไหน ขอแค่บุริศร์อยู่เคียงข้าง เธอก็รู้สึกสบายใจเป็นพิเศษ

หลังกินอาหารเช้าแล้ว นรมนกับบุริศร์นอนพักผ่อนในห้อง

นอน บอดี้การ์ดข้างนอกรู้สึกพูดไม่ออก แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร

นงลักษณ์กับบุญทิวาเงียบตลอด ไม่รู้นงลักษณ์กับบุญทิวาคุย อะไรกันบ้าง อย่างไรก็ตามทั้งสองคนอยู่ในความสงบ เหมือนไม่ เคยเกิดอะไรขึ้น

นรมนกับบุริศร์นอนอิ่มแล้วก็ถึงเวลาเที่ยงพอดี บุริศร์มองนร มนดวงตายังขี้เซา ก็ยิ้ม “กินข้าวแล้วนอน ตอนนี้เที่ยงอีกแล้ว อยากกินมื้อเที่ยงมั้ย”

นรมนชะงักนิดหนึ่ง ยิ้มออกมา “ทำไมจู่ๆ ฉันรู้สึกว่าพวกเราสองคนใช้ชีวิตเหมือนหมูจัง

“คุณเหมือนหมูคนเดียวก็พอแล้ว”

บุริศร์บีบจมูกเธอ จากนั้นก็เลิกผ้าห่มลงจากเตียง

แม้ว่าจะแต่งงานกันมาหลายปี นรมนยังคงต้องกลืนน้ำลาย เมื่อเห็นรูปร่างบริศร์

ผู้ชายคนนี้ดูแลตัวเองดีเกินไปหรือเปล่า

รู้สึกได้ถึงสายตาร้อนแรงของนรมน บุริศร์พูดเซ็งๆ “ขึ้นมอง ต่อไปผมจะกลายเป็นหมาป่าจริงๆ แล้ว

นรมนร้องดึงผ้าห่มมาคลุมตัว แล้วหัวเราะแหะๆ “คุณ ใจแข็งลงมือกับคนป่วยได้หรือคะ”

“คุณเป็นคนป่วยใจแข็งยั่วผมอย่างนี้หรือ

บุริศร์ใบหน้าน้อยใจ

นรมนรู้สึกสงสาร

“งั้น เอาอย่างนี้ ไม่อย่างนั้นฉันเสียสละตัวเองก็ได้

บุริศร์โยนเสื้อผ้าข้างๆ ใส่หัวนรมน ไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินไป ห้องน้ำ

นรมนมองไม่เห็น จมูกได้กลิ่นของบุริศร์ นี่มันเสื้อผ้าของเขา

ไม่ถูกสิ

เมื่อกี้บริศร์สายตาอย่างไรกันแน่เธอพูดแล้วว่าจะเสียสละตัวเอง ผู้ชายคนนั้นรังเกียจเธอหรือ ไม่ผิดแน่

นรมนูรู้สึกว่าตัวเองเห็น เธอถูกสามีรังเกียจจริงๆ หรือนี่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ