แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1129 ฉันเชื่อในตัวคุณ



บทที่ 1129 ฉันเชื่อในตัวคุณ

“ตายละ! นี่มันอะไร?”

รมิดาเกือบจะอาเจียน

น่าขยะแขยงมาก

ใบหน้าของบริศร์ก็แย่มากเช่นกัน

กิจจาไม่กล้าที่จะลดละเลยสักนิด เขาหันไปพูดกับนภดลว่า “อานภดล ยังไหวใช่ไหมครับ?”

“ไม่มีปัญหา”

สีหน้าของนภดลซีดเล็กน้อย แต่เพราะว่าได้เห็นเจ้าสิ่งน่า ขนลุกเช่นนี้

เจ้าสิ่งนี้ที่เคยได้ยินมาตลอด แต่ไม่เคยเห็นกับตาตัวเอง ตอน นี้ได้เห็นแล้ว มันทำให้คนอย่างเขากลัวจริงๆ

เมื่อคิดไปว่ามีแมลงตัวน้อยจำนวนมากกำลังดื่มเลือดและกิน ไขกระดูกอยู่ในร่างกายของนรมน ทุกคนก็รู้สึกขนลุกขนพอง

นรมนยังคงอาเจียนเลือดสีดำกองใหญ่ออกมา อาเจียน ราวกับจะเอา ดีออกมาให้หมด

บริศ เจ็บปวด แต่กลับไม่กล้าออกไปหา

หลังจากที่นรมนอาเจียนเลือดสีดำออกมาแล้ว เธอก็หยุด และเลือดบนข้อมือของเธอก็กลับมาเป็นสีแดงปกติ

กิจจารีบกดข้อมือของนรมน และพูดกับนกตลว่า “คุณอา นภดล พอแล้วครับ หยุด”

นภดลรีบห้ามเลือดอย่างรวดเร็ว

ในเวลาเดียวกัน กิจจากหันไปพูดกับบริศร์ที่อยู่ข้างๆ ว่า “แด๊ดดี้ จุดไฟครับ กานต์ปิดฝา”

“โอเค”

กานต์และบุริศร์ทำโดยพร้อมเพรียง ในขณะที่บุริศร์จุดไฟ เขา ก็นำฝามาปิดอ่างกระเบื้อง

มีเสียงดังจากข้างใน ราวกับเสียงย่างบาร์บีคิว แต่มันกลับ ทำให้หัวใจของทุกคนหนักอึ้ง

รมิดารีบนํากล่องยาเข้าไปห้ามเลือดให้นมน

หลังของกิจจาเปียกชุ่ม

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำการผ่าตัด และเป็นครั้งแรกที่เห็นแมลง พิษและหนอนแมลง พูดตามตรงเมื่อกี้เขากลัวมาก ถ้าหากคน ตรงหน้าไม่ใช่นรมน เขาคงไม่กล้าลงมือ

ผ่านไปสิบนาที เสียงข้างในก็พลันหายไป

กิจจานำขวดน้ำส้มสายชูมาหนึ่งขวด ก่อนจะบอกให้กานต์ เปิดฝา และกิจจาก็เทน้ำส้มสายชูทั้งขวดลงไป

ข้างในมีควันสีขาวลอยออกมาพร้อมเสียงซู่ซ่า
ทุกคนมองไปยังด้านใน เหลือเพียงขี้เถ้าในอ่าง

กิจจาไม่กล้าเฉยเมยกับมัน ก่อนจะหันไปพูดกับบุริศร์ “แด๊ดดี้ เจ้าหนอนแมลง มีแม่ของมัน ถ้าร่างกายของหม่ามีคือแมลงตัว ลูก ถ้าอย่างนั้น ในร่างกายของคนที่ใส่แมลงนี้ให้หม่ามี้ต้องมี แมลงตัวแม่แน่นอน ถ้าแมลงลูกตายแม่แมลงจะได้รับการแจ้ง กัด ทางที่ดีเราหาคนที่ใส่แมลงคนนั้น และกำจัดเจ้าหนอนแมลง นี่ให้หมดไปเสียจะดีกว่า”

เมื่อได้ยินคำพูดของกิจจา กานต์และบุริศร์ก็นึกถึงตุลยาทันที

ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้ว

เพื่อที่จะฆ่านรมน ให้ตาย แม้กระทั่งไม่เสียดายชีวิตตัวเองเลย หรือ?

กานต์เห็นความในดวงตาของบุริศร์ เขาพยักหน้าก่อนเดิน

ออกไป

ตอนนี้นโมนเงียบมาก และเธอก็หลับอยู่ แต่สีหน้าก็ยังคงแย่

เพิ่งอาเจียนออกมาเป็นเลือดเยอะขนาดนั้น และไม่รู้ว่าใน ร่างกายยังหลงเหลือพิษอยู่หรือไม่ ป้องตั้งใจจะให้ยาแก้อักเสบ ผ่านทางสายน้ำเกลือ ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย

บุริศร์เห็นด้วย

กิจจาทรุดตัวลงเล็กน้อยหลังจากผ่านเหตุการณ์นี้ บริศ ต้องการให้เขาลงไปพักผ่อน เขาบอกว่าต้องการตามกานต์ไปแมลงพิษตัวแม่ บุริศร์ได้ห้าม

นภดลเสียเลือดจํานวนมาก บุริศร์ให้คนมาช่วยประคองเขา ไปพักผ่อน

หลังจากทุกคนออกแล้ว บุริศร์ก็ดูแลนรมนคนเดียวอย่าง รู้สึกไม่สบายใจ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อเขากลัวจริงๆ

หากไม่มีกิจจาไม่หนังสือบ้าง

จะโดนเจ้าแมลงขาวนั่นหรือไม่

เช่นเดียวพูดตายจริงแล้วไม่อวัยวะล้มเหลว ถูกหนอนแมลง พวกนั้น

เมื่อคิดถึงผลลัพธ์ที่ย่ำแย่ บุริศร์สั่นไปตัว

กิจจา

ของตุลยาโชกด้วยเลือดจากการถูกเฉือนเนื้อ แต่ บริศ ออกสั่งว่าให้ยาช่วยไว้ให้เธอตาย เธอถูก ทรมานทุกเธอแช่ง นรมนบุริศร์และยังสาปแช่งกานต์ด้วยเมื่อเขาก้าวเข้ามา

เมื่อกานต์อดไม่จะยิ้มหยันสาปแช่งเถอะ ได้สาปมีแล้ว
“ฆ่าฉันเถอะ! แม้ฉันจะเป็นผีตายไป ฉันก็จะไม่ปล่อยแกแน่!

ขณะที่ตุลยากำลังพูด เธอก็รู้สึกเจ็บปวดที่ทรวงอก ทันใดเธอก็ อาเจียนออกมาเป็นเลือดสีดำ สีและกลิ่นเหมือนอย่างที่นรมน อาเจียนเมื่อครู่

กิจจารีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อจัดการกับเลือดดำที่ตุลยาคาย

ออกมา

เขาเทกรดกํามะถันในมือลงบนกองเลือดสีดำ สักพักควันสี ขาวก็ออกมา และหนอนตัวสีขาวก็กลายเป็นเถ้าถ่านทันที

เขาไม่กล้าใช้กรดกำมะถันต่อหน้านรมน เพราะกลัวว่าจะมีคน ทำมันหกใส่นรมน โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่คนที่อยู่ข้างหน้าเขาคือ ตุล ยา เขาเลยไม่สนใจ

ตุลยามองดูกองเลือดสีดำของเธอ ราวกับว่ามีอะไรมาก ทรวงอกของเธอ และร่างกายของเธอก็เริ่มสั่นสะท้านเพราะความ เจ็บปวด

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? พวกแกวางยาพิษฉัน? กานต์ แกยังเป็น เด็กอยู่อีกไหม? แกมันคือปีศาจ”

ตุลยาคิดว่าเป็นกานต์ที่วางยาพิษตัวเอง ดังนั้นเธอจึงอดไม่

ได้ที่จะตะโกนออกมา

กานต์พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่ทำเรื่องพรรค์นั้นหรอก หรือ แกไม่รู้ว่าที่แกให้หม่ามฉันมาคือแมลง ตัวแกเองก็โดนคนเอา แมลงตัวแม่ใส่ไว้ในร่างกาย? ขอแค่แมลงพิษในร่างกายแม่ฉันถูกกําจัดออกไป แกก็จะโดนแว้งกัด แค่หม่ามี้ตาย แกก็ต้องตาย ตามเธอไป ตุลยา ไม่ว่าจะเป็นเหย่าหรือกล้าณรงค์ก็ตาม ฉันก็จะ ไม่ปล่อยให้พวกแกมีชีวิตอยู่

ตุลยาตกตะลึง

“นี่พวกแกพูดเรื่องไร้สาระอะไร!

ร่างกายของตุลยาเริ่มไม่ไหวแล้ว

เป็นไปได้อย่างไร?

อรอุรชาพูดชัดเจนแล้วว่าให้ยาแก้พิษกับตัวเองแล้ว และที่ให้ นรมนคือยาพิษ แล้วมันจะมีแมลงตัวแม่นี่ได้ยังไงละ?

แต่เมื่อหลังเกิดเรื่องกับตัวเองขึ้น ดูเหมือนคนของกล้าณรงค์ จะยังไม่มาช่วยเธอ ราวกับลืมเธอไปแล้ว

ในใจของตุลยาเชื่อกานต์ไปมากกว่าครึ่ง

กิจจายิ้มพลางมองไปที่เธอ “แมลงตัวแม่ได้เข้าสู่หัวใจแกแล้ว ไม่มีทางไหนแล้วละอีกไม่เกินชั่วโมงเธอก็จะตายแล้ว

“ไร้สาระ! แกทําให้ฉันกลัว! ไอ้เด็กบ้านออกไปให้พ้นจากหน้า ของฉัน!”

ตุลยาดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง แต่เธอไม่รู้ว่ามันเป็นผลทาง จิตวิทยาของคำพูดของกิจจาหรือเปล่า เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอ เจ็บมากราวกับมีอะไรมากัด เหมือนฉีกขาด และเธอกำลังจะ หายใจไม่ออก
กิจจาส่ายหัว หันไปพูดกับคนด้านข้าง “ไม่จำเป็นต้องทรมาน มันหรอก มันมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ใกล้ ชิดกับแมลงมีพิษนี้ ฉันอยากดูว่าเวลามันเสียชีวิตจะมีเลือดออก จากทวารทั้งเจ็ดตามที่บอกไว้ในหนังสือโบราณไหม ถูกแมลง พิษตัวแม่กัดกินจนตาย”

เมื่อกานต์ได้ยินกิจจาพูดอย่างนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แววตารังเกียจฉายขึ้นมา

“กิจจา นายเรียนจนโง่แล้วเหรอ? นึกไม่ถึงว่าจะชอบดูคน

ทรมานก่อนตาย”

“อืม ในฐานะหมอ นี่เป็นวิชาบังคับ

กิจจาพยักหน้าอย่างจริงจัง

กานต์พูดไม่ออก

“ให้อยู่เป็นเพื่อนไหม?”

“โอเค”

กิจจาไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน

กานต์ให้ลูกน้องของเขาออกไป

ตุลยาเจ็บปวดจนพูดไม่ออก

เธออยากจะขดตัว แต่ทว่าร่างกายของเธอติดอยู่ที่เสา เธอ ทําได้เพียงบิดตัวและขดตัวในท่าที่แปลกประหลาดเท่านั้น

ไม่นานตุลยาก็รู้สึกว่าจมูกของเธอมีเลือดไหลออกมา
กิจจาพูดอย่างแผ่วเบา “เลือดเริ่มออกจากทวารทั้งเจ็ดแล้ว ไม่ คิดว่าจะออกทางจมูกก่อน ฉันต้องจดลงสมุดก่อน

ขณะพูด เขาก็หยิบปากกาและสมุดจดออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ของเขา และเริ่มเขียนอย่างรวดเร็ว

ตุลยาโกรธจนอยากจะบ้า

ถ้าเธอยังมีเรี่ยวแรง เธอจะต้องฆ่าเด็กเหลือขอสองคนนี้ แน่นอน

หรือดูไม่ออกว่าเธอเจ็บปวดมาก? พวกมันยังจดบันทึกอย่าง สบายอกสบายใจอย่างนี้ได้หรือ?

ทันใดกานต์ก็ค้นพบได้ทันทีเลยว่า กิจจามีความสามารถที่จะ ทําให้เขาโกรธตายและไม่ชดเชยอะไรเลย

ใครว่าเด็กคนนี้ไร้เดียงสาและน่ารัก?

ทำไมรู้สึกว่าทุกที่มืดครึ้มขมุกขมัว

กานต์รินน้ำให้ตัวเองและกิจจาคนละแก้ว ก่อนจะส่งให้เขา

“ขอบคุณ”

กิจจารับแก้วน้ำมาอย่างตั้งใจ จากนั้นจึงจิบ แล้วจ้องไปที่ตุล ยาอย่างจริงจัง

ตุลยารู้สึกว่าตัวเองเหมือนหนูในห้องทดลอง อ่อนแอและน่า

อดสู

“ฉันอยากเจอนรมน ฉันอยากเจอบุริศร์! ฉันอยากเจอตาของฉัน!”

ขณะที่ตะโกน ของเหลวอุ่นร้อนก็ไหลทะลักออกมาจากปาก ของเธออีกครั้ง

ความเจ็บปวดนั้นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และมันเจ็บปวดยิ่งกว่า โดนกรีดเนื้อเถือหนัง สติสัมปชัญญะของเธอค่อยๆเลือนราง

เธอยังคงตะโกนว่าอยากเจอนรมนและคุณท่านตนวร แต่ก็ ไม่มีใครสนใจเธอ

หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดดุลยาก็เสียชีวิต เธอมีเลือดออกจากทวารทั้งเจ็ด ร่างกายบวมพองเหมือน ลูกบอล

กานต์ต้องการสัมผัสเธอ แต่ถูกกิจจาห้ามไว้

“อย่าขยับ ถ้านายขยับแมลงตัวแม่ที่อยู่ข้างในจะวิ่งเข้า ร่างกายของนาย และจะเอาร่างนายเป็นตัวพาหะต่อไป”

“ตายละ ร้ายจริง”

กานต์ก้าวถอยหลังออกอย่างรวดเร็ว มองไปยังตุลยาที่ตาย แล้วด้วยความระมัดระวังและถามว่า “แล้วจะทำยังไงกับมัน?”

“แค่ละลายด้วยกรดกำมะถัน เธอหนีไปจากที่นี่ไม่ได้แล้ว ไม่ ว่าใครที่ได้ใกล้ชิดต่างก็จะมีอันตราย เผื่อไว้ เรามาแก้ปัญหากัน เถอะ”

กิจจาพูดเบาๆ
กานต์ไม่ได้พูดอะไร เขาเห็นกิจจานกรดกำมะถันที่เตรียมไว้ ออกมาแล้วเทลงไป

เสียงซู่ซ่าดังขึ้น ที่ใดก็ตามที่กรดกำมะถันเทลงไปก็เกิดควันสี ข่าวลอยคลุ้ง

ร่างกายของตุลยาละลาย และหายไปต่อหน้ากิจจาและกานต์ ด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในท้ายที่สุดก็เหลือเพียง

แอ่งเลือดเท่านั้น

แม้ว่าจะเป็นแค่เลือด กานต์ก็ไม่ปล่อยไป เขาเทแอลกอฮอล์ลง ก่อนจะจุดไฟอีกครั้ง

ตุลยาที่ก่อนหน้าได้พูดด่าสาปแช่งตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นกอง เถ้า แต่เถ้าถ่านกลับเป็นสีดำทั้งหมด

กิจจาหยิบหน้ากากอนามัยและถุงมือ บรรจุขี้เถ้าของตุลยาขึ้น

มา จากนั้นให้คนนำไปฝัง

ตอนนี้ คดีพิษร้ายที่หาคำอธิบายไม่ได้นี้ก็ถูกเปิดเผยในที่สุด กานต์ตบบ่าของกิจจา ยิ้มและพูดว่า “เอาละ พี่ชาย ตอนนี้ นายไม่กลัวอะไรเลยจริงๆสินะ”

“ฉันกำลังเตรียมตัวเป็นหมอในอนาคต”

กิจจาพูดอย่างจริงจัง

“อืม ฉันไม่เชื่อนายหรอก”

กานต์ไม่เชื่อเรื่องนี้ ทั้งสองเดินออกมาจากคุกใต้ดิน
พระอาทิตย์กำลังตกดิน หนึ่งวันกำลังจะผ่านไป แต่สําหรับ พวกเขาในที่สุดก็สบายใจสักที ไม่รู้ว่าตอนนี้นรมนเป็นยังไงบ้าง

ขณะที่กำลังคิด เขาเห็นบริศร์วิ่งลงมาด้วยความตื่นตระหนก พลันทําให้หัวใจของเด็กทั้งสองไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ