แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1155 ความคิดนี้ของคุณตาไม่เลวเลย



บทที่ 1155 ความคิดนี้ของคุณตาไม่เลวเลย

จริงๆ แล้วคุณท่านตนวรมองไม่เห็นท่าทางที่น้อยใจของนรมน จึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ไม่ใช้ความคิดที่ฉันออกให้ดีกว่า ไม่ ว่านรมนอยากจะทำอะไร ก็ให้นาวินไปแทน หลังจากนั้นก็ถ่าย วิดีโอกลับมา ตอนนี้อินเทอร์เน็ตได้รับการพัฒนาขนาดนี้ ไม่ จําเป็นต้องไปดูด้วยตนเองแล้วใช่ไหมล่ะ?”

“ผมคิดว่าความคิดนี้ของคุณตาไม่เลวเลยครับ”

เจตต่เห็นด้วย โดยตรง

ขวัญตาจําเป็นต้องพูดอะไร แน่นอนว่าเธอยืนอยู่ข้างเจตต์ ด้วยอัตราส่วนสามต่อหนึ่ง ต่อให้นรมนยังมีความคิดอะไรอีก ก็ต้องหมดหวังแล้วเหมือนกัน

“งั้นฉันขอพูดกับนาวินสักหน่อยจะได้ไหม?”

นรมนถอยหลังไปแล้วขอร้อง

“ได้ ให้เขาเข้ามาสิ ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ให้เขาเข้ามา

เจตต์ในเวลานี้เป็นคนพูดง่ายมาก นรมนเหลือบมองเขาด้วยสายตาที่ดุร้าย หลังจากนั้นก็โทรศัพท์ให้ยามปล่อยให้นานเข้ามา

ตอนที่นาวินเข้ามา คุณท่านตนวรกับเจตต์ก็อยู่ด้วย

“สวัสดีครับคุณท่านตบุวร สวัสดีครับประธานเจตต์ พี่สะใภ้

นาวินทักทายพวกเขาทีละคนด้วยความสุภาพ

คุณท่านตนวรพยักหน้า จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “นั่งสิ”

“ขอบคุณครับ”

นาวินนั่งตรงข้ามกับคุณท่านตนวร

เจตต์รู้จักนาวิน ก็เลยไม่ได้พูดอะไรมาก เรื่องนี้คงต้องให้คุณ ท่านตนวรออกหน้าพูดเองในตอนนี้

ในขณะที่นรมนกำลังมองดูท่าทางของเจตต์ที่แน่วแน่ที่จะไม่ ให้ตัวเองออกไปจากบ้านเมื่อสักครู่นี้ แต่ตอนนี้กลับแสร้งทำท่า ทางที่สุขุมนุ่มลึกขึ้นมาแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะดูถูกเหยียดหยาม

“พี่ชายของเธอทําดีเพื่อเธอนะ

ขวัญตาพูดกระซิบเบาๆ
“ฉันรู้แล้วว่าเจตต์ของพวกเธอมีความคิดมากที่สุด หล่อที่สุด และเจ๋งที่สุด”

นโมนเยาะเย้ยถากถางด้วยความกลัดกลุ้มใจ

แต่ทว่าขวัญตากลับหัวเราะและพูดออกมาว่า “นั่นมันก็ใช่ เจต ของพวกเราไม่ใช่คนที่มีความสามารถและหล่อหรือไงกัน?”

“แหวะ….”

นรมนแสดงอาการอาเจียนออกมาที่เกินความเป็นจริงออกมา แต่ขวัญตากลับไม่โกรธเลย ในทางตรงกันข้ามนรมนกลับรู้สึก โมโหเหลือจะทนแทน

สองคนนี้โชว์ความรักออกสื่อแบบนี้ มันช่างทรมานใจเกินไป แล้วจริงๆ

เธอคิดถึงบุริศร์ของพวกเธอแล้ว

นรมนกำลังคิดด้วยความรู้สึกกลัดกลุ้มเล็กน้อย

คุณท่านตนวรรู้ความหมายของเจตต์ดี นี่คือบ้านตระกูลพร โสภณ คุณท่านตนวรเป็นเจ้าของบ้าน เขาจึงต้องพูดอะไรออกมา

สักอย่าง

เขากระแอม ในลำคอ แล้วพูดความคิดของเจตต์กับตัวเอง ออกมา
พอนาวินได้ฟัง เขาก็เข้าใจในทันที “ที่คุณท่านพูดหมายความ ว่า ตอนนี้พี่สะใภ้ไม่เหมาะที่จะออกจากบ้านในช่วงนี้เป็นอย่าง มาก เป็นเพราะผมคิดไม่รอบคอบเอง แผนนี้ก็ดีเยี่ยมเหมือนกัน นะครับ ผมจะเปิดวิดีโอตลอดเวลา พี่สะใภ้จะได้รับชมวิดีโอของ ผมได้ทุกย่างก้าวเลย หากคุณมีคำถามอะไร คุณสามารถบอกฉัน ได้”

นาวินกลับค่อนข้างให้ความร่วมมือ

นรมนรู้สึกว่าตัวเองเสียหน้ามาก ใช่หรือไม่?

ถึงอย่างไรเธอก็คือคุณนายบุรีศร์ และเป็นพี่สะใภ้ของนาวิน คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้จะถูกคนควบคุมดูแลเหมือนเด็กคนหนึ่ง ช่างขายขี้หน้ามากจริงๆ

“โอเค คุณรีบไปเถอะ

นรมนจําเป็นต้องเร่งให้นาวินรีบออกไป

ถ้าเขายังอยู่ที่นี่ต่อไป ไม่แน่ว่าคนแก่หนึ่งคนกับชายหนุ่มอีก หนึ่งคนที่อยู่ตรงนี้อาจจะแสดงท่าทีอะไรออกมาให้นาวินได้เห็น อีกเป็นแน่

เธอยังต้องมีหน้ามีตาอยู่โอเคไหม

EQของนาวินไม่ต่ำเลย พอเห็นนรมนพูดเช่นนี้เขาก็เข้าใจใน ทันที เขาจึงลุกขึ้นกล่าวคำอำลาอย่างรวดเร็ว

โตษินออกไปส่งนาวินแล้ว

ส่วนนรมนก็หันหน้าหนีไม่หันไปมองพวกเขาด้วยความ กลัดกลุ้มใจ

เจตต์เองก็ไม่สนใจเช่นกัน และกระซิบกับขวัญตาที่อยู่ข้างๆ ว่า “เมื่อวานพูดว่าอยากจะไปซื้อสิ่งของที่ใช้ในวันปีใหม่สัก หน่อยไม่ใช่เหรอ? ไปตอนนี้เลยไหม?”

“ดีค่ะ”

ขวัญตารีบพยักหน้า ภายในดวงตาก็เต็มไปด้วยฟองแห่ง ความรัก

นรมนรู้สึกอิจฉาเข้าแล้ว

“เฮ้ๆ ๆ พวกนายพูดว่าไม่ให้ออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ไม่ใช่เหรอ? แล้วนี่พวกนายทำอย่างนี้ได้อย่างไรกัน?”

“เราไม่ใช่เป้าหมายของคนร้าย ทำไมเราถึงไม่กล้าออกไป ไหนล่ะ?”

คำพูดนี้ของเจตต์แทงใจดำเธอมาก

นรมนชี้ไปที่เขา แล้วพูดว่านายนายนายอยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็ ทรุดตัวลงบนโซฟาด้วยความหงุดหงิด

“จะไปก็รีบไปเลยนะ อย่ามาโชว์หวานทารุณหมาอยู่ตรงนี้

ขวัญตาอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ แล้วพูดว่า “ที่รัก ที่บ้านของคุณเลี้ยงหมาด้วยเหรอคะ?”

“ขวัญตา!”

นรมนคิดว่าว่าผู้หญิงคนนี้คงขาดคนอบรมสั่งสอนเสียแล้ว

ทันใดนั้นขวัญตาก็ยิ้มแย้มอย่างสวยงาม และถูกเจตต์ดึงเข้า มาอยู่ในอ้อมกอดของเขา แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “อย่าไป โกรธเธอเลย ถ้าเกิดเธอกลับไปออดอ้อนและแสดงความรักกับบุ ริศ บ้าง ตอนที่เราสองคนแต่งงานกันไม่รู้เลยว่าเจ้านายที่คลั่งรัก อย่างบุริศร์คนนั้นจะจัดการกับพวกเรายังไงบ้าง

“เจตต์ นายมันเกินไปแล้วนะ!”

แม้ว่านรมนจะพูดอย่างนั้น แต่ในใจก็มีความสุขมาก

ในที่สุดเจตต์ก็หาหนึ่งเดียวที่อยู่ในใจของเขาเจอแล้ว

เมื่อเห็นเขากับขวัญตาลงเอยกันด้วยดี เต็มไปด้วยความสุข และความชื่นมื่น นรมนก็รู้สึกดีใจมาก

เจตต์พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้เธอเหมือนคนขี้อิจฉาตลอด เวลาเลย อิจฉาจนฟันร่วงไปหมดแล้ว”

“ไสหัวไปเลยนะ!”

นรมนหยิบแอปเปิ้ลสองที่อยู่บนโต๊ะน้ำชาข้างๆ ขึ้นมาแล้ว โยนไปทางเจต

เจตต์รับเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่งแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “โยนมา อีกสักลูก แม่ว่าฉันจะรับมาให้ภรรยากินคนเดียวหนึ่งลูกก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดีก็ต้องมาเป็นคู่ ถูกไหม?”

“หน้าไม่อาย!”

นรมนจึงโยนแอปเปิ้ลไปอีกลูกหนึ่ง

แล้วเจตต์ก็รับเอาไว้อีกครั้ง ยิ้มและพูดว่า “ขอบคุณนะ”

พูดจบเขาก็กัดไปหนึ่งคำและยังเคี้ยวกระทบปากเสียงดังแล้ว พูดว่า “หวานจริงๆ ที่รักลองชิมดูสิ แอปเปิ้ลอร่อยมากเลยนะ คนเก่าคนแก่เคยพูดไว้ว่า กินแอปเปิ้ลวันละลูก จะห่างไกลจาก โรคภัยไข้เจ็บนะ”

“ค่ะ”
ขวัญตาหยิบแอปเปิ้ลของเจตต์มากัดหนึ่งคำแล้วกินลงไป

“อั้ม หวานมากเลยค่ะ มีรสชาติของคุณด้วย

ทันใดนั้น ใบหน้าของเจตต์ก็แดงขึ้นมา

นี่เขาถูกภรรยาเกี้ยวแล้วใช่ไหมเนี่ย?

นรมนเฝ้าดูผู้ชายเจ้าชู้กลายเป็นหนุ่มน้อยต่อหน้าคนที่เขารัก เธอก็รู้สึกอิจฉาจนกลายเป็นคนขี้อิจฉาอีกครั้งไปแล้ว

“พี่โตษิน รีบเอาพวกเขาออกไปเลยนะ เสนียดลูกตาเกินไป แล้ว”

ขวัญตาหัวเราะอย่างมีความสุข แล้วถูกเจตต์อุ้มออกไปจาก บ้านพักตากอากาศแล้ว

“คุณตาหนูก็ไม่สนใจ

นรมนคิดว่าตัวเองไม่ได้รับความโปรดปรานแล้ว

คุณท่านตนุวรจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเขาเป็นสามีภรรยาที่ เพิ่งแต่งานใหม่นะ หลานจะไปอิจฉาเขาทำไม? หลานกับเจ้าหนู ริศร์คนนั้นปกติก็มักจะทำให้ตาอิจฉาน้อยๆ ซะที่ไหนกันล่ะ? น่า สงสารก็แต่ตาอายุเยอะขนาดนี้แล้ว ยังจะต้องมาโดนคู่รักสาด ความหวานใส่ทุกวัน ตาลำบากมากเลยนะ”
ทันใดนั้นนรมนก็ถูกตอกหน้าหงายไปในทันที “คุณตา คุณตาเป็นอย่างนี้ไม่น่ารักเลยนะคะ

“ใช่ไหมล่ะ? ฉันคิดว่าฉันน่ารักมากเลยนะ โดบิน นายคิดว่า ช่วงนี้ฉันไม่น่ารักหรือเปล่า?”

คุณท่านตนุวรมองไปที่โตหินอย่างกับมีเรื่องใหญ่โตอะไร ทํานองนั้น

โตนรู้สึกกดดันมาก

เขาจะพูดออกมาอย่างไรจึงจะไม่ถูกคุณหนูกับเจ้านายลงโทษ

ล่ะเนี่ย?

“เมื่อกี้ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าผมยังจัดการงานรักษาความ ปลอดภัยข้างนอกยังไม่เสร็จครับ”

พูดจบ โตษินก็จากไปราวกับว่าเขาได้หนีไปแล้ว

ทันใดนั้นคุณท่านตนวรก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา

นรมนายหน้าไปมา กลับได้ยินเสียงคำขอใช้งานวิดีโอของ

นาวินที่ส่งเข้ามา

เธอเปิดมันขึ้นมาทันที

นาวินมาถึงร้านซ่อมรถเล็กๆ ร้านนั้นแล้ว แต่ตอนนี้ประตูร้าน ซ่อมรถกลับถูกล็อคเอาไว้อย่างแน่นหนา

“พี่สะใภ้ ตอนที่ผมมาเมื่อวานมันยังไม่ได้ล็อคประตูเลย ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้มันถึงได้ล็อคประตูซะแล้ว” คำพูดของนาวินทำให้นรมนหัวเราะเยาะขึ้นมาเล็กน้อย

เกิดเหตุการณ์ระเบิดที่ใหญ่โตถึงขนาดนี้ อีกฝ่ายสามารถเปิด ประตูออกมาได้สิถึงจะแปลก

ดูเหมือนว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดมาจากร้านซ่อมรถร้านนี้จริงๆ “ลองถามคนรอบข้างดูซิว่ารู้จักเจ้าของร้านซ่อมรถร้านนี้ไหม นรมนบ่นพึมพำอยู่ นาวินจึงเดินตรงไปที่บ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน

“พี่สาวครับ ร้านซ่อมรถที่อยู่ข้างๆ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ? ทำไมถึงไม่เปิดร้าน

เพื่อนบ้านเหลือบมองนาวิน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “พวกเขาไปจากที่นี่ตั้งครอบครัวตั้งแต่เมื่อคืนวานแล้ว

“กลับบ้านเก่าในวันปีใหม่หรือครับ?”

นาวินถามออกมาในทันที
เพื่อนบ้านตอบว่า “ใช่ กลับบ้าน ในวันปีใหม่ นี่ไม่ใช้ปิดจนถึง สิ้นปีเลยมั้ง”

“งั้นคุณรู้ไหมครับว่าบ้านเก่าของพวกเขาอยู่ที่ไหน? หลังปี ใหม่จะกลับมาเมื่อไหร่? รถของผมยังต้องซ่อมต่ออยู่เลยนะครับ”

นาวินหาข้ออ้างได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เพื่อนบ้านส่ายหน้าแล้วพูดว่า “พวกเขาไม่กลับมาแล้ว เขา บอกว่าเขาถูกล็อตเตอรี่ ก็เลยไม่ซ่อมรถแล้ว เมื่อวานตอนเย็น เขาจ่ายค่าเช่าร้านไปหมดแล้ว กลางดึกก็เลยออกไปกันทั้ง ครอบครัวแล้ว”

นรมนที่กำลังฟังคำพูดของเพื่อนบ้านในวิดีโออยู่ทางด้านนี้ก็ ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

“นาวิน ถามชื่อเจ้าของร้านคนนั้นให้หน่อย จากนั้นก็ไปตรวจ

สอบการแลกเปลี่ยนเงินทุนล่าสุดของเขาดูด้วยนะ”

“ครับ”

นาวินทำตามวิธีที่นรมนบอก

เขารู้ได้อย่างรวดเร็วว่าเจ้าของร้านซ่อมรถชื่อโชกุน เขาเป็น คนที่มาจากปราสาท

นาวินตรวจสอบข้อมูลนี้ดูอีกสักหน่อย ก่อนหน้านี้ไม่นาน โชกุนได้รับเงินจํานวนมหาศาลถึงสามล้านหยวน และเมื่อวันก่อนลูกชายก็ได้จัดการขั้นตอนการไป เรียนต่างประเทศเสร็จสิ้นแล้ว

การโอนเงินจำนวนสามล้านหยวนนี้มาจากกลุ่มนายทุนต่าง

ประเทศที่ไม่รู้จักชื่อ แต่ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาถูกล็อตเตอรี่อย่าง ที่เพื่อนบ้านบอกเอาไว้อย่างแน่นอน ในเวลานี้นาวินเองก็รู้ตัวอย่างชัดเจนแล้วว่าตัวเองได้ถูกคน

อื่นใช้ประโยชน์แล้วเช่นกัน

บางทีที่เครื่องยนต์ของรถตัวเองเกิดปัญหาขึ้นก็อาจจะเป็นกล ลวงหนึ่งเช่นกัน และบางทีอาจจะเป็นเพราะนิสัยมัธยัสถ์ของเขา ด้วย คนร้ายจึงใช้ประโยชน์จากการที่เขามาสอบถามปัญหา เรื่องซ่อมรถ แล้วเอาระเบิดเวลาไปติดตั้งไว้ในรถของตระกูลโต เล็กตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

พอคิดถึงตรงนี้ นาวินก็รู้สึกผิดจะแย่แล้ว

“พี่สะใภ้ ดูเหมือนจะเป็นความประมาทเลินเล่อของผมเอง คุณ ตำหนิผมเถอะ”

นาวินก็เป็นคนหน้ารักคนหนึ่งเลยทีเดียว

นรมนยิ้มและพูดว่า “ฉันจะตำหนิคุณทำไม? คุณไม่ได้เป็นคน ทำสักหน่อย ลองตรวจสอบโชกุนคนนี้ดูหน่อยก็แล้วกัน”
“โอเคครับ”

หลังจากวางสายวิดีโอแล้ว นรมนก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ตรวจสอบไปตรวจสอบมาก็มีคนใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกคน คนใหม่ คนนี้คือใครกันนะ?

คนของกล้าณรงค์หรือเปล่า?

กล้าณรงค์ยังคงทำให้คนเกลียดได้อีกจริงๆ

แม้ว่าจะไม่เคยพบหน้ากัน แต่ก็ถูกเขาปองร้ายและหมายหัว มาตลอดเลย นรมนรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองยังไม่ได้รับผลการตรวจ

วินิจฉัยความเป็นพ่อลูกของกล้าณรงค์กับแพรวาเลย

พอคิดถึงตรงนี้ นรมนก็โทรศัพท์ไปหาราเชนโดยตรง ราเชนที่อยู่ทางนั้น ใช้เวลานานมากกว่าจะรับสาย แต่เสียงที่ อยู่ทางนั้นก็อึกทึกคึกโครมอยู่บ้าง

“เกิดอะไรขึ้น?”

นรมนถามด้วยความเป็นห่วง

ราเชนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ไม่มีอะไร เพิ่งทำลายฐาน ข้อมูลของไอ้สามไปนะ
สงครามระหว่างเขากับองค์ชายสามทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และเรื่อยมาจนถึงขึ้นที่รุนแรงที่สุดแล้ว

นรมนจึงพูดออกไปด้วยความไม่สบายใจ พ่อของพวกเขา ซึ่ง ก็คือพระราชาของประเทศ F เห็นลูกชายทั้งสองคนรบกันเป็น พัลวันเช่นนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะอยู่เฉยๆ ได้ คนที่ด้านซาเช่นนี้ ไม่มีใครจะเป็นเหมือนเขาได้อีกแล้ว

“พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?

นรมนถามขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกของตัวเอง

ในตอนนี้เธอพอจะเข้าใจสาเหตุที่ราเชนขาดความรักแล้ว

แม่ผู้ให้กำเนิดได้แกล้งตายจากเขาไปตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนพ่อผู้ ให้กำเนิดของเขาก็ไม่แม้แต่จะไถ่ถามว่าเขาจะเป็นหรือตาย ขณะ ที่เห็นพวกเขาพี่น้องโหดเหี้ยมทารุณต่อกันอยู่ เด็กที่โตมาใน สถานการณ์เช่นนี้ จิตใจไม่บิดเบี้ยวก็ถือว่าเป็นโชคดีอย่างยิ่ง แล้ว

และเขาก็ยังเป็นญาติผู้พี่ของตัวเอง ด้วยเหตุนี้ นรมนจึงคิดว่า ตัวเองควรใส่ใจเขาหน่อย

ราเชนที่อยู่ทางนั้นยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันไม่เป็นอะไร เธอวางใจ เถอะ ทีเธอ โทรมาเพื่อต้องการรายงานผลการตรวจความเป็นพ่อลูกของกล้าณรงค์กับแพรวา ใช่ไหม?”

“ใช่”

นรมนไม่ได้พูดอะไรอีกและยอมรับออกไปตรงๆ

“เธอรอเดี๋ยวนะ ฉันจะส่งข้อมูลให้เธอ เธอดูเอาเองเถอะ

“ได้ค่ะ”

นรมนพยักหน้าไปมา

ทันใดนั้นราเชนก็ถามขึ้นมาว่า “เมืองชลธีหิมะตกแล้วหรือ ยัง?”

“ตกแล้วค่ะ แต่ไม่หนัก ทำไมหรือคะ? พี่อยากมาดูหิมะเหรอ?”

ความจริงแล้วนรมนยังคงหวังว่าเขาจะสามารถกลับมาในวัน ปีใหม่ได้ แต่แน่นอนว่าเงื่อนไขแรกก็คือเขาไม่อาจนำความ ลำบากใจมาให้คุณท่านตนวรได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ