แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 785 เจ้านี้กำลังโม้อยู่



บทที่ 785 เจ้านี้กำลังโม้อยู่

นรมนกับบริศร์มาถึงร้านขนมหวาน มองเห็นวัยรุ่นเป็นคู่ ๆ กำลัง นั่งรับประทานขนมหวานอยู่ด้านใน นรมนรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย เธอดึงแขนเสื้อของบริศร์ กระซิบว่า “หรือว่าพวกเราจะลืม

มันไปเถอะ คุณดูที่นี่สิ มีแต่วัยรุ่นอายุสิบแปดสิบเก้า และยี่สิบต้น ๆ พวกเรามากินของหวานที่นี่มันจะเข้าท่าเหรอ?

บุริศร์มองไปรอบ ๆ กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณก็ไม่ได้แก่ ៗ นะ? พวกเราก็อายุยี่สิบกว่า ยังไม่ถึงสามสิบเลย?

นรมนหัวเราะขึ้นทันที

“หน้าไม่อาย เกือบจะสามสิบแล้ว ยังจะทำตัวแอ๊บแบ๊วอีก”

อย่างไรเสียก็ยังไม่ถึงสามสิบ และอีกอย่าง พวกเราไม่พูด แล้วพวกเขาจะรู้อายุของพวกเราได้อย่างไร? คุณดูคุณสิ ยังสาว ยังสวยแบบนี้ ส่วนผม หน้าตาหล่อเหลาสง่าผ่าเผย นั่งด้วยกันดู เหมาะสมกันดี อายุเท่าไหร่ไม่ใช่ปัญหา ถ้าคุณไม่สบอารมณ์จริง ผมจะเหมาที่นี่เลย ไม่ต้องซื้ออีกแล้ว”

“อย่า ๆ ๆ คุณอย่าทำแบบนั้นนะ ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบ นั้นซะหน่อย นั่งกินกับทุกคนบรรยากาศก็ค่อนข้างดีนะ คุณอย่า ทำให้ฉันเหมือนพวกเศรษฐีใหม่สิ ฉันรับไม่ได้นะ”

นรมนได้ยินว่าบุริศร์ต้องการจะเหมาที่นี่ จึงรู้สึกตื่นตระหนก ทันที
“งั้นพวกเราจะเข้าไปไหม? จะกินหรือไม่กิน? ”

บริศ มองนรมน เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

นรมนรู้สึกว่าเขาจงใจแน่นอน

“บุริศร์ ตอนนี้ทำไมคุณถึงได้กลายเป็นคนพูดจาไม่จริงจังและ พูดจาลื่นไหลแบบนี้? ใครสอนคุณเนี่ย?

“สำหรับภรรยา เพื่อทำให้ภรรยามีความสุข นั่นไม่ใช่สิ่งที่สามี ควรจะทำเหรอ? พูดจาไม่จริงจังและพูดจาลื่นไหลอะไรนั่น ไม่มี หรอก! ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ผมพูดออกมาจากใจ

“เหอะ! คุณไม่ต้องพูดแล้ว ยิ่งคุณพูดอีก ฉันกินไม่ลงจริง ๆ

นรมนรู้สึกว่าอารมณ์ที่หดหูดีขึ้นเยอะมาก เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ทำตัวหน้าด้านเดินเข้าไปกับบุริศร์

เมื่อสักครู่ยังกังวลว่าคนอื่นจะมองเห็นตนเองอายุขนาดนี้เข้า มาในร้านขนมหวานจนรู้สึกอาย แต่หลังจากเข้ามานรมนก็พบว่า ที่นี่ไม่มีใครสนใจเธอเลย

บุริศร์พานรมนมานั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่าง

พนักงานรีบเข้ามาทันที

“สวัสดีค่ะ ทั้งสองท่านต้องการรับประทานอะไรดีคะ “ขอโดนัทสองชิ้น แล้วก็บานาน่าสปรินที่หนึ่ง แล้วก็……

บุริศร์พูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกนรมนห้ามไว้ทันที
“ขอโทษด้วยค่ะ ผู้ชายของฉันสั่งเยอะไปแล้ว ขอบานาน่าสปริ นให้ฉันที่หนึ่งก็พอ”

“ได้ค่ะ คุณผู้หญิง กรุณารอสักครู่นะคะ”

พนักงานจากไปด้วยรอยยิ้มบาง ๆ

บุรีศร์มองนรมน กล่าวด้วยรอยยิ้ม “บานาน่าสปรินถ้วย เดียวน้อยจะตาย ลูกสาวของคุณกินไม่พอ

“ฉันไม่ใช่กมลซะหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเดี๋ยวจะต้องกลับ ไปกินข้าว ฉันรับปากอาสามแล้วว่าจะกลับไปกินข้าวด้วย”

คำพูดของนรมนทำให้บริศร์นิ่งไปชั่วคราว

“ทำไมผมรู้สึกว่าตอนนี้พวกเราสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์ เป็นสามีภรรยากัน เหมือนยังไม่ได้แต่งงาน? คุณต้องกลับบ้าน ทานข้าวทุกวันเลยเหรอ? แล้วผมที่เป็นสามีคนนี้จะทำ อย่างไร? ”

ในคําพูดของบริศ มีความแง่งอน

นรมนหัวเราะขึ้นมาทันที

“ทำไมฉันฟังแล้วรู้สึกว่ามีความหึงด้วย มาจากไหนนะ? ” “นรมน คุณไม่สนใจผมมานานเกินไปแล้วผมจะบอกให้

บริศร์ประท้วงอย่างจริงจัง

นรมนถูกพูดแบบนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจ ดูเหมือนช่วงนี้เพื่อการ ออกแบบแปลน จึงละเลยบุริศร์จริง ๆ
“คุณไม่ได้พูดว่าต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้ตระกูลโต เล็กหรือไง? นี่ฉันไม่ได้ให้เวลาคุณเหรอ? ”

“ให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ ผมเห็นคุณพาลูก ๆ ไปที่ตระกูลทวี ทรัพย์ธาดามีความสุขจนลืมบ้านตัวเอง”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนไม่อาจโต้แย้งได้

ช่วงนี้ที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ธรรศกับธรณีดูแลเด็กทั้งสองคน ดีมาก ส่วนเธอก็ตั้งใจออกแบบแปลน และยังรู้สึกค่อนข้างผ่อน คลายจริง ๆ

“ขอโทษด้วยนะ ที่ฉันไม่ได้พยายามทำหน้าที่ภรรยาอย่างเต็ม ที่ เอาแบบนี้ดีไหม? เดี๋ยวไปซื้อกับข้าวที่ซูเปอร์มาเก็ตสักหน่อย

ฉันกลับไปจะทําอาหารให้คุณทานดีไหม? ” คำพูดของนรมนทำให้แววตาของบุริศร์เป็นประกายขึ้นมา

“ถ้างั้นคืนนี้ไม่ต้องกลับไป ถึงอย่างไรลูก ๆ ก็มีอาสามคอย ดูแล พวกเราใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองคนดีไหม? ”

ใบหน้าของนรมนแดงขึ้นมาทันที และรีบปิดปากของบุริศร์ อย่างรวดเร็ว หันไปมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจ พวกเขา ถึงจะถอนหายใจอย่างโล่งอก

“คุณอยู่ข้างนอกช่วยพูดจาแฝงความหมายหน่อยได้ไหม? ” นรมนแกล้งทำเป็นถลึงตาใส่บุริศร์

บริศร์กล่าวอย่างน้อยใจ : “นี่ผมยังไม่ได้พูดแฝงความหมายอีกเหรอ ? คุณยังไม่เคยเห็นการพูดอย่างโจ่งแจ้ง หรือพวกเรา สองคนจะลองดูไหมล่ะ? ”

“อย่านะ! ฉันยังอยากออกไปพบเจอผู้คนอยู่

นรมนหน้าแดงไปเรียบร้อย

บุริศร์เห็นท่าทางน่ารักของเธอเช่นนี้ อดใจเต้นเล็กน้อยไม่ได้ ขยับตัวไปด้านหน้า ส่งจูบให้นรมนหนึ่งที

นรมนหน้าตึงทันที

“คุณอย่าโวยวาย”

“ได้ พวกเรากลับไปทะเลาะกันที่บ้าน

ในขณะที่กำลังพูด พนักงานก็นำบานาน่าสปรินมาเสิร์ฟ

นรมนนึกถึงคำพูดเมื่อสักครู่ของบุริศร์ และมองดูบานาน่าสปริ นตรงหน้า ทันใดนั้นไม่รู้ว่าจะกินลงไปอย่างไร

“อันนี้ฉันไม่กินแล้ว”

“ไม่เป็นไรหรอก กินสักหน่อย ค่อนข้างอร่อยเลยนะ”

บุริศร์ใช้ช้อนตักคำเล็ก ๆ ส่งมาที่ปากของนรมน

นรมนไม่ได้ถูกคนป้อนแบบนี้มานานหลายปีแล้ว จึงอดเขิน อายไม่ได้

“ฉันกินเองได้”

นรมนรีบแย่งซ้อนในมือของบุริศร์ เพียงแต่แววตาที่บุริศร์มองตนเองกินนั้นช่างอบอุ่น ทำให้นรมนยิ่งกินไม่ลง

“ช่างเถอะ พวกเราไปซูเปอร์มาเก็ตซื้อกับข้าวเถอะ

“อารมณ์ดีขึ้นแล้วเหรอ? ”

“ดีแล้ว ๆ ไม่เป็นไรแล้ว

ในตอนนั้นรมนจะกล้าพูดว่าตนเองอารมณ์ไม่ดีได้อีกที่ไหน? นี่ไม่ใช่การหาเรื่องละเมิดหรือไง?

บุริศร์กลับหัวเราะคิกคัก มองดูนรมนโทรไปขอลากับธรรม บอกว่าคืนนี้จะไม่กลับไป

ธรรศยังคงพูดเรื่อยเปื่อยจริง ๆ เมื่อรู้ว่าเธอจะกลับบ้านกับบุรี ศร์ก็ยังกำชับหลายเรื่อง บุริศร์ได้ยินจึงกดวางสาย

“เอ๋ คุณนี่ไม่มีมารยาทเลยนะ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คืออาสาม

ของฉัน”

“พอได้แล้ว ขืนฟังต่อไปฟ้าสว่างพอดีไปเถอะไป ซูเปอร์มาเก็ตกัน”

บุริศร์จูงมือนรมนเดินไปที่ซูเปอร์มาเก็ตที่อยู่ไม่ไกลออกไป

ทั้งสองคนซื้อวัตถุดิบเล็กน้อย กลับไปทำอาหารเย็นด้วยความ รัก จากนั้นใช้เวลาด้วยกันอย่างหวานชื่น

เมื่อแสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง นรมนยังคง หลับใหล ส่วนบุริศร์ตื่นขึ้นแล้ว

เขาเตรียมอาหารให้นรมนเล็กน้อย ใส่ไว้ในหม้อ มอบหมายงาน ให้ป้าอ้อยประโยคสองประโยค แล้วจึงออกจากบ้าน วันนี้เขายังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ

บุริศร์คิดว่าต้องรีบจัดการเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว และพาภรรยา กับลูกกลับมา ไม่อย่างนั้นเขาใกล้จะกลายเป็นพระไปแล้ว ถึงแม้ เมื่อคืนจะเริ่มได้ทานของคาว แต่การที่ได้อยู่ร่วมกันหนึ่งครั้งใน รอบครึ่งเดือนสิบวันมันไม่ง่ายเลยที่จะปลูกฝังความสัมพันธ์ของ สามีภรรยาและพ่อแม่ลูก

“ไม่ต้องปลุกเธอ ให้เธอนอนเต็มที่ ช่วงนี้การออกแบบแปลน ให้เสร็จสมบูรณ์เดาว่าคงจะค่อนข้างเหนื่อย รอเธอตื่นขึ้นมาค่อย ให้เธอกินร้อน ๆ ”

บริศ มอบหมายงาน

ป้าอ้อยพยักหน้า

เมื่อเขาขับรถออกจากบ้าน กลับมองเห็นเจตต์ที่ประตู

“เช้าขนาดนี้ นายมานั่งยอง ๆ อยู่ตรงประตูบ้านของฉัน ทําไม? ”

บริศ เห็นสีหน้าของเจตต์ซีดเซียว จึงไม่ได้ดูถูกเขา

เจตต์มองเห็นบริศร์ออกมา จึงมองเข้าไปด้านใน ถึงจะตอบ ว่า “เมื่อวานฉันพูดจาแรงไปหน่อย เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ”

“จะไม่เป็นไรได้อย่างไร? ด่าเมียของฉันจนร้องไห้ นี่ยังเรียก ว่าไม่เป็นไรเหรอ? ”
“อะไรนะ? ร้องไห้เหรอ? ฉันจะเข้าไปดู เจตต์บอกว่าจะเข้าไป กลับถูกบุริศร์ดึงข้อมือเอาไว้

“หลับอยู่ นายเข้าไปจะเหมาะสมเหรอ? ”

“งั้นอะไร ? ขึ้นรถ ไปหาอะไรกินกัน ดูจากท่าทางของนาย เดา ว่ายังไม่ได้กินข้าวเช้าใช่ไหม?

คำพูดของบุริศร์ทำให้เจตต์ยิ้มอย่างขมขื่นขึ้นมา

“ยังจะกินข้าวเช้าเหรอ? ฉันยังจะกินลงอีกเหรอ ไม่กินมัน แล้วข้าวเช้า ฉันขอขึ้นไปนั่งบนรถนายสักพัก ข้างนอกหนาว มาก”

ในขณะที่พูด เจตต์ก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ

บุริศรีบเปิดฮีตเตอร์

เขามองเจตต์ ถอนหายใจและกล่าวว่า “ถึงขนาดนี้เลยเห รอ? เพื่อการวางแผนนายรังแกผู้หญิงของนายและทรมานตัวเอง แบบนี้ แถมยังด่านรมนจนร้องไห้ เป็นไงล่ะ? นายรักนิตาจริง ไหม?

“มันไม่ใช่ความรักจริง ๆ แค่ค่อนข้างรู้สึกไม่สบายใจ บุริศร์ นายรู้ใช่ไหม? ฉันคนนี้ แต่ไหนแต่ไรไม่ชอบติดค้างคนอื่น ตอน นี้นิตาเอาชีวิตของตัวเองมาทำแบบนี้กับฉัน ฉันก็……

“ไม่ต้องพูดยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เธอมีชีวิตอยู่ได้แค่ไม่กี่วัน หรือพูดอีกอย่าง การนรมนูเห็นด้วยเธอทำสมหวัง นายคิดดูนะ นิตาเจ็บปวดมาก เธอถูกหมอเธอก็ได้ปรารถนาจะรอด น้ำที่น่าคิด อยากทําอะไรให้นายสักหน่อยก่อนตาย ขจัดอุปสรรคให้นาย บ้าง คือความ”

คำพูดของบุริศร์ทำให้เจตต์รีบพยักหน้า

“ฉันเข้าใจ และฉันก็รู้ว่านรมนไม่ใช่คนไม่ดี ตอนนั้นอารมณ์ แปรปวน ได้คิดรอบคอบถึงตรง

อย่าง

ภรรยาคงไม่ได้ด้วยกันหนึ่งอย่างมีความ

เจตต์มองบุริศร์ รู้สึก

“บุริศร์ นายสนุกไหม?

“สนุก สนุกมาก จะบอกให้นะ ตอนนี้ฉันคาดหวังให้ นายไม่ดี

“ไปไกล ๆ เลย”

เจตต์ด่าบุริศร์ไปหนึ่งคำ จากนั้นมือออกไป “ขอบุหรี่สัก มวนพอดีรีบออกมา ได้พกมาด้วย”

“ช่วงนี้ฉันแล้ว นรมนไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ ฉันตั้งใจจะสามีที่ดี”

สายตาที่เจตต์มองบุริศร์ในครั้งนี้มีความเฉียบคม แต่บุริศร์ไม่

สนใจ

“เลิกจริง ๆ ”

“น่าเบื่อ”

เจตต์พูดไปพร้อมกับจะลงจากรถ กลับถูกบุริศร์เรียกเอาไว้

“เฮ้ อยากให้ฉันช่วยเรื่องงานศพของนิตาไหม? ”

“ไม่เป็นไร ฉันจัดการเองได้ สิ่งสำคัญคือต้องตามหาโสธร ให้ เจอก่อน ฉันจําได้ว่านิตาบอกตำแหน่งที่อยู่ของโสธรกับนรมน เอาไว้ ถึงตอนนั้นพวกเราจะไปที่นั่น”

คำพูดของเจตต์ทำให้บริศร์รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที

“ฉันขอเตือนนายไว้นะถ้านายทำให้เมียของฉันร้องไห้อีก ฉัน ไม่สนว่านายกับเธอจะเป็นญาติอะไรกัน ฉันจะกระทืบนายเหมือน เดิมได้ยินไหม? ”

“เข้าใจแล้ว พูดเหมือนฉันอยากเห็นเธอร้องไห้”

เจตต์พูดจบก็ลงจากรถ และกระแทกประตูปิดลง แต่เมื่อเงย หน้าขึ้นมากลับมองเห็นรถที่คุ้นเคยขับเขามา

รถคันนั้นจอดลงตรงหน้ารถของบุริศร์ คนที่ลงมาจากรถทำให้ เจตต์สีหน้าเปลี่ยนทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ