แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1257 จิตใจของเขาไม่เจ็บปวดเหรอ?



บทที่ 1257 จิตใจของเขาไม่เจ็บปวดเหรอ?

ใจของนรมนหล่นตุ๊บขึ้นมาทีหนึ่ง แล้วก็รีบตรวจเช็กดูสัก หน่อย ถึงพบว่าบริศร์ได้หมดสติไปแล้ว

เขาเป็นคนที่มีจิตใจแข็งแกร่งมากคนหนึ่ง ถึงแม้จะอยู่ภายใต้ การโดนหนอนพิษทองคำควบคุมอยู่แต่ก็ยังสามารถควบคุม อารมณ์ของตัวเองไว้ได้ แต่ว่าในวินาทีนี้เขากลับหมดสติไป ก็ เพียงพอที่จะพูดได้แล้วว่าในใจของบุริศร์นั้นเจ็บปวดมากเพียง ไหน

ก็ใช่อยู่

เป็นลูกป้าโอเหมือนกัน แต่ว่ากลับถูกปฏิบัติแตกต่างกัน แล้ว บริศร์จะไม่โกรธเคืองไม่เสียใจได้ยังไงกัน?

นรมนรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก และรู้สึกเกลียดหนอนพิษแห่ง ความทรงจํานี้ขึ้นมาหน่อยแล้ว

เธอโทรศัพท์เรียกผู้ช่วยมา แล้วก็ยกตัวบุริศร์กลับไป ตอนที่กมลและกิจจาเห็นบุริศร์โดนยกเข้ามานั้นก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็รีบถามขึ้นว่า “หม่ามี้ แด๊ดดี้เป็น อะไรเหรอคะ?”

“ไม่เป็นไรจ้ะ ช่วงนี้เขาเหนื่อยไปหน่อย พวกหนูอย่ากวนเขา

นะรู้ไหม?”

“อืม”

กมลพยักหน้าเล็กน้อย

เธอเห็นในแววตาของนรมนมีแววเหนื่อยล้าและเจ็บปวด ปฏิกิริยาแบบนี้เมื่อห้าปีก่อนมักจะปรากฏขึ้นมาบนหน้าหม่าม บ่อยมาก แต่ว่าตอนนั้นคนที่เธอเป็นกังวลคือตัวเอง แต่ตอนนี้คือ แด๊ดดี้

กมลดึงแขนของกิจจาขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดเสียงเบาขึ้นว่า “พี่ กิจจา ตอนนี้ร่างกายของแด๊ดดี้ไม่มีปัญหาแล้วไม่ใช่เหรอคะ? หนูรู้สึกเป็นห่วงจังค่ะ

จ้องมองกมลที่มักจะรู้จักแต่กิน ๆ เล่น ๆ แต่อยู่ ๆ ก็เกิด

เคร่งขรึมขึ้นมาขนาดนี้ กิจจากอึ้งไปเล็กน้อย แล้วก็อดไม่ได้ที่จะ

พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก น่าจะเป็นเพราะเกี่ยวกับ

หนอนพิษ แต่ว่าฉันเคยดูหนังสือโบราณมาแล้ว อาการของแด๊ด

จะต้องจะเป็นอย่างนี้อยู่ช่วงหนึ่งก็จะหายไปเอง ในเมื่อหนอน

พิษจะยอมรับสายเดือด ในร่างกายของแด๊ดดี้มีสายเลือดของตระกูลตารายนอยู่”

อยู่ ๆ ก็รู้สึกเกลียดหนอนพิษอะไรนั่นมากเลย ถ้าสามารถเอา ไฟเผามันทีเดียวให้วอดไปเลยก็ดี ค่าพูดของกมลทำให้กานต์ที่เพิ่งออกมาจากห้องอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองไปที่ห้องของบุริศร์อย่างครุ่นคิดขึ้นมา แล้วพูดเสียง

ขึ้นว่า “ถ้าเผาไปจริง ๆ ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี”

“พี่ พี่ลงจากเตียงมาทำไมคะ? พี่เจ็บหนักสักขนาดนั้น ไม่เอา ชีวิตแล้วเหรอ? รีบกลับไปนอนบนเตียงเถอะ อย่าให้หม่าเป็น ห่วงพี่ด้วยอีกคนเลย หนูรู้สึกว่าหม่าจะต้องเหนื่อยไม่ทันแน่เลย

คำพูดของกมลทำให้กานต์หัวเราะขมขื่นเล็กน้อย

“นอนอย่างเดียวมันไม่สบายเลย

“แต่ก็ยังต้องนอนนะ ใครใช้ให้พี่เป็นผู้ป่วยล่ะ? รีบกลับไป เถอะ”

พูดแล้ว กมลก็เดินเข้าไปประคองกานต์ไว้ การกระทำบางเบา จนทำให้คนรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง

นี่เป็นครั้งแรกที่กานต์ได้ลิ้มลองน้องสาวปฏิบัติแบบนี้กับเขา จึงอดไม่ได้ที่จะอารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย

“กมลของเราเหมือนกับว่าอยู่ ๆ ก็เติบโตขึ้นมาแล้ว

“เชื้อ พี่ก็แค่เกิดก่อนหนูไม่กี่นาทีเท่านั้น อย่ามาพูดอย่างกับ ว่าตัวเองโตกว่าหนูสิบปี ปีได้ไหม?”

ถึงแม้กมลจะพูดไปแบบนี้ แต่ว่าการกระทำก็ยังเบามือมาก อยู่ดี

กิจจาหัวเราะเล็กน้อย แล้วเดินเข้ามา แล้วเดินเข้าห้องกับ

กานต์ไป

บริศร์นอนไปไม่นานก็ตื่นขึ้นมาแล้ว

เขามองเห็นนรมนจับมือของตัวเองไว้ สีหน้าเต็มไปด้วยความ เป็นห่วง แล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า “ทำให้คุณเป็นกังวล แล้ว”

“ไม่หรอกค่ะ ฉันก็แค่รู้สึกว่าคุณเหนื่อยเกินไปแล้ว บางทีนอน สักตื่นอาจจะดีขึ้น”

นรมนยังคงเข้าใจหัวอกคนเหมือนอย่างเคย

เธอไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น และก็ไม่รู้ว่าโทรศัพท์สายนั้นธเนศ พลได้พูดอะไรกับบริศร์ไปบ้าง แต่ว่าดูจากระดับความเจ็บปวด ของบุริศร์ในตอนนี้แล้ว นรมนสามารถเดาออกได้ว่าต้องเกิด เรื่องอะไรขึ้นมาแล้วแน่ ๆ

แต่ว่าบุริศร์เพิ่งตื่นขึ้นมา เธอจึงไม่อยากถาม

“รู้สึกเป็นยังไงบ้าง? เดี๋ยวฉันจะให้คนไปอุ่นซุปมาให้คุณสัก หน่อย อีกเดี๋ยวมสักหน่อยนะคะ?”

บริศร์อยากจะลุกขึ้นมา นรมนกลับรีบเอาหมอนข้างยัดไว้ที่ ข้างหลังเขา แล้วก็ประคองบุริศร์ลุกขึ้นมาอย่างระมัดระวัง

“นรมน คุณทำแบบนี้จะทำให้ผมนึกว่าตัวเองป่วยเป็นโรคร้าย แรงอะไรนะ”

“พูดไปเรื่อยทําไม?”

นรมนตีแขนของบุริศร์ขึ้นมาทีหนึ่งเลย ในใจก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมา

พอเห็นว่าตัวเองทำให้นรมนตกใจ บุริศร์ก็รีบจับมือของเธอ เอาไว้ แล้วพูดขึ้นว่า “อย่าร้อนใจไป ร่างกายของผม ผมรู้ตัวเอง ดี ไม่มีทางที่จะอ่อนแอขนาดนั้นหรอก ผมเคยรับปากกับคุณแล้ว ต่อไปในชีวิตนี้จะอยู่กับคุณดี ๆ เพราะฉะนั้นผมจะดูแลตัวเองให้ ดี ๆ เอง เชื่อผมซิ”

ใจที่แกว่งอยู่ของนรมน ในที่สุดก็ค่อย ๆ กลับสู่ที่เดิมได้เล็กน้อยแล้ว

“คุณทำให้ฉันตกใจมากเลย คุณรู้หรือเปล่า ฉันสามารถแบก รับสถานการณ์ทุกอย่างได้ แล้วก็ไม่เกรงกลัวอันตรายและ แผนการชั่วร้ายอะไร สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดก็คือคุณ ฉันกลัวคุณบาด เจ็บ กลัวคุณเกิดเรื่อง กลัวคุณไม่อยู่ข้างกายฉัน บุริศร พวกเรา ไปโรงพยาบาล ใหญ่ทำการตรวจให้ทั่วร่างกายสักหน่อยดีไหม? ฉันมักจะรู้สึกว่าหนอนพิษทองค่าที่อยู่ในตัวคุณนั้นเหมือนกับ ระเบิดเวลาอันหนึ่ง มักจะทำให้ฉันตื่นตระหนกอยู่ตลอดเลย

ที่จริงบุริศร์รู้ว่าหนอนพิษทองคำไม่มีอะไรร้ายแรงต่อตัวเอง แต่ในเมื่อนรมนเป็นกังวล เขาก็จะถือซะว่าเสียเงินซื้อความ สบายใจให้เธอก็แล้วกัน

พอได้ยินบุริศร์รับปากแล้ว นรมนถึงได้โล่งใจได้เปลาะหนึ่ง “คุณอย่ามาโทษฉันว่าตื่นตูมเลยนะคะ ฉันเองก็ไม่วางใจจริง

“ผมรู้ พรุ่งนี้ผมจะไปตรวจร่างกายให้ทั่วตัวเลย

แววตาของบุริศร์อ่อนโยนราวกับสายน้ำ แล้วนรมนก็พุ่ง เข้าไปในอกของเขาและกอดเอวของเขาไว้แน่น
“บุริศร์ คุณเป็นทุกอย่างของฉัน สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของฉัน ฉัน เป็นห่วงคุณ เป็นห่วงมากจริง ๆ ก็ถือซะว่าฉันคิดไปเรื่อยก็แล้ว กัน ฉันต้องการเห็นผลตัวเลขทางวิทยาศาสตร์ถึงจะวางใจได้

บริศ กอดนรมนเอาไว้แน่น

นี่คือผู้หญิงที่ดีกับเขามากที่สุดในโลกใบนี้

ไม่ว่าจะเป็นมุมมองของคนในครอบครัว หรือสถานะคนรัก นร มันต่างก็ทำได้ดีจนเขาทำใจปล่อยมือไม่ได้

คือเธอที่ให้ความอบอุ่นในครอบครัวกับเขา ทำให้เขารู้สึกว่า เขาไม่ใช่เครื่องมือสำหรับการแก้แค้น

เขาเป็นคนที่มีเลือดมีเนื้อคนหนึ่ง เป็นคนที่สามารถโดนคนอื่น ปกป้องและรักได้

ความรู้สึกแบบนี้ติดตามความจริงที่โดนเปิดเผยมา ยิ่งอยู่ก็ยิ่ง ลึกซึ้งซึมซับเข้าไปในร่างกาย ในสายเลือดของบุริศร์ หรือกระทั่ง ประทับตราลงบนจิตวิญญาณ

เพื่อเธอแล้ว เขาสามารถที่จะละทิ้งได้ทุกอย่าง และสามารถที่ จะสูญเสียทุกอย่างได้ เพียงเพราะว่าความรักที่เธอมีให้เขานั้นคือ รักบริสุทธิ์ ไม่แฝงเล่ห์กลหรือการหลอกใช้เลยสักนิด
เขาโชคดีมากแค่ไหน ที่ได้ภรรยาแบบนี้ เขาไม่ต้องการอะไร อีกแล้ว

“อย่าพูดแบบนี้ ขอแค่เป็นสิ่งที่คุณต้องการ ผมก็จะทำให้คุณ สมหวัง นรมน ผมรู้สึกหิวแล้ว”

ดวงตาของบุริศร์แฝงไว้ด้วยรอยยิ้ม ดวงตาที่อ่อนโยนราวกับ น้ำทำให้ใจของนรมนอุ่นร้อนขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็รีบพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวฉันให้พวกเขาไปเตรียมของกิน

“ได้”

บุริศร์จ้องมองนรมนออกไปจากห้องนอนอย่างรีบร้อน ดวงตา ที่แฝงไว้ด้วยรอยยิ้มนั้นถึงได้ค่อย ๆ เย็นลงมา

ธนเดช!

ไม่ว่าตอนนี้ผู้ชายคนนี้จะหลบไปอยู่ที่ไหน เขาก็จะต้องตามหา ตัวเขาออกมาให้ได้ จากนั้นก็จะให้เขาไปคุกเข่าสำนึกผิด และ ชดใช้ต่อหน้าหลุมศพของคนทั้งหมดในหมู่บ้านดารายน

บุริศร์โกรธเคืองที่ป้าโอวางแผนหลอกใช้ตัวเอง แต่ว่ากลับ ไม่มีไม่มีทางทนดูผู้คนบริสุทธิ์ในหมู่บ้านดารายนตายไปอย่างไม่ สนใจได้

บางทีนี่อาจจะเป็นหน้าที่ที่เขามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ก็ได้

คนทุกคนมาถึงโลกใบนี้ต่างก็มีหน้าที่เป็นของตัวเองกันทั้งนั้น ส่วนเขาก็หนีไม่รอด และหลบไม่พ้น งั้นก็จะต้องเผชิญหน้าอย่าง กล้าหาญ

พวกชาวบ้านของหมู่บ้านดารายนที่ต้องเผชิญกับความตาย อย่างสิ้นหวัง ก็เหมือนกับเป็นคำสาปที่วนเวียนอยู่ในหัวสมองยัง ไงอย่างงั้น

ไม่ว่าจะเป็นเพราะการเกี่ยวข้องกับหนอนพิษ หรือว่าเป็น เพราะการมีคุณธรรมของการเป็นคน เขาก็ไม่มีทางที่จะผลักไส ออกไปได้

แล้วบุริศร์ก็คิดถึงบุณพจน์ขึ้นมา

พี่ชายคนนั้นที่เป็นแม่เดียวกันแต่คนละพ่อกับตัวเอง

ไม่ว่าชีวิตของเขาจะเป็นยังไง ถ้าหากเขาไม่มาแหย่บุริศร์ บุรี ศร์ก็จะถือซะว่าคนคนนี้ไม่มีตัวตนอยู่ แต่ว่าเขาได้ล้ำเส้นเข้ามา แล้ว

เขาหลอกใช้เกวลินมาทำร้ายวินเซนต์ และวินเซนต์ก็เป็นพี่ น้องร่วมเป็นร่วมตายของเขา เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่มีทางจบแน่

ยังไงเขาก็จะต้องมีจุดจบกับบุณพจน์คนนั้นสักอันหนึ่งแน่
และพ่อของเขาพิรุณก็ไม่ได้เป็นผู้บริสุทธิ์

ตอนนั้นที่หมู่บ้านดารายนโดนทำลายล้าง ก็ยังต้องขอบคุณที่ พิรุณรายงานข่าวให้กับธนเดช นำเส้นทางเข้าหมู่บ้านให้ถึงได้ เกิดโศกนาฏกรรมแบบนั้นขึ้นมา

เพื่อให้ได้ผู้หญิงคนหนึ่งมาครอบครอง ถึงกับใช้ชีวิตของคน ทั้งหมู่บ้านมาเป็นค่าแลกเปลี่ยน คนแบบนี้ไม่ใช่คนดีอะไรตั้งแต่ แรกอยู่แล้ว

บุริศร์คิดทบทวนเรื่องราวไปรอบหนึ่ง นรมนก็ยกน้ำซุปโสม กลับมาพอดี

“ดื่มน้ำซุปก่อนนะคะ เดี๋ยวอาหารเสร็จแล้วเราค่อยกินข้าว กัน”

วินาทีที่เห็นนรมนนั้น ความเยือกเย็นในแววตาของบุริศร์ก็

สลายไปหมด

เขายิ้มแล้วรับน้ำซุปที่อยู่ในมือของนรมนไป จากนั้นก็พูดเสียง ต่ำว่า “ด้านกานต์เป็นยังไงบ้าง?

“กมลกับกิจจาอยู่ในห้องเขา ฉันได้ให้คนส่งของกินไปให้พวก เขาแล้ว คุณดื่มก่อนเถอะค่ะ”

บุริศร์ดื่มซุปโสมไปอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็ดึงมือนรมน ให้เธอมานั่งลงข้างกายตัวเอง

“นรมน ผมจะพูดเรื่องหนึ่งกับคุณ

“?”

นรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง ก็ได้ยินบุริศร์พูดขึ้นว่า “เป็นเรื่องที่ เกี่ยวข้องกับอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดา และเกี่ยวข้องกับ หมู่บ้านดารายนด้วย

พูดแล้ว บุริศร์ก็เอาเรื่องที่ได้ยินมาจากทางธเนศพลบอกกับนร

มนไป

นรมนรู้สึกมึนงงไปทั้งตัวเลย

เธอคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าบนโลกใบนี้จะมีผู้ชายที่โหดร้ายแบบนี้

อยู่อีกด้วย?

แค่เพื่อผู้หญิงคนเดียวก็ทำลายล้างทั้งหมู่บ้านได้เลยเหรอ? ธนเดชคนนี้นี่เป็นคนบ้าเหรอ?

ถ้าหากว่ารักอาหญิงตระกูลธนเกียรติโกศลจริงละก็ ทำไมเขา ถึงไม่แต่งงานกับเธอล่ะ?

ทิ้งอาหญิงตระกูลธนเกียรติโกศลไว้ตั้งหลายปีแบบนั้น แถม ตัวเองยังแต่งงานแล้วด้วย แต่กลับยังมารู้สึกว่าอาหญิงตระกูล ธนเกียรติโกศลหักหลังตัวเองอีก แล้วก็มาใช้อำนาจที่อยู่ในมือให้คน
ทั้งหมดเข้าร่วมการฆ่าทำลายล้างในครั้งนั้น

ตกลงเขาทําลงไปได้กัน?

หัวใจของเขาไม่เจ็บปวดบ้างเหรอ?

นรมนตัวสั่นไปทั้งตัว

“แล้วตอนนี้เจ้าธนเดชนั่นอยู่ไหนเหรอคะ?”

“ตอนนั้นพอเรื่องเกิดขึ้นมาแล้วก็ลาออกไปเลย แล้วทั้ง ครอบครัวก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ”

คำพูดของบุริศร์ทำให้แววตาของนรมนมีความเยือกเย็นขึ้น มาเล็กน้อย

“พวกเขาไปกันทั้งครอบครัวเหรอคะ? หรือว่าไปกันทั้งตระกูล นาคนานเลยคะ? ยังไงก็ต้องมีคนอยู่บ้างซิคะ? เรื่องนี้ธนเดช จําเป็นจะต้องให้คำตอบมาวันหนึ่ง แล้วเขาถึงกับจะฆ่าอารอง ของฉันเลยเหรอ!”

“นรมน คุณอย่าเพิ่งใจร้อนไป เรื่องนี้ยังเป็นความลับ ที่ธเนศ พลบอกผม ก็เพราะอยากจะให้ผมช่วยตามหาอาหญิงตระกูลธน เกียรติโกศลและอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดา แล้วสิ่งที่ธเนศพล ต้องการก็คือต้องการให้อาหญิงตระกูลธนเกียรติโกศลกลับมา อย่างปลอดภัย และสิ่งที่พวกเราต้องการก็คือขอให้อารอง สามารถกลับบ้านได้ ธเนศพลบอกแล้วว่า อารองยังมีชีวิตอยู่ เพียงแต่ว่าตอนนี้ต้องอยู่อย่างตามทั้งเป็นหน่อย เท่านั้น ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าคำพูดนี้หมายความว่ายังไง แต่ว่า ยังไงก็ยังมีความหวังอยู่ไม่ใช่เหรอ?

ใจที่โกรธเคืองของนรมนถือได้ว่าสงบนิ่งลงมาหน่อยแล้ว

เธอพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “คนที่อารองชอบคือนงลักษณ์ หลายปี มานี้ หรือว่านงลักษณ์จะไม่รู้เบาะแสของอารองหน่อยเลยเหรอ? ยังมีอีก ทำไมตอนนั้นอารองถึงไปอยู่ที่หมู่บ้านดารายนได้ล่ะ? ถ้าตามเวลาที่คุณชายธเนศพลพูดมา ในเวลานั้นอารองน่าจะ แตกหักกับนงลักษณ์แล้ว และยังผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว ถ้าตามที่ นงลักษณ์พูด ในเวลานั้นอารองได้หายตัวไปแล้วนะ ทำไมอารอง ถึงปรากฏตัวขึ้นที่หมู่บ้านดารายนล่ะ?”

ตอนนั้นบุริศร์ได้ยินความจริงที่หมู่บ้านดารายนโดนทำลาย ล้าง ก็มัวแต่โกรธเคืองอยู่ ไม่ได้คิดถึงเลยว่าเวลาของเรื่องนี้มัน เหมือนจะต่อเข้ากันไม่ค่อยได้ พอตอนนี้มาได้ยินนรมนูพูดแบบนี้ แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปเล็กน้อย

“ความหมายของคุณคิดคุณชายธเนศพลพูดโกหกกับผมเห รอ? หรือว่าเขายังปิดบังเรื่องอะไรอีก?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ