แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 916 เธอยังกล้าฉันอีกเหรอ



บทที่ 916 เธอยังกล้าฉันอีกเหรอ

เชษฐ์ท่าทางเหมือนคนเสเพล ทำให้คนเห็นแล้วมันเขี้ยวมาก “ถ้าหากเลือกได้ ผมก็ไม่หวังว่า ในร่างกายจะมีเลือดของคน อย่างคุณไหลเวียนอยู่หรอก ผมขยะแขยง

บริศ ลงมืออีกครั้ง แต่จู่ๆกลับถูกเชษฐ์ปาแป้งมาใส่เขา

เขาถอยหลังออกมาก้าวหนึ่งทันที เชษฐ์เลยฉวยโอกาสนั้นวิ่ง

หนีไป

“ไอ้สารเลว !”

บุริศร์โกรธมาก ตอนที่กำลังคิดจะวิ่งตามไปนั้นก็พบว่าเนตรา ไม่อยู่แล้ว

เขาชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบโทรไปหาคนของตัวเองทันที

“ปิดล้อมทุกเส้นทางให้ฉันเดี๋ยวนี้ เชษฐ์หนีไปแล้ว เกรงว่าเนต

ราเองก็อยู่ในมือเขาด้วย”

ลูกน้องเลยรีบทำตามคำสั่งทันที

บุริศร์ไม่ได้พาตัวเนตรากลับมา เลยรู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อย

เขาล้างหน้า แล้วก็พบว่าสิ่งนั้นเป็นแค่แป้ง เพียงแค่ทำให้ สายตาพร่ามัวได้ชั่วคราวเท่านั้น

เห็นได้ชัดว่าเขาประเมินความหน้าไม่อายของเชษฐ์ต่ำเกินไป
ตอนนี้บริศร์นั้นไร้ทิศทาง ตอนที่กำลังคิดจะกลับไปนั้น กานต์ก็ โทรเข้ามา

“คุณบุริศร์ เชษฐ์ยังมีรังอยู่อีกที่หนึ่ง อีกอย่างฐานการวิจัย ไม่ใช่น้ำพักน้ำแรงของเขาทั้งหมด นั่นเป็นเพียงเคล็ดลับที่จะ ทําให้คนสับสนเท่านั้น”

“อะไรนะ ?”

บริศ ชะงักไปทันที

“เขาจะทําอะไรกันแน่ ?

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าเนตราถูกเขาจับตัวไปงั้นเหรอ ?”

“เกรงว่าไม่น่าใช่ ผู้หญิงคนนั้นท่าทางจะเคารพเขามาก

บุริศร์ไม่เข้าใจว่าเชษฐ์ต้องการอะไรกันแน่

ตอนนี้เชษฐ์วิ่งออกมานอกบ้านแล้ว และเนตราเองก็ตามออก

มาด้วย

“คุณอาเชษฐ์ ทางนี้ค่ะ เดี๋ยวฉันพาคุณไปเอง”

เนตรานั้นเตรียมอุปกรณ์การหนีไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ว่าเชษฐ์ กลับส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฉันมีวิธีหนี เธอช่วยอะไรฉันสักอย่างสิ

“ค่ะ”

ท่าทางที่เนตราปฏิบัติต่อเชษฐ์นั้นช่างเคารพนอบน้อมจริงๆ เชษฐ์พูดข้างๆหูเธอไม่กี่คำจากนั้นก็เดินจากไป
เนตราเลยเรียกรถไปที่หน้าประตูใหญ่ของเขตทหารทันที

เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรไปหานรมน

“นรมน เธอช่วยฉันหน่อยสิ”

“เนตรา ?”

นรมนรู้ว่าบริศร์ไปช่วยเนตราแล้ว แต่ว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่

“ฉันเอง ตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของเขตทหาร ฉันเข้าไป ไม่ได้ เชษฐ์ไล่ตามฉันอยู่ข้างหลัง เธอรีบช่วยฉันเร็วเข้า

เนตราร้องไห้สะอึกสะอื้น

นรมนชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “เธอไม่ได้เจอกับบริศร์เห รอ ?”

เจอแล้ว พวกเขาสองคนทะเลาะกัน ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เกิดอะไรขึ้น เชษฐ์ลากตัวฉันออกมาทันที ฉันพยายามหนีออกมา ด้วยความยากลำบาก เธอรีบช่วยฉันเร็วเข้า”

น้ำเสียงของเนตรานั้นร้อนรนมาก

นรมนซะงักไปครู่หนึ่ง แล้วคิดถึงคำเตือนของแม่นรมนขึ้นมา เธอถอนหายใจออกมาคำหนึ่งแล้วพูดว่า “ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้

ที่จริงเธอสามารถบอกให้ยามเฝ้าประตูปล่อยตัวเนตราเข้ามา ได้ แต่ว่าเธอไม่อยากให้หล่อนเข้ามา นรมนเปลี่ยนชุดแล้วเดินลงมาชั้นล่าง
คิมเห็นท่าทางแบบนี้ของเธอ ก็ยิ้มแล้วถามว่า “จะออกไปเหรอ

“อืม ออกไปหน้าประตูนะ”

นรมนไม่พูดอะไร คิมเองก็ไม่ได้ถาม นี่คือความเข้าใจโดย ปริยายของทั้งสองคน

พอออกมาจากตระกูลพรโสภณแล้ว นรมนก็เห็นเนตราที่ยืน หันซ้ายแลขวาอยู่หน้าประตูด้วยท่าทางร้อนรน แต่ก็ดูเหมือนว่า จะกลัวยามเฝ้าประตูของที่นี่ ดังนั้นก็เลยไม่กล้ามองเข้ามาข้าง ใน

พอเห็นท่าทางลับๆล่อๆแบบนี้ของเธอแล้ว นรมนก็ส่ายหน้า ออกมา

ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นลูกสาวของพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง แต่ ต้องบอกเลยว่าเธอไม่ได้มีบรรยากาศของพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงอยู่บน ตัวเลยแม้แต่น้อย

นรมนเดินออกมา แล้วพูดเสียงต่ำว่า “เธอจะกลับบ้านหรือไป ที่ไหน ? ที่บริเวณเขตทหารนี่เธออย่าคิดที่จะเข้ามาเลย คนนอก ห้ามเข้า”

“ฉันจะกลับบ้าน !”

เนตราเองก็ไม่ได้มีความคิดที่จะเข้าไป นรมนพอเห็นแบบนั้นก็ลดความระมัดระวังตัวลงเล็กน้อย
“แล้วเชษฐ์ล่ะ ?”

“น่าจะถูกสามีของเธอดักเอาไว้อยู่ พวกเรารีบกลับบ้านกัน เถอะ คุณแม่ของฉันอาจจะกำลังร้อนใจมากก็ได้

ประโยคนี้เป็นความจริงมาก

พอคิดได้ว่าแม่นรมนพูดประโยคพวกนั้นกับตัวเองเพื่อเนตรา แล้ว นรมนก็รู้สึกเสียใจมาก

“ไปกันเถอะ”

เธอหยิบกุญแจรถไปเปิดรถที่จอดอยู่ข้างถนน เนตราเข้าไปนั่งในรถ แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ขอฉันขับได้ไหม ? “อารมณ์ของเธอเหมาะที่จะขับรถด้วยเหรอ ?”

“ฉันไม่เคยขับรถที่ดีขนาดนี้มาก่อน ขอฉันขับสักครั้งจะเป็นไร ไป ? อย่างกไปหน่อยเลย อีกอย่าง ฉันก็มีใบขับขี่นะ เธอดูสิ

เนตราหยิบใบขับขี่ของตัวเองออกมาให้นรมนดู

“ฉันก็แค่ไม่มีรถ ไม่อย่างนั้นฉันที่ได้ใบขับขี่มาหกปีแล้ว แต่ก็ ยังไม่เคยได้ขับรถเลยสักครั้งหรอก”

พอเห็นเนตราพูดด้วยท่าทางหดหู่ นรมนก็กลัวว่ากลับไปเธอ จะไปขอรถกับแม่นรมนอีก เธอเลยโยนกุญแจรถไปให้เนตรา

“ขอบใจ”

ในที่สุดเนตราก็พูดประโยคดีๆได้สักที
นรมนขึ้นไปนั่งบนที่นั่งข้างคนขับ

พอเนตราได้กุญแจรถแล้วก็ดีอกดีใจเป็นอย่างมาก พอทดลอง ขับสักพักแล้วก็เริ่มขับคล่องขึ้น

นรมนเองก็ขี้เกียจจะคุยกับเธอ ถ้าหากไม่ใช่เพราะพ่อแม่ตระ กูลธนาศักดิ์ธน เธอก็คงไม่มีทางไปเกี่ยวข้องกับคนอย่างเนตรา และยิ่งไม่มีทางคบค้าสมาคมด้วยเด็ดขาด

ภายในรถเงียบจนน่ากลัว

นรมนเริ่มคิดถึงเรื่องงานออกแบบ แต่ก็เริ่มค่อยๆรู้สึกง่วงขึ้น

“ถ้าเธอรู้สึกง่วงก็นอนสักเดี๋ยวสิ ถ้าถึงบ้านแล้วฉันเรียกเธอ

เอง”

เนตราเห็นท่าทางของเธอ ก็อดพูดออกมาคำหนึ่งไม่ได้

นโมนเองก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรไป หาวออกมาแล้วพูดว่า “อืม ได้”

พอพูดจบเธอก็หลับไปทันที ไม่ได้มองอารมณ์ที่วาบผ่านแวว ตาของเนตราเลยแม้แต่น้อย

นรมนไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานเท่าไหร่แล้ว เพียงแต่ตอนที่เธอ ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็พบว่าตัวเองถูกคนขังอยู่ในกรงสีดำ

“เนตรา !”

นรมนแทบอยากจะบ้า !

เธอเห็นเนตราเป็นพี่น้อง แต่ผู้หญิงคนนี้กลับตลบหลังเธอ ?
นรมนคิดอยากจะออกมา แต่ว่าพอสัมผัสถูกกรงก็ถูกไฟฟ้า ช็อตทันที

กรงขังนี้มีกระแสไฟฟ้าอยู่ด้วย

นรมน โกรธจนแทบบ้า !

“เนตรา เธอออกมาเดี๋ยวนี้นะ !”

เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรือตัวเองจะพลิกคว่ำ ในรางน้ำ และร่วง มาอยู่ในกำมือของเนตรา

เนตราค่อยๆเดินออกมาช้าๆ มองดูนรมนที่อยู่ในกรง แล้ว หัวเราะเสียงเย็นว่า “เธอนี่มันหลอกง่ายจริงๆ ถ้าเธออยู่ใน บริเวณเขตทหารตลอดเวลา ฉันก็คงทำอะไรเธอไม่ได้ คุณอา เชษฐ์พูดถูกจริงๆ ต้องใช้ความรู้สึกในการต่อกรกับเธอ

“คุณอาเชษฐ์ ? เธอกับเชษฐ์เป็นพวกเดียวกันเหรอ ? เธอถูก เขาลักพาตัวไปไม่ใช่เหรอ ?”

นรมนฟังช่องโหว่ในประโยคคำพูดของเนตราออกทันที

เนตราหัวเราะแล้วพูดว่า “แน่นอนว่าไม่ใช่ คุณอาเชษฐ์เป็นผู้มี พระคุณของฉัน ช่วยเหลือฉันมาตั้งแต่ยังเด็ก ไม่อย่างนั้นฉันคง หิวตายอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไปแล้ว จะรอถึงวันที่พ่อกับ แม่หาตัวฉันเจอได้ยังไง ? อีกอย่างนะ ที่สามารถหาพอแม่เจอก็ เพราะการช่วยเหลือจากคุณอาเชษฐ์ คนดีๆแบบนี้ ฉันจะไปถูก เขาลักพาตัวได้ยังไง ? พวกเธอนั่นแหละ ที่เอาแต่คอยต่อต้าน คุณอาเชษฐ์ พวกเธอมันก็แค่พวกมีเงินเหม็นสาบไม่ใช่เหรอ ?แต่กลับบีบคั้นคุณอาเชษฐ์จนหมดหนทาง ช่างเลือดเย็นแล้งน้ำ ใจจริงๆ ไม่ว่ายังไง คุณอาเชษฐ์ก็เป็นครอบครัวของพวกเธอ ไม่ใช่เหรอ ? คนอย่างพวกเธอที่ถูกเลี้ยงดูมาเหมือนไข่ในหิน คง ไม่สนใจความรักของครอบครัวหรอกใช่ไหม ?”

พอได้ยินเนตราพูดแบบนี้แล้ว นรมนก็เข้าใจขึ้นมาทันที

“เชษฐ์เป็นคนบอกให้เธอทำแบบนี้ใช่ไหม ?”

“ใช่ แล้วยังไง ? คุณอาเชษฐ์บอกให้ฉันทำอะไรฉันก็จะทำ ถ้า จะบอกให้ฉันฆ่าเธอ ฉันก็จะทำให้ทันทีเลย

“เนตรา เธอนี่มันน่าเวทนาจริงๆเลย

ตอนนี้นรมนขี้เกียจจะพูดกับเธอไม่เว้นแม่แต่คำเดียว

เธอนั่งอยู่ตรงนั้น แล้วก็รู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าคน ที่บ้านจะรู้ไหมว่าตัวเองหายตัวไป

ตอนนี้สิ่งที่เธอกังวลที่สุดก็คือเชษฐ์อาจจะใช้เธอไปข่มขู่บริศร์ เนตราเห็นเธอไม่สนใจตัวเอง ก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยชอบใจขึ้นมา

“ทำไม ? เธอเป็นแบบนี้แล้ว ตกเป็นเชลยแล้ว ยังจะหยิ่งผยอง แบบนั้นอีกเหรอ ? เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่รักของทุกคนจริงๆเห รอ ? ถ้าพูดแบบไม่น่าฟัง เธอก็แค่ลูกเท่านั้นแหละ ทำเหมือนตัว เองใสสะอาดขนาดนั้น คิดจะหลอกใครกัน ?”

นรมนปิดเปลือกตาไม่อยากสนใจเธอ แต่เนตรากลับไม่คิดที่จะหุบปาก
“ทำไม ? แกล้งเป็นใบ้เหรอ ? นรมน เธอรู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่ นักใช่ไหม ? หรือเธอรู้สึกว่าตัวเอง…….

“หุบปาก !”

นรมนรู้สึกรําคาญจะตายอยู่แล้ว

ระหว่างเธอกับเนตราไม่มีเรื่องต้องคุยกัน แต่ว่าเธอกลับพูด เจี๊ยวจ๊าวจนน่ารําคาญจริงๆ

เนตราถูกเธอตะคอกใส่ทีหนึ่ง สีหน้าเลยย่ำแย่ขึ้นมาทันที

“เธอยังกล้าดฉันอีกเหรอ ? เธอรู้ไหม ถ้าตอนนี้ฉันอยากให้ เธอตาย เธอก็ต้องตาย !”

ระหว่างที่พูด เนตราก็เปิดเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า

กรงเหล็กข้างๆตัวนรมนเริ่มส่งเสียงดังๆ ฟังแล้วเสียวมาก

“เธอไม่คิดจะคุกเข่าอ้อนวอนฉันเลยเหรอ ? ถ้าหากเธอ อ้อนวอนฉัน ฉันอาจจะพิจารณาที่จะปล่อยเธอไปก็ได้นะ”

เดิมทีเนตราก็รู้สึกไม่ชอบหน้านรมนอยู่แล้ว ฐานะของเธอ พ่อ แม่ของเธอ ทุกๆอย่างของเธอถูกผู้หญิงคนนี้สวมรอยแทน แต่ กลับมองเธออย่างสงสารเวทนาด้วยท่าทางสูงส่งอย่างนั้นเหรอ ?

มีสิทธิ์อะไรกัน ?

แต่นรมนกลับขี้เกียจพูดกับเธอแม้จะประโยคเดียวก็ตาม ตอนนี้จิตใจของเนตราบิดเบี้ยวไปแล้ว ภายใต้การนําของ เชษฐ์ หรืออาจเพราะในใจของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดและความแค้น ไม่ว่าเธอจะพูดอีกเป็นร้อยค่มันก็คงไม่มีประโยชน์ พอเห็นสายตาเหยียดหยามของนรมนแล้ว เนตราก็ขาดสติไป

ทันที

เธอหยิบเครื่องเหล็กขึ้นมา แล้วยื่นไปทางนรมน

“เธอเหยียดหยามฉัน เธอแสร้งทำเป็นสูงส่งใส่ฉัน ฉันจะดูสิว่า เธอจะตายไหม ?”

นรมนรู้สึกเพียงว่าถูกกระแสไฟฟ้าทำให้สะท้านไปทั่วร่าง

เธอกัดฟันเงียบๆไม่ส่งเสียงอะไรออกมา

แต่ยิ่งนรมนเป็นแบบนี้ เนตราก็ยิ่งรู้สึกโมโห เธอลงมือกับบร มนครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงแม้ว่านรมนจะฝืนทนยังไง แต่สุดท้ายก็ยัง สงบไปอยู่ดี

ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอก็ปกป้องท้องของตัวเองเอาไว้ตลอด รู้สึก ผิดกับความมีน้ำใจของตัวเองอย่างที่สุด

เธอไม่รู้ว่าบุริศร์รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองหรือไม่ แล้วจะตาม มาถึงที่นี่หรือเปล่า

ก่อนจะสลบไปนรมนจับดูต่างหูของตัวเอง แล้วพบว่ามันหาย

ไปแล้ว

ในนั้นมีระบบระบุตำแหน่งที่กานต์ติดตั้งเอาไว้ให้เธอ ตอนนี้ดู ท่าว่าจะถูกเชษฐ์รู้เข้าแล้ว ก็เลยโยนทิ้งไป

เธอจะสามารถรอถึงตอนที่บุริศร์กับกานต์มาช่วยตัวเองได้ไหมนะ ?

ไม่ !

เธอจะต้องช่วยเหลือตัวเอง!

จะเอาความหวังไปไว้ที่ตัวผู้อื่นไม่ได้ ไม่แน่ว่าตอนนี้บริศ อาจ จะต้องการความช่วยเหลือจากเธอก็ได้

แต่ยังไงนรมนก็เป็นแค่มนุษย์ตาดำๆ เธอถูกกระแสไฟฟ้าช็อต ไปตั้งขนาดนั้น จนถึงขั้นหมดสติไป

เนตราเห็นนรมนสลบไป ก็ตกใจจนหน้าซีดเผือด

“คงไม่ใช่ว่าตายแล้วหรอกใช่ไหม ? ถ้าหากตาย คุณอาเชษฐ์ จะต้องโมโหแน่”

เนตรารีบปิดระบบทันที แล้วเดินเข้าไปตรวจลมหายใจของนร

มน พบว่ายังอุ่นอยู่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

ยังดียังดี ที่ยังมีชีวิตอยู่

ในตอนที่เนตราออกจากกรงขังไป จู่ๆด้านนอกก็มีเสียงเสียง เครื่องยนต์ของรถดังเข้ามา ฟังจากเสียงแล้วไม่น่าจะใช่เชษฐ์

เนตราเลยเริ่มระมัดระวังตัวขึ้นมา

ใครมาน่ะ ?

บริศร์เหรอ ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ