แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 571 ผมเหนื่อยจัง พาเข้านอนที่สิ



บทที่ 571 ผมเหนื่อยจัง พาเข้านอนที่สิ

*ไคร

ทันทีที่นรมนขยับตัว ก็ถูกอีกฝ่ายควบคุม เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น

ข้างใบหู

“ฉันเอง! ”

เพียงชั่วพริบตา ตาของนรมนก็เอ่อคลอขอบตา

“บุริศร์! บุริศร์! ”

เธอหันตัวกลับทันที เมื่อเห็นใบหน้าของบริศร์ น้ำตาที่เอ่อล้น

ไหลรินออกมา

“อย่าร้องไห้!

เมื่อบริศ เห็นน้ำตาของนรมน เขาก็เกิดรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา

“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่

“ผมตามพวกคุณจากด้านหลัง

บุรีศร์จับมือของนรมนไว้

มือของเธออุ่น ไม่เป็นเหมือนกับเมื่อก่อน สีหน้าของเธอก็ดูดี ขึ้นมาก แม้มันจะดูแดงก็ตาม

บริศ มองใบหน้าของนรมน เขาก็รู้สึกราวกับว่าเป็นครั้งแรกที่ ได้พบเธอ เป็นใบหน้าที่ทั้งสดใสและงดงาม
อาการป่วยของเธอหายยัง

เขาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

บรมนรู้สึกกระตุกในใจ แต่เธอไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา และตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “อิ่ม คุณก็รู้ฝีมือของโฟนอยู่แล้วนี่

งั้น แล้ว”

บุริศร์ดีใจมากจริงๆ

เขาเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของนรมนมาโดยตลอด วันนี้ได้เห็น อาการเธอแบบนี้ ก็เหมือนกับว่าก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ในใจได้ ร่วงหล่นลงพื้นไปแล้ว

“ฉันได้ยินมาจากเจตต์ว่าคุณมีปัญหาเรื่องเส้นประสาทเหรอ” นรมนเปิดประเด็นอย่างรวดเร็ว

เช่นเดียวกับบริศร์ เธอเองก็ใส่ใจกับสุขภาพของบุริศร์มา

ตลอด

แต่บุริศร์กลับยิ้มพลางตอบ “ผมไม่เป็นอะไร คุณสบายใจได้ ผมทนจนกว่าจะกลับเมืองชลธีได้ เมื่อถึงเวลาก็ให้ป้องตรวจแค่นี้ ก็โอเคแล้ว คุณไม่ต้องกังวลนะ

“ไม่เป็นอะไรจริงๆเหรอ เกรทบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสะกด จิตประสาท เจต เองก็บอกว่าบางทีคุณก็ควบคุมอารมณ์ตัวเอง ไม่ได้ คุณ…

“ต่อให้ผมต้องเจ็บ ก็ไม่มีใครสามารถทำร้ายคุณได้
สายตาของบุริศร์อ่อนโยนราวกับสายน้ำ

เพียงชั่วครู่ที่นรมนเหมือนฝันไป

เมื่อไม่นานมานี้ การที่เขาสองคนได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนั้นมี น้อยมาก และเธอคิดถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่กับบริศร์มากเหลือเกิน

“เราจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง

เธอยังอยู่ในอ้อมแขนของของบุริศร์ ลืมการมีอยู่ของอีกสอง คนไปจนสนิท

บริศ ลูบผมยาวของเธอพลางเอ่ยกระซิบ “ผมบอกกับพฤกษ์ ไว้แล้ว ให้เขารีบติดต่อกับคนของผมให้มาทันที เมื่อถึงตอนนั้น ต่อให้เมืองใต้ดินนี้จะแข็งแรงมากแค่ไหน ผมก็จะออกไปจากที่นี่ ให้ได้”

ในขณะที่พูดนั้น สายตาของบริศร์ก็เผยให้เห็นความมุ่งมั่น เมื่อได้ยินว่าบุริศร์ติดต่อกับพฤกษ์แล้ว นรมนก็รู้สึกเบาใจขึ้น

มา

” วันกว่าพวกเขาจะมาถึงเหรอ”

“สองวัน พวกเราอดทนรอให้ถึงสองวันนั้นก็พอ

เสียงของบริศ ฟังดูอ่อนโยน ในขณะที่โอบกอดนรมนไว้ หัวใจของเขาก็รู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย

สองวันงั้นเหรอ

บริศ นึกถึงสภาพร่างกายของตัวเอง
สองวันหลังจากนี้ เธอจะเป็นอย่างไร

นามนไม่อาจรู้ได้

เป็นไปไม่ได้ที่กานต์จะมาที่นี่ และเมื่อถึงเวลาที่พฤกษ์นำคนมา ถึง ต่อให้จะเป็นยมราชก็ตาม บรมนก็ยังเชื่อว่าบุรีศร์จะสามารถ พามายด์ออกมาได้อยู่ดี

ตอนนี้ สิ่งที่เธอกลัวมากที่สุดคือหลังจากสองวันผ่านไป ตัวเอง จะไม่สามารถอยู่กับบริศร์ได้อีกต่อไป

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ภายในใจของนรมนก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกลัวการตายขนาดนี้มาก่อน หนำซ้ำยังกลัวการต้องตายต่อหน้าบุริศร์

เธอกลัวตาย!

แต่เธอจะทําอะไรได้

นรมนกล่เกลืนความกังวลและความขมขื่นไว้ข้างใน พลาง เอ่ยขึ้น “สองวันนี้คุณต้องดูแลฉันนะ ช่วงเวลาที่คุณไม่อยู่ มัน ทำให้ฉันกลัวมาก ไหนจะต้องดูลูกอีก คุณไม่รู้หรอกว่าฉัน เหนื่อยมากแค่ไหน คุณบอกไว้ว่าอยากให้ฉันมีความสุข

เสียงอ่อนหวานของนรมนทำให้บริศร์คิดถึงมากเป็นพิเศษ ราวกับว่าเขาได้กลับไปเมื่อครั้งแรก กลับไปยังเมืองชล

บริศร์พูดอย่างยิ้มๆ ครับ สองวันนี้ผมจะดูแลคุณเอง คุณ วางใจเถอะ ผมอยู่นี่แล้วยมราชทำอะไรคุณไม่ได้เด็ดขาด
“อิ่ม มีคุณแล้ว ฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น

สิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง

เมื่อมีบุรีต อยู่ด้วยแล้ว นรมนก็รู้สึกปลอดภัยทันที

“นภดกับมาย ที่อยู่ข้างหลังฉัน คุณต้องพาพวกเขากลับ เมืองชล ไปด้วยนะคะ หลังจากที่นภดลถึงเมืองชลธีแล้ว เขาจะ จัดการด้วยตัวเองค่ะ ส่วนมายด์เป็นพี่สาวของเรนนี่ เพราะอย่าง นั้น คุณไปส่งเธอที่บ้านของป้องก่อนนะคะ ให้เธอได้ไปดูอาการ ของเรนนี่ก่อน คุณต้องไปส่งให้ได้นะคะ ฉันได้พา กิจจา กับ กมล ไปที่เขตโรงพยาบาลทหารแล้ว โพนี่รู้ตำแหน่งค่ะ”

ในขณะที่นรมนพูดพล่ามอยู่นั้น ก็ถูกบุริศร์คว้าไปจูบอย่าง กระทันหัน

เธอคิดถึงมันเหลือเกิน!

ความรู้สึกที่เธอได้จากการจูบในครั้งนี้ ทำให้เธอรับรู้ถึงความ รู้สึกที่แท้จริง

มาย รีบหันหน้าหนีอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้า แดง

นภดลแสร้งว่ามองไม่เห็น และกวาดสายตาไปรอบๆ โดยที่ ไม่ได้มองพวกเขา เขารู้สึกทำตัวไม่ถูก การที่เขากับ มายด์ อยู่ที่ นี่นับว่ากลายเป็นก้างขวางคอชิ้นใหญ่นั้นสินะ

แต่จะให้ออกไป เขาก็ไม่กล้ารับประกันว่าตัวเองจะถูกยมราช จับไปหรือเปล่า
แม้ว่าจะเจออะไรมาไม่น้อยก็ตาม แต่เขาก็ไม่ปรารถนาให้ตัว เองถูกพาตัวเข้าห้องปฏิบัติการเพื่อทดลองอีกแล้ว

ในขณะที่นรมนและบุรีศร์กำลังจูบกันอย่างดูดดื่มอยู่นั้น บุริศร์ ที่เริ่มมีอารมณ์มากขึ้น มือทั้งสองข้างลูบไล้ไปตามร่างกายของ นรมนอย่างไม่รู้ตัว

“อะแฮ่ม! ”

นภดลไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป

หากปล่อยให้พวกเขาทําตามอำเภอใจต่อไป เกรงว่าหัวใจ เล็กๆของมายด์จะได้รับความเสียหาย

นรมนได้สติกลับคืนมาจากเสียงกระแอม จู่ๆเธอก็นึกอะไรขึ้น ได้และผละตัวออกจากบริศทันที จากนั้นก็หันไปมองนภดลและ มายด์ด้วยท่าทีเก้ๆกังๆ

แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้มองมาที่เธอ แต่ใบหน้าของนรมนก็แดง ไปจนถึงสําคอ

นี่มันน่าอายชะมัด!

บุริศร์ที่กำลังมีความสุขกับการจูบอยู่นั้น เมื่อถูกนรมนผลัก ออกก็รู้สึกขัดใจเล็กน้อย เขามองไปที่นรมนที่กำลังมองนกคลอยู่ นั้น คิ้วของเขาก็ขมวดขึ้นเป็นปม

นภดลสวยมากจริงๆ

ถ้าเขาเป็นผู้หญิงก็คงจะดี แต่อย่างไรเสียเขาก็เป็นผู้ชาย แถมยังดูมีเสน่ห์อีกต่างหาก บุริศร์ที่คิดมาตลอดว่าตัวเองนั้นก็ดูดี ไม่ใช่น้อย แต่เมื่อได้มาอยู่ต่อหน้านภดลแล้วเขากลับรู้สึกละอาย เล็กน้อย

ความรู้สึกนี้มันแย่มากๆ ยิ่งไปกว่านั้น นรมนเองก็ดูจะให้ ความสนใจเขาอยู่ไม่น้อย เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้บริศร์รู้สึกถึง เป็นพิเศษ

“ไม่สบาย ไง ถ้าไม่สบายก็รีบๆไปหาหมอ ห้องหมออยู่ทาง ขวาของประตู รีบๆไป

บริศ พูดอย่างไม่รักษามารยาทนัก

นภดลรู้สึกได้ถึงความเป็นปรปักษ์ที่เล็ดลอดออกมาจากบริศร์ แต่ก็กลับยิ้มพลางพูดตอบ “แค่คันคอ แต่ไม่ได้ไม่สบาย เพราะ งั้นไม่จำเป็นต้องไปหาหมอ

ดวงตาของบุริศร์หรี่ลง มีกลิ่นอายของความอันตรายเผยออก มา

นโมนคว้าแขนของเขาไว้พลางพูดขึ้น “ข้างนอกนั่นมีแต่คน ของเมืองใต้ดิน คุณเข้ามาได้ยังไง หรือว่า คนของเกรทช่วยเหรอ คะ”

“คาดว่าเกรทน่าจะตายไปแล้วล่ะ”

เมื่อได้ยินนรมนถามเช่นนี้ บุริศร์ก็รู้ได้ทันทีว่าเธอตั้งใจจะ เปลี่ยนเรื่อง แต่เมื่อเห็นหน้าของนรมนแล้ว บุริศร์จึงตามน้ำไป

“ตายแล้วหมายความว่าอะไรกันคะ ฉันไม่เข้าใจเลย ความสัมพันธ์ระหว่างเกรทกับเจตต์ดีถึงขนาดนั้น ทำไมถึงทํากับเจตต์ แบบนั้นได้ล่ะคะ”

นรมนถอนหายใจ พลางสงสัย ในหัวใจคน

บุรีศร่เอ่ยเสียงทุ้ม “ไม่น่าแปลกที่เกรทและภรรยาของเขาจะ ถูกคนอื่นบงการ”

“คะ? หมายถึงท่านขุนอินเหรอคะ”

สิ่งแรกที่นรมนนึกถึงก็คือท่านขุนอินที่เกรทพูดถึง “ท่านขุนอิน? คุณได้ยินมาจากใคร

บุรีศร์แปลกใจ อีกทั้งยังรู้สึกสนใจขึ้นมา

เมื่อนรมนเห็นท่าทางอย่างนั้นของเขา ก็พูดขึ้นอย่างสงสัย “เกรทค่ะ บอสของคนในเมืองใต้ดินไม่ใช่ท่านขุนอินหรอกเหรอ

“ผมเองก็ไม่รู้แน่ชัด สิ่งที่ผมรู้ก็คือ เกรทกับภรรยาถูกครินท์ ควบคุมอยู่ ตรินท์เป็นคนบงการให้เกรทท่าแบบนั้น ไม่อย่างนั้น คนในครอบครัวของเขาจะประสบอุบัติเหตุ

คำพูดของบริศ ทำให้นรมนอึ้งไปชั่วขณะ

“ตรินท์? คุณแน่ใจนะคะว่าเป็นครินท์”

“ผมเองก็หวังว่าจะไม่ใช่เขา ตรินท์ในตอนนี้ทำให้ผมรู้สึก แปลกไปมาก เขาไม่เหมือนกับเมื่อก่อน กลายเป็นคนโหดร้าย และไม่มีสติ คุณว่าคนๆนึงจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวเหรอ
ในคำพูดของบุรีต เผยให้เห็นถึงความเศร้าอยู่ในนั้น

นรมนรู้ดีว่าในใจของบุรีตร์ในตอนนี้กำลังรู้สึกอึดอัด ไม่มีใคร จะรู้เรื่องของพี่น้องตัวเองดีไปกว่าตัวเองหรอก แต่เมื่อไม่นานมา นี้ดูเหมือนจะมีมาอย่างเกี่ยวข้องกับครินท์

เขาต้องการฆ่ากานต์ และอยากจะขังแม่ของบริศ หรือแม้ กระทั่งจับตัวนรมน

กับสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่เหมือนสิ่งที่พี่น้องร่วมท้องจะ ทํากันได้ลงคอ

อีกทั้งก่อนหน้านี้ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ดีถึงขนาดนั้น หรืออาจเป็นเพราะเขมิกา ที่ทำให้กลับกลายเป็นเช่นนี้ นรมนไม่รู้ว่าจะปลอบโยนบุรีศร์อย่างไร

แต่จู่ๆบุริศร์ก็พูดขึ้น “ยังจำเรื่องที่ตนท์ทะเลาะกับกิจจาได้อยู่

ใหม่”

“จําได้ค่ะ คุณโกรธเรื่องนั้นมากถึงขั้นลงไม้ลงมือกับตรินท์ เลย”

บริศพยักหน้าพลางพูดเสียงต่ำ “ตอนนั้นผมรู้สึกว่ามัน แปลกๆ ตริน ไม่เคยลงไม้ลงมือกับลูกมาก่อน กิจจาเองก็เป็นลูก รักของเขา เขาจะทําแบบนั้นกับลูกได้ยังไง”

“คุณหมายความว่าอะไรคะ”

นรมนได้ยินสิ่งที่บุริศร์พูด แต่เมื่อเธอถาม บุริศร์ก็กลับมองไปรอบๆ เมื่อเห็น นภดลกับมายด์ก็พลางเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้ม “เปล่าหรอก ก็แค่คิดว่ามันแปลกๆนะ เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องเขาแล้ว ดีกว่า แล้วตอนนี้พวกเจตต์เขาไปแล้วเหรอ”

“ไปแล้วค่ะ ฉันคิดว่าเรื่องกิจการของกิมจิ เจตจะเป็นคนดูแล นะคะ

บุรีศรีพยักหน้ากับคำพูดของนรมน

เขาจับมือของนรมนและเอามาวางไว้บนเตียง พลางเอ่ย ขึ้น”ผมเหนื่อยจัง พาผมเข้านอนที

“แต่ในห้องนี้ยังมีคนอยู่อีกนะคะ

นรมนรู้สึกอายเล็กน้อย

ห้องนี้เป็นห้องเตียงเดี่ยว ที่ตอนนี้ถูกบุริศร์และตัวเองยึดไป เรียบร้อยแล้ว แล้วอย่างนั้นมายด์กับนภดลจะไปอยู่ไหนล่ะ ต่อ ให้ทําเหมือนว่าไม่มีพวกเขา แต่อย่างไรเสียคนก็ต้องได้พักผ่อน

ดูเหมือนว่านภดลจะมองเห็นความเขินอายของนรมน เขาจึง จับมือของมายด์พลางพูดขึ้น “ห้องผู้ป่วยของเธออยู่ที่ไหน ไม่งั้น เราก็ต้องเบียดกันนะ

มายด์มองไปที่นกด แล้วรีบพยักหน้าทันที

ทั้งสองหายไปจากสายตาของนรมนและบริศร์อย่างรวดเร็ว

“ก็สมเหตุสมผลดี”
บุรีศ พูดพิมพ์ แต่ฟังแล้วดูท่าว่าเขาจะพอใจอยู่ไม่น้อย

“หึงอะไรไม่เข้าท่า เขาก็แต่คนที่มาแทนคนถ่ายรูปให้ฉันก็ เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันซะหน่อย”

นรมนรู้สึกว่าเวลาที่บริศร์หึงแล้วดูเหมือนกับเด็กน้อย จึงอดไม่ ได้ที่จะอธิบาย

บุรีศร์ยังคงพูดด้วยท่าทีดื้อรั้น “นี่คุณปกป้องเขา!

“เขาจ่ายเงินให้ฉันตั้งสิบล้านนะคะ แน่นอนว่าฉันต้องปกป้อง เขาไว้ดีๆเลยล่ะ แถมเขายังพูดอีกว่าจะช่วยฉันเอาเงินพวกนี้กลับ มาอีกด้วย”

“คุณติดเงินเขาขนาดนั้นเลยเหรอ”

บริศ มองเธออย่างไม่พอใจนัก ท่าทีที่บ่งบอกว่าต้องการการ ปลอบโยนจากการกอดไม่ก็จูบ

นรมนรู้สึกว่านั่นช่างน่าข่า แต่เธอเสียดายที่ตัวเองอาจเหลือ เวลาอีกเพียงแค่สองวัน

ในใจเธอรู้สึกขมขื่น แต่ทว่ารอยยิ้มที่มุมปากกลับดูสดใส ทันใดนั้น นรมนก็จับใบหน้าของบริศร์ เพื่อให้เขามองมาที่ตัว

เธอ

“อะไรเหรอ”

“บุริศร์ ฉันจะจูบคุณ! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ