แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 809 พ่อเคยหลอกลูกตอนไหน



บทที่ 809 พ่อเคยหลอกลูกตอนไหน

“นาวิน! นาวิน!”

บุริศร์ไม่สงบแล้ว เสียงร้องตะโกนค่อนข้างสั้น

“ประธานบริศร์ เกิดอะไรขึ้น?

นาวินรีบวิ่งขึ้นมา

“ตัวล่ะ? ไหนตัวพวกเขาล่ะ?”

สีหน้าบริศ ซีดเซียว

ในขณะนี้เขาเหมือนปีศาจ ทำให้นาวินสั่นกลัวโดยอัตโนมัติ “ผมไม่รู้อ่ะ เมื่อกี้พวกเขายังอยู่เลย

“อะไรคือเมื่อกี้ยังอยู่? คนเป็นๆ ตัวใหญ่แบบนั้น จะระเหย ภายในห้องได้เหรอ?”

เสียงบุริศร์ดังขึ้นโดยอัตโนมัติอย่างช่วยไม่ได้

“บุริศร์? คุณกลับมาแล้วเหรอ?”

ทันใดนั้นเสียงนรมนก็ดังขึ้น ทำให้บริศร์และนาวินมึนงง

“นรมน? คุณอยู่ไหนน่ะ?”

บุริศร์บอกไม่ได้ว่าในใจรู้สึกอย่างไร แต่ก็วางใจ

นรมนเปิดประตูห้องน้ำ เห็นบริศร์ทำหน้ากังวลและนาวินทหน้าหวาดกลัว ก็ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้

“พวกคุณเป็นอะไร?”

บริศ เห็นนรมนปลอดภัยไร้กังวล ก็รีบจับมือเธอมาแล้วถาม ขึ้น “คุณทําอะไรในห้องน้ำ? กานต์ล่ะ? ธิดาล่ะ?”

“วันนี้กานต์ไม่รู้จะกินอะไร ปวดท้อง เมื่อขี้แตก น่าอายมากๆ ฉันกับธิดากว่าจะโน้มน้าวให้เขาไปเข้าห้องน้ำได้ ฉันกำลังอาบ น้ำให้กานต์อยู่ ธิดาก็กำลังซักกางเกงให้กานต์ เกิดอะไรขึ้นเห รอ?”

นรมนไม่ค่อยเข้าใจความเครียดของบุริศร์

ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ บุริศร์ก็โล่งอกทันที

“ไม่มีอะไร อาจจะเพราะฉันเครียดเกินไป ฉันนึกว่าพวกคุณ หายตัวไปแล้ว”

“ตาโง่ เราเป็นคนตัวใหญ่ ไม่ใช่อากาศสักหน่อย จู่ๆ จะหาย ไปได้ยังไง? ดูสิคุณทำนาวินตกใจ จริงสิ นาวิน ได้ยินมานานแล้ว ว่าพวกคุณจะแต่งงานกัน จัดงานแต่งหรือยัง?”

ได้ยินนรมนถามตัวเองแบบนี้ นาวินก็ยิ้มขณะพูดขึ้น “จด ทะเบียนสมรสแล้ว ยังไม่ได้จัดงานแต่ง ธิดาบอกว่าไม่ต้องการ

“พวกผู้ชายอย่างพวกคุณน่ะ แค่ได้ยินว่าผู้หญิงบอกว่าไม่ ต้องการก็ไม่สนใจแล้ว ผู้หญิงบนโลกใบนี้ไม่มีใครไม่ตั้งหน้าตั้ง ตารอคอยงานแต่งตัวเองหรอก อยากจะใส่ชุดเจ้าสาวสวยๆ ให้ กับผู้ชายสุดที่รักกันทั้งนั้น เธอบอกว่าไม่ต้องการ ก็แค่ไม่อยากให้คุณฟุ่มเฟือย ไม่ใช่ว่าไม่อยากจริงๆ สักหน่อย”

นรมนพูดแบบนี้ นาวินก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ

“แต่เราทั้งคู่เป็นเด็กกำพร้า และไม่มีญาติที่ไหน ถึงจะจัดงาน แต่ง ก็มีคนมาไม่เยอะ ถึงตอนนั้นมันจะเหงามาก

“ก็มีฉันกับบุริศร์ไม่ใช่เหรอ? เราก็เป็นญาติคุณ ฟังฉันนะ จัด

งานแต่ง ให้ธิดา นี่เป็นหนี้ที่คุณติดเธอ

นรมนพูดแบบนี้ นาวินก็เห็นด้วยอย่างแน่นอน

บริศร์เห็นนรมนกระตือรือร้นแบบนี้ นึกถึงงานแต่งตัวเองกับ นรมน ก็อดยิ้มไม่ได้

“เอาล่ะ กานต์เสร็จหรือยัง?”

“ยังเลย เห็นคุณตะโกนแบบนี้ เดาว่าไม่มีหน้าออกมาแล้วล่ะ”

นรมนกลอกตาใส่บริศร์

สําหรับบริศร์ แค่นรมนสบายดี จะกลอกตาใส่เขาเท่าไรก็ไม่ เป็นอะไร

“ฉันจะเข้าไปดูหน่อย คุณให้ธิดาออกมาดูแลคุณเถอะ”

“ฉันไม่เป็นไร คุณอย่าเห็นฉันเป็นคนแก่อ่อนแอป่วยและพิการ จะได้ไหม?”

นรมนยิ้มเรียบๆ แต่ในใจมีความสุขมาก ตอนท้องห้าปีก่อน เธอไม่สัมผัสความอบอุ่นมาก่อน ตอนนี้ได้สัมผัสแล้ว ในขณะนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดใน โลก

“ห้าปีก่อนฉันไม่ได้ดูแลคุณเป็นอย่างดี ตอนนี้คุณให้ฉันเห็น คุณเป็นคนแก่อ่อนแอป่วยและพิการเถอะ ถ้าเป็นไปได้ ฉันยอม คลอดลูกแทนคุณ

บุรีศรีบพยุงนรมนนั่งข้างเตียง

นาวินเห็นบุริศร์กับนรมนเป็นแบบนี้ ก็ไม่อยากเป็นก้างขวาง คอ รีบถอยออกไป

นรมนมองบุริศร์ตรงหน้า รู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจและ ความสั่นของเขาอย่างชัดเจน ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ “เกิดเรื่อง อะไรขึ้นเหรอ? คุณกับอาสามไปไหนมา? ทำไมพอฉันหลับไป แล้วตื่นขึ้นมา กานต์ก็อยู่ข้างๆ ฉัน เด็กๆ ก็อยู่ข้างล่าง ตอนที่ฉัน หลับไปมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ใช่ไหม?”

“เปล่า ฉันกับอาสามออกไปรอบๆ บอกว่าจะแนะนำสาวให้อา สามไม่ใช่เหรอ? ก็ต้องเลือกเสื้อผ้าสองสามชุดให้เขาสิ ตอนแรก คิดจะฉวยโอกาสทําเรื่องนี้ตอนคุณหลับ ไม่คิดว่าอาสามจะชักช้า มาก ฉันเลยกลับมา

บุริศร์พูดโกหกตาไม่กะพริบ เขาแค่ไม่อยากให้นรมนวิตก

กังวล ถึงจะแก้ไขปัญหาเรื่องพัสดุด่วนแล้ว แต่ใครจะรู้ว่ามีเรื่องอื่นๆ เกิดขึ้นอีก?
นรมนได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ ก็ยิ้มขึ้นมาทันที

“คุณคิดจะวางแผนแนะนำสาวให้อาสามจริงเหรอ? งานแต่ง

ของพวกทหารจะประมาทไม่ได้นะ?” “คุณตั้งใจจะให้เขาครองโสดไปตลอดชีวิตเหรอ? นี่อายุเท่าไร แล้ว ควรสร้างครอบครัวและเริ่มธุรกิจแล้ว ฉันคิดว่าเบื้องบน

เห็นด้วย”

บุริศร์จับมือนรมนก็รู้สึกจิตใจสงบไม่น้อย

“เอาล่ะ เรื่องอาสามเดี๋ยวค่อยว่ากัน คุณไปพากานต์ออกมา ก่อน เด็กคนนี้หน้าบาง ครั้งนี้เดาว่าอับอายจนตายแน่

เมื่อนรมนนึกถึงท่าทางลูกชายกางเกงราด ก็ตลกอย่างมาก

รู้สึกมาตลอดว่ากานต์คล้ายเด็กที่เหมือนผู้ใหญ่เกินไป แตก ต่างจากคนวัยเดียวกันทุกอย่าง สุดท้ายก็ทำให้เธอรู้สึกว่า ลูกชายเธอเป็นแค่เด็กสี่ขวบเท่านั้น

บุริศร์ก็ยิ้มขึ้นมาเช่นกัน

“ทําไมขี้แตกล่ะ?”

“ไม่รู้ ท้องไส้ไม่ดี ฉันให้ธิดาเอายาให้เขากินแล้ว” นรมนยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ากานต์น่ารักมากเลย

บุริศร์เห็นนรมนยิ้มมีความสุขแบบนี้ ก็รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้น

คุ้มค่าแล้ว

“คุณไปพักผ่อนสักหน่อย ฉันจะไปอุ้มเจ้าเด็กแสบออกมา”
“อย่าบังคับนะ กานต์ดื้อรั้น คุณคุยดีๆ กับเขาหน่อย

“รู้แล้ว”

บุริศรินน้ำอุ่น ให้นรมนหนึ่งแก้วก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำ ธิดากำลังทำให้กานต์สงบอยู่

“คุณชายกานต์ คุณรีบออกมาเถอะ ทำแบบนี้ต่อไปคุณจะ หายใจไม่ออกตายนะ”

ทั้งร่างกานต์จมอยู่ในอ่างอาบน้ำ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ออกมา

อับอายแทบตายแล้ว

ทําไมถึงขี้แตกนะ?

เขาไม่อยากเจอหน้าใครแล้วใช่ไหม?

ชื่อเสียงก็ไม่มีเลย

เมื่อบริศร์เข้ามา ก็เห็นฉากแบบนี้

เขายิ้มขณะเดินไป บ่งบอกให้ธิดาออกไปก่อน

ธิดาเห็นบุริศร์เข้ามาแล้ว ก็ยิ้มขณะที่เดินออกไป

“ฉันจะไปดูแลคุณนายค่ะ”

“อืม!!

หลังจากบุริศร์รอธิดาเดินออกไป ก็ย่อตัวข้างๆ อ่างอาบน้ำ ยิ้มขณะพูดขึ้น “พ่อได้ยินคุณตาสามของลูกบอกว่า บันทึกที่ยาวที่สุดของลูกคือกลั้นหายใจใต้น้ำหนึ่งนาที ไม่รู้ว่าตอนนี้ห่างจาก หนึ่งนาทีนานแค่ไหน ถ้าลูกหายใจไม่ออกตาย พูดออกไปจะขาย หน้านะ บอกว่ากานต์ผู้แข็งแกร่งมาก ตอนที่ฝึกกลั้นหายใจไม่ ระวังหายใจไม่ออกตาย ลูกว่าเพื่อนๆ ที่ค่ายทหารจะคิดยังไง?”

กานต์โผล่ศีรษะออกมาทันที

“ผมไม่ได้ฝึกกลั้นหายใจนะ!”

“แล้วลูกกำลังทําอะไร?”

กานต์โดนถามจนหน้า หน้าแดงทันที

“คุณออกไปนะ! ผมไม่อยากเห็นคุณ!

ขณะที่พูด เขาก็กำลังจะจมลงไปในน้ำอีกครั้ง

บุริศร์พูดอย่างขำขัน “ลูกคงไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ในอ่างอาบน้ำ ตลอดชีวิต ใชไหม?”

“ต้องให้คุณยุ่งหรือไง!”

กานต์พูดอู้อี้ หดหู่อย่างมาก นี่ต้องเป็นยุคที่มืดมนที่สุดใน ประวัติศาสตร์ชีวิตเขาแน่นอน

บุริศร์ยังคงยิ้มขณะพูดขึ้น “เรื่องที่ลูกขี้แตก พี่ชายน้องสาวลูก ไม่รู้ มากสุดก็มีพ่อกับหม่ามีของลูก และมีธิดาที่รู้ แต่ถ้าลูกจม น้ำตายในอ่างอาบน้ำ ความลับนี้ก็รักษาไว้ไม่ได้

“คุณอย่าพูด!

กานต์รีบเอื้อมแขนเล็กของตัวเองไปปิดปากบุริศร์ การแสดงออกทางสีหน้าจะร้องไห้แล้ว

บุริศร์เห็นลูกชายตัวเองเป็นแบบนี้ ก็ทนไม่ค่อยไหว

“แค่ขี้แตกเอง กลัวอะไร ใครไม่ขี้แตกบ้าง?”

“ใครเคยขี้แตก?”

กานต์จะร้องไห้แล้วจริงๆ

บุริศร์ยิ้มขณะพูดขึ้น “พ่อไง ตอนเด็กๆ พ่อก็เคยขี้แตก

“จริงเหรอ? คุณเคยขี้แตก?”

ดวงตาของกานต์ยกขึ้นมาทันที

บริศร์ฉวยโอกาสอุ้มกานต์ออกมาจากน้ำ ไม่สนว่าน้ำจะเปียก เสื้อและกางเกงตัวเอง ยิ้มขณะพูดขึ้น “แน่นอน ตอนเด็กๆ ใคร ไม่เคยขี้แตกบ้าง? ผู้ชายที่ไม่เคยขี้แตกยังเรียกว่าผู้ชายได้เห รอ?”

ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ ในใจกานต์ก็ถือว่าสบายใจขึ้นเล็กน้อย

“คุณบุริศร์ คุณไม่ได้โกหกผมใช่ไหม?”

“พ่อเคยหลอกลูกตอนไหน?

กานต์คิดแล้วก็จริง บุริศ เหมือนไม่เคยหลอกตัวเองจริงๆ เขาหดตัวในอ้อมแขนบุริศร์ พูดเสียงทุ้ม “เก็บเป็นความลับให้ ผมได้ไหม?”

“ได้แน่นอน ลูกเป็นลูกชายพ่อ พ่อพูดออกไปพ่อก็เสียหน้าไม่ใช่เหรอ? ไม่ต้องเป็นห่วงนะ หม่ามีจะไม่หัวเราะเยาะลูก”

“แต่นิสธิดาก็รู้”

กานต์เบ้ปากเล็ก ทำหน้าหดหู

“แล้วจะทำยังไง? ไม่งั้นเราฆ่าปิดปากดีไหม?”

“คุณบุริศร์!”

กานต์ร้อนรนใจทันที

เห็นลูกชายตอบสนองแบบนี้ บุริศร์ก็ยิ้มอย่างมีความสุขมาก “ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ใครรับประกันได้ว่านาธิดาตอนเด็กๆ ไม่ เคยฉี่รดกางเกง? อีกอย่าง นาธิดาแต่งงานแล้ว เดี๋ยวก็มีน้อง ชายหรือน้องสาวตัวน้อยให้ลูก ลูกปฏิบัติกับเธอดีๆ น้าธิดาก็จะ ไม่พูดอะไรหรอกจริงไหม?”

“อืม!”

กานต์รีบพยักหน้า ดูเหมือนพบวิธีแก้ไขปัญหาแล้ว

บริศ อาบน้ำให้เขาอีกครั้ง เปลี่ยนเป็นชุดสะอาด แล้วออกไป จากห้องน้ำ

เห็นลูกชายและสามียิ้มกว้างออกมา นรมนก็โล่งใจ

“ดื่มอะไรหน่อยไหม?

นรมนถาม

กานต์พยักหน้าอย่างอายๆ เล็กน้อย
สองสามีภรรยาลูบศีรษะกานต์ด้วยความรักใคร่ รู้สึกว่าช่วง เวลานี้ช่างอบอุ่นและงดงามมาก

เมื่อธรรศกลับมา บุริศร์ก็อุ้มกานต์ลงมาข้างล่างพร้อมบรมน เขาเห็นธรรคทํามือ OK ให้กับตน ก็วางใจ

ถึงมินทร์ตายไปแล้ว เบาะแสก็พังทลาย แต่บุริศร์รู้ว่ากานต์จะ ติดตามต่อไป แค่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาติดตามเรื่องนี้ บุริศร์ สามารถทําอย่างอื่นได้อย่างมั่นใจ

เด็กๆ กับพวกนรมนและธรรคทานอาหารด้วยกัน

นรมน หลังทานอาหารเสร็จแล้ว เด็กๆ ต้องไป ก็อดรู้สึก เสียใจไม่ได้

บริศ โอบไหล่เธอแน่นขณะปลอบเธอ

เมื่อจากลา นรมนยังคงร้องไห้ ร้องจนบุริศรปวดหัวใจไปหมด

ถ้าหากมีวิธีอื่น เขาจะไม่ให้ภรรยาตัวเองทนทุกข์จากการจาก ลาแบบนี้เด็ดขาด

บริศ แอบบอกตัวเอง เขาจะต้องแข็งแกร่ง แข็งแกร่งพอที่จะ ปกป้องคนที่ตนอยากปกป้องได้

เห็นเด็กๆ ไปหมดแล้ว บุริศร์ก็พูดกับนรมน “อย่าร้องไห้เลย เด็กๆ อยู่ที่นั่นมีอาสามดูแล จะไม่ลำบากมากหรอก แต่พวกเรา น่ะสิ น่าจะต้องลำบากสักหน่อย

“หมายความว่าไง?”
นรมนยังคงตาแดง ถามขึ้นค่อนข้างสะอึกสะอื้น

บริศ ครุ่นคิดสักพัก พูดเสียงทุ้ม “เราต้องไปตระกูลจันทรวงศ์ กันหน่อย นภดลเกิดเรื่องแล้ว”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ