แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 540 พวกเธอไปพบเจออะไรมากันแน่



บทที่ 540 พวกเธอไปพบเจออะไรมากันแน่

“นั่งกันให้ดีนะ”

หลังจากเจตต์พูดจบเขาก็เร่งความเร็ว

“มีอะไร?”

กมลรู้สึกงุนงงเล็กน้อย เมื่อเธอต้องการที่จะหันกลับไปดู เธอ ก็ถูกปิดตา โดยนรมน

“อย่ามอง”

“ทําไมคะ”

กมลก็ไม่ได้บังคับตัวเองให้ไปหันไปมอง เธอนั่งอย่างเชื่อฟัง ภายในอ้อมแขนของนรมน ปล่อยให้นรมนปิดตาของตัวเอง ก่อนถามอย่างใสซื่อ

นรมนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ทำได้เพียงพูดว่า “กลัวหนูจะไม่ อยากแยกจากพี่ภาคินจะ

“ใช่ค่ะ หนูไม่อยากจากกับพี่เขาแล้ว หนูบอกหม่ามี้แล้ว พี่ ภาคินเป็นคนดีจริงๆ

เมื่อพูดถึงภาคิน รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของกมล รถคันข้างหลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทักษะการขับรถไม่ด้อยไป กว่าเจต
สีหน้าของเจตต์และนรมนดูแย่ขึ้นมา แต่นรมนก็ยังคุยกับเมล เรื่อยๆ “ภาคินดีกว่าพี่ชายของลูกสองคนอีกหรือ?”

“ไม่เหมือนกันค่ะ พี่ชายคือพี่ชาย พี่ภาคนคือ ภาคิน” กมลไม่มีวิธีอธิบาย ทำได้แค่พูดเน้นไม่หยุดแบบนี้ เจตต์หัวเราะ ก่อนพูด “ตัวเล็กขนาดนี้มีคนที่ชอบแล้วเหรอ

เบี้ย “คนที่ชอบ? ใช่ค่ะ หนูชอบพี่ภาคิน! โตขึ้นหนูจะเป็นเจ้าสาว ให้พี่ภาคิน”

คำขยายกริยาอันห้าวหาญของกมลทำให้นรมนอึดอัดใจเล็ก น้อย แต่กลับไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว เพราะว่ารถข้างหลังที่กำลัง ไล่ตามมา

“เจตต์ คุณ…. …”

“ผมรู้ พวกคุณรัดเข็มขัดให้ดีเถอะ”

ใบหน้าของเจตต์มีความลำบากใจขึ้นมา

สามารถไล่ตามมาถึงจุดที่เขาอยู่ได้นี่มันไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากบริศร์ในปีนั้นแล้ว ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเทียบเทียม ฝีมือการแข่งรถของเขาได้

“อย่าบอกนะว่า คนขับรถคันหลังฉันอยากจะเห็นสักหน่อย ท่วงท่าเขาเหมือนบุรีศร์ในปีนั้นมาก

เจตต่ไม่ตอบนรมน แต่ดวงตาเขากลับมืดลง
ตอนนี้ รถคันหลังได้ไล่ขึ้นมาและชนรถของเจตต์อย่าง กะทันหัน

รถสั่นอย่างรุนแรง เจตต์รีบหมุนพวงมาลัยอย่างรวดเร็ว ถึงจะ คุมรถอยู่ แต่ทว่าก็โดนกระแทกเข้ามาอีกรอบ

“หม่ามี้ เกิดอะไรขึ้น ? แผ่นดินไหวเหรอคะ?”

กมลตกใจ กอดแขนของนรมนแน่น

นรมนปกป้องกมลด้วยสีหน้าแววตาที่เคร่งขรึมเป็นพิเศษ

“เจตต์ สามารถดูออกไหมว่ามันเป็นใคร

“มองไม่ชัดเลย แต่มันมีฝีมือในการขับรถมาก

เจตต์เสียเปรียบในเรื่องนี้อย่างมาก ตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามไม่ไว้ หน้าเขา แถมยังทำให้เขาขายหน้านรมนอีก เจตต่เริ่มโมโหเสีย

แล้ว

“ฉันจะลองดูว่าเป็นใครกันแน่ อาจจะเป็นครินท

เจตต์เปลี่ยนทิศทางของรถด้วยความโกรธ แทนที่จะถอย กลับ แต่กับขับเข้าไปชนรถคันนั้นโดยตรง

อีกฝ่ายดูเหมือนจะเห็นถึงความตั้งใจของเจตต์ ถอยห่างออก ไปอย่างรวดเร็ว เจตรีบขับตามไป

เมื่อรถชนกันอีกครั้ง หน้าต่างของอีกฝ่ายก็โยกคลอน ปืนพก เก็บเสียงก็เล็งตรงไปยังนรมน

ตอนนี้นามนกลับตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
เธอคิดไม่ถึงว่าคนที่ขับรถชนเธอ แถมยังเอาปืนเล็งมาทาง เธอจะเป็นกิมจิ!

กิมจิหายตัวไประหว่างทางไปหาบุริศร์ ไม่มีข่าวคราวใดๆ จากเขามาก่อน และไม่คาดคิดว่าจะปรากฏตัวที่นี่ ไม่เพียงแต่ ปรากฏตัวออกมา ยังจะทําท่าทางเหมือนจะประหัตประหารกัน อีก

“เจตต์ อย่าทําร้ายเขา

ทันทีที่นรมนเพิ่งพูดจบ กระสุนของอีกฝ่ายก็ถูกยิงออกมา

“หม่ามี้!”

นรมนลุกขึ้นยืนในทันใด

“ระวัง!”

นรมนอยากจะน่าร่างกายของกมลกดลงไปแต่ไม่สามารถ ทำได้แล้ว ในวิกฤตอันตรายนี้ นรมนรีบหมุนกาย นกมลเข้ามา อยู่ในอ้อมแขน

“ปัง” กระสุนทะลุไหล่ของนรมน เธอตัวสั่นด้วยความเจ็บปวด ของเหลวอื่นๆ ไหลซึมผ่านเสื้อผ้า เปรอะเปื้อนไปถึงด้านหลังของ เธออย่างรวดเร็ว

ดวงดาของเจต เป็นสีแดง

“แม่ง! กล้าทำแบบนี้กับคุณได้ไง หาเรื่องตายชัดๆ! ผมอยากรู้ว่ามันเป็นใคร!

เมื่อกี้เขากำลังบังคับรถอยู่ ดูไม่ทันว่าฝ่ายตรงข้ามหน้าตาเป็น อย่างไร แค่ได้ยินบรมนพูดว่า อย่าทำร้ายเขา ทำให้เขาลังเลไป นิด จนทำให้นรมนบาดเจ็บ

เจตต์รู้สึกว่าตัวเองไม่มีประโยชน์

ไหลของนรมนูปวดเจียนตาย แต่เธอรีบพูดขึ้นมาว่า “อย่าทำ อะไรเขา เขาคือกิมจิ เป็นคนของฉัน คือลูกน้องที่ฉันให้ส่งไปตาม หาตัวบุริศร์ แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องการที่จะฆ่าฉัน เจตต์ ถ้า เป็นไปได้ บังคับให้เขาหยุดเสีย ฉันมีเรื่องจะถามเขา บางทีเขา อาจจะรู้เบาะแสของบุริศร์”

ยากมากที่จะมีข่าวจากกิมจิ นรมนไม่อยากเสียโอกาสนี้ไป ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆแล้วบุริศร์และกิมจิเผชิญอะไรกันมาบ้าง ทำไม พวกเขาถึงละทิ้งความสัมพันธ์ตรงนี้

ตอนนี้กิมจิเผยตัวออกมา แต่ดูท่าทางเขากลับเหมือนไม่อยาก อยู่ร่วมโลกกับเธอ ทำไมกัน?

แม้ว่าเจตต์จะโกรธที่กิมจิทำร้ายนรมน แต่เขาก็ยังคงระงับ ความโกรธ ก่อนพูดอย่างเย็นชา “เด็กคนนี้ต้องพูดอะไรหน่อย แล้ว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยแกไปแน่

พูดจบ รถของเขาก็เปลี่ยนทิศทาง จุดมุ่งหมายคือเพื่อหยุดรถ

ฝ่ายตรงข้าม

หลังจากกิมจิงนรมนไปหนึ่งนัด เขาต้องการที่จะยิงนัดที่สองทว่าเจตต์กลับเปลี่ยนกลยุทธ์ ทำให้เขาจำต้องวางปืนลง พยายามเต็มกำลังที่จะเริ่มฝ่าวงล้อม

รถทั้งสองคันขับเคียงข้างกันไปบนถนนในบริเวณบ้านพักซึ่ง ไร้ผู้คน

นรมนกระซิบกับกมล “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กมลห้ามส่งเสียง

นะลูก นอนคว่ำกับเบาะรถไว้นะ โอเคไหม?”

“ทําไมคะ?”

เพราะกมลถูกปิดตาเอาไว้ เธอจึงไม่เห็นบาดแผลบนไหล่ของ นรมน ยังไม่เห็นเลือดที่ไหลทะลัก รวมไปถึงใบหน้าที่ชุดขาว ของเธอด้วย

นรมนูทำได้เพียงแค่สงบสติอารมณ์ และพูดว่า “พวกเรากำลัง เล่นเกมกับคนอื่นอยู่ ถ้ากมลลุกขึ้นมา พวกเราจะแพ้ กมลอยาก เห็นพวกเราแพ้ไหมคะ?”

“ไม่!”

กมลคิดว่าตัวเองกำลังเล่นเกมอยู่จริงๆ เธอรีบนอนนิ่งบนเบาะ อย่างเชื่อฟัง

นรมนรีบหยิบกล่องยาออกมา ก่อนเทไอโอดีนลงบนบาดแผล ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้เธอต้องกัดริมฝีปากล่าง เลือด ไหลซึมออกมาหลังจากนั้นไม่นาน แต่เธอก็พยายามฝันไว้ หลังจากฆ่าเชื้อแล้วเธอก็หยิบผ้าก๊อตขึ้นมาพันแผล
เจตต์เห็นเทคนิคที่คุ้นเคยของนรมนผ่านทางกระจกหลัง เขา รู้สึกปวดใจ

“ขอโทษ ที่ทำให้คุณบาดเจ็บ

“ไม่เกี่ยวกับคุณ”

เสียงของทั้งสองคนเบามาก พยายามสุดความสามารถเพื่อที่ จะไม่ให้กมลได้ยิน

เจตต์กัดฟัน เขาลาดไปด้านข้างอย่างกะทันหัน เพื่อบังคับให้

รถของกิมจิหยุดลงข้างทาง

“ลงมา”

ใบหน้าของเจตต์นั้นดูน่ากลัว เมื่อตอนเขาคิดอยากจะดึงกิมจิ ลงมาเพื่อจะกระทบมัน กิมจิกลับเร่งความเร็ว บังคับรถให้มาทาง รถของพวกเขา ดูท่าทางเหมือนกับจะให้ตายไปด้วยกัน

คิดจะตัดขาดกันอย่างนี้ทำให้เจตต์รู้สึกตกใจ

เขาถอยกลับอย่างรวดเร็ว เป็นครั้งแรกที่ออกจากเขตการ

โจมตีของกิมจิ ในขณะเดียวกันกิมจิก็ขับรถพุ่งออกไปโดยตรง หายลับสายตาของพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว

“ตามไปไหม?”

เจตต์ถาม แต่นรมนไม่ตอบ เมื่อเขาหันไปมองเธอ กลับพบว่า ตอนนั้นรมนเป็นลมไปเสียแล้ว

เมื่อกี้ยังตอบโต้กับเขาอยู่เลยทำไมตอนนั้นรมนถึงเป็นลมไป
เจตต์กระวนกระวายใจ

“นรมน นรมินคุณเป็นยังไงบ้าง?

เขารีบผลักนรมน ถึงพบว่าอุณหภูมิร่างกายของนรมนตอนนี้ สูงมาก

นึกไม่ถึงว่าเธอจะมีไข้

ผู้หญิงคนนี้ไม่บอกเขาสักนิดว่ามีไข้

กมลได้ยินเสียงของเจตต์เรียกนรมน เธอลืมตาขึ้นอย่าง รวดเร็วและพบว่านรมนอยู่ในสภาวะไม่ได้สติ ก่อนจะร้องไห้ไม่ หยุด

“หม่ามี้ เป็นอะไรไป? หม่ามีบอกว่าเป็นเกมไม่ใช่เหรอ? ทำไม หม่านอนอยู่แบบนี้ หม่ามี้ตื่น!

กมลร้องไห้จนหายใจไม่ออก ร้องจนเจตต์รู้สึกรำคาญใจเล็ก น้อย แต่กลับโกรธไม่ได้เพราะเธอเป็นลูกสาวของนรมน

“กมล อย่าร้อง หม่ามเหนื่อยมากแล้วนะ พวกเรารีบพาหม่ามี กลับไปพักผ่อนดีไหม?”

“จริงไหม?”

กมลเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

เจตต์ทำได้เพียงพยักหน้า แต่ใจร้อนรุ่มดั่งไฟ

เขาโทรหาโพนี่และเล่าเรื่องของนรมนให้ฟัง จากนั้นก็รีบกลับ ไปที่เขตที่พักทหารพร้อมกับกมลและนรมน
โพนพานรมนกลับบ้านเป็นครั้งแรก

กมลรู้สึกร้อนใจและกังวลเล็กน้อย กิจจาวิ่งออกมาอย่างเร็ว

“หม่ามี้เป็นอะไร!”

เมื่อกมลเห็นคนสำคัญ เธอรีบไปหา ก่อนร้องไห้ “พี่กิจจา หม่า บอกหนูเมื่อกว่าพวกเรากำลังเล่นเกม แต่อยู่ๆ หม่ามีก็นอน พี่ว่า หม่ามีไม่สบายหรือเปล่า?”

“บางทีหม่าอาจจะเหนื่อย กมลเด็กดี พี่พาเธอไปพักที่ห้อง ไหม? ให้คุณน้าโพนี่ดูแลหม่า ให้หม่ามีพักผ่อนเสียหน่อย รอ หม่ามี้ตื่นแล้วพวกเราค่อยมาหา ดีไหม?”

กิจจาเป็นห่วงนรมนมาก แต่ตอนนี้กมลก็ต้องการคนดูแล

และตอนนี้คนที่สามารถดูแลกมลได้ก็มีเพียงเขา

เมื่อเห็นว่ากิจจารู้ความโพนี่ก็พูดอย่างปลื้มใจ กิจจา เธอ พากมลไปพักผ่อนก่อนเถอะ วางใจเถอะนะ ฉันจะทำให้พวกเธอ กับหม่ามีได้พบกัน”

“ขอบคุณที่กรุณาครับ”

มีร่องรอยของความกังวลในสายตาของกิจจา เสียงของเขา

สั่นไหว

โพ ตบไหล่ของเขา หลังจากนั้นเจตต์ก็น่นรมนเข้าไปในห้อง

ข้างใน
“เกิดเรื่องอะไรแบบนี้ได้ยังไง? ฉันคิดว่าถ้าเธอออกไปกับนาย เธอจะต้องปลอดภัยแน่ เธอฝีมือดีไม่ใช่เหรอ?”

โพนี่ไม่ได้ตั้งใจที่จะโทษว่าเป็นความผิดเขา แค่อยากรู้เรื่องที่ เกิดขึ้น แต่ในความคิดเจตต์ เขาโทษตัวเองว่าเป็นเพราะเขา นรมนถูกยิงต่อหน้าเขา

“แม่งเอ้ย! บรมนไม่ให้ฉันทำอะไรกับคนนั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่ เกิดเรื่องแบบนี้”

เจตต์ระเบิดอารมณ์ออกมา

“คนนั้น? คนไหน? พวกเธอไปเจออะไรกันมา?”

เป็นไปได้ไหมที่จะเป็นตรินท์ คนที่นรมนยอมที่จะอยู่นิ่งตอนจะ

โดนยิง

เจตต์รู้ว่าโพนี่กำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขากลับพูดเสียงต่ำ “ไม่ใช่ ครินท์ แต่มันก็น่าแปลกจริงๆ คนคนนั้นคือกิมจิลูกน้องที่นรมน เชื่อใจที่สุด เห็นว่าก่อนหน้านี้เขาออกตามหาบุริศร์ และขาดการ ติดต่อกับบริศร์ ไม่คิดว่าวันนี้จะเป็นคนที่กล้ายิงนรมน มีท่าทาง ทีอยากผ่านรมน”

“กิมจิ? ทำไมถึงลงมือกับนรมน? เห็นบุริศร์ไหม?”

คำพูดของโพนทำให้เจตต์รู้สึกทุกข์

“ถ้าหากบริศร์อยู่ จะทำให้เมียตัวเองบาดเจ็บทำไม? กิมจิ อะไรนั้นเหมือนเป็นบ้า ตาเขาไม่กะพริบด้วยซ้ำคำพูดของเจตต์ ทำให้โพนี่ตกใจ

“ไม่กะพริบตาหมายความว่าอะไร?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ