แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1024 ฝีมือไม่ได้แล้วจะโกรธใครได้



บทที่ 1024 ฝีมือไม่ได้แล้วจะโกรธใครได้

บรมนถอนหายใจ

เรื่องแล้วเรื่องเล่าประดังเข้ามา ปวดหัวเหลือเกิน

ตอนนี้เธออยากจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้นออกไปท่องโลกกับบุรี ศ สองคน

“โสธรยังอยู่มั้ย”

“อยู่ค่ะ เขารับผิดชอบเฝ้าแพรวาได้ยินชัยยศบอกว่าจัดการ เฮลิคอปเตอร์คืนนี้ส่งแพรวาไปขึ้นเครื่องบินแล้วค่ะ”

สมจิตรายงานอย่างขยันขันแข็ง

นรมนพูดเสียงเบา “บอกโสธรด้วย ให้เขาตามขึ้นเครื่องไป ประเทศFด้วย ราเชน ให้วีซ่ามาหลายคน พาไปได้สองสามคน แล้วก็ติดต่อกับคนของบริศร์ที่ประเทศสองฝ่ายแลกคนกันแล้ว อย่าให้เกิดปัญหา ไม่ว่ายังไงก็ตาม ห้ามให้แพรวาถูก ใครชิงตัว ไปได้ระหว่างทาง”

“ค่ะ ฉันจะไปจัดการให้เรียบร้อย

หลังจากสมจิตออกไปแล้ว นรมนก็ลุกขึ้นไปชั้นบน

วันนี้ไม่กินมื้อเย็นแล้ว

เธอเปลี่ยนเสื้อผ้า โทรไปหา ราเชน บอกเขาให้หาคนรวมกับ คนของบุริศร์ไปรับตัวแพรวาจะดีที่สุด
ราเชนไม่มีปัญหากับการจัดการของเธอ

หลังตกลงกันเรียบร้อยแล้ว นรมนคิดจะพักผ่อนสักหน่อย

เดี๋ยวจะไปรับเนตราเอง

ผู้หญิงคนนี้ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็จะไม่ยอมปล่อยไป

เวลานี้เอง มือถือของนรมนก็ดังขึ้น

เธอมองแวบหนึ่ง คาดไม่ถึงคือวิดีโอคอลที่กิจจาส่งคำเชิญเข้า

ร่วมมา

นรมนรีบจัดแจงตัวเอง แล้วกดรับ

“กิจจา!”

“หม่ามี้!”

กิจจาค่อนข้างคล้ำกว่าเมื่อก่อน แต่ดูแล้วแข็งแรง และร่าเริง มาก ท่าทางไม่เหมือนคนที่เป็นออทิสติก

เรื่องนี้ทำให้นรมนดีใจมาก

“เป็นยังไงบ้าง ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน แม่เห็นหน้าลูกตากแดดจน ค่าเชียว”

นรมนสงสารมาก

กิจจายิ้มแย้ม “ผมตามอาจารย์มาแอฟริกาครับ”

“แอฟริกางั้นหรือ”

นรมนตก ใจ
“ทําไมถึงไปที่นั่นล่ะ

“อาจารย์บอกว่าเงื่อนไขการแพทย์ที่นี่จำกัด อยากจะมาช่วย เหลือ และโรคที่นี่ก็ซับซ้อน เหมาะให้ผมมาเรียนที่นี่”

ในตอนแรกกิจจาไม่ได้ชอบแพทยศาสตร์มากนัก แต่ตอนนี้ ติดตามมิลินเห็นความลำบากจนเคยชิน จึงรู้สึกว่าเรียนหมอก็ต มาก

“หม่ามี้ ผมได้ยินอาการปวดประสาทของแต๊ดดี้กำเริบหรือ ครับ”

นรมนอึ้งไปนิดหนึ่ง

เรื่องนี้เป็นความลับมาก มีไม่กี่คนที่รู้ แต่ตอนนี้กิจจารู้เรื่องนี้ แสดงว่ามิลินคอยติดตามข่าวคราวที่นี่ตลอด

มิลินติดตามเรื่องที่นี่อาจเป็นเพราะกิจจา หรืออาจเป็นเพราะ เหตุอื่น นรมนไม่อยากจะคิดให้ซับซ้อน แต่ละคนต่างมีเรื่องราว ของตัวเอง สร้างพลังที่เหมาะสมเพื่อปกป้องตัวเองก็ไม่น่ามี ปัญหาอะไร

เธอจึงยิ้มถาม “ลูกได้ยินจากอาจารย์หรือจ๊ะ

“อืม อาจารย์บอกว่าอาการปวดประสาทของแด๊ดดี้เป็นเคสที่ ซับซ้อน รักษายาก แต่อาจารย์บอกด้วย ที่ศาลบรรพบุรุษหมู่บ้าน ดารายนมีหนังสือเก่าเล่มหนึ่ง ในนั้นมีวิธีรักษาอาการปวด ประสาทของแด๊ดดี้ หม่า ลองส่งคนไปหาดูสิครับ ผมคิดว่าอา ป้องอ่านแล้วอาจจะมีวิธี
กิจจาเล่าอย่างนี้ ทำให้นรมนดีใจ

เธอรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาป้าโอเคยพูดเรื่องนี้ แต่ตอนนั้น

พวกเขาซ่อมแซมศาลนี้ก็หาหนังสือเล่มนั้นไม่เจอ

“พวกเราหาหนังสือเล่มนั้นไม่เจอจะ

“ทําไมล่ะครับ อาจารย์บอกผมว่ามี

ใบหน้ากิจจาแสดงความสงสัย

เห็นได้ชัดเขาในวัยนี้ยังไม่เข้าใจอาจารย์บอกว่ามีแล้วทำไม ถึงไม่มี

นรมนเห็นเขาหน้านิ่วคิ้วขมวด ก็อดสงสารไม่ได้ “หม่าจะ ลองหาวิธีค้นหาอีกรอบ ลูกไม่ต้องกังวลไป ถ้าคิดถึงบ้านก็กลับ มานะ”

“โอเคครับ หม่ามี้ ผมจะเอาของฝากจากแอฟริกาไปให้

“ผู้อพยพแอฟริกาหรือจ๊ะ

นรมนพูดเล่น แต่คาดไม่ถึงตอนที่กิจจากลับมาจะพาผู้อพยพ แอฟริกามาด้วยจริงๆ แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องในภายหลัง

สองคนคุยกันครู่หนึ่ง ก็วางสาย

ครั้งนี้ได้เจอกับกานต์ และยังได้คุยวิดีโอคอลกับกิจจา ตอนนี้ เหลือแต่กมลที่ยังไม่ได้เจอ

ตอนนั้นรมนรอไม่ไหวที่จะโทรไปหากมล
เธอคิดแล้วก็ทำทันที รีบโทรไปหากมล แต่ฝั่งนั้นไม่มีคนรับ สาย

นรมน โทรสามสี่ครั้ง ก็ไม่มีคนรับสาย เธออดไม่ได้ที่จะไม่

สบายใจ

เด็กน้อยต่อให้ออกไปวาดรูป ก็ไม่น่าจะไม่พกมือถือ

หรือว่ากมลเกิดเรื่องอะไรขึ้น

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ นรมนก็เป็นกังวล

เธอหวังเหลือเกินการคาดเดาของเธอจะไม่เป็นจริง

นรมน โทรไปหาอาจารย์ของกมล แต่ปลายสายไม่มีสัญญาณ

เมื่อติดต่อกมลไม่ได้อย่างนี้ทำให้นรมนหงุดหงิด

“คุณหนูครับ ท่านหัวหน้า ให้คุณลงไปกินข้าวครับ

เสียงของ โดบินดังมาจากข้างนอก

ตอนนี้นรมนจะมีอารมณ์กินข้าวได้ยังไง

“ฉันจะออกไปกินข้าวข้างนอก ไม่ต้องรอ

นรมนคว้าเสื้อคลุมรีบร้อนจะออกไปข้างนอก เห็นเธอจะออก ไปข้างนอก สมจิตก็รีบขับรถมารับเธอ

“คุณนาย จะไปไหนคะ”

“โรงเรียนอนุบาลABC”
ตอน นรมนอยากจะมีปีกบินได้

สมจิตค่อนข้างคุ้นเคยกับเส้นทาง ใช้ทางลัดขับไปหน้าประตู โรงเรียนอนุบาลABC

นรมนรีบเข้าไปในห้องทํางานอาจารย์ใหญ่ทันที

“อาจารย์ใหญ่คะ ฉันคือแม่ของกมล ฉันอยากรู้ลูกสาวออกไป วาดรูป ตอนนี้ทําไมติดต่อไม่ได้ พวกเขาไปที่ไหนกันคะ ขอที่อยู่ ให้ฉันได้มั้ยคะ”

นรมนแสดงบัตรประจําตัว

อาจารย์ใหญ่รีบลุกขึ้น “คุณนายบุริศร์ ไม่ต้องกังวลไป ผมจะ ลองติดต่อพวกเขา พวกเขาไปไม่ไกล แถวนี้เอง ถ้าคุณคิดถึงลูก ผมจัดให้รถไปรับได้ ตอนนี้พวกเขาน่าจะใกล้กลับมาแล้ว”

“ไม่ต้องค่ะ คุณให้ที่อยู่ฉัน เดี๋ยวฉันจะไปรับเองค่ะ คุณช่วย

แจ้งครูให้ทราบหน่อยได้มั้ยคะ”

นรมนปกติจะไม่ขออภิสิทธิ์ แต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ เธอ กลัวกมลจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก

อาจารย์ใหญ่เห็นสีหน้านรมนไม่ค่อยดี ก็รีบส่งที่อยู่ให้นรมน นรมนกับสมจิตรีบไปตามที่อยู่นั้นทันที

ทีนี่คือสวนสาธารณะ ห่างจากเขตเมืองเพียงสิบกว่ากิโลเมตร

นรมนรู้สึกกระวนกระวายใจตลอดทาง

สมจิตมองเธอแวบหนึ่ง “คุณนาย คุณหนูเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”

“ฉันก็ไม่รู้ ตอนนี้ฉันกลัวจัง กล้าณรงค์ยังอยู่ข้างนอก ตอนนี้ ถึงจะปิดข่าวที่แพรวาถูกฉันจับ แต่ช้าเร็วกล้าณรงค์ก็ต้องรู้ข่าว ฉันกลัวเขาจะจับกุมลไปข่มขู่ให้ฉันปล่อยตัวประกัน ถึงตอนนั้น ฉันไม่กล้าคิด ถ้ากมลรับสายฉันก็ยังดี แต่ตอนนี้ไม่มีคนรับสาย อาจารย์ก็ไม่ได้รับสาย ฉันร้อนใจเหลือเกิน”

ขณะพูด นรมนก็โทรไปหากมลอีกหลายครั้ง แต่ก็โทรไม่ติด

สีหน้าของเธอเคร่งเครียด

สมจิตรู้ว่าลูกมีความหมายกับนรมนมากแค่ไหน เธอรีบเร่ง ความเร็ว

ตอนที่รถไปถึงที่หมาย นรมนรีบเข้าไปหาอาจารย์ที่เป็น หัวหน้ากลุ่ม

“ครูทอย ฉันคือแม่ของกมลค่ะ ฉันมารับลูกสาวกลับบ้าน ขอโทษด้วยค่ะ งานวาดรูปครั้งนี้พวกเราอยู่ได้ถึงแค่ตอนนี้ นรมนน้ำเสียงขอโทษ

ครูทอยแปลกใจที่นรมนมาที่นี่ แต่พูดอย่างกลุ้มใจ “คุณแม่ กมล ฉันกำลังจะโทรไปหาคุณพอดี กมลเธอ…

“ลูกสาวฉันเป็นอะไรคะ มีใครมาหาเธอหรือเปล่า หรือเธอเกิด เรื่องอะไร นคะ”

นรมนอกสั่นขวัญแขวน
กลับส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะ กมลเด็กผู้ชายในชั้นเรียนเรา และ ยังหัวแตกด้วย ตอนนี้ถูกครูอิงฟ้าพาไปโรงพยาบาลแล้ว กมล ก็ตามไปด้วย ฉันกำลังหยิบโทรศัพท์ คิดจะโทรไปหาผู้ปกครอง ดูว่าเรื่องนี้จะตกลงกันยังไง

บรมนงุนงง

“ครูทอยคุณพูดผิดหรือเปล่าคะ คนอื่นเป็นฝ่ายลูกสาวของ ฉันหรือเปล่า”

ถึงอย่างไรเธอก็ไม่อยากเชื่อ กมลจะตีคนจนหัวแตกจริงๆ หรือ กมลเป็นเด็กช่างกิน กลายเป็นนักรบหญิงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน นรมนรู้สึกว่าที่พูดมาทั้งหมดนี้ไม่ใช่ลูกสาวของเธอ

ครูทอยอยากจะร้องไห้

“คุณแม่กมลคะ ฉันไม่ได้ล้อเล่นค่ะ กมลเป็นคนลงมือจริงๆ”

“ทําไมคะ”

นรมนเริ่มรู้สึกปวดหัวแล้ว

ครูทอยส่ายหน้า “ฉันก็ไม่รู้เหตุผลค่ะ เรื่องนี้ค่อยสอบถามอีก ที ตอนนี้ไปโรงพยาบาลดูเด็กๆ ก่อนดีมั้ยคะ”

“อ้อ ใช่ พวกเราไปโรงพยาบาลกัน ไปรถฉันเถอะค่ะ”

นรมน ให้สมจิตขับรถมา

ครูทอยพูดขึ้น “ฉันไปไม่ได้ค่ะ ทางนั้นมีครูอิงฟ้าอยู่ ที่นี่ยังมีเด็กคนอื่น ฉันปล่อยพวกเขาไว้ไม่ได้ คุณแม่กมล ฉันติดต่อผู้ ปกครองอีกฝ่ายให้มาแล้ว พวกคุณลองเจรจากันดูนะคะ”

อาจเป็นเพราะกมลแสดงออกก้าวร้าว ทำให้ครูทอย รู้สึกว่า หม่ามีของเธอก็เป็นคนแบบนั้น แม้ว่านรมนจะดูไม่เหมือน แต่ยัง หวังดีเตือนเธอ

มุมปากนรมนเกร็งนิดหนึ่ง

ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยทะเลาะจนต้องพบผู้ปกครอง เจ้า กมล ช่วงนี้เก่งกล้าขึ้นหรือ

นรมนเพียงแต่พยักหน้า ไปที่โรงพยาบาลตามที่ครูทอย ให้ที่อยู่

นรมนแทบจะเห็นกมลยืนที่มุมหนึ่งในทันที

โคลนเปรอะเปื้อนเต็มตัว ยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนเด็กถูกทอดทิ้ง ส่วนครูอิงฟ้า นั่นร้อนใจเดินไปเดินมาที่หน้าประตูห้องผ่าตัด ดอยคํารามใส่กมลอยู่เรื่อยๆ

“ดูสิเธอทำบ้าอะไร! ถ้าสกายเป็นอะไรขึ้นมา ฉันจะมีหน้าพูด กับผู้ปกครองเขายังไง เป็นเด็กผู้หญิง ทำไมมีอะไรไม่พูดกันดีๆ ไม่ไหวจริงๆ ก็ถูกเขาตีสักทีสองที่จะเป็นไรไป แต่เธอทำบ้าอะไร ตีจนเขาสมองเปิด ยืนดีๆ! รอผู้ปกครองเธอมา ฉันจะต้องพูดกับ ผู้ปกครองเธอให้รู้เรื่อง รีบเอาเบอร์โทรผู้ปกครองมาเดี๋ยวนี้

นรมนหรี่ตาทันที
กางเกงของกมลเปียกชื้น ดูแล้วคงถูกดึงตัวขึ้นมาจากน้ำ

ครูอิงฟ้าไม่รู้จักเปลี่ยนกางเกงให้เด็ก แล้วตอนนี้ยังให้กมล ยืนท่าโทษอีก

เธอโกรธจนควันออกหู

กมลแม้จะถูกลงโทษ แต่ยังคงพูดคอแข็ง “เขาตีหนูก่อน เขา หนู หนูแค่ป้องกันตัว

“ป้องกันตัวบ้าอะไร! ป้องกันตัวทำเขาเข้าโรงพยาบาลนนะ ยัง จะกล้าพูดอีก”

ครูอิงฟ้า โกรธจัด

กมลยังคงไม่ยอม “สู้ไม่ได้จะโทษใครได้”

“ยังจะพูดอีก!”

ครูอิงฟ้าโมโหจนหยิกกมลที่หนึ่ง

นรมนเดือดถึงขีดสุด

“คุณทําอะไร”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ