แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 137 ตอนนี้ฉันกลัวคุณร้องไห้



บทที่ 137 ตอนนี้ฉันกลัวคุณร้องไห้

บุริศร์กระตือรือร้นที่จะให้เจ้าก้างขวางคอคนนี้ ออกไปเร็วหน่อย แต่ก็ไม่ค่อยวางใจความปลอดภัย ของกานต์

โชคดีที่แชมป์ยังอยู่เมืองชลธียังไม่ได้ออกไป บุริ ศร์โทรหาแชมป์ ให้เขาพากานต์ไปส่งที่บ้านเก่าตระกูล โตเล็ก ถ้าเป็นไปได้ หวังว่าไม่กี่วันนี้อยากให้เขาอยู่ ดูแลเด็กสองคนที่บ้านเก่าตระกูลโตเล็ก

กานต์ได้ยินว่ามีแชมป์คอยปกป้องพวกเขา ก็ดีใจ มากอยู่แล้ว

เหตุการณ์ลักพาตัวครั้งนี้ทำให้กานต์ตระหนัก อย่างลึกซึ้งว่าสิ่งเหล่านั้นที่แชมป์สอนมันมีประโยชน์ เป็นพิเศษ สิ่งที่เขาขาดในตอนนี้คือความสามารถ ป้องกันตัว ถ้าแชมป์สามารถอยู่และสอนพวกเขาได้ เขากล้ารับประกันเลยว่าตัวเองจะเติบโตได้อย่าง รวดเร็ว

เหตุการณ์ลักพาตัวครั้งหนึ่งทำให้กานต์ตระหนัก อย่างลึกซึ้ง ตัวเองต้องแข็งแกร่ง ถึงจะปกป้องตัวเอง ได้ ถึงจะปกป้องหม่ามได้ ไม่ให้หม่ามเป็นห่วง ไม่ให้พี่ น้องเป็นห่วง

เพื่อเป้าหมายนี้ ไม่สำคัญว่าเขาจะทรมานมากแค่

ไหน
คิดถึงตรงนี้ กานต์ก็กระโดดลงจากเก้าอี้

“หม่าม้า ผมกลับก่อนนะ ไม่ต้องเป็นห่วงผม มีคุณ แชมป์อยู่ ผมกับกิจจาจะไม่เป็นอะไร แม่อยู่นี่ดูแลคน คนนี้ให้ดีเถอะ”

จากคำพูดของกานต์ ฟังไม่ยากเลยว่าเขาชื่นชม แชมป์ และรังเกียจบุริศร์ มันทำให้บุริศร์พูดไม่ออก

เจ้าเด็กแสบคนนี้ทำไมชื่นชมทุกคน แต่ไม่เห็นเลย ว่าพ่อแท้ๆ ของเขานี้กล้าหาญและมีความสามารถมาก แค่ไหน?

แต่กานต์ไม่ให้โอกาสบุริศร์ได้พูดอะไรเลย เขา โบกมือให้กับบุริศร์แล้วพูดขึ้น “ผมไปรออยู่ข้างนอกนะ เพื่อไม่ให้อ้วกคุณอีก”

พูดจบเขาก็แลบลิ้น ทำหน้าทะเล้น จากนั้นก็หยิบ ปลาน้ำแดงวิ่งออกไป

มุมปากนรมนยกขึ้นเล็กน้อย

กานต์ไม่ได้แสดงความเป็นเด็กแบบนี้มานานแล้ว เธอถึงขั้นรู้สึกว่าลูกชายเธอโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่คิดว่ามา ถึงเมืองชลธีเขาจะเหมือนเผยความเป็นธรรมชาติของ ตัวเอง มีความไร้เดียงสาแบบเด็กน้อย

“กานต์กลับมาเมืองชลธีแล้วร่าเริงขึ้นเยอะเลย”

นรมนพูดความจริง

บางทีอยู่ที่นี่แล้วไม่ต้องเห็นกมลทรมาน ไม่ต้องเห็นนรมนร้องไห้ทุกวัน ไม่ต้องใช้ชีวิตด้วยความกังวล ใจทุกวัน กลัวว่าสักวันไหนกมลจะไม่สามารถลุกจาก เตียงผ่าตัดได้

อยู่ที่นี่ เขาก็มีกานต์

เด็กอายุประมาณสี่ขวบคนหนึ่ง มีพี่ชายของตัว เอง มีเพื่อนเล่นของตัวเอง มีสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ถึงแม้ จะกังวลเกี่ยวกับกมล แต่ความกังวลระหว่างได้เห็น ด้วยตากับการห่างไกลแบบนี้มันแตกต่างกัน

นรมนรู้สึกเสียใจกับเด็กๆ มาก

เธอให้กมลทรมานตั้งแต่เกิด ทำให้กานต์สูญเสีย ความไร้เดียงสาและความสุข ยิ่งทำให้ห้าปีมานี้ตัวเองมี สภาพย่ำแย่

ถ้ารู้ตั้งนานแล้วว่าพากานต์กลับมาจะทำให้เขา ร่าเริงแบบนี้ บางทีเธอคงจะกลับมาก่อนหน้านี้สักสอง สามปี

บุริศร์เห็นดวงตานรมนเผยความสับสนอย่างมาก ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร หลังจากได้ยินเธอมีความคิด เห็นต่อกานต์ เขาก็กระแอมไอก่อนพูดขึ้น “เขาร่าเริง อยู่แล้ว ก็ฉันเป็นพ่อของเขา! จะมีอะไรดีไปกว่าเด็กที่ พ่อแม่อยู่กับพร้อมหน้าพร้อมตาล่ะ? ไม่ว่าคนอื่นจะ มอบความรักให้มากแค่ไหน สุดท้ายก็เทียบไม่ได้กับ ความรักของพ่อแม่แท้ๆ เด็กมีความต้องการพ่อแม่แท้ๆ โดยธรรมชาติอยู่แล้ว”
คำพูดเหล่านี้ราวกับฟ้าร้องบนศีรษะนรมน

ห้าปีมานี้ รเมศก็ดีมากๆ กับพวกเขาสามแม่ลูก ดี จนเธออยากจะหนีออกมา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่เขา ปฏิบัติต่อกานต์และกมล แต่กานต์เป็นเด็กฉลาดต่อ หน้ารเมศอยู่เสมอ ถึงขั้นเป็นเด็กที่ดูโตเป็นผู้ใหญ่ หรือ เพราะเขารู้ว่ารเมศไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของตน?

หรือเขากลัวว่าถ้าตัวเองไม่เชื่อฟัง ตัวเองประพฤติ ไม่ดีแล้วจะทำให้รเมศไม่ชอบ แล้วรเมศจะไม่ดูแลเธอ กับกมลเหรอ?

เมื่อก่อนนรมนไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้มาก่อน แต่วัน นี้เมื่อบุริศร์พูดแบบนี้ จู่ๆ เธอก็คิดขึ้นมา

ถึงกานต์จะเป็นเด็กผู้ชาย แต่ก็มีความระมัดระวัง

และละเอียดอ่อนตั้งแต่เด็ก หลายครั้งสัมผัสได้ถึง

ความรู้สึกของผู้ใหญ่ มันทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่มี ความประพฤติดีมาก เมื่อก่อนคิดมาตลอดว่ากานต์เป็นแบบนี้ก็ไม่แย่ แต่พอมาดูตอนนี้ กานต์ที่เป็นแบบนี้ดีแล้วเหรอ?

เขาควรอยู่ในวัยที่ไร้ความกังวล แต่เพราะเธอและ กมลยื้อไว้ เก็บกดความเป็นธรรมชาติของตัวเองเอาไว้ ถึงขั้นเอาอกเอาใจรเมศ ถึงแสดงไม่ได้ชัดเจนมาก แต่ เขาตั้งใจเรียนขนาดนั้น พยายามฉลาดและเชื่อฟัง ไม่ใช่เพราะต้องการให้รเมศรู้สึกดีเหรอ?

แต่ต่อหน้าบุริศร์ กานต์ปลดปล่อยตัวเองอย่างสิ้นเชิง อยากทำอะไรก็ทำ อยากพูดอะไรก็พูด ไม่มีความ กังวลใดๆ เลยสักนิด

เขารู้ว่าบุริศร์คือพ่อแท้ๆ ของตัวเอง รู้ว่าทั้งคู่มีสาย เลือดเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่สนใจว่าความเอาแต่ใจและ คำพูดของตัวเองจะไปขัดบุริศร์ แล้วทำให้บุริศร์ไม่ ชอบเขา เพราะเขารู้ว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม บุริศร์ก็เป็น พ่อแท้ๆ ของตน จะตามใจเขา อดทนกับเขาไม่ใช่เห รอ?

จู่ๆ นรมนก็รู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวในฐานะแม่คน

หนึ่ง

เธอรู้สึกมาตลอดว่าตัวเองพยายามใช้ชีวิต พยายามเป็นอิสระ พยายามอย่างหนักเพื่อให้กานต์ และกมลมีสภาพแวดล้อมที่ดี แต่ไม่คิดเลยว่าเธอให้ ลูกชายตัวเองสัมผัสความรู้สึกพึ่งพาอาศัยคนอื่นไม่ สามารถเป็นอิสระได้โดยที่เธอมองไม่เห็น ถึงขั้นรู้สึก ถึงหลักธรรมนองคลองธรรมของมนุษย์ก่อนวัยอันควร

ทันใดนั้นนรมนก็นั่งด้านหน้าบุริศร์ มองบุริศร์ น้ำตาคลอ เหมือนนาทีต่อมาจะร้องไห้ออกมา

หัวใจบุริศร์ตึงเครียดทันที

“เป็นอะไร? ฉันพูดผิดตรงไหน? คุณก็รู้นิสัยฉัน ฉันปลอบผู้หญิงให้มีความสุขไม่เก่ง ถ้าประโยคไหน คุณไม่ชอบฟัง คุณก็บอกฉันนะ ต่อไปฉันจะค่อยๆ เปลี่ยน คุณอย่าร้องไห้ได้ไหม? คุณไม่กลัวอะไรเลย ตอนนี้ฉันกลัวคุณร้องไห้”
คำพูดบุริศร์ยังพูดไม่จบ นรมนก็โผเข้าไปในอ้อม แขนเขา กอดเขาไว้ พูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้น “บุริศร์ ห้าปีนี้ฉันทำอะไรผิดพลาดหรือเปล่า? ฉันควรจะกลับ มาก่อนหน้านี้”

ถึงจะไม่เห็นใบหน้านรมน แต่ของเหลวอุ่นๆ ไหล เข้ามาที่คอของบุริศร์ เขาถอนหายใจเบาๆ แล้วพูด ขึ้น “ตอนนี้กลับมาก็ไม่สาย ห้าปีนั้นที่เราพลาดไป วัน ข้างหน้าฉันจะปฏิบัติกับคุณและลูกๆ เป็นสองเท่า”

“ฉันเชื่อคุณได้ใช่ไหม?”

“คุณไม่เชื่อฉันแล้วจะเชื่อใครได้?”

บุริศร์ดึงเธอจากอ้อมแขน ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ดูคุณสิ เป็นแม่ของลูกแล้ว ยังร้องเหมือนเด็กน้อยเลย ถ้าไม่รู้ จะคิดว่าฉันกำลังปลอบลูกสาว”

“ลูกสาวคุณโตขนาดนี้เลยเหรอ?”

นรมนอายนิดหน่อย

บุริศร์เอนตัวไปเบาๆ ใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้เธอ ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ถ้าฉันมีลูกสาวร้องไห้แบบคุณ ฉันกลัว ว่าจะต้องหัวใจวาย”

“ทำไม?”

“สงสารน่ะสิ ฉันทนน้ำตาของลูกสาวไม่ได้หรอก เด็กผู้ชายเลี้ยงหยาบๆ ได้ แต่เด็กผู้หญิงต้องเลี้ยงให้ เหมือนเจ้าหญิง สุดท้ายอนาคตก็ต้องแต่งงาน อยู่กับ พ่อแม่สิบกว่าปียี่สิบปี จะไม่ให้สงสารได้ยังไง?”
บุริศร์ยิ้มขณะที่พูด จิตใจนรมนกลับรู้สึกไม่พอใจ

มาก

ถ้าให้บุริศร์รู้ว่าเขามีลูกสาว แถมยังเพราะเจ็บป่วย ตั้งแต่เกิด เมื่อโตขึ้นก็ยังไม่เคยออกจากโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร

ดังนั้นปิดบังเขาไว้ก่อนก็แล้วกัน

ให้เขาสัมผัสความภูมิใจในการเป็นพ่อสักพัก อย่างไรแล้วหลังจากเจอกมล สิ่งที่บุริศร์ต้องเผชิญ และอดทนคืออะไร เธอเองก็ไม่กล้าคิด

“เดี่ยวมีลูกสาวค่อยว่ากัน”

นรมนข้ามหัวข้อนี้อย่างรวดเร็ว

บุริศร์ไม่รู้ว่าในใจนรมนมีความคิดเหล่านั้น ยิ้มแล้ว พูดขึ้น “รอให้ฉันดีขึ้นก่อน เรามามีลูกสาวเลี้ยงกัน เถอะ?”

นรมนเจ็บหัวใจอีกครั้ง

“ค่อยว่ากัน คุณรีบกินข้าว เดียวจะเย็นหมด พฤกษ์บอกไม่ใช่เหรอว่ากระเพาะไม่ดี? อย่าทรมาน เลย”

นรมนรีบผลักเขา ลุกขึ้นไปหยิบกระติกน้ำ

บุริศร์นึกว่านรมนยังไม่ยอมรับตัวเอง ไม่อยาก ปลดปล่อยตัวเองตลอดเวลา เลยไม่อยากพูดเรื่องมี ลูกสาวกับเขา
ดูเหมือนเขาต้องรีบสืบเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปี ก่อน ถึงจะเดาได้รางๆ บ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังไม่ทั้งหมด อยากรู้ว่าทำไมนรมนถึงปฏิเสธตัวเองมากขนาดนั้น เขาก็ต้องรู้ความจริงทั้งหมด

เขมิกา!

หวังว่าเธอจะพูดทุกอย่างที่รู้ ไม่เช่นนั้นเขาไม่ เกรงใจแน่

นรมนเทซุปไก่ออกมา เสิร์ฟให้บุริศร์

“คุณป้อนฉันหน่อย ฉันแขนเจ็บ”

บุริศร์ออดอ้อนอย่างหน้าไม่อาย

นรมนถอนหายใจก่อนพูดขึ้น “ฉันจำได้ว่าแผล คุณอยู่ที่หน้าอก”

“เมื่อยถึงแขนไม่ได้เหรอ?”

บุริศร์พูดจาเพ้อเจ้อ นรมนก็ขี้เกียจเถียงกับเขา

แล้ว

เธอนั่งข้างๆ บุริศร์ ป้อนเขาทีละคำ

บุริศร์รู้สึกบาดเจ็บหนักแค่ไหนก็ไม่สำคัญแล้ว ตอนนี้คนที่รักที่สุดกำลังอยู่เคียงข้าง อยู่ใกล้แค่เอื้อม ก็เพียงพอแล้ว

“คุณจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับฉันได้ไหม?”

ถึงรู้ว่านรมนในตอนนี้อาจจะไม่ตกลง แต่บุริศร์ก็ ยังเอ่ยปากถาม และมองนรมนด้วยใบหน้าคาดหวัง
นรมนรู้สึกทนไม่ได้นิดหน่อย รีบหันหน้าไป พูด “ฉันเคยบอกแล้ว รอให้คุณหายดี เราไปอเมริกา กัน แค่ให้คนคนนั้นตกลงให้เราคบกัน ฉันก็ไม่มีวันแยก จากคุณไปตลอดชีวิต ไม่ว่าจะทนทุกข์ทรมานมากแค่ ไหน เราจะต้องประสบกับอะไร ฉันก็จะไม่ปล่อยมือ คุณเด็ดขาด!”

บุริศร์รู้สึกผิดหวังนิดหน่อย

“คนคนนั้นสำคัญกับคุณมากจริงๆ ใช่ไหม? ทั้ง ชีวิตของเราก็ต้องให้เขามายินยอมด้วย?”

“ใช่ ห้าปีมานี้ถ้าไม่มีเขา ฉันอาจจะไม่ได้อยู่โลกใบ นี้ตั้งนานแล้ว เขาคือนางฟ้า คือแรงผลักดันทำให้ฉัน และกานต์มีชีวิตอยู่ต่อไป ชีวิตนี้ตราบใดที่เขา

ปลอดภัยและมีความสุข ให้ฉันทำอะไรก็ยอม”

นรมนนึกถึงใบหน้าซีดเซียวเหมือนกระดาษของ กมล ดวงตาก็น้ำตาคลอเบ้า

จิตใจบุริศร์ถูกความหึงหวงเผาไหม้

ภรรยาตัวเองมีความรู้สึกลึกซึ้งกับศัตรูหัวใจของ เขาแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขา น่าเสียดายที่เขา ย้อนเวลากลับไปไม่ได้ ไม่สามารถช่วยเหลือนรมน ตอนไฟไหม้ได้ ตอนนี้เขาทำได้แค่อดทนความหึงหวง แบบนี้ ซึ่งเผาผลาญอารมณ์และเหตุผลของเขาเต็มที่

“ถ้าเขาไม่ยินยอมล่ะ? คุณก็จะไม่อยู่กับฉันจริงๆ เหรอ?”
ตอนบุริศร์พูดประโยคนี้ จู่ๆ ก็รู้สึกประหม่านิด หน่อย เขาต้องการรู้คำตอบ แต่กลัวคำตอบที่นรมนพูด ออกมาตัวเองจะไม่อยากฟัง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ