แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1295 ฉันแค่อยากให้เขาอยู่อย่างมีความสุข



บทที่ 1295 ฉันแค่อยากให้เขาอยู่อย่างมีความสุข

ไม่มีใครเห็น ขอบตาของบุณพจน์มีน้ำตาไหลออกมา

นี่คือพ่อของเขา

บุณพจน์เจ็บไปทั่วสรรพางค์กาย ถึงกับรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะ ตาย น่าเสียดายความเจ็บปวดทรมานไม่หยุด ทำให้เขาพูดไม่ ได้ มือขยับไม่ได้ นอนแห้งเหมือนศพ

ตอนที่กินพิษทองคำเข้าไปหวังว่าจะโชคดี คิดว่าตัวเองจะ ทำพิษทองคำได้ ชำระล้างพิษในร่างกายเหมือนเกิดใหม่ หลัง จากนี้ไม่ต้องถูกพิรุณเป็นหุ่นเชิดและควบคุม แต่เขาก็รู้ พิษ ทองคำรุนแรงมาก ถ้าเขาทนไม่ไหว ก็จะต้องตายอยู่ที่นี่จริงๆ

หลายวันนี้พวกบุริศร์ไปแล้ว เขาตัดสินใจวางเดิมพันอย่างนี้ ไม่ได้เผื่อทางหนีทีไล่ให้ตัวเอง ตอนนี้ระหว่างความเป็นความ ตาย เขาได้ยินพิรุณพูดจาเย็นชาไร้ความรู้สึกกับหูตัวเอง

ไม่ว่าอย่างไร เขาเลี้ยงตัวเองมาสามสิบปี แม้ว่าสามสิบปีนี้จะ ไม่เคยมีความรักอบอุ่น แต่สัมพันธ์ทางสายเลือด เขายังคงเป็น พ่อของตัวเอง

ตอนนี้เยื่อใยอาวรณ์สุดท้ายถูกพิรุณตัดขาดกับมือ เขาคือลูกชายของพ่อ
สามสิบปีมานี้ ต่อให้เลี้ยงหมาตัวหนึ่งก็น่าจะมีความรู้สึกไม่ใช่ หรือ

แต่เขาเหมือนแค่ผ้าขี้ริ้ว จะโยนทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ ถึงกับไม่ให้ โลงศพเขา แต่กลับจะให้คนโยนเขาลงในอ่างหนอนพิษเป็น เพื่อนกับแม่ที่ตายไปแล้ว

นี่คือพ่อของเขาจริงๆ หรือ

สําหรับพ่อแล้ว ตัวเขาเป็นอะไรกันแน่

ใจบุณพจน์เหมือนถูกมีดกรีด แต่ก็รู้สึกหลุดพ้น

ตอนนี้ไม่มีอะไรที่อาลัยอาวรณ์แล้ว

ความรู้สึกระหว่างเขากับพิรุณจบแล้ว

บุญคุณที่ให้กำเนิดเขา ถือว่าวันนี้ชดใช้แล้ว

บุณพจน์หลับตาลง ปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบๆ

ที่นี่ไม่มีคนนอก ไม่มีทางที่ใครจะเห็นเขาอ่อนแอและเสียใจ เขาไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากาก ในที่สุดก็ได้ร้องไห้จริงๆ

รู้สึกเจ็บปวดและหนาวเหน็บไปทั่วตัว หนาวจนเหมือนอยู่ใน อ่างน้ำแข็ง

ถ้าหากฝืนต่อไปไม่ไหว เขาอาจจะตายอยู่ที่นี่จริงๆ ไม่รู้ตอนนี้ พรวลัยเป็นอย่างไร จะอาละวาดกลับมาหาเขาหรือเปล่า

คิดถึงเรื่องราวในอดีตระหว่างตัวเองกับพรวลัย บุณพจน์รู้สึก เสียใจจริงๆ
ตลอดหลายปีมานี้ เขาไม่เคยเป็นเพื่อนพรวลัย ใช้เวลาด้วยกัน

เขารู้ว่าพรวลัยชอบไปเดินเล่น แต่เขาก็ไม่เคยมีเวลาพาเธอไป หลายปีนี้ใช่ว่าไม่มีผู้หญิงคนอื่นอยากจะอยู่เคียงข้างเขา แต่เขา ไม่อาจทนเห็นพรวลัยเสียใจได้

เขายังจำได้ครั้งนั้นที่ตัวเองบาดเจ็บหนักที่สุด พรวลัยร้องไห้ ฟูมฟายดึงเขาจากกองคนตาย แล้วแบกเขาไปโรงพยาบาล อย่างยากลำบาก

หมอคนนั้นอยากจะได้ตัวพรวลัยเป็นค่าตอบแทนถึงจะยอม

รักษาเขา นั่นคือครั้งแรกที่พรวลัยฆ่าคน ฆ่าคนเพื่อเขา

เขายังจําได้พรวลัยตอนนั้นเสียใจและอับจนหนทาง จำเสียง หมอคนนั้นฉีกเสื้อผ้าพรวลัยได้ ถึงกับจำเสียงร้องไห้ของพรวลัย จนเป็นสายเลือด

แต่เขาทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองเท่านั้น

พรวลัยหยิบมีดผ่าตัดขึ้นมาฆ่าหมอคนนั้นต่อหน้าเขา

ตอนที่เลือดแดงฉานพุ่งใส่หน้าเขา เขามองเห็นพรวลัยตัวสั่น เทาและลนลานไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่แม้จะเป็นอย่างนี้ เธอยังคง หาเบตาดีนและยาจากห้องทำงานหมอได้ ค่อยๆ ช่วยเขารักษา บาดแผล

เขาไม่รู้ว่าตัวเองรอดชีวิตมาได้อย่างไร ช่วงเวลานั้นการต่อสู้ ข้างนอกดุเดือด ผู้ก่อการร้ายกระจัดกระจายทุกที่ พรวลัยกับเขา ซ่อนอยู่ในสำนักงานนั้นอาทิตย์กว่า
เขาเป็นไข้สูงไม่ลด พรวลัยคอยกอดเขาพูดคุยกับเขา เธอทํา ทุกอย่างเพื่อเขา

บุณพจน์นับแต่ครั้งนั้นเป็นต้นมา รับพรวลัยเป็นผู้หญิงของตัว เองอย่างแท้จริง

หลายปีมานี้ ทั้งสองคนฟันฝ่าห่ากระสุนมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีลูกของตัวเอง เขาติดค้างพรวลัยมากเหลือเกิน และไม่รู้ จะมีโอกาสเป็นที่พักพิงให้เธออีกหรือไม่ แต่มีบุริศร์อยู่ด้วย พร วลัยน่าจะได้รับการดูแลอย่างดี

บุณพจน์รู้สึกว่าตัวเองใกล้ตายอย่างมีความสุข ยามที่เฝ้าข้าง นอกก็ไปแล้ว ทั้งศาลบรรพบุรุษเงียบสงัด เงียบจนเขาแทบไม่ ได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง

จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองน่าสมเพช

แม้แต่จะตายแล้วก็ยังไม่มีใครรู้ถึงกับไม่มีใครรู้ศพของเขา อยู่ที่ไหน บางทีวันหนึ่งมีคนมาเจอเข้า เขาคงเหลือแต่โครง กระดูก ในอ่างแล้ว

เมื่อนึกถึงจุดจบของตัวเองเช่นนี้ บุณพจน์ไม่รู้ว่าตัวเองควร ร้องไห้หรือหัวเราะ

ขณะที่พิรุณโมโหออกไปจากศาลบรรพบุรุษแล้ว ลูกน้องก็มา ส่งข่าวอีกครั้ง รายงานว่า มิลินเข้าไปในศาลบรรพบุรุษของ หมู่บ้านดารายน ตั้งนานแล้วยังไม่ออกมา ไม่รู้ว่าเข้าไปทำอะไร

พิรุณร้อนใจทีเดียว
“พาคนตามฉันไป

ครั้งนี้ พิรุณตัดสินใจออกโรงเอง

ขอแค่จับมิลินได้ แย่งหนังสือโบราณนั้นมาได้ ไม่แน่อาจจะหา ทางเข้าสายแร่เจอ คนของพิรุณตามไปครึ่งหนึ่ง ที่เหลือทำงานอื่นๆ ไม่มีใคร

สนใจความเป็นความตายของบุณพจน์

บุณพจน์มีชีวิต ก็เป็นคุณชายบุณพจน์ ถ้าตายแล้ว เขาก็ไม่ใช่ อะไรทั้งนั้น

บริศ เมื่อรู้ว่ามิลินดึงความสนใจให้พิรุณเคลื่อนไหวแล้ว ก็ วางแผนจะไปหาบุณพจน์คนเดียว แต่ตอนที่จะไปก็เจอกับนามน และพรวลัย

“พวกคุณออกมาทำไมกัน

“ไม่มีฉัน คุณออกไปไม่ได้หรอกค่ะ”

พรวลัยมองบุริศร์ พูดเสียงเบา “ค่ายกลแปดทิศหยินหยางมี แต่ฉันที่รู้ว่าจะออกไปยังไง และทางลับเข้าศาลบรรพบุรุษอยู่ตรง ไหนด้วย”

“แต่ร่างกายของคุณ…

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ”

นรมนเห็นท่าทางบุริศร์กังวล ก็พูดขึ้น “ฉันจะดูแลพรวลัยเอง ค่ะ บุริศร์ เธอเป็นห่วงคุณพจน์ ก็เหมือนฉันเป็นห่วงคุณ คุณให้พวกเรารอฟังข่าวทางนี้ กับพรวลัยแล้วมันทุกข์ทรมาน ให้พวก เราตามไปด้วยดีกว่า ฉันรับปากจะไม่เป็นตัวถ่วง และจะไม่ให้คน เจอพรวลัยด้วยได้มั้ยคะ”

เธอมองบุริศร์ ใบหน้าอ้อนวอน

บุริศร์จะแข็งใจให้นรมนเสียใจได้ยังไง

“ก็ได้ แต่ต้องเชื่อฟังผมนะ

“ค่ะ”

สามคนออกจากแคมป์ของคริชณะอีกครั้ง

พรวลัยนำทาง บุริศร์กับนรมนก็มาถึงทางลับเข้าศาล บรรพบุรุษอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พรวลัยเดินรีบร้อนมาก

เธอไม่สบายใจมาก รู้สึกใจโหวง เหมือนจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น

“พรวลัย เธอช้าๆ หน่อย ระวังตัวเองด้วย”

นรมนเป็นห่วงมาก แต่ตอนนี้พรวลัยไม่ได้ยินแล้ว บุริศร์เร่งฝีเท้าตาม รู้สึกว่าจะเกิดเรื่องไม่ค่อยดีเช่นกัน

เมื่อทั้งสามคนมาถึง ศาลบรรพบุรุษ ก็เห็นนอนตรงนั้น ดู เหมือนไม่หายใจ

“คุณชายบุณพจน์! คุณชายบุณพจน์!”

พรวลัยรีบวิ่งเข้าไป โผเข้าหาคุณพจน์ ตัวของเขาเย็นเฉียบ ทำให้พรวลัยตกใจร้องไห้ทันที
“บุณพจน์ คุณชายบุณพจน์ตื่นสิ! คุณเป็นอะไรไป ตื่นสิคะ!” บุรีศร์กับนรมนได้ยินเสียงร้องเรียก ก็อดตะลึงไม่ได้

“เกิดอะไรขึ้น”

บุรีศรีบวิ่งเข้ามา ตรวจดูลมหายใจของบุณพจน์ มันอ่อนแรง มาก แทบไม่รู้สึกทำให้บริศร์ใจเต้นแรง

“ทำไมเป็นอย่างนี้ ตอนพวกเราไปก็ยังดีๆ พิรุณไม่สนใจเขา แล้วหรือ”

“ฉันบอกแล้ว พิรุณไม่สนใจเขาจะเป็นหรือตาย พวกคุณคิดว่า เสือเฒ่าไม่กินอาหาร คิดว่าฉันแค่ให้กลัว ตอนนี้เขาตายแล้ว พวกคุณพอใจแล้วยัง

พรวลัยน้ำตานองเหมืองเปิดก๊อกน้ำ

เธอกอดบุณพจน์ พร่ำรำพัน “มีลูกแล้วยังไง ถ้าเด็กคนนี้ทำให้ คุณต้องจากไป ฉันไม่อยากได้ ตั้งแต่อายุสิบแปด ฉันก็รู้ว่าชีวิตนี้ อยู่เพื่อใคร ฉันเป็นของขวัญของคุณ เป็นบอดี้การ์ด เป็นคนที่ ตายแทนได้ ถ้าวันนี้คุณตาย เหลือแต่ฉันกับเด็กในท้องจะมี ประโยชน์อะไร ใครบอกคุณเมื่อไม่มีคุณแล้ว ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อ ไป ใครอนุญาตให้คุณจัดการชีวิตฉันอย่างนี้ คุณลุกขึ้นมาสิ คุณ จะให้ฉันทำยังไง คุณต้องบอกฉันเอง ให้คนอื่นพูดนี่มันเรื่องอะไร คุณเคยบอกฉัน ฉันเป็นของขวัญของคุณ ฉันฟังคุณคนเดียว คุณ อยากให้ฉันเป็นหรือตาย ก็บอกกับฉันมา ขอแค่คุณเอ่ยปากเอง ให้ฉันอยู่ต่อไป ให้ฉันมีชีวิตเลี้ยงลูกต่อไป แต่ฉันไม่ฟังคนอื่น ไม่ อยากฟัง”
หยดน้ำตาไหลลงบนใบหน้าของบุญพจน์ แต่คุณพจน์ไม่ ขยับเขยื้อนแต่อย่างใด

นรมนยืนตะลึง มองบุริศร์ที่เสียใจและพรวลัยที่ใจสลาย เธอ หายใจเข้าลึกๆ “บุณพจน์ตายจริงๆ แล้วหรือคะ”

“ยังมีลมหายใ ยใจรวยริน แต่…

บุรีศรพูดต่อไม่ได้จริงๆ นรมนสุขุมที่สุด ในที่นี้

เธอพูดเสียงเบา “พวกเราพาเขาไปก่อน กิจจาน่าจะมีหนทาง ช่วยเขาได้ เขาน่าจะถูกพิษ ตอนที่พวกเราไปยังดีๆ อยู่ ทำไมถึง กลายเป็นอย่างนี้ได้”

“ในร่างกายเขามีพิษ หลายปีนี้ทดลองพิษ สกัดพิษ จะไม่มีพิษ หลงเหลือได้อย่างไร ฉันรู้มาตลอดว่าเขาเสี่ยงชีวิต ทุกครั้งที่สกัด พิษสำเร็จ รอดพ้นจากความตายย่อมมีราคาที่ต้องแลก ถ้าหาก ควบคุมพิษในร่างกายไม่ได้ ก็จะถูกพิษนั้นแว้งกัด เลือดไหลออก จากทวารทั้งเจ็ดจนตายในที่สุด คนสกัดพิษจะต้องมีคนหนึ่งดูแล แต่เขาไม่มี ฉันไม่เคยรู้ว่าเขาจะเกิดเรื่องเมื่อไหร่ เขาให้ฉันไปกับ พวกคุณ คงจะรู้แล้วว่าสภาพร่างกายตัวเองมีปัญหา เด็กในท้อง ฉันจะได้ลืมตาดูโลกหรือไม่ยังไม่รู้ ต่อให้เกิดแล้ว ได้รับผลจาก พิษมากมาย ไม่รู้ว่าเด็กจะเป็นอย่างไร จะบกพร่องแต่กำเนิดหรือ ไม่ จะเกิดมาพร้อมกับพิษหรือไม่ ฉันไม่ได้มองแง่ดีเหมือนเขา เขาอยากได้เด็กคนนี้ แต่ฉันแค่อยากให้เขามีชีวิตอย่างมีความ สุขเท่านั้น”
นรมนตะลึงไม่น้อยเมื่อได้ยินพรวลัยพูดขึ้น

ตอนแรกเธอคิดว่าพรวลัยท้องลูกของบุณพจน์เป็นเรื่องดี แต่ ตอนนี้ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดี

“ไม่ว่าอย่างไร พวกเราพาเขากลับไป ให้กิจจาดูก่อน จะต้องมี วิธีเขายังไม่ตายไม่ใช่หรือ ขอแค่ยังมีลมหายใจ พวกเราก็ยังมี ความหวังไม่ใช่หรือ อีกอย่างพวกเราให้กิจจาติดต่อมิลิน มิลิน เป็นคนของหมู่บ้านดารายน เธอจะต้องรู้เรื่องถอนพิษแน่ๆ”

คําพูดของนรมน ให้แววตาของพรวลัยฉายความหวัง

“หมู่บ้านดารายนยังมีทายาทหรือคะ”

“มี และอยู่ที่หมู่บ้านดารายนด้วย พวกเราพาบุณพจน์หนีไป ก่อน ต่อให้เขาตาย ก็จะให้ตายที่นี่ไม่ได้ เขาเป็นพี่ชายของบุริศร์ เขาไม่ควรจะตาย โดยไม่มีใครสนใจอยู่ที่นี่

บุริศร์พูดจบก็เข้าอุ้มบุณพจน์ แต่ตอนที่เข้าใกล้คุณพจน์ เขาก็ รู้สึกเจ็บแปลบที่อก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ