แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 942 พวกเรามาคอยดูกัน



บทที่ 942 พวกเรามาคอยดูกัน

เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกไป นรมนก็ได้สติขึ้นมาทันที

“ใช่แล้ว เธอรู้ได้อย่างไรว่าเขากลายเป็นเจ้าชายนิทรา”

แววตานรมนสาดประกายคมกริบออกมาทันที “อุบัติเหตุทางรถยนต์ของพฤกษ์เกี่ยวข้องกับเธอหรือ เธอคว้ามือของเนตราเอาไว้ จิตใจปั่นป่วนวุ่นวาย

เธอรู้มาตลอดว่าเนตราเป็นคนของเชษฐ์ จึงนึกว่าเนตราเป็น แค่ตัวละครที่มีบทบาทเล็กๆคนหนึ่ง และเป็นลูกสาวของคุณ พ่อคุณแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธน จึงไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเท่าใดนัก แต่ถ้าหากว่าเนตรามีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ของ พฤกษ์ล่ะก็ นรมนปล่อยปะละเลยคนที่ทำความผิดนี้ไปไม่ได้

เมื่อเห็นสายตานรมนและคมทิพย์คมกริบขึ้นมากะทันหัน เนต ราที่ถูกนรมนจับข้อมือเอาไว้ ก็กรีดร้องขึ้นมาทันที

“คุณพ่อคุณแม่ พวกคุณรีบมาเร็วเข้า! นรมนจะตีหนูแล้ว!”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ พ่อของนรมนก็วิ่งออกมาทันที ส่วนแม่นรม นก็ถือถุงน้ำเกลือมือหนึ่งลนลานวิ่งออกมาเช่นกัน

“นรมน ลูกจะทำอะไรน่ะ รีบปล่อยเนตรานะ!”

แม่นรมนตะโกนเสียงดังร้องไห้ไป สีหน้าพ่อนรมนขรึมลงทันที
หัวใจของนรมนเจ็บปวดราวกับถูกฉีกทิ้ง เพียงแต่บนใบหน้า กลับไม่มีความรู้สึกใดๆ

“เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทางถนนเรื่องหนึ่ง หนูจะพา เธอไปสถานีตำรวจสักรอบค่ะ”

บรมนพูดอย่างมีหลักเกณฑ์ ไม่มีความรู้สึกใดๆเข้ามาเจือปน

แม้แต่น้อย

เนตราตื่นตระหนก

“คุณแม่ อย่าให้เธอพาหนูไปนะคะ เธอคิดจะฆ่าหนู! คุณแม่ คุณพ่อช่วยหนูด้วย!

เนตราร้องโวยวาย

“หุบปาก! ถ้าหากว่าเธอบริสุทธิ์จริง ฉันจะแสดงความสำนึก ผิดด้วยการขอโทษเธอเอง” “ไม่จำเป็น”

นรมนยังไม่ทันจะเอ่ยจบ พ่อนรมนก็ก้าวเข้ามา สะบัดฝ่ามือปัด มือเธอออก แรงที่ค่อนข้างมากนั้นทำให้หลังมือของนรมนบวม แดงขนมา

พ่อนรมนดันตัวเนตราไปไว้ด้านหลัง ท่าทางต้องการจะปกป้อง จนถึงขั้นมองไปที่นรมนอย่างมีโทสะ พร้อมกับเอ่ยว่า “พวกเรา รับปากแล้วว่าจะไปจากเมืองชลธี เธอยังต้องการอะไรอีก ใน ตอนนี้คิดจะทำร้ายเนตราจนตายต่อหน้าพวกเราหรือ นรมน หลายปีมานี้ ฉันสั่งสอนเธอมาแบบนี้หรือ

รสชาติขมปราค้างเติ่งอยู่ในลำคอนรมน จะก้าวต่อไปหรือถอยหลังออกมาล้วนลำบากทั้งสองด้าน

คมทิพย์เห็นหลังมือนรมนบวมแดง ก็รู้สึกประหลาดใจต่อท่าที ของพ่อนรมน เพียงแต่ก็ลากนรมนไปไว้ด้านหลังอย่างรวดเร็ว เอ่ยเสียงเย็นชา “คุณท่านธนาศักดิ์ธน คุณต้องการปกป้อง ลูกสาวแท้ๆของตัวเอง พวกเรายังไม่ได้ แต่ขอให้คุณมีเหตุผลใน เรื่องความถูกต้องและความผิดด้วยได้หรือไม่ นรมนไม่ได้ติด ค้างอะไรพวกคุณ เนตราพูดอะไร พวกคุณก็อย่าเชื่อไปเสียหมด ตอนนี้คุณต้องการปกป้องลูกสาวแท้ๆของพวกคุณ ดิฉันไม่สนใจ แต่ถ้าหากให้ดิฉันตรวจสอบพบว่าเนตรามีส่วนเกี่ยวข้องกับ อุบัติเหตุทางรถยนต์ของคู่หมั้นฉัน ฉัน คมทิพย์จะไม่ยอมวางมือ จากเรื่องนี้แน่นอน! วันนี้ฉันขอพูดให้ชัดเจนตรงนี้ ทางที่ดีให้เนต ราบริสุทธิ์จะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นล่ะก็ ดิฉันจะไม่เห็นแก่ไมตรีจิต ระหว่างคุณกับนรมน และจะต้องทวงความยุติธรรมขึ้นมาให้คู่ หมั้นดิฉันให้ได้”

“เธอจะนับเป็นตัวอะไรได้! ฉันได้ยินคุณแม่ฉันบอกว่า เธอก็ เป็นแค่เด็กกำพร้าคนหนึ่ง ในปีนั้น หากไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่ฉัน สนับสนุนให้เธอได้เรียนหนังสือ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเธอจะไปเป็น ขอทานอยู่ซอกมุมไหนแล้ว ตอนนี้นรมนก็เป็นคนลืมบุญคุณคน เช่นกัน ยังคิดจะมาข่มขู่คุณพ่อคุณแม่ฉันอีก คมทิพย์ ใครให้ ความมั่นใจนี้กับเธอกัน

แม้ว่าเนตราจะอยู่หลังพ่อนรมนแต่ปากก็ยังคงพูดไม่หยุด

นรมนมองไปทางคุณพ่อคุณแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธน เมื่อเห็นว่า พวกเขาไม่พูดอะไรสักประโยค ราวกับว่าเนตรากำลังพูดถึงความคิดทั้งหมดของพวกเขา ในจุดนี้ก็ทำให้นโมนเจ็บปวดใจ อย่างสุดซึ้ง

“ในปีนั้นเงินค่าเล่าเรียนมหาวิทยาลัยของคนทิพย์เป็นเงิน รางวัลของหนูเอง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณพ่อคุณแม่ ใช่ไหมคะ คุณพ่อคุณแม่?”

นรมนมองตรงไปที่คุณพ่อคุณแม่ตัวเอง

พอนรมนไม่พูดอะไร แม่นรมนเอ่ยเสียงเบาว่า “เธอถูกพวกเรา เลี้ยงมาจนโต เงินของเธอก็เป็นเงินของพวกเราเป็นธรรมดา ยัง จะมาแบ่งแยกกันและกันทำไม

“เหอะๆ!”

นรมนถูกทำให้โมโหจนหัวเราะออกมา

“ดังนั้นคมทิพย์ก็เป็นพวกคุณที่ช่วยเหลือด้านเงินทุนให้เรียน มหาวิทยาลัยหรือคะ หนูจำได้ว่าตั้งแต่มัธยมปลาย หนูก็ไม่ได้ขอ เงินกับทางบ้าน เงินค่าเทอมและค่ากินอยู่เป็นเงินที่หนูหามาได้ ไม่ใช่หรือ หรือว่านี่ก็ควรจะเป็นเงินของตระกูลธนาศักดิ์ธนด้วย กัน?”

“เธอยังไม่ได้แต่งงาน เงินของเธอก็คือเงินของตระกูลธนา ศักดิ์ธน”

การเถียงข้างๆคูๆของแม่นรมนทำให้นรมนต้องเปลี่ยนมุม มองใหม่

เธอไม่เคยรู้เลยว่ามารดาที่สง่างามสูงส่งคนนี้ถึงกลับกลายคนที่ทะเลาะโวยวายเหมือนหญิงปากร้ายเพื่อลูกสาวแท้ๆของตัวเอง

ตอนนี้พูดอะไรไปล้วนป่วยการ บิดามารดาตระกูลธนาศักดิ์ธน ล้วนไม่ยอมรับว่าพวกเขาไม่ถูก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เธอจะดื้อดึงต่อ ไปเพื่ออะไรกัน มีแต่จะทำให้ตัวเองเจ็บปวดใจยิ่งกว่าเดิมเท่านั้น เอง

คมทิพย์ก็มองออกถึงความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดเล็กน้อย ระหว่างนรมนและบิดามารดาตระกูลธนาศักดิ์ธน จึงเอ่ยอย่าง เหยียดหยามว่า “เงินทุนที่ช่วยเหลือให้ดิฉันได้เรียน มหาวิทยาลัยในปีนั้นเป็นนรมนที่มอบให้ แต่ถ้าหากว่าพวกคุณ คิดว่านั่นเป็นเงินของตระกูลธนาศักดิ์ธน ก็ได้ค่ะ เงินค่าเล่าเรียน มหาวิทยาลัยในสามปีนั้น ดิฉันจะคืนให้พวกคุณในตอนนี้

“คมทิพย์!”

นรมนคิดอยากจะห้ามเอาไว้

ตอนนี้ผมทิพย์ต้องการเงินมาก ต้องการมากกว่าตระกูลธนา ศักดิ์ธนเสียอีก

แม้ว่าตระกูลธนาศักดิ์ธนจะไม่มีเงิน แต่ดีร้ายอย่างไร หลายปี นี้ผลงานการเขียนพู่กันและภาพวาดของพ่อนรมนก็ยังมีราคาอยู่ บ้าง ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่เชื่อว่าบุริศร์จะไล่พวกเขาไปโดยไม่มอบ เงินให้ พวกเขาก็แค่แสร้งทำตัวน่าสงสารต่อหน้าตัวเองเท่านั้น เอง

แต่ถ้าหากว่าคมทิพย์มอบเงินให้กับตระกูลธนาศักดิ์ธนล่ะก คมทิพย์ก็จะตกอยู่ในสภาพปากกัดตีนถีบแล้ว
เป็นธรรมดาทีคมทิพย์จะเข้าใจความปรารถนาดีของนรมน เธอยิ้มให้กับนรมน หลังจากนั้นก็หันหน้าไปพูดกับบิดามารดา ตระกูลธนาศักดิ์ธนว่า “ฉันจำได้ว่าเงินค่าเล่าเรียนมหาวิทยาลัย สามปีของฉันคือหนึ่งแสน พวกคุณต้องการตอนนี้หรือว่าตอน ไหน?”

“ต้องการตอนนี้”

เนตรามองบัตร ATM ในมือคมทิพย์ ก้นบึงแววตามีความ ละโมบพาดผ่าน

“ไม่ได้ เงินนี้คมทิพย์จะ

“ได้! พวกคุณรอตรงนี้ ดิฉันจะไปถอนมาให้พวกคุณตอนนี้ แหละ เพียงแต่ว่าหลังจากที่พวกคุณรับเงินนี้ไปแล้ว ดิฉันกับพวก คุณ นรมนกับพวกคุณก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้วสินะ? คุณ ท่านธนาศักดิ์ธน จากที่ดิฉันทราบมา ตอนที่บุริศร์ให้พวกคุณไป จากเมืองชลธีก็ได้ให้เงินพวกคุณไปสิบล้าน เงินสิบล้านนี้มาก พอที่จะให้พวกคุณใช้ได้ชั่วชีวิตนี้แล้ว และก็ถือว่าเป็นการซื้อ ขาดความสัมพันธ์ระหว่างนรมนและพวกคุณ ดังนั้น หลังจากนี้ พวกคุณก็นำเรื่องบุญคุณในการเลี้ยงดูนรมนมาทำร้ายและบีบ บังคับนรมน ให้น้อยๆหน่อยเถอะ ถึงอย่างไรพวกคุณก็รับเงินไป แล้ว บุญคุณนี้ก็ไม่มีอีกแล้ว”

เมื่อได้ยินคมทิพย์พูดเช่นนี้ นรมนก็ตะลึงค้างไปทันที บริศ มอบเงินให้พวกเขาสิบล้าน? คมทิพย์รู้ได้อย่างไรกัน?
เธอมองไปที่คมทิพย์ มักจะรู้สึกว่าตัวเองพลาดอะไรบางอย่าง

ไป

บิดามารดาถูกคมทิพย์พูดเช่นนี้ต่อหน้าฝูงชน ก็รู้สึกไม่รู้จะเอา หน้าไปไว้ที่ไหนอยู่บ้าง

“บุริศร์บีบบังคับให้พวกเราไปจากสถานที่ที่ปู่ย่าตายายของ พวกเราใช้ชีวิตอยู่ ให้เงินเล็กน้อยจะเป็นไรไป? อีกอย่างตระกูล โตเล็กก็ไม่ได้ขาดเงินทองด้วย

“ตระกูลโตเล็กไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง ก็สมควรให้พวกคุณ ใช้มันมาเรียกร้องซื้อขาดความสัมพันธ์ที่มีต่อหนูเช่นนั้นหรือคะ คุณพ่อ คุณพ่อเปลี่ยนเป็นคนละโมบเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันคะ

นรมนมองคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นบิดาที่ ตัวเองเคารพนับถือมาตลอดหลายปีนี้

พ่อนรมนไม่กล้าสบตากับนรมนตรงๆ ล้ำๆอึ้งๆพูดอะไรไม่ออก

เนตรากลับพูดจาเหยียดหยาม “เธอไม่ขาดแคลนเงิน จึงไม่รู้ จักละโมบ พวกเราไม่เหมือนกัน นรมน แม้ว่าพวกเราจะรับเงินไป แล้วอย่างไรเล่า เธอสามารถปฏิเสธเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดู เธอมาได้หรือ”

“คุณแม่ คุณแม่ก็คิดอย่างนี้หรือคะ”

นโมนเบนสายตาไปทางแม่ตัวเอง

แม่นรมนหันหน้าหนีไม่พูดอะไร จึงถือว่าเป็นการยอมรับเช่นกัน
นรมนรู้สึกว่าตัวเองนั้นช่างน่าขบขันขึ้นมาทันที

เธอหัวเราะออกมา เอ่ยกับบิดามารดาตระกูลธนาศักดิ์ธนว่า “คุณท่านธนาศักดิ์ธน คุณนายธนาศักดิ์ธน ในเมื่อพวกคุณคิด เช่นนี้ และรับเงินของสามีดิฉันไปเรียบร้อยแล้ว เช่นนี้ระหว่าง พวกเราก็ถือว่าเป็นคนแปลกหน้าต่อกันแล้ว ดิฉันได้ยินมาว่า พวกคุณกำลังขายที่อยู่อาศัยให้กับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์อยู่ สินะคะ? ขอโทษด้วยจริงๆ ดิฉันจำได้ว่าห้องห้องนั้นเป็นของดิฉัน ห้าปีก่อนที่ดิฉันไปจากเมืองชลธี พวกคุณได้นำห้องนั้นไปจำนำ กับทางธนาคารเพราะความยากจนข้นแค้น ในตอนนั้นจึงแลก เป็นเงินมาได้ ธนาคารได้ดำเนินการประมูล เป็นบุริศร์ที่ซื้อห้อง นั้นเอาไว้ และมอบให้ห้องนั้นเป็นชื่อของดิฉัน เรื่องนี้ดิฉันเอ่ยไม่ ผิดสินะคะ?”

เมื่อคําพูดของนรมนหลุดออกมา เนตราก็ร้อนรนในทันที “เธอพูดเหลวไหล! คุณพ่อคุณแม่ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมคะ”

เธอมองไปทางบิดามารดาตระกูลธนาศักดิ์ธน บิดามารดาตระกูลธนาศักดิ์ธนขมวดคิ้วทันที

“ในตอนนั้นพวกเรายังเป็นพ่อแม่ของเธอ แม้ว่าบุริศร์จะซื้อ ห้องนั้นไป ตอนนั้นก็พูดว่าจะมอบห้องนั้น ให้เป็นที่เลี้ยงดูพวกเรา ยามแก่เฒ่า คำพูดนี้ไม่อาจนับได้

คำพูดของแม่นรมนทำให้นรมนยิ้มเยาะออกมา
“พูดว่าจะเลี้ยงดูพวกคุณยามแก่เฒ่าจึงให้พวกคุณได้อยู่อาศัย แต่พวกคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะขาย ตอนนี้พวกคุณจะขายห้องของดิฉัน ทั้งยังใช้เงินสิบล้านมาซื้อขาดความสัมพันธ์ระหว่างดิฉัน ขอถาม หน่อยเถอะค่ะ ฉันจะอาศัยอะไรให้พวกคุณเอาห้องของฉันไป ขายกันคะ?”

คำถามนี้ทำให้พ่อแม่นรมนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อในทันที

“นรมน เธอมีเงินมากขนาดนั้นแล้ว ยังจะมาแย่งห้องห้องหนึ่ง กับพวกเราอีกหรือ

คำพูดของเนตราทำให้นรมนหัวเราะออกมาทันที

“ฉันมีเงินก็เป็นเรื่องของฉัน ขอถามหน่อยว่าเกี่ยวข้องอะไรกับ เธอด้วยหรือ”

“เธอ!”

เนตรา โมโห คิดจะลงไม้ลงมือ แต่เมื่อนึกถึงความสามารถ ของนรมนแล้ว เธอก็ลังเลเล็กน้อย

“คุณพ่อคุณแม่ ดูสินะ พวกคุณจะสนใจหรือไม่สนใจคะ นรมน รังแกหนูขนาดนี้ พวกคุณจะดูอยู่อย่างนี้หรือคะ” คมทิพย์รู้สึกว่าครอบครัวนี้น่าหัวเราะเป็นอย่างมาก

“ทั้งต้องการเงินให้กับเนตรา ทั้งต้องการให้นรมนจดจำบุญ คุณที่พวกคุณเลี้ยงดูมา แต่กลับทำร้ายนรมนครั้งแล้วครั้งเล่า พวกคุณหน้าด้านทุ่มสุดตัวเพื่อทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรกันคะเนี่ ย”
คําพูดของคนทิพย์คล้ายกับตบลงบนหน้าของบิดามารดาตระ กูลธนาศักดิ์ธนฝ่ามือหนึ่งทันที

พ่อนรมนรู้สึกอับอายบ้างแล้ว

“ไป!”

เขาดึงเนตราและแม่นรมนอย่างต้องการจะจากไป

เนตราสะบัดมือเขาออก มองไปทางคมทิพย์ และยื่นมือออก

มา

“เงินล่ะ! คืนเงินหนึ่งแสนที่เธอติดค้างตระกูลธนาศักดิ์ธนเอา ไว้มา!”

แม้ว่าเรื่องจะดำเนินมาจนถึงขั้นนี้แล้ว เนตราก็ยังคงนึกถึงเงิน ค่าเล่าเรียนที่ช่วยเหลือคมทิพย์อยู่

ถ้าหากว่าเป็นแต่ก่อน คมทิพย์ก็คงยอมรับความไม่เป็นธรรม

นี้แล้ว?

นรมนคิดจะให้เงิน แต่กลับถูกคมทิพย์ห้ามเอาไว้

“เธอช่วยฉันมาพอแล้ว ที่เหลือนี่ฉันจัดการเอง

คมทิพย์ถามรหัสกับนรมน และไปถอนเงินหนึ่งแสนออกมา จากตู้ ATM ด้านข้างแล้วโยนให้เนตรา

“ฉันกับพวกคุณสองคนจบกันแล้ว และขอให้พวกคุณไป ยกเลิกการขายห้องของนรมนกับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ด้วย”

“เรื่องนี้ไม่ต้องให้เธอมายุ่ง
เนตรากอดเงินเอาไว้ เดินจากไปด้วยความโมโห เพียงแต่ ตอนที่เดินผ่านข้างกายนรมน เธอใช้ไหล่กระแทกแรมนอย่างแรง เอ่ยเสียงเย็นว่า “พวกเรามาคอยดูกัน

“เธอไปไหนไม่ได้หรอก เรื่องของพฤกษ์ยังตรวจสอบได้ไม่ ชัดเจน พวกคุณสามคน ใครก็ไม่สามารถไปจากเมืองชลธีได้

คำพูดเย็นชาของนรมนทำให้ฝีเท้าของบิดามารดาตระกูลธนา ศักดิ์ธนชะงัก ก

“นรมน แกยังไม่ยอมจบสินะ? แกอยากจะบีบคั้นจนฉันและแม่

แกตายเลยหรือไง?

พ่อนรมนที่โกรธหน้า หน้าแดงมองไปทางนรมน คล้ายกับ ว่าวินาทีถัดไปจะสู้กับเธอสุดชีวิตอย่างไรอย่างนั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ