แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 186 ผู้ชายคนนี้รับมือยากจริงๆ



บทที่ 186 ผู้ชายคนนี้รับมือยากจริงๆ

“อะไรนะ?” รเมศขมวดคิ้วด้วยจิตใต้สำนึก แถม แววตาทั้งคู่ยังมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้นเสี้ยวนึง

เขาค้นพบอะไรแล้วงั้นเหรอ?

บุริศร์เป็นคนที่สติปัญญาแหลมคมมาก ย่อม สังเกตเห็นความอาฆาตของรเมศที่แว๊บผ่านอย่างไวอยู่ แล้ว

ความอาฆาต? ทำไมรเมศถึงมีความอาฆาตกับเขา

ขนาดนี้?

ในใจของบุริศร์มีความสงสัยระยิบระยับอยู่ แต่ กลับพูดด้วยรอยยิ้ม: “แต่แฟนของประธานรเมศนี่ก็ รุนแรงดีหนิ ท่าทางที่แสดงเป็นเจ้าของนี่ค่อนข้าง ชัดเจนไปหน่อยนะครับ”

พอพูดจบ เขาก็จากไปด้วยรอยยิ้ม

ตอนแรกรเมศยังไม่ค่อยเข้าใจ แววตาคู่นั้นจ้อง ร่างเงาของบุริศร์ไว้อย่างไม่คลาดสายตา พยายามนึก ย้อนว่าตัวเองเผยพิรุธอะไรออกมาหรือเปล่า แต่ว่าตอน ที่เขาหันหน้ากลับมาถึงเห็นรอยบวมและคราบเลือด ตรงมุมปาก

ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง!

รเมศขมวดคิ้วเล็กน้อย เช็ดมุมปากด้วย

จิตใต้สำนึก
เขาไม่กล้าจากไป แต่ได้ยืนดูบุริศร์ออกจาก คฤหาสน์ที่ริมหน้าต่าง

หลังจากบุริศร์ขึ้นรถ ก็ได้โทรหาพฤกษ์โดยเร็ว

“เรื่องของคุณผู้หญิงตรวจสอบได้เรื่องยังไงบ้าง?”

“ยังดำเนินการอยู่ครับ แต่ว่าไม่มีเบาะแสสักนิด เลยครับ ทางนี้มีคนมากมายไปซื้อผู้หญิงกลับมาจาก อเมริกา แต่ดูเหมือนไม่ใช่คุณผู้หญิงเลยครับ ผมยัง ตรวจสอบต่อครับ”

พฤกษ์ก็ค่อนข้างกลุ้มใจเหมือนกัน

วิธีที่งมเข็มในมหาสมุทรแบบนี้ทำให้หัวใจและ กำลังของคนอิดโรยจริงๆ แต่ว่าพอนึกถึงร่างกายและ การผ่าตัดที่บุริศร์กำลังจะเข้ารับ เขาก็จำเป็นต้อง

ทำให้สุดความสามารถ

บุริศร์มองคฤหาสน์ของรเมศ แล้วพูดเสียงต่ำ: “เรื่องนี้เอาไปให้แชมป์ตรวจสอบ ตอนนี้นายรีบนั่ง เครื่องมาที่อเมริกาด่วน ฉันรู้สึกว่ารเมศมีปัญหานิด

หน่อย”

“รเมศ?”

“ใช่ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด นายมาอย่างลับๆ อย่าให้ใครรู้เด็ดขาด ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ขับเครื่องบิน ส่วนตัวมา อย่าทิ้งร่องรอยไว้”

บุริศร์ไม่รู้ทำไมถึงมีความรู้สึกแบบนี้
รเมศที่อยู่ตรงหน้าลึกล้ำจนไม่อาจคาดเดา

ทั้งสองไม่ถือว่าเป็นเพื่อนกัน แม้กระทั่งสามารถ บอกได้ว่าเป็นศัตรูหัวใจกัน สิ่งที่เข้าใจในตัวรเมศ เขาได้รู้จากปากของนรมน

อีกอย่างกมลก็บอกว่าพ่อบุญธรรมคนนี้ดีมาก แต่พอ

หลังจากเขามาถึงอเมริกา รเมศก็น้อยมากที่จะโผล่ หน้ามา ตอนแรกเขาคิดว่าอาจจะเพราะรเมศอยากให้เขา

กับลูกได้อยู่ด้วยกันนานๆ เพราะฉะนั้นถึงทำแบบนี้ แต่ ตอนนี้ดูท่าเหมือนจะไม่ใช่

ถ้ารเมศดีกับกมลจริงๆ เป็นไปได้ยังไงที่ช่วงเวลา นานขนาดนี้ก็ไม่มาเยี่ยมกมลเลย?

ถึงแม้ตระกูลวัชโรทัยเป็นคนสร้างโรงพยาบาล แห่งนี้ แต่ยังไงซะกมลก็เป็นเด็กที่เขาใช้เวลาห้าปีมา ดูแลปกป้อง ยิ่งไปกว่านั้นบุริศร์ได้ข่าวมาจากพยาบาล ว่า ห้าปีมานี้ไม่ว่ารเมศจะงานยุ่งแค่ไหน ก็จะมาพูดคุย กับกมลที่โรงพยาบาลอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ท่าทางพวกนี้ ล้วนไม่เห็นแล้ว

นอกจากเขามีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องทำ

จู่ๆเขานึกขึ้นมาได้ มีอยู่ครั้งนึงตอนที่ไปFallen heaven เหมือนบุริศร์เคยเห็นรเมศอยู่ที่นั่น ถึงแม้แค่ เห็นเสี้ยววินาที ตอนนั้นก็ไม่ค่อยแน่ใจ ตอนนี้นึกขึ้นมา ได้น่าจะเป็นเขา
เขาไปที่Fallen heavenทำไม?

หรือว่าไปแค่เพื่ออาศัยดื่มเหล้าคลายความกลุ้ม

ใจ?

ยิ่งกว่านั้นความรักที่รเมศมีต่อนรมน ถึงตระกูลวัช โรทัยกับตระกูลโตเล็กเคลียร์บุญคุณกับความแค้นให้ มันจบสิ้นไปแล้ว เขาก็จะสามารถหาคนรักได้เร็วขนาด

นี้เลยเหรอ?

แม้กระทั่งยังกายแนบชิดกายแล้วเหรอ?

บุริศร์ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิดสังเกต แม้กระทั่งมีจุดน่า

สงสัยมากมาย

รเมศมีอสังหาริมทรัพย์อยู่หลายที่ แต่ทำไมช่วงนี้ ได้ซื้อเพิ่มอีกที่นึง? ส่วนอสังหาหลังนี้ก็ไม่ได้จด ทะเบียนใส่ชื่อของรเมศ แต่เป็นชื่อญาติห่างๆของเขา

รเมศอยากซื้อบ้าน จำเป็นต้องหลบๆซ่อนๆขนาดนี้

เลยเหรอ?

เขากำลังระมัดระวังใครอยู่?

ฝ่ามือของบุริศร์มีเหงื่อซึมออกมา

เขายิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิดสังเกต

แต่ว่าเขาจะอยู่ที่นี่นานไม่ได้ เพื่อเลี่ยงไม่ให้รเมศ เห็นพิรุธ

บุริศร์ขับรถจากไป ขับด้วยความเร็วที่ไม่ช้าไม่เร็ว พอๆกับตอนที่ขับรถมา แต่ว่าอารมณ์กลับค่อนข้างหนักหน่วงมาก

นรมนจะอยู่ที่นี่หรือเปล่า?

รเมศจะกักขังนรมนหรือเปล่า?

บุริศร์ไม่รู้ แต่กลับยิ่งอยู่ยิ่งรู้สึกตัวเองอาจจะเข้า

ใกล้ความจริงเข้าทุกทีแล้ว

รถได้ขับมาถึงจุดเลี้ยว จู่ๆบุริศร์เลี้ยวกลับ กะทันหัน รเมศมองดูเขาจากไปแล้วโล่งอกอย่างแรงที

นึ่ง

ถึงแม้ที่นี่เป็นอเมริกา เป็นถิ่นของเขา บุริศร์อยู่ที่นี่ ก็โชว์ศักยภาพอะไรออกมาไม่ได้ แต่เขาก็ยังรู้สึก

กดดันอย่างแปลกประหลาดอยู่ดี

ความรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่เสี้ยววินาทีที่เจอกันเมื่อกี้ก็มี แล้ว ตอนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งชัดเจน

จะทำยังไง?

หรือว่าจะต้องเคลื่อนย้ายนรมนเหรอ? แต่ว่าถ้าเคลื่อนย้ายตอนนี้ไม่เท่ากับเปิดเผยตัวเอง พอดีเหรอ?

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้บาดแผลบนตัวของนรมนยัง ไม่หายดี ถ้าระหว่างเคลื่อนย้ายนรมนหนีไปจะทำยัง ไง?

ไม่! ไม่ได้

เขาจะให้นรมนหายไปจากสายตาของตัวเองไม่ได้อีกเด็ดขาด

รเมศรีบพูดกับคนรับใช้: “รีบส่งนรมนลงไปที่ชั้น ใต้ดิน ที่นั่นฉันได้เตรียมเครื่องปรับอากาศไว้แล้ว พวก เธอรีบทำความสะอาดห้องให้เรียบร้อย ต้องขจัดร่อง รอยให้หมดสิ้นทุกอย่าง”

“ค่ะ”

คนรับใช้ของที่นี่ล้วนแต่เป็นคนที่รเมศไว้ใจ แม้ กระทั่งล้วนแต่เป็นคนรับใช้ที่เขาใช้เงินจ้างมา

อยู่ที่นี่ นรมนเป็นแค่ผู้หญิงคนนึง เป็นผู้หญิงที่ไม่ โด่งดังคนนึง แต่รเมศกลับเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลมาก ไม่มีใครไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเลือกยังไง

ในขณะที่คนรับใช้เตรียมตัวเคลื่อนย้ายนรมน นร

มนก็ตื่นแล้ว

เธอยังจำได้ว่าบุริศร์เคยมาที่นี่ แม้กระทั่งไม่รู้ว่าบุริ ศรีไปหรือยัง ตอนนี้เห็นคนรับใช้เริ่มเคลื่อนย้ายเธอ เธอขัดขืนอย่างสุดชีวิต ถึงปากจะถูกปิดเอาไว้ นอก จากเสียงวูๆๆแล้ว ไม่มีผลลัพธ์อย่างอื่นเลย

ในระหว่างที่เคลื่อนย้าย เธอเห็นรเมศ

เขายืนอยู่ที่นั่นอย่างกับเทพองค์นึง ส่วนโต๊ะน้ำชา มีแก้วชาอยู่สองใบ เห็นได้ชัดว่าน้ำชาเย็นหมดแล้ว

บุริศร์ไปแล้ว!

การรู้เรื่องนี้ทำให้นรมนรู้สึกสิ้นหวัง
ไม่นึกเลยว่าพวกเขาจะแคล้วคลาดกัน

ไม่นึกเลยว่าบุริศร์จะหามาถึงที่นี่ ทำไมไม่อยู่นาน อีกหน่อยล่ะ? ความผิดหวังที่อยู่ในแววตาของนรมนหนีไม่พ้น

สายตาของรเมศ

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดเสียงต่ำ : “คุณไม่ ต้องเพ้อฝันแล้ว ตอนนี้กะจิตกะใจทั้งหมดของบุริศร์ อยู่ที่การผ่าตัดของกมลหมดแล้ว คุณคิดว่าเขาจะเดา ออกจริงๆเหรอว่าคุณอยู่ที่นี่ ? ผมเพิ่งได้ข่าวมาว่า เขา ถูกคนหลอก มีคนบอกเขาว่าคุณถูกขายไปที่แอฟริกา ผมว่าตอนนี้กำลังทั้งหมดของตระกูลโตเล็กคงอยู่ที่ การตามหาคุณที่แอฟริกาแล้วมั้ง? นรมน คุณถูก กำหนดไว้แล้วว่าต้องเป็นภรรยาของผม วาสนาของ คุณกับบุริศร์สิ้นแล้ว รอเขาไปจากอเมริกา ผมก็จะ ปล่อยคุณออกมา ถึงเวลาผมจะดีกับคุณแน่นอน”

ระหว่างพูด เขาได้ยื่นมือออกมาลูบจับใบหน้าของ นรมนเบาๆ กลับถูกนรมนหลบพ้นไป

ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้ว

เธอพูดเยอะแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เธอก็พูดไม่ได้ ได้แต่จ้องรเมศไว้อย่างโหด รเมศค่อนข้างทนแววตาของเธอไม่ไหว เขาได้

ตะคอกเสียงต่ำ: “คุณจ้องมองผมแบบนี้ทำไม? ผมเป็น ผู้มีพระคุณของคุณนะ ผมรักคุณขนาดนี้ ไม่นึกเลยว่าคุณจะเกลียดชังผมขนาดนี้? นรมน ใจของคุณน็ถูก หมาคาบไปกินแล้วใช่มั้ย?”

นรมนหัวใจเศร้าโศก

บางที่ใจของเธออาจจะถูกหมาคาบไปกินแล้ว จริงๆก็ได้

แต่ว่าตอนนี้เธอแค่อยากเจอบุริศร์ แค่อยากเจอ ลูกสาวตัวเอง

เบ้าตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา มองรเมศด้วยการ อ้อนวอน แววตาคู่นั้นทำให้รเมศค่อนข้างใจอ่อน แต่ เขากลับพูดอย่างใจแข็ง: “คุณไปอยู่ที่ห้องใต้ดินสักสี่ ห้าวันก่อน คุณวางใจเถอะ ผมให้คนเตรียมห้องใต้ดิน เสร็จแล้ว ไม่แย่กว่าข้างบนหรอก ก็แค่ไม่มีแสงแดด เท่านั้นเอง ผมจะพาคุณออกมาอาบแดดทุกวัน ขอแค่ มันไปแล้ว ทุกอย่างก็ดีแล้วนะ คนดี”

รเมศลูบจับใบหน้าของนรมนอีกครั้ง กลับถูกนร มนหลบไปอีกครั้ง กลับเพราะใช้แรงมากไป ศีรษะได้ ไปโขกใส่บันได โขกจนเธอหน้ามืดตามัว

“ยังยืนเซ่ออยู่ทำไม? รีบพาเธอเข้าไปสิ! ถ้าโขก โดนกระแทกโดน ฉันจะให้พวกแกได้เจอดีแน่!” รเมศสงสารนรมนจะแย่ แต่ก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลา

ที่จะมาเอาแต่ใจ

เขาเพิ่งซื้อบ้านหลังนี้มาไม่นาน บุริศร์ก็สามารถหา มาถึงที่ เห็นได้อย่างชัดว่าอีกไม่นาน คนของตระกูลวัชโรทัยแม้กระทั่งคุณย่าก็จะรู้ที่พักนี้ เขาซื่อบ้านหลังนี้ ในเวลาที่เซนซิทีฟอย่างนี้ แม้กระทั่งไม่ใส่ชื่อของเขา ด้วย หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกคนสงสัย

จู่ๆรเมศรู้สึกว่าก้าวนี้เดินผิดไปแล้ว

คิดไม่ถึงว่าจมูกของบุริศร์จะไวขนาดนี้ ไม่นานก็ หามาถึงที่

ดูท่าแล้วเขาเป็นคนที่รับมือยากจริงๆ

ในเมื่อบุริศร์สามารถหามาถึงที่ได้ คาดว่าคนอื่นก็ คงหามาถึงที่ได้เหมือนกัน เพื่อป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิด ตอนนี้เขาก็คงต้องให้นรมนกล้ำกลืนฝืนทนหน่อยแล้ว

รเมศบอกกับตัวเองแบบนี้ แต่ว่าไม่รอให้เขาสงบ จิตสงบใจลงมา บุริศร์ก็ย้อนกลับมาอีกแล้ว

นาทีนี้ สีหน้าของรเมศค่อนข้างดูแย่

“ประธานบุริศร์ มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

รเมศค่อนข้างระวังตัว สีหน้าแววตาก็ค่อนข้างดูแย่ แล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ต้อนรับการกลับมาของบุริศร์ อีก อย่างการกลับมาอย่างกะทันหันของบุริศร์ทำให้เขาไม่ สบายใจเอาอย่างมาก

บุริศร์กลับพูดด้วยรอยยิ้ม: “พอดีผมลืมไฟแช็คอ่ะ ครับ”

พอพูดจบ เขาก็เดินเข้าไปในห้องรับแขกอย่างไว สายตามองดูทั่วทุกทิศ กลับพบว่าที่บันไดดูเหมือนมีเส้นผมของผู้หญิงลอยอยู่เส้นสองเส้น

จูๆเขาหรี่ตาขึ้นมา ขันมา

สีผมนี้เหมือนสีผมของนรมนนิดหน่อย

หรือว่าเธอจะอยู่ที่นี่จริงๆ? บุริศร์ดีใจสุดขีด แต่ว่า ได้แต่พยายามควบคุมเอาไว้

เขาเดินไปที่โต๊ะน้ำชาอย่างไว หาซ้ายทีหาขวาที่ สุดท้ายหาไฟแช็คตัวเองเจอที่บนพื้น

ที่จริงเขาจงใจ

“ที่แท้อยู่นี่จริงๆซะด้วย ขอโทษด้วยนะครับ ประธานรเมศ ไฟแช็คนี้ภรรยาผมเป็นคนซื้อให้ ผมพก

ติดตัวตลอดเลย รบกวนคุณแล้ว”

คำพูดของบุริศร์ทำให้แววตาของรเมศมีความ ริษยาที่ยากจะสังเกตเห็นแว๊บผ่าน ถึงแม้แว็บผ่านอย่าง ไว แต่ก็ถูกบุริศร์จับได้อีกเช่นเคย

เขามีปัญหาจริงๆซะด้วย!

รเมศพยายามควบคุมความริษยาของในใจไว้ ยิ้ม อย่างเรียบเฉยแล้วพูด : “ในเมื่อหาเจอแล้ว ประธานบุริ ศร์ก็รีบกลับเถอะครับ ทางฝั่งของกมลไม่มีคนอยู่ไม่ได้ เดี๋ยวรอให้ผมจัดการธุระเสร็จ ก็จะไปเยี่ยมเธอครับ”

“ประธานรเมศมีใจแล้วครับ แต่ว่าผมขอไปเข้า ห้องน้ำหน่อยได้มั้ย?”

บุริศร์เปิดปากพูดอีกครั้ง รเมศยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย

ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงได้เรื่องมากขนาดนี้? แต่เขาก็ ปฏิเสธไม่ได้ จึงได้พยักหน้า

บุริศร์ยกฝีเท้าเดินไปที่บันได

“ประธานบุริศร์ ชั้นหนึ่งก็มีห้องน้ำครับ”

รเมศเห็นเขาอยากขึ้นไปที่ห้องนอนบนชั้นสอง จึง รีบเปิดปากขัดขวาง เวลานี้ คนรับใช้ยังจัดการร่องรอย ของห้องนอนไม่เสร็จแน่นอน เขาไม่มีทางให้บุริศร์ขึ้น ไปหรอก

เสี้ยววินาทีที่บุริศร์หันหลัง ได้เอาเส้นผมนั้นกำไว้ ในมือ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม: “ผมชินแล้วครับ ปกติอยู่ บ้านชอบเข้าห้องน้ำในห้องนอนอยู่เรื่อยเลย รูปแบบ บ้านของประธานรเมศใกล้เคียงกับบ้านผม ต้องขอ โทษจริงๆด้วยครับ”

พอพูดจบเขาหันหลังด้วยรอยยิ้ม เพียงแต่ยิ้มได้ อย่างเสแสร้งมาก

บุริศร์เข้าไปที่ห้องน้ำ ก็ได้เอาถุงออกมาใส่เส้นผม เป็นอันดับแรก แต่ว่าหัวใจกลับเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ

นี่จะเป็นเส้นผมของนรมนหรือเปล่า?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ