แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่120 นี่เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ



บทที่120 นี่เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ

“กานต์! กานต์”

รเมศรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เรียกไปหลายครั้ง แต่ใน สายไม่มีใครตอบรับ เขาโทรกลับไป แต่สายไม่ว่าง

เขารู้สึกสังหรณ์ใจว่ามีกานต์ต้องเกิดเรื่องแน่ๆ

เมื่อนึกถึงมีคนขายเด็กที่ฉุดเด็กในโทรทัศน์ ในใจของร เมศเริ่มรู้สึกไม่ดี

เขารีบโทรไปหานรมน

“รเมศ? กมลเป็นอะไรเหรอ?”

ในขณะที่นรมนได้รับโทรศัพท์ของรเมศ ทั้งคนเหนื่อยล้า

มาก

เธอตามกานต์ออกมา แต่ทำไมเด็กหายไปเลย?

ในขณะนี้รเมศก็โทรมาหาตัวเอง สัญชาตญาณของเธอ บอกเธอว่าสถานการณ์ของกมลไม่ดีแล้ว

รเมศกลับพูดอย่างรีบร้อนว่า “กมลไม่เป็นอะไร ช่วงนี้เธอ ปกติดีมาก คุณไว้ใจได้เลย”

“งั้นก็ดี”

“นรมน เมื่อกี้กานต์โทรมาหาผม อารมณ์ไม่มั่นคงมาก ระหว่างพวกคุณเกิดอะไรขึ้นเหรอ? เขาไม่ได้อยู่กับคุณเหรอ?”

คำพูดของรเมศทำให้นรมนเหนื่อยล้าทั้งใจและกาย

“ฉันกับกานต์ทะเลาะกันนิดนึง เด็กนี้โกรธแล้ววิ่งออกไป เลย ฉันก็ตามออกมา แต่กลับไม่เจอเงาของเด็กนี่เลย ที่แท้ ไปแอบโทรหานายนี่เอง เด็กนี้นี่จริงๆเลยมีอะไรก็บอกนาย

หมด”

นรมนได้ยินรเมศบอกว่ากานต์ไปโทรคุยกับเขา ก็โล่งใจ เล็กน้อย ถ้างั้นไอ้เด็กนี้คงแอบอยู่แถวๆนี้

รเมศกลับไม่ได้มองในแง่ดีเหมือนนรมน

“นรมน ในขณะที่ผมพูดคุยกับกานต์ เขาร้องเสียงหนึ่ง โทรศัพท์ก็โทรไม่ติดแล้ว ผมโทรกลับไป ติดสายตลอด คุณอยู่ไหน? รีบไปดูซิว่ากานต์เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?”

พอพูดคำนี้ปับ ใจของนรมนก็จุกทันที

“นายว่าไงนะ?”

“ผมบอกว่ากานต์อาจจะเกิดเรื่องแล้ว!”

“ฉันจะรีบไปหา!”

นรมนรู้สึกขาอ่อนแรงทั้งสองข้าง

พระเจ้า ได้โปรดอย่าให้กานต์เกิดเรื่องเลย!

ถ้าจะโทษก็โทษเธอเลย เพราะเธอไม่ได้บอกสถานะของ บุริศร์ตั้งแต่แรกกับกานต์ เพราะเธอไม่ได้ เป็นความผิด

ของเธอ!
กานต์และกมลเป็นทั้งชีวิตของเธอ ตอนนี้กุมลโดอยู่โรง พยาบาลตลอด ถ้ากานต์เป็นอะไรไปอีก เธอจะอยู่ต่อไปยัง ไง?

นรมนเริ่มตามหากานต์อย่างบ้าคลั่ง

“กานต์ แม่อยู่ตรงนี้! ลูกออกมาได้ไหม? ไม่ว่าจะพูดอะไร แม่จะฟังลูกทุกอย่างเลย! กานต์!”

“อย่าเล่นแล้ว แม่เป็นห่วงลูกมาก ลูกรู้ไหม? กานต์! ลูก ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

นรมนร้องไห้ตะโกนไปด้วย ตามหากานต์ไปทั่ว แต่กลับ ไม่เห็นเงาของกานต์เลย

บุริศร์เห็นว่านรมนออกไปนานแล้วยังไม่มีข่าวคราวอะไร เลย ตามปกติแล้วเด็กคนหนึ่งจะวิ่งไปไม่ไกลมากนัก อีก อย่างกานต์ก็เป็นเด็กที่รู้เดียงสา แม้ว่าจะทะเลาะกัน ก็คง ไม่วิ่งออกจากโรงพยาบาลไปจริงๆ แต่ทำไมตอนนี้ยังไม่ เห็นนรมนกลับมาล่ะ?

เขาเริ่มไม่สาบยใจเล็กน้อย

กิจจายังคงหลับอยู่ ไม่รู้ว่าฝันถึงอะไร น้ำลายก็ไหลออก

มา

บุริศร์กังวลมาก รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทร หานรมน

ทางฝั่งนรมนไม่มีใครรับสาย ใจของบุริศร์ก็เริ่มดิ่งลง

เรื่อยๆ
เขายังคงโทรอยู่เรื่อยๆ

สุดท้ายนรมนรับโทรศัพท์สักที แต่กลับร้องไห้อย่าง เสียใจมาก

“บุริศร์ กานต์หายไป! รเมศบอกว่ากานต์โทรไปหาเขา พูดไปพูดมาก็ได้ยินเสียงกรี๊ดเสียงหนึ่ง แล้วโทรไม่ติดอีก เลย ทำไงดี? ลูกของเราหายไป!”

ตอนนี้นรมนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

แม้ว่าในห้าปีที่ผ่านมานี้เธอมีชีวิตอยู่อย่างเข้มแข็ง ถึงขั้น ใบอนุญาตเป็นนักออกแบบที่ต่างประเทศ และพยายาม พัฒนาเพื่อเด็กสองคนนี้อยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ไม่มีลูก แล้ว เธอเป็นเพียงแค่แม่คนหนึ่งที่หมดหนทาง

ใจของบุริศร์เจ็บจี๊ดขึ้นมาอย่างรุนแรง

“นรมน คุณอย่าเพิ่งกังวล เมืองชลธีเป็นพื้นที่ของผม ผม จะแจ้งให้รีบไปตามหา แม้ว่าจะพลิกเมืองชลธี ผมก็จะตาม กานต์ให้เจอ”

“ขอร้องล่ะ ต้องหาลูกชายฉันให้เจอ เขายังเด็กแบบนี้ ไม่ เคยไปจากฉันสักครั้งถ้าหากว่าถูกคนขายเด็กจับไปทำยัง ไง? พอฉันคิดภาพลูกชายที่สุขภาพดีของฉันถูกคนขาย ตัดแขนตัดขา ใจของฉันก็แตกสลาย”

นรมนหากานต์ไม่เจอ ในหัวสมองเต็มไปด้วยสิ่งที่เด็ก หลงทางจะแบกรับไหว

เธอกลัวแล้ว!
กานต์และกมลเป็นทั้งชีวิตของเธอ ตอนนึกมลได้อยู่โรง พยาบาลตลอด ถ้ากานต์เป็นอะไรไปอีก เธอจะอยู่ต่อไปยัง ไง?

นรมนเริ่มตามหากานต์อย่างบ้าคลั่ง

“กานต์ แม่อยู่ตรงนี้! ลูกออกมาได้ไหม? ไม่ว่าจะพูดอะไร แม่จะฟังลูกทุกอย่างเลย! กานต์!”

“อย่าเล่นแล้ว แม่เป็นห่วงลูกมาก ลูกรู้ไหม? กานต์! ลูก ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

นรมนร้องไห้ตะโกนไปด้วย ตามหากานต์ไปทั่ว แต่กลับ ไม่เห็นเงาของกานต์เลย

บุริศร์เห็นว่านรมนออกไปนานแล้วยังไม่มีข่าวคราวอะไร เลย ตามปกติแล้วเด็กคนหนึ่งจะวิ่งไปไม่ไกลมากนัก อีก อย่างกานต์ก็เป็นเด็กที่รู้เดียงสา แม้ว่าจะทะเลาะกัน ก็คง ไม่วิ่งออกจากโรงพยาบาลไปจริงๆ แต่ทำไมตอนนี้ยังไม่ เห็นนรมนกลับมาล่ะ?

เขาเริ่มไม่สาบยใจเล็กน้อย

กิจจายังคงหลับอยู่ ไม่รู้ว่าฝันถึงอะไร น้ำลายก็ไหลออก

มา

บุริศร์กังวลมาก รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทร หานริน

ทางฝั่งนรมนไม่มีใครรับสาย ใจของบุริศร์ก็เริ่มดิ่งลง

เรื่อยๆ
เขายังคงโทรอยู่เรื่อยๆ

สุดท้ายนรมนรับโทรศัพท์สักที แต่กลับร้องไห้อย่าง เสียใจมาก

“บุริศร์ กานต์หายไป! รเมศบอกว่ากานต์โทรไปหาเขา พูดไปพูดมาก็ได้ยินเสียงกรี๊ดเสียงหนึ่ง แล้วโทรไม่ติดอีก เลย ทำไงดี? ลูกของเราหายไป!”

ตอนนี้นรมนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

แม้ว่าในห้าปีที่ผ่านมานี้เธอมีชีวิตอยู่อย่างเข้มแข็ง ถึงขั้น ใบอนุญาตเป็นนักออกแบบที่ต่างประเทศ และพยายาม พัฒนาเพื่อเด็กสองคนนี้อยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ไม่มีลูก แล้ว เธอเป็นเพียงแค่แม่คนหนึ่งที่หมดหนทาง

ใจของบุริศร์เจ็บจี๊ดขึ้นมาอย่างรุนแรง

“นรมน คุณอย่าเพิ่งกังวล เมืองชลธีเป็นพื้นที่ของผม ผม จะแจ้งให้รีบไปตามหา แม้ว่าจะพลิกเมืองชลธี ผมก็จะตาม กานต์ให้เจอ”

“ขอร้องล่ะ ต้องหาลูกชายฉันให้เจอ เขายังเด็กแบบนี้ ไม่ เคยไปจากฉันสักครั้งถ้าหากว่าถูกคนขายเด็กจับไปทำยัง ไง? พอฉันคิดภาพลูกชายที่สุขภาพดีของฉันถูกคนขาย ตัดแขนตัดขา ใจของฉันก็แตกสลาย”

นรมนหากานต์ไม่เจอ ในหัวสมองเต็มไปด้วยสิ่งที่เด็ก หลงทางจะแบกรับไหว

เธอกลัวแล้ว!
ถ้าหากลูกชายเป็นแบบนั้นไป เธอคงจะเป็นบ้า โปแน่ๆ!

มือของบุริศร์สั่นเล็กน้อย

เขารีบลงเตียง ไม่มีเวลามาสนใจร่างกายที่อ่อนแอใน จอนนี้ พูดเสียงต่ำว่า “นรมน คุณอย่าเพิ่งร้องนะ ตอนนี้ พวกเราต้องใจเย็นก่อน คุณเชื่อผมนะ ผมจะหาลูกกลับมา แน่นอน”

ตอนนี้นรมนฟังอะไรไม่เข้าเลย เธอเห็นแก่ตัวเกินไป

เพราะความรู้สึกผิดหวังในความรักตอนนั้น เธอทำให้ลูก ต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีพ่อเป็นเวลาห้าปี ตอนนี้ด้วยความรู้สึก ของตัวเธอเอง เธอกะจะคืนดีกับบุริศร์ แ แต่เธอไม่ได้คิดว่า ว่าจะทำร้ายลูกชายของเธอ

หากกานต์ประสบอุบัติเหตุเพราะเรื่องนี้ เธอจะไม่มีวันให้ อภัยตัวเองทั้งชีวิต

นรมนวางโทรศัพท์ นั่งร้องไห้บนถนนอย่างหมดหนทาง

เธอไม่แคร์ว่าคนอื่นจะมองเธอยังไง ตอนนี้เธอเป็นแค่แม่ คนหนึ่งที่เสียลูกไป

บุริศร์รีบเปลี่ยนเสื้ออย่างรวดเร็ว หน้าอกยังมีเลือดซึม ออกมา แต่เขาไม่ได้สนใจ

มองดูกิจจาที่หลับสบาย บุริศร์รีบโทรหาพฤกษ์เป็น

อันดับแรก

“รีบมาที่ห้องพักพากิจจากลับบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็ก ส่งคนให้คอยปกป้องยี่สอบสีชั่วโมง อีกอย่าง ให้บอดการ์ด ทั้งหมดของบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กออกตัว หาทุกซอกทุก มุมของเมืองชลธี พวกสายขาวสายดำ ทุกซอย ท่าเรือ สนามบินและสถานีรถไฟ แค่มีคนที่น่าสงสัยพาเด็กที่สลบ ไปมาด้วย ให้ขวางไว้ให้หมด!”

บุริศร์สั่งคำสั่งมายาวพรวด ทำให้พฤกษ์งงไปทันที “ประธานบุริศร์ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”

“กานต์หายไป!”

พอบุริศรัพูดคำว่า พฤกษ์ก็รู้ถึงความร้ายแรงของเรื่อง

ทันที

เขารีบพาคนมาที่โรงพยาบาลก่อน และให้พากิจจากลับ บ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กและปกป้องให้ดีเป็นอันดับแรก ส่วนทางแชมป์ก็นั่งเครื่องบินมาทางนี้

การเคลื่อนไหวที่ใหญ่โตของตระกูลโตเล็ก คนในเมือง ชลธีเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุ ได้ ทุกคนต่างรู้สึกตกอยู่ในภาวะอันตราย

ธรณีและคุณย่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดากำลังอกสั่น ขวนแขวนเพราะได้รับสายทางคุณชายธเนศพล ก็ได้ยิน การเคลื่อนไหวใหญ่โตของตระกูลโตเล็ก

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? หรือว่าบุริศร์ก้าวเข้าประตูนรกอีก ครั้ง?”

คำพูดที่ไม่ไยดีของธรณี ทำให้คุณย่าบ้านตระกูลทวี ทรัพย์ธาดาโมโหทันที
“พูดมั่วอะไรเนี่ย? ยังไม่รับไปดู ถ้าตระกูลโตเลกมอะไรที่

ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาสามารถช่วยได้ ก็เป็นโอกาสดีที่จะ ไถ่โทษ ต้องรู้ว่าตระกูลโตเล็กถอดเครื่องแบบไปแล้ว มี หลายความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่เขาอยากแตะต้องก็แตะต้องได้”

คำพูดของคุณย่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาได้เตือน ธรณี

หลังจากที่ธรณีเกษียณไปก็ไม่ได้เข้าสู่ธุรกิจ แต่ยังคง ทำงานในหน่วยงานของรัฐ แม้ว่ามันจะเป็นงานว่าง แต่ก็ ไม่มีใครกล้าดูถูกตระกูลทวีทรัพย์ธาดา

ธรณีรีบออกไปสืบ ได้ข่าวว่าคุณชายน้อยของตระกูลโต เล็กหายไป

“นี่เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ คุณชายน้อยของตระกูลโตเล็กบุ ริศร์รักและเอ็นดูอย่างมาก ตอนนี้กลับมีคนกล้าแตะต้อง คนในบ้านตระกูลโตเล็ก”

คุณย่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาตกใจอย่างมาก ตระกูลโตเล็กเป็นใหญ่ในเมืองชลธี

ธรณีก็งงงวยเล็กน้อย

“แม่ครับ แม่ว่าพวกผมทำไงดี?”

“ทำไงดี? ส่งแรงกำลังทหารรีบช่วยออกตามหา!”

คุณย่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดารู้สึกว่าทำไมตอนนี้ ลูกชายเธอโง่ไปเลย?

เดิมที่เป็นคุณย่าที่เบลอ เพราะลูกนอกสมรสของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจึงไปใส่ร้ายนรมนที่เป็นคนธรรมดา เธอไม่ คิดว่าจะเดือดร้อนไปถึงตระกูลธนเกียรติโกศลในเมือง

หลวง

ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่วางอยู่ตรงหน้า แค่ตระกูลทวี ทรัพย์ธาดาช่วยคุณชายน้อยของตระกูลโตเล็กเจอ เรื่องนี้ ก็สามารถแก้ไขได้อย่างสวยงาม

ธรณีก็คิดถึงจุดนี้เหมือนกัน เขารีบหันตัวเดินออกไป เริ่ม ส่งแรงกำลังทั้งหมดของทหารมาช่วยหากานต์

และทางเจตต์นั้นเป็นเพราะความตั้งใจของบุริศร์ ก็เป็น หวัดหนักจนลุกไม่ได้แล้ว เดิมทีเขาแทบอยากจะให้บุริศร์ ตาย แต่ในตอนที่นรมนโทรหาเขา เขาก็ใจอ่อน ก็เอาเรื่องนี้ ไปบอกถึงคุณชายธเนศพลในเมืองหลวงอย่างเบลอๆไป

เลย

ตอนนี้ลองคิดดูแล้ว เจตต์มาเสียดายที่หลังแทบแย่ เขาต้องโดนของแน่ๆ ไม่งั้นทำไมถึงไปช่วยบุริศร์ศัตรู ของตัวเองได้ไง?

ตอนนี้ได้ข่าวทางตระกูลโตเล็กเคลื่อนไหวใหญ่แบบนี้

เจตต์ออกคำสั่งโดยตรง

“ถอดสายโทรศัพท์ของที่บ้านให้หมด ถอดสายเน็ตด้วย โทรศัพท์ปิดเครื่องให้หมด ไม่มีคำสั่งของฉัน ใครก็ห้าม ติดต่อกับโลกภายนอก บอกว่าผมป่วยหนัก ต้องรักษาตัว ไม่พบใครทั้งนั้น!”

กลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนกับนรมนอีก เจตต์ก็ใจแข็งโดยรงตัดทุกความเป็นไปไป แบบนี้ก็ทำให้เขาเสียโอกาสที่จะ ช่วยกานต์ และเรียกร้องเครดิตต่อหน้านรมนไป

หลังจากที่นรมนร้องไห้เสร็จ รู้สึกว่าร้องไห้อย่างเดียวก็ ไม่มีประโยชน์ ลูกยังต้องหา

เธอลุกขึ้นมา รู้สึกว่าเพิ่งแรงคนเดียวไม่ได้

นรมนโทรหาเจตต์เป็นอันดับแรก

ความสัมพันธ์ของเจตต์กว้างมาก สามารถคิดต่อไปทาง เมืองหลวงได้ ก็คงสามารถช่วยเธอหากานต์ได้

แต่ไม่ว่าเธอจะติดต่อเจตต์ยังไงก็ติดต่อไม่ได้ แต่กลับเป็นธรณีที่ขับรถมา จอดตรงหน้าเธอ

“คุณนรมน ผมใช้แรงกำลังตำรวจทั้งหมดในเมืองชลธี ช่วยออกตามหาคุณชายน้อยของตระกูลโตเล็ก”

นรมนแปลกใจมาก แต่ก็พูดอย่างขอบคุณ “ขอบคุณนะ คุณชายธรณี ขอบคุณจริงๆ”

เธอในขณะนี้กับผู้หญิงที่ตบเขาในไม่นานนี้ต่างกัน ราวกับคนละคน

ตาของนรมนร้องไห้จนบวม ท่าทีที่น่าสงสารแบบนั้น เกือบทำให้ธรณีเข้าไปปลอบโยน

“นรมน!”

บุริศร์ในตอนนี้รีบตามมา

นรมนราวกับเจอแกนสำคัญ พุ่งเข้าอ้อมกอดของเขาทันที

“จะหากานต์ให้เจออยู่ใช่ไหม? บุริศร์ นายจะช่วยฉันหา ลูกชายให้เจอให้ไหม?”

“ใช่ ผมจะช่วยหากานต์ให้เจอ! เขาเป็นเด็กที่ฉลาด ถ้า หากเขายังมีสติ ก็คงจะทิ้งเบาะแสให้พวกเราไว้แน่ๆ”

บุริศร์ปลอบโยนนรมน ในความเป็นจริงเขาก็ไม่มั่นใจ เหมือนกัน เขาเป็นห่วงกานต์มากกว่านรมนอีก แต่ตอนนี้ เขาเป็นแกนสำคัญของนรมน ดังนั้นเขาถึงพูดแบบนี้ และ ทำเช่นนั้น

ธรณีตกใจไม่มากก็น้อย

ดูออกได้ชัดเลยว่ากานต์ไม่ใช่ชื่อของคุณชายตระกูลโต เล็ก แต่เมื่อนรมนก็บอกแล้วว่า คนที่หายไปคือลูกของนร มัน

แต่บุริศร์กลับออกตัวช่วยลูกของนรมนขนาดนี้ ทำให้ ธรณีเหลือเชื่อจริงๆ ที่สำคัญคือ อีกฝ่ายลักพาตัวลูกชาย ของนรมนทำไม? ไม่ใช่ว่าควรลักพาตัวลูกชายของบุริศร์ เหรอ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ