แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 485 แม่อย่างฉันคนนี้ แค่มีไว้ประดับเหรอ



บทที่ 485 แม่อย่างฉันคนนี้ แค่มีไว้ประดับเหรอ

พฤกษ์จ้องมองห้องลองชุดอยู่ตลอด

เขาอยากจะเห็นภาพที่คมทิพย์ใส่กระโปรงมากจริง ๆ ผู้หญิง คนนี้ถึงแม้ว่าจะแสดงออกอย่างแข็งกร้าวมาตลอด แต่เขานั้นรู้ดี กว่าใครทั้งนั้น ว่าภายในจิตใจของคนทิพย์นั้นอ่อนโยนมาก

นรมนเองก็สังเกตห้องลองชุด แต่ว่าหางตาก็ยังคงมองไปที่ ด้านหลังอยู่

กิมจิได้เดินเข้ามาแล้ว แต่ว่าคนที่อยู่ข้างหลังเขานั้นกลับไม่ได้ เดินเข้ามาด้วย แต่กลับเดินไปตามร้านขายเสื้อผ้า ดูแล้วเหมือน กับว่าไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับกิมจิเลย แต่ว่านรมนกลับรู้สึก ว่าไม่ค่อยปกติเท่าไหร่

“นายหญิงครับ”

ในตอนที่กิมจิมาถึงนั้น พฤกษ์ก็อึ้งไปเล็กน้อย เขาถึงกับไม่รู้ว่า กิมจิ นมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่

เห็นได้ชัดว่าความระแวดระวังของเขานั้นน้อยเกินไปแล้วใช่ ไหม?
หรือว่ามัวแต่มาใส่ใจอยู่ที่ตัวคมทิพย์ เพราะฉะนั้นตัวเองก็เลย เหมือนกับว่าจะลืมคนอื่น ๆ ไปแล้วเหรอ?

พฤกษ์รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย

เหมือนกับว่านรมนจะรู้ว่าพฤกษ์นั้นกำลังคิดอะไรอยู่ จึงพูด เสียงต่ำขึ้นว่า “หน้าที่ของคุณตอนนี้คือปกป้องคุมทิพย์ให้ดี ทาง ด้านฉันนี้คุณไม่ต้องสนใจแล้ว เมื่อเทียบกับอาณาจักรรัตติกาล แล้ว ฉันเชื่อว่าคุณน่าจะวางใจได้แล้ว”

พอได้ยินนรมนูพูดแบบนี้แล้ว พฤกษ์ก็อดที่จะพยักหน้าไม่ได้

กิมจิหาที่นั่งข้าง ๆ ที่หนึ่งแล้วก็นั่งลงไป ตอนที่ผมทิพย์ออกมานั้น ก็ทำให้พฤกษ์และนรมนนั้นตะลึง ค้างไปเลย

ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอใส่กระโปรงแล้วจะสวยขนาดนี้

“เป็นยังไงบ้าง? ไม่สวยเลยใช่ไหม? ฉันเองก็รู้สึกแปลกมาก เลย ฉันว่าฉันไปใส่กางเกงยีนของตัวเองดีกว่านะ

คมทิพย์เห็นท่าทางในตอนนี้ของพวกเขาแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะ รู้สึกอึดอัดขึ้นมา พูดแล้วก็จะไปถอดออก แต่กลับโดนนรมมห้ามไว้ก่อน

“ไม่ต้อง ดูดีออก นี่ดูไม่ออกจริง ๆ นะ ว่าเธอจะเป็นไม้แขวนที่ ดีอันหนึ่ง ชุดกระโปรงนี้ใส่อยู่บนตัวเธอนี่สุดยอดมากจริง ๆ เลย

คำพูดของนรมนทำให้ผมทิพย์อึ้งไปครู่หนึ่งเลย

“เธอพูดปลอบใจฉันใช่ไหม?”

“เป็นความจริงนะ ไม่เชื่อเธอก็ถามพฤกษ์ดูซิ เอ๊ะ ไม่ใช่ เธอดู พฤกษ์ ตาของเขาค้างไปแล้ว

นรมนเห็นท่าทางเอ่อ ๆ ของพฤกษ์แล้ว ก็อดที่จะยิ้มขึ้นมาไม่ ได้

เมื่อมทิพย์ได้ยินแล้วก็มองไป ก็เห็นถึงแววตาที่เป็นประกาย

ของพฤกษ์ แล้วก็อดที่เขินอายขึ้นมาไม่ได้

ผู้หญิงไม่ว่าภายนอกจะแข็งกร้าวแค่ไหน เป็นสาวห้าวแค่ไหน แต่ว่าพอเผชิญหน้ากับคนในใจขึ้นมา ความเขินอายและความ อ่อนโยนตามสัญชาตญาณของผู้หญิงก็อดไม่ได้ที่จะต้อง แสดงออกมา

“สวยจริง ๆ เหรอ?”

“อืม สวย
พฤกษ์คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่คมทิพย์เปลี่ยนชุดกระโปรงแล้ว จะเหมือนกับเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย ความรู้สึกแบบนั้นเขา บรรยายออกมาไม่เป็นจริง ๆ เลย พอเห็นว่าพวกเขาทั้งสองคน ต่างก็พึงพอใจมาก คมทิพย์ก็กัดฟันแล้วพูดขึ้นว่า “แต่ว่าชุด กระโปรงนี้มันแพงเกินไปนะ

“ฉันพูดไว้แล้ว ว่าฉันซื้อให้เธอ ก็ถือซะว่าเป็นของขวัญและ ฉลองที่เธอสามารถหาผู้ชายที่ดีมากอย่างพฤกษ์ได้ละกัน”

นรมนพูดแล้วก็ไปรูดการ์ดเลย

คมทิพย์อยากจะห้าม แต่กลับโดนพฤกษ์กอดไว้ซะก่อนเลย “คุณ คุณจะทําอะไร? นี่มันที่สาธารณะนะ คุณรีบปล่อยฉัน เดี๋ยวนี้!”

คมทิพย์รู้สึกว่าวันนี้พฤกษ์ค่อนข้างเปิดกว้าง

ถึงแม้จะบอกว่าในร้านขายเสื้อผ้านั้นคนไม่เยอะ แต่ว่าที่เขา ทำแบบนี้ก็ทำให้เธอโดนมองอยู่ไม่น้อยเหมือนกันนะ?

พฤกษ์กลับเหมือนกับว่าปลดปล่อยทุกอย่างแล้วยังไงอย่างงั้น แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “คุณสวยมากจริง ๆ คมทิพย์ ผมรู้สึกว่า สายตาของผมละจากไปไม่ได้แล้ว”

เขาพูดคำที่ซาบซึ้งแบบนี้น้อยมาก พูดจนคมทิพย์รู้สึกแต่ว่า บนหน้านั้นร้อนผ่าวอยู่ ความรู้สึกดีใจอย่างหนึ่งที่พูดไม่ชัดเจน พวยพุ่งขึ้นมาจากก้นบึงหัวใจ

“เมื่อก่อนฉันไม่สวยเหรอ?”

“เมื่อก่อนก็สวย แต่ว่าตอนนี้ยิ่งสวยมากกว่า” พฤกษ์กอดเอวของคมทิพย์เอาไว้ แล้วก็ค่อย ๆ ชิดเข้าไปใกล้

ใบหน้าของเธอ

อุณหภูมิที่อุ่นร้อนค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา

คมทิพย์เหมือนกับว่าจะเดาออกแล้วว่าพฤกษ์จะทําอะไร เธอ ตื่นเต้นจนรีบจับเสื้อของพฤกษ์เอาไว้แน่น รู้สึกเหมือนกับว่าใจทั้ง ดวงก็จะเต้นออกมาแล้ว

เธอหลับตาลงอย่างอัตโนมัติ

จูบของพฤกษ์ประทับลงมาแล้ว

ตัวทั้งตัวของคมทิพย์นั่นสั่นเทาอยู่

ความรู้สึกของชั่ววินาทีนี้นั้นช่างสวยงามมากจริง ๆ กระทั่งเธอ มีความรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่ที่ไม่เป็นความจริงอยู่ด้วย
พฤกษ์จูบคมทิพย์ไป และในตอนที่เธอกำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั้น เขาก็ใช้มือสับให้คมทิพย์หมดสติไปเลย

จ้องมองคมทิพย์ค่อย ๆ ตัวอ่อนและล้มลงมาฟังอยู่กับอกของ ตัวเอง พฤกษ์ก็ช้อนตัวเธอขึ้นมาอุ้มไว้ แล้วมองนรมนที่ไปจ่าย เงินกลับมาและกิมจิ แล้วพูดขึ้นว่า “คุณนาย กิมจิ ผมจะพาคม ทิพย์ไปแล้วนะครับ พวกคุณรักษาตัวด้วยนะครับ”

“ระหว่างทางระวังตัวด้วย เมื่อฉันเห็นมีคนสะกดรอยตามกิม จิมา ถ้าคุณสามารถสลัดออกไปได้ก็ดี แต่ถ้าสลัดไม่ออก ก็ พยายามกลับไปที่บ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กให้ได้ แล้วพวกเรา ค่อยคิดหาหนทางอื่นกันต่อไป

คำพูดของนรมนทำให้กิมจิอึ้งไปเล็กน้อย

“ตามผมมาเหรอครับ? เป็นไปไม่ได้มั้ง?” แต่ว่ากิมจิเห็นความเคร่งเครียดที่อยู่ในดวงตาของนรมน เขาก็อดไม่ได้ที่จะตกใจขึ้นมา

คนที่สามารถสะกดรอยตามเขาแต่กลับไม่โดนเขาพบเห็น นี่ มันจะเป็นใครกันนะ?

ความรู้สึกของกิมจิเหมือนจะหนักหน่วงขึ้นมาทันที

พฤกษ์พยักหน้า แล้วก็อุ้มคมทิพย์ออกไปจากร้านขายเสื้อผ้า

เลย

นรมนจ้องมาคมทิพย์และพฤกษ์จากไป ในใจก็ทนทําใจไม่ได้ มาก แต่ว่าก็ไม่ได้เสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้ไป

“ไปเถอะ พวกเราไปรับกมลและกานต์ไปโรงเรียนอนุบาลกัน

“ครับ!”

กิมจิถือของของนรมนเอาไว้ แล้วก็ออกจากประตูไปพร้อมกับ

บรมน

หลังจากที่ออกจากประตูมาแล้วนรมนก็ใส่แว่นกันแดดอันหนึ่ง

บุคลิกทั้งตัวก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไปเลย

ในตอนแรกนั้นเธอไม่ได้อยากจะใช้อำนาจของอาณาจักร รัตติกาลเลย ในเมื่อกะว่าจะไปจากที่นี่พร้อมกับบริศร์ และออก จากประเทศไปท่องเที่ยวแล้ว ทุกอย่างของตระกูลโตเล็กก็ส่ง มอบให้กับตนท์ และแม้แต่อาณาจักรรัตติกาลก็กะว่าต่อไปจะ เก็บไว้ให้กานต์ แต่ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาพิเศษ เธอก็เลยไม่ขอ อ้านางอาณาจักรรัตติกาลของตัวเองคืนมาจากครินท์ไม่ได้
ตรินท์กลับไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ว่าตัวนรมนเองรู้สึกว่ามันไม่ ค่อยดีเท่าไหร่

หลังจากที่ทั้งสองคนขึ้นรถมาแล้วนั้น นรมนก็ตั้งใจมองไปข้าง หลังที่หนึ่ง แล้วก็พบว่าผู้ชายที่ตามกิมจิมาก่อนหน้านั้น ไม่รู้ว่า โผล่ออกมาจากที่ไหน หลังจากที่พวกเขาขึ้นรถแล้ว เขาก็ขึ้นรถ แท็กซี่คันหนึ่งตามมา และตามพวกเขาอยู่ห่าง ๆ

“ดูคนคนนั้นซิ คุณรู้จักไหม?”

คำพูดของนรมนทำให้กิมจิหันกลับไปมองที่หนึ่ง จากนั้นก็ ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นว่า “เป็นคนในบริษัท ผมเคยเห็นหลายครั้ง เหมือนจะเป็นคนของประธานเคน

“บริษัทเหรอ? บริษัทไหน?”

“บริษัทฮัวกรุ๊ปจํากัดครับ”

คำพูดของกิมจิทำให้คิ้วของนรมนยิ่งขมวดกันแน่นเลย

“ประธานเคนคนนี้เป็นใครกัน?”

“เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งของบริษัท แต่ว่าค่อนข้างมีความคิดเห็น ในเรื่องที่คุณชายรองขึ้นมาดำรงตำแหน่ง และช่วงที่ผ่านมาก็ เป็นปรปักษ์กับคุณชายรองมาตลอด และยังก่อเรื่องขึ้นในบริษัทน้อยเลย แล้วเรื่องที่โยกย้ายที่อยู่อาศัยแถวชานเมืองทางใต้ ก่อนหน้านี้ก็เขาเป็นคนสร้างออกมา ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคุณชาย รองให้ผมไปจัดการเรื่องนั้น ผมก็ไม่มีทางปล่อยให้นายหญิงถูก จับตัวไปหรอกครับ เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของผมเอง ต่อไปก็ หวังว่านายหญิงจะลงโทษผมด้วยนะครับ

กิมจิเป็นฝ่ายพูดเรื่องทั้งหมดนี้ออกมาเอง

นรมนกลับโบกมือเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นว่า “นี่ไม่ได้มีส่วน เกี่ยวข้องกับคุณ ถ้าหากว่ามีคนต้องการต่อต้านฉัน ต่อต้าน ตระกูลโตเล็ก และต่อต้านบริศร์แล้วละก็ ถึงแม้ว่าคุณจะเฝ้าอยู่ ข้างกายฉันยี่สิบสี่ชั่วโมง ก็ไม่เห็นว่าจะสามารถปกป้องฉันได้ หรอก ข้อมูลของคนคนนั้นและประธานเคน ต่อไปคุณก็ไปสืบมา สักหน่อยนะ”

“ได้ครับ!”

หลังจากที่กิมจิพูดจบแล้ว ก็ไม่ได้สนใจการสะกดรอยตามของ

ข้างหลังอีกเลย

ในเมื่อรู้แล้วว่าเป็นคนของใคร ก็ต้องไม่กลัวอยู่แล้วว่าเขาจะ สร้างเรื่องอะไรออกมา

ทั้งสองคนไปที่บ้านตระกูลธนาศักดิ์ธนก่อน

ตอนที่แม่นรมนเห็นนรมนนั้น ก็พูดอย่างโกรธขึ้นมานิดหน่อย ว่า “ทุกครั้งก็รอเรื่องจบลงแล้วเธอถึงจะมาบอกฉัน ฉันที่เป็นแม่คนนี้นี่ มีไว้แค่ประดับเท่านั้นเห รอ? สำหรับเธอแล้ว ฉันเป็นคนที่แบกรับเรื่องต่าง ๆ ไม่ได้ขนาด นั้นเลยเหรอ?”

นรมนรู้ว่าตอนที่ตัวเองกลับมานั้นจะต้องโดนตำหนิแน่ จึงอด ไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดขึ้นว่า “แม่คะ หนูก็แค่ร่างกายไม่สบายนิด หน่อย แล้วไปนอนโรงพยาบาลไม่ได้บอกแม่เท่านั้น แม่จำเป็นจะ ต้องโกรธขนาดนี้เลยเหรอคะ? แล้วอีกอย่าง ก็ไม่ได้เป็นอะไร มากสักหน่อย ก็แค่เรื่องเล็กน้อยของผู้หญิงเท่านั้น หนูจําเป็นจะ ต้องมาทำให้แม่เดือดร้อนด้วยเหรอ? และที่สำคัญกมลอยู่ที่นี่ก็ ทำให้แม่ยุ่งมากพอแล้ว แม่ช่วยหนูดูแลลูกสาวอยู่ แล้วหนูจะ มารบกวนแม่ทุกเรื่องได้ยังไงกัน

“เธอก็ไม่ได้คิดกับฉันว่าเป็นคนกันเองนั่นแหละ

คำพูดของแม่นรมนูพูดได้หนักหน่วงพอสมควร จึงอดไม่ได้ที่ จะทำให้นรมนรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย

พอเห็นว่าแม่นรมนหมุนตัวแล้วเดินเข้าไปเลย ไม่ได้คิดจะ สนใจตัวเองสักนิด แล้วนรมนถึงเพิ่งจะรู้สึกตัว

หรือว่าเธอจะทําผิดไปแล้วจริง ๆ เหรอ? หรือเป็นอย่างที่แม่นรมนพูดขึ้นมาจริง ๆ เธอไม่ได้คิดกับเธอว่าเป็นแม่แท้ๆ ของตัวเองจริง ๆ เหรอ?

ไม่อย่างงั้นละก็ ทำไมไม่ว่าเรื่องอะไรเธอก็ไม่ยอมบอกแม่ล่ะ?

นรมนรู้สึกสะดุ้งไปทั้งตัว พอรู้ว่าแม่นรมนโกรธจริง ๆ แล้ว ก็ รีบร้อนตามเข้าไปเลย

“แม่ แม่อย่าเป็นอย่างนี้ หนูแค่กลัวว่าแม่จะเป็นห่วงถึงได้ เป็นแบบนี้ต่างหาก ถ้าแม่ไม่พอใจ ครั้งหน้าถ้ามีเรื่องเล็กเรื่อง น้อยอะไร หนูก็จะบอกแม่เป็นคนแรกเลยดีไหมคะ? ถึงแม้ว่าหนู จะแค่จามทีหนึ่งก็จะมาอ้อนแม่เลยดีไหมคะ?”

พอแม่นรมนได้ยินนรมนพูดแบบนี้แล้ว ก็มองท่าทางที่เป็น กังวลของลูกสาวที่หนึ่ง แล้วก็ถอนหายใจทีหนึ่งและพูดขึ้นว่า “พูดไปเรื่อยอะไร มีใครที่ไหนที่เขาแช่งให้ตัวเองไม่สบายทุกวัน กัน?”

“ก็เป็นเพราะว่าแม่โกรธแล้วไม่ใช่เหรอ?”

นรมนเขย่าแขนของแม่ไปมาอย่างกับเด็กคนหนึ่งอยู่ ท่าทาง แบบนั้นเหมือนกับตอนเด็ก ๆ ยังไงอย่างงั้น

แม่นรมนไม่มีวิธีที่จะรับมือกับเธอที่เป็นแบบนี้ได้เลยจริง ๆ

“ฉันจะบอกอะไรเธอนะ ครั้งหน้าถ้าเธอยังกล้าปิดบังฉันอีก ฉันก็จะไม่ยอมรับลูกสาวอย่างเธอแล้วนะ”

“ได้ ได้ ได้! หนูผิดไปแล้ว หนูรับรองว่าครั้งหน้าจะไม่กล้าอีก แล้วค่ะ”

ท่าทางที่นรมนยอมรับผิดนั้นดีมาก แม่นรมนก็เลยยอมยก

โทษให้เธอไปก่อน

“หม่ามี้! หม่ามี้ดูหนูสวยไหมคะ?”

ในเวลานี้กมลวิ่งลงมาจากตึกข้างบน

เธอใส่ชุดกระโปรงเจ้าหญิงสีขาวไว้ชุดหนึ่ง แล้วรวมกับรอย ยิ้มที่สดใสดีใจนั่น นี่มันช่างเหมือนกับเด็กสาวน่ารักที่ออกมา จากในภาพวาดยังไงอย่างงั้น จนทำให้นรมนจ้องจนดีใจอย่าง จริงใจไม่หยุดเลยจริง ๆ

“โอ้ นี่มันเป็นเจ้าหญิงของบ้านไหนกันเนี่ย? ถึงได้สวยขนาดนี้ เร็ว มาให้หม่ามี้ดูหน่อยเร็ว”

บรมนกางแขนออก แล้วกลมก็พุ่งเข้ามาในอ้อมอกของเธอ

เลย

“หม่ามี้ หม่ามี้ว่าหนูไปโรงเรียนอนุบาลทั้งแบบนี้ เพื่อน ๆ จะ ชอบหนูกันไหมคะ?”

“จะต้องชอบอยู่แล้วจ้า! กมลสวยซะขนาดนี้ น่ารักซะขนาดนี้ และยังงดงามสักขนาดนี้ ใคร ๆ ก็ต้องชอบกมลกันทั้งนั้นแหละจ้ะ

“จริงเหรอคะ?”

กมลยังคงขาดความมั่นใจอยู่บ้าง

เธอได้อยู่กับเพื่อน ๆ นั้นน้อยมาก แล้วพอวันนี้รู้ว่าตัวเองจะได้ ไปโรงเรียนอนุบาลแล้ว และรู้ว่าที่โรงเรียนอนุบาลจะมีเพื่อน ๆ เยอะขนาดนั้น ก็แน่นอนว่าเธอจะต้องดีใจมากแน่ แต่ว่าในความ ดีใจก็ยังแฝงไว้ด้วยความกังวลเสี้ยวหนึ่งอยู่

พอเห็นว่าลูกสาวช่างไม่มั่นใจขนาดนี้ นรมนก็รู้สึกเป็นทุกข์ขึ้น มาบ้าง แต่กลับยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “วางใจเถอะ หม่าเชื่อว่าเพื่อน ๆ จะต้องชอบกมลกันแน่ ๆ และที่สำคัญยังมีพี่ชายเป็นเพื่อนหนู อยู่ด้วยใช่ไหม?”

“พี่ชายก็จะไปโรงเรียนอนุบาลกับหนูด้วยเหรอคะ?”

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว พวกหนูเป็นชั้นเดียวกัน เป็นห้อง เดียวกันจ๊ะ”

พอได้ยินว่ากานต์ก็จะอยู่กับตัวเองด้วย ในที่สุดกมลก็อุ่นใจ ขึ้นมาบ้างแล้ว

“หม่ามี้ หม่ามีจะไปส่งหนูกับพี่ชายไปเข้าโรงเรียนอนุบาลไหม คะ?”
“ไปซิจ๊ะ! ตอนนี้เราไปรับพี่ชายกันดีไหมจ๊ะ?

“ค่ะ!”

กลมรู้สึกดีใจมากจริง ๆ

พอพ่อแม่นรมนเห็นว่าหลานเป็นแบบนี้แล้ว ก็อดที่จะยิ้มขึ้นมา

ไม่ได้

“แล้วกลางคืนกมลจะกลับมาที่บ้านเราหรือว่ากลับไปที่บ้านย่า

ล่ะ?”

แม่นรมนถามขึ้นมาประโยคหนึ่งอย่างอัตโนมัติ

จะไม่พูดก็ไม่ได้ว่า หลายวันมานี้พอได้อยู่กับยัยเด็กน้อย แล้ว ก็ทําให้คนแก่ทั้งสองคนทนทําใจที่จะกมลจากไปไม่ได้จริง ๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ