แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 713 ใครกำลังพูดโกหก



บทที่ 713 ใครกำลังพูดโกหก

“บุริศร์เป็นอย่างไรบ้างคะ? –

นรมนตามไปอย่างรวดเร็ว โพนี่เองรู้ว่าเธอเป็นกังวล จึงรีบ ถามออกมา

วันภพถอดหน้ากากออก มองเห็นนรมนกับโพนี่ เขาตอบเสียง เบาว่า “ไม่สามารถพูดได้ว่าสําเร็จมาก

“หมายความว่าอะไรคะ? ”

นรมนรู้สึกว่าตนเองตกลงไปในอุโมงค์น้ำแข็งอย่างฉับพลัน

ร่างกายแข็งทอ

สีหน้าของโพนี่ก็ดูไม่ดีมาก ๆ

วันภพถอนหายใจและตอบว่า “นำเลือดคั่งในสมองออก หมดแล้ว แต่สําหรับเส้นประสาทฉันจัดการไม่ได้

“อะไรที่เรียกว่าทำไม่ได้คะ? รุ่นพี่ คุณไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านนี้เหรอ? ”

โพนี่รีบถาม

วันภพตอบอย่างละอายใจ” “แต่ก่อนฉันเอาแต่คิดว่าตนเอง คือเชี่ยวชาญทางด้านนี้ แต่เคสของบุริศร์บอกกับฉันว่า ฉันยัง ประเมินตนเองสูงไป ถ้าเป็นเพียงความเจ็บปวดของเส้นประสาท ทั่วไป แน่นอนว่าฉันสามารถรักษาเขาได้ แต่เขาไม่ใช่ ตอนที่พวกเราจะทําการผ่าตัดให้แก่เขา เส้นประสาทของเขาเกิด สถานะของการป้องกันตนเอง ถ้าพวกเราฝันผ่าตัด เขาอาจจะ กลายเป็นเจ้าชายนิทราไปตลอดชีวิต หรือสมองอาจจะตายได้ ฉันรับความเสี่ยงนี้ไม่ไหว ดังนั้นต้องถอนการสะกดจิตของเขา ก่อน เพราะการสะกดจิตอยู่ในสมองของเขา ในใจของเขาเกิด การต่อต้าน เกิดปฏิกิริยาการกีดกันโดยไม่รู้ตัว ทําให้พวกเรา ไม่มีทางลงมือได้

ได้ฟังกันภพตอบแบบนี้ นรมนแทบจะล้มทั้งยืน เธอเอาแต่คิดว่าผ่านการผ่าตัดครั้งนี้ไปบุริศร์จะลุกขึ้นมาได้ ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าจะมีผลลัพธ์แบบนี้

โพนี่เข้าใจความรู้สึกของนรมนที่มีต่อบริศร์มากกว่าใคร เธอ มองนรมนอย่างเป็นห่วง และถามวันภพว่า “หรือว่านอกจาก ถอนการสะกดจิตจะไม่มีวิธีอื่นแล้ว? คุณก็เห็นแล้ว ตอนนี้บริศร์ อยู่ในอาการโคม่า ถ้าต้องการให้มีส่วนร่วมกับการสะกดจิต อาจ จะไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง”

“เขาโคม่าก่อนหน้านี้เพราะมีเลือดคั่งในสมอง ซึ่งตอนนี้พวก

เราเอาเลือดคั่งออกจากสมองแล้ว โดยปกติเขาน่าจะฟื้นขึ้นมา

ในช่วงเวลาสั้น ๆ ดังนั้นสิ่งที่พวกคุณต้องทำคือการหาคนที่

สามารถถอนการสะกดจิตมาช่วยเขาโดยเร็วที่สุด ถ้าเป็นเช่นนี้

พวกเราถึงจะมีความหวัง

“ฉันจะกลับไปหา! ”

นรมนรีบกล่าวด้วยภาษามือ
เธอยังจําที่อยู่ของนักสะกดจิตที่มีลินเคยบอกกับตนเองได้ ตอนนั้นจำได้ชัดเจน จนถึงตอนนี้ยังคงจำได้อยู่

“นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่ต้องรีบหน่อยนะ

คำพูดของวันภพทำให้นรมนรีบพยักหน้าทันที

เธอฝากบุรีศร์ไว้กับโพนี่ ส่วนตนเองจองตั๋วเครื่องบินที่เร็ว ที่สุดกลับไปเมืองชลธี

เมื่อกลับมาถึงเมืองชลธีอีกครั้ง นรมนไม่สามารถบรรยาย ความรู้สึกออกมาได้

เธอทั้งรักทั้งเกลียดที่นี่ ท้ายที่สุดแล้วความเจ็บป่วยของบุริศร์ เอาชนะความรู้สึกกลัวในใจ

นรมนอาศัยที่อยู่ก่อนหน้านี้มาถึงประตูบ้านของนักสะกดจิต

เมื่อเธอกดกริ่งหน้าประตู มีหญิงสาวหน้าตาสะสวยจากด้าน ในเดินออกมา พร้อมกับแววตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเมื่อมองเห็นพร มน

“คุณมาหาใครคะ? ”

“สวัสดีค่ะ ฉันมาหาคุณหมอถมทวี เขาอยู่ไหมคะ? ” นรมนดีใจที่ตนเองยังจำชื่อของคุณหมอคนนั้นได้ หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอบอย่างไม่แยแส “ไม่อยู่ “เขาไปไหนคะ?
“คนไปอย่างคุณมาท่าท่าทำทางอะไรต่อหน้าฉัน? ฉันเข้าใจ แค่ภาษามือง่าย ๆ คุณท่าท่าท่าทางแบบนี้ ฉันไม่เข้าใจหรอกนะ ถมทวีเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเข้าร่วมการวิจัยทางวิชาการ ไปได้เกือบจะหนึ่งอาทิตย์แล้ว ถ้าคุณต้องการพบเขา รอเขากลับ มาค่อยว่ากันอีกที น่าจะประมาณหนึ่งเดือนถึงจะกลับมา

หญิงสาวพูดจบก็ปิดประตูใส่หน้าของนรมนทันที

นรมนรู้สึกร้อนรน

อีกหนึ่งเดือนถึงจะกลับมา

ทําอย่างไรดี?

ถ้าบุริศร์ฟื้นขึ้นมาตอนนี้ จะจัดการอย่างไร?

นรมนร้อนรนอย่างยิ่ง กดกริ่งอีกครั้ง แต่ตอนนี้กลับไม่มีใคร เปิดประตูให้เธอ

เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปหาป้อง

เมื่อป้องได้ยินว่าคนที่นรมนต้องการตามหาคือถมทวี ก็อด แปลกใจไม่ได้

“นรมน มีบางเรื่องที่ผมต้องพูดกับคุณ ทางที่ดีคุณต้องเตรียม

ใจเอาไว้”

“เรื่องอะไรเหรอ? ”

นรมนรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง

ป้องไม่อยากทำให้นรมนสะเทือนใจ แต่เขากลัวจะทำให้การรักษาบุรีศร์เกิดความล่าช้า จึงกัดฟันและตอบว่า “ถมทวีไม่อยู่ แล้ว”

“ไม่อยู่แล้วหมายความว่าอะไร? ”

นรมนรู้สึกว่าการล้อเล่นของตนเองยังไม่เพียงพอ

ป้องรู้ ในกรณีที่ตนเองเปิดหัวมาแล้ว ก็ต้องเล่าให้จบ

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกและกล่าวว่า “ก็ตายแล้วไงล่ะ ก่อน หน้านี้ถมทวีประสบอุบัติเหตุทางอากาศตอนออกไปจากเมือง ชลธี เรื่องนี้วงการแพทย์ของพวกเรายังคงคร่ำครวญอยู่เลยว่า สูญเสียผู้เชี่ยวชาญด้านการสะกดจิตไป ตอนนี้ร่างของเขายังเก็บ รักษาอยู่ที่ห้องเก็บศพของโรงพยาบาล

“แต่เมื่อสักครู่ครอบครัวของเขาบอกว่าถมทวีออกไปร่วมงาน วิจัยทางวิชาการนะ

นรมนรู้สึกเหมือนกับฟ้าผ่าตอนกลางวัน

“นั่นไม่ใช่คนในครอบครัวของเขา แต่เป็นคนเช่าบ้านของ พวกเขา ถมทวีตัวคนเดียว ไม่มีลูกชายไม่มีลูกสาว ชีวิตนี้ไม่เคย แต่งงาน”

ป้องพูดจบ นรมนแทบอยากจะกระโดดไปต่อยผู้หญิงคนนั้น ทันที

เธอผ่านเรื่องราวมามากมาย จนกลายเป็นคนแข็งแกร่ง มี ฉะนั้น แค่ได้ยินว่าถมทวีตาย เดาว่าเธอคงเป็นลมไป แต่ตอนนี้ เธอไม่สามารถเป็นลมได้ เธอต้องคิดหาวิธีของเธอ
ทําอย่างไรดีนะ?

ป้องเห็นนรมนไม่ได้มีอารมณ์ฉุนเฉียวอะไร จึงถามว่า “คุณ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?

นรมนส่ายหน้า

เธอกล่าวด้วยภาษามือว่า “ถมทวีตายไปแล้ว ตอนนี้คนที่ สามารถถอนการสะกดจิตให้บุริศร์ได้ เดาว่ามีเพียงคนเดียว”

“ใครเหรอ?”

ตอนแรกมิลินเป็นคนบอกข้อมูลนี้แก่นรมน แต่ตอนนี้เกิดเรื่อง ขึ้นกับถมทวี คนที่เธอสามารถหาได้มีเพียงแค่มิลิน

เพียงแค่นึกถึงมิลิน นรมนนึกถึงคำพูดที่มิลินพูดกับเธอครั้ง

ก่อน

เพียงแต่ตอนนี้เธอต้องเลือกอย่างช่วยไม่ได้

ไม่ว่าจะเป็นนิตาหรือว่าบุริศร์ ต่างก็คาดหวังความช่วยเหลือ ของมิลิน

“ฉันจะไปตระกูลจันทรวงศ์”

นโมนทําภาษามือบอกป้องเสร็จ ก็หันตัวเดินไป

“ตระกูลจันทรวงศ์? คุณจะไปทำอะไรที่ตระกูลจันทรวงศ์ ต้องการให้ผมไปเป็นเพื่อนคุณไหม?”
ป้องเพิ่งจะถามเสร็จ นรมนก็โบกมือทันที

เรื่องของเธอเธอต้องเป็นคนไปจัดการเอง

นรมนคิดถึงลูก ๆ มากเหลือเกิน แต่ตอนนี้เธอกลับต้องออกไป จากเมืองชลธี แม้ว่าจะผ่านเมือง เธอก็ไม่สามารถกลับไปหาลูก

ๆ ได้สักครั้ง

เวลาคือชีวิต

นรมนรีบมาถึงตระกูลจันทรวงศ์อย่างเร่งรีบอีกครั้ง กลับไม่ คาดคิดว่าจะได้เจอคนที่ไม่ได้เจอมานานมากที่ประตูบ้านของ ตระกูลจันทรวงศ์

รเมศ

นรมนตะลึงไปสักพัก ส่วนรเมศก็แปลกใจ

เขารู้สึกยุ่งเหยิง และเป็นฝ่ายเอ่ยทักทายออกมาก่อน

“ช่วงนี้สบายดีไหม? ”

นรมนพยักหน้า และไม่ได้พูดอะไรอีก เดินผ่านด้านข้างของร เมศไปทันที

รเมศคอยอยู่เคียงข้างตนเองในช่วงห้าปีที่ยากลำบากที่สุด

แต่ในช่วงที่จนตรอกที่สุดก็เป็นรเมศที่หยิบยื่นให้ นึกถึงทุกสิ่งที่ผ่านมา นรมนเก็บมันไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ

รเมศเห็นนรมนไม่สนใจตนเอง ตรงกันข้ามกลับมุ่งตรงไปที่ ประตูบ้านของตระกูลจันทรวงศ์ และกดกริ่งที่ประตู เขารีบก้าวขึ้นไป คว้ามือของนรมนเอาไว้ และลากเธอไปแอบด้านข้าง

นรมนยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนรับใช้ด้านในเปิดประตู อิเล็กทรอนิกส์มองเห็นด้านนอกไม่มีคน จึงกล่าวอย่างหดหูเล็ก น้อย “ใครกันเนี่ย? ว่างมากหรือไง ทำไมถึงมากดกริ่งชั่ว

พูดจบ เธอก็ปิดประตูอิเล็กทรอนิกส์ทันที

นรมนร้อนรน แตรเมศไม่ปล่อยมือ

นรมนเหยียบหลังเท้าของเขาอย่างโมโหทันที

รเมศร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด ถึงจะปล่อยมือนรมนออก

นรมนมองรเมศอย่างเย็นชา เพื่อนที่เคยสนิทที่สุดกลับไม่ สามารถกลับไปเป็นอย่างตอนแรกได้อีกแล้ว สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึก เสียดาย แต่ไม่เสียใจ

รเมศมองเห็นใบหน้าเย็นชาของนรมน เขายืนตัวตรงและ กล่าวว่า “คุณอย่าเข้าไปเลย

“ทำไม? ”

นรมนหยิบมือถือพิมพ์ถามรเมศ

รเมศเห็นนรมนไม่แม้แต่จะอยากพูดกับตนเอง ก็อดรู้สึกอึดอัด

ไม่ได้

“ตอนนี้คุณไม่อยากแม้แต่จะพูดกับผมเลยเหรอ? หรือจะบอก ว่าบุริศร์ใจแคบเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าจะไม่ให้คุณพูดกับผม? ” นรมนรู้ว่ารเมศเข้าใจผิด เพียงแต่ขี้เกียจอธิบาย จึงเขียนต่อว่า “ยังมีธุระอีกไหม?

พูดจบเธอก็หันตัวเดินไป

ถ้าไม่มีฉันขอตัวก่อนนะ

รเมศกลับจับข้อมือของนรมนเอาไว้อีกครั้ง เมื่อนแมนมองมาที่ ตนเองจึงปล่อยเธอออกทันที

“นรมน ผมรู้ว่าคุณเคียดแค้นผม แต่ตอนนี้คุณเข้าไปไม่ได้จริง

ๆ เกิดเรื่องขึ้นกับตระกูลจันทรวงศ์

คิ้วของนรมนขมวดขึ้นมาเล็กน้อย

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ”

เธอเขียนถาม

รเมศไม่สบอารมณ์อย่างมากกับวิธีการสื่อสารของนรมน แต่ กลับไม่มีทางเลือก คราวก่อนเป็นเพราะนรมน ตระกูลวัชโรทัยถูก บริศ เล่นงานจนเสียพลังไปมาก ตอนนี้เขาไม่สามารถทรมานได้ อีกต่อไปแล้ว

“ผมรู้ ตอนนี้คุณไม่ชอบที่ผมเข้าใกล้คุณแน่ ๆ แต่ผมหวังดีกับ คุณจริง ๆ นรมน ตอนนี้ไม่สามารถเข้าไปในตระกูลจันทรวงศ์ได้ ผมรู้ว่าผมจะพูดอย่างไรคุณอาจจะคิดว่าผมมีเจตนาแอบแฝง แต่ ผมไม่มีทางทําร้ายคุณ คุณเชื่อผมนะ ผ่านช่วงนี้ไปแล้วค่อยกลับ มาใหม่”

“ฉันมีธุระต้องการพบมิลิน นั่นคือยมราชที่มารักษาให้แก่ฉัตร ยา ส่วนคนอื่นฉันไม่สนใจ
นรมนเขียนบอก

รเมศอึ้งไป คล้ายกับว่าแปลกใจกับคำตอบนี้ของนรมน

“คุณมาหามิลิน? แต่มิลินออกไปนานแล้วนะ”

“อะไรนะ? ”

นรมนตกใจทันที

คราวก่อนมิลินยังบอกเธอว่าอยู่ที่ตระกูลจันทรวงศ์ ทำไมตอน

นี้ถึงไม่อยู่แล้ว?

รเมศเห็นนรมนไม่เชื่อตนเอง จึงรีบกล่าวว่า “นี่คือความจริง

ครั้งก่อนหลังจากมิลินออกไปก็ไม่กลับมาอีก “คนของตระกูลจันทรวงศ์ไม่ตามหามิลินเลยเหรอ? ฉัตรยา ล่ะ? ฉันต้องการพบฉัตรยา”

นรมนพูดไปพร้อมกับต้องการเข้าไปข้างใน กลับถูกรเมศ ขวางเอาไว้อีกครั้ง

“นรมน ไม่เข้าใจที่ผมพูดเหรอ? ตอนนี้เข้าไปในตระกูลจันทร วงศ์ไม่ได้”

“คุณหลีกไปนะ!

นรมนต้องการผลักรเมศออกไป แต่เขากลับขัดขวางเธอเอาไว้ อย่างบีบบังคับ

“นรมน ผมไม่ทางทำร้ายคุณ เกิดเรื่องขึ้นกับฉัตรยา! คนที่ชื่อ มิลินอะไรนั่น รักษาฉัตรยากจนเหมือนตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง แล้วเธอก็หนีไป ถ้าคุณเข้าไปบอกว่ามาหามิลิน ตระกูลจันทรวงศ์ คงจะฉีกคุณเป็นชิ้น ๆ แน่ คุณเข้าใจไหม? ”

ได้ยินรเมศพูดแบบนี้ นรมนชะงักงันทันที

มิลินรักษาฉัตรยาจนเหมือนตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่จะเป็นไปได้อย่างไร?

มิลินมีฝีมือทางการแพทย์ที่โดดเด่น และครั้งก่อนที่มิลินมาหา ตนเองก็ไม่เหมือนกับที่รเมศพูด

พวกเขาสองคน ใครกันแน่ที่กำลังโกหก?

นรมนไม่อาจรู้ได้

เพียงแต่ตอนนี้เพื่อบริศร์ เธอจําเป็นต้องตามหามิลินให้เจอ แต่ก็ไม่เจอมิลินมาตั้งแต่วันหยุด การที่จะรู้ที่อยู่ของมิลิน นรมน ทําได้เพียงไปหาฉัตรยา

คิดถึงตรงนี้ นรมนตัดสินใจเข้าไปอีกครั้ง กลับมองเห็นร่างที่ คุ้นเคยวิ่งเพ่นพ่านเข้ามาในสายตาของเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ