แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1068 นายกล้าดียังไง กล้าพูดแบบนี้กับฉันเหรอ



บทที่ 1068 นายกล้าดียังไง กล้าพูดแบบนี้กับฉันเหรอ

นรมนตกตะลึงเล็กน้อย แล้วรีบลุกขึ้นไปเปิดประตู

“อาธรณี?”

เธอค่อนข้างประหลาดใจ ไม่คิดว่าธรณีจะตื่นเช้าขนาดนี้

“กมลยังไม่ตื่นเหรอ?”

“ยังค่ะ”

“มาที่ห้องทำงานฉันหน่อย

ธรณีพูดจบก็ออกไปก่อน

หลังจากนรมนห่มผ้าให้กมลเรียบร้อยแล้วก็มาที่ห้องทำงาน

ของธรณีเบาๆ

ธรณีมองคอมพิวเตอร์ตรงหน้า ไม่ได้สังเกตการมาถึงของนร

มน

“อาธรณี?”

นรมนเรียกหนึ่งที

ธรณีได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว

“เธอมาแล้วเหรอ? นั่งสิ”

ธรณีเอาคอมพิวเตอร์ส่งให้นรมน
เห็นรูปผู้หญิงคนหนึ่งที่ปรากฏขึ้นมาในคอมพิวเตอร์ นรมน ตกตะลึงอย่างช่วยไม่ได้

“นี่ ใครคะ?”

“ทรรศยา”

ชื่อนี้ทำให้นรมนรู้สึกค่อนข้างคุ้นหู แต่นึกไม่ออกว่าเคยได้ยิน

ที่ไหน

“เกี่ยวข้องกับฉันเหรอคะ?”

“ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ แต่เกี่ยวข้องกับวินเซนต์”

ธรณีถอนหายใจก่อนพูดขึ้น “เธอคงรู้จักวินเซนต์ใช่ไหม?”

ถึงเขาจะถาม แต่น้ำเสียงนั้นมั่นใจแน่นอน

ต่อหน้าธรณีนรมนปิดบังอะไรไม่ค่อยได้ ทำได้แค่พยักหน้า เท่านั้น

“รู้จักค่ะ ได้ยินบริศ เคยพูด”

“ทรรศยาคือคู่หมั้นของวินเซนต์”

โทนเสียงของธรณีค่อนข้างหนักแน่น

นรมนนึกขึ้นได้ทันที

วินเซนต์กลายเป็นสภาพนี้ก็เพราะทรรศยา

“คุณให้ฉันดูสิ่งนี้เพื่ออะไรคะ?”
นรมนถามอย่างค่อนข้างงุนงง

ธรณีมองนรมนอยู่นานมาก นานจนนรมนนึกว่าเขาจะไม่พูด อะไรแล้ว ธรณีถึงได้พูดขึ้นเสียงทุ้ม “ทรรศยายังมีชีวิตอยู่ “ว่าไงนะ?”

นรมนรู้สึกว่านี่มันไร้สาระแท้ๆ

ในตอนนั้นทรรศยาไม่ได้ตายอย่างอนาถเหรอ?

เป็นไปได้อย่างไรที่ยังมีชีวิตอยู่

ถ้ายังมีชีวิตอยู่ ตั้งหลายปีแล้วทำไมไม่กลับมาหาวินเซนต์ ถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่ ทุกอย่างที่วินเซนต์ทำมันจะมีค่าอะไร? ทันใดนั้นนรมนก็ไม่รู้ว่าควรแสดงความรู้สึกในตอนนี้อย่างไร

คิ้วธรณีขมวดเข้าหากันแน่น

“การตายของทรรศยา ในตอนนั้นเป็นผลกระทบรุนแรงสำหรับ วินเซนต์ เขาออกไปจากเขตทหารเพื่อแก้แค้นให้ทรรศยา กลาย เป็นเฮียของสหภาพQT ในตอนนี้ ในขณะนี้ถ้าทรรศยาปรากฏตัว ขึ้นอีกครั้ง ทางทหารและฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ง่าย ถ้าเธอติดต่อ วินเซนต์ได้ ต้องอย่าให้เขาหุนหันพลันแล่นนะ”

นรมนนึกถึงการหายตัวไปของวินเซนต์ทันที

จิตใจเธอกังวลขึ้นมาทันที
วินเซนต์หายตัวไปแล้ว”

“เธอว่าไงนะ?”

ธรณีร้อนรนใจขึ้นมาทันที

“หายไปได้ยังไง?”

นรมนจึงเล่าเรื่องหนังสือโบราณ ให้ธรณีฟัง

ความรู้สึกของธรณีค่อนข้างกังวล

“อาธรณี ทำไมคุณถึงเป็นห่วงวินเซนต์คนนี้มากขนาดนั้นล่ะ คะ?”

นรมนค่อนข้างสงสัย

ธรณีถอนหายใจแล้วพูดขึ้น “เขาเป็นทหารของฉัน! ไม่กี่ปีก่อน ฉันไม่ได้ห้ามให้เขาแก้แค้น ปล่อยให้เขาย่างเท้าเข้าไปทั้งชีวิต ครั้งนี้ฉันสงสัยว่าทรรศยาคนนี้มีปัญหา แต่ฉันกลัววินเซนต์เป็น เจ้าของเรื่องแล้วจะมองไม่ทะลุ เธอก็รู้ว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อ ทรรศยามันเกือบจะทำลายเขาแล้ว ไม่คิดว่าฉันก็ยังช้าไปหนึ่ง ก้าว”

นรมนไม่คิดเลยว่าระหว่างวินเซนต์กับธรณีจะมีความสัมพันธ์ แบบนี้กัน จึงชะงักไปอย่างช่วยไม่ได้

“ก่อนบริศ ไปแอฟริกาใต้ได้ให้พฤกษ์ไปปกป้องวินเซนต์แล้ว แต่ว่าเขาหายตัวไป ฉันเชื่อว่าพฤกษ์จะต้องหาวินเซนต์เจอ และ ในมือเขายังมีหนังสือโบราณที่ฉันต้องการด้วย เขาเป็นห่วงบุรีสร้ขนาดนั้น ไม่มีทางจะไม่มา

“หวังว่าเขาจะสบายดี

ดวงตาธรณีหนักอึ้งเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อนโมนออกมาจากห้องทำงานธรณี ในใจก็มีหลากหลาย ความรู้สึก

ในชีวิตมนุษย์ ความรักเป็นคุณสมบัติที่ดี แต่รักมากเกินไปก็ สามารถทําลายคนคนหนึ่งได้จริงๆ เหรอ?

สําหรับเรื่องราววินเซนต์ นรมนรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยอย่าง ช่วยไม่ได้

ถ้าตัวเองเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา บุริศร์จะบ้าคลั่งแบบนี้หรือ

เปล่า?

นรมนไม่กล้าคิดเลย

เธอกลับห้องเห็นกมลตื่นแล้ว ก็อดยิ้มไม่ได้

“เจ้าแมวน้อยขี้เซา ตื่นแล้วเหรอ?” กมลมองนรมน ตาโตสองข้างระยิบระยับ

“หม่ามี้ คุณจะไปไหนเหรอคะ?”

นรมนย่อตัวลงกอดลูกสาวไว้ในอ้อมแขน พูดขึ้นด้วยเสียง อ่อนโยน “หม่ามี้จะไปแอฟริกาใต้ แด๊ดดี้และพี่ชายลูกอยู่ที่นั่น หม่ามี้ไม่วางใจ อยากไปดูสักหน่อย ตั้งแต่วันนี้ลูกอยู่กับคุณปู่ ธรณีได้ไหมคะ?”
“หนูต้องยอมรับการเตรียมการนี้ใช่ไหม?

กมลถามอย่างไร้เดียงสา

“ทางที่ดีก็ต้องยอมรับ เพราะหนูอยู่กับปู่ธรณีที่นี่ หม่ามีถึงจะ วางใจ ถึงจะกลับมากับพวกแต๊ดดี้อย่างสบายใจ “ก็ได้ค่ะ งั้นหนูจะฝืนยอมรับแล้วกัน หม่ามี้ คุณต้องระวังความ

ปลอดภัยด้วยนะคะ”

กมลพูดจบก็กระโดดลงมาจากตึกนรมน

นรมนค่อนข้างตกตะลึงเล็กน้อย ยิ้มขณะพูดขึ้น “แม่นึกว่าลูก จะบอกว่าอยากไปกับแม่ซะอีก”

“หนูไม่ไปแอฟริกาหรอกค่ะ ที่นั่นไม่มีของอร่อย หนูไปก็จะหิว ตาย หนูเลือกที่จะเป็นเด็กดีอยู่ที่บ้านรอพวกคุณกลับมาดีกว่า”

คำพูดนี้ของกมลทำให้นรมนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เจ้าเด็กคนนี้เป็นนักกินสมชื่อจริงๆ

เธอคุยกับกมลอีกบางเรื่อง แล้วเก็บข้าวของเดินออกจาก ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา

นภดลรออยู่ด้านนอกแล้ว

เมื่อนรมนขึ้นรถก็เห็นปาณีอย่างไม่คาดคิด “เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ฉันให้เธอดูแลคุณตาไม่ใช่เหรอ?”

“คุณนาย คุณท่านตนวรให้ฉันมาบอกคุณ ทางด้านตุลยาเขาจัดการเองได้ ให้คุณไม่ต้องวอกแวก อีกอย่างเขายังบอกอีกว่า ไปแอฟริกาใต้อย่าพยายามกล้าหาญไปซะทุกเรื่อง ถอยหนึ่งก้าว ได้ก็ถอย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ามีชีวิตกลับมา”

ปาณีบอกคำพูดคุณท่านตนวรให้นรมนฟังหนึ่งรอบ

นรมนเข้าใจทันที

คุณท่านตนวรกลัวตุลยารู้เส้นทางของตน ก็เลยให้ปาณีมาที่นี่ โดยเฉพาะ

เป็นการทำให้คุณท่านลำบากใจจริงๆ เลย

“พอแล้ว ฉันรู้แล้ว กลับไปเถอะ ช่วยฉันดูแลคุณตาฉันให้เต็ม

“รู้แล้วค่ะ คุณนาย คุณก็ระวังหน่อยนะคะ”

ปาณีพูดจบก็ลงรถไป

นรมนมองแผ่นหลังเธอ แล้วพูดกับนภดลว่า “ไม่มีอะไรจะบอก เธอเหรอ? ไปแอฟริกาใต้ครั้งนี้อาจจะมีอันตราย ไม่แน่ว่าอาจจะ เกิดอุบัติเหตุอะไร ถ้านายไม่บอกเธอ บางทีอาจจะไม่มีโอกาส แล้วจริงๆ นะ”

นภดลเหลือบมองปาณีที่จากไปผ่านกระจกมองหลัง แล้วพูด เรียบๆ “เธอสมควรได้รับการปกป้องจากผู้ชายที่ดีกว่า แต่งงาน กับคนธรรมดา มีชีวิตอย่างมั่นคง จากนั้นก็มีลูก เลี้ยงดูเขาจน เติบใหญ่ นี่คือชีวิตของเธอ
“นายไม่ใช่ปาณี จะรู้ได้ยังไงว่าปาณีจะเป็นแบบที่นายคิด?”

นรมนรู้สึกว่านภาลก็ไม่ได้ไร้ความรู้สึกกับปาณีไปเสียทีเดียว แค่ผู้ชายคนนี้ทำไมดื้อรั้นได้ขนาดนั้นนะ?

แต่นภดลไม่ขยับ พูดขึ้นเสียงทุ้ม “ดูแลตัวคุณเองก่อนดีกว่า

“นายกล้าดียังไง กล้าพูดแบบนี้กับฉันเหรอ”

นรมนบ่นพึมพำ ดูสิ่งของที่พกติดตัว แล้วถามเสียงทุ้ม “คน ของกล้าณรงค์จัดการหมดเรียบร้อยหรือยัง?

“บอกไม่ได้ว่าจัดการหมดเรียบร้อยครับ บอกได้แค่ว่าเรื่อง ครั้งนี้พวกมันแพ้แล้ว ตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร ทางด้าน ธิดาก็ใจเย็นมาก ทางนี้ก็มีชัยยศอยู่ คงไม่มีปัญหา”

“ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น

นรมนบิดขี้เกียจ จากนั้นก็พิงหลังเก้าอี้

“เราตรงไปที่สนามบินเลยใช่ไหมครับ?”

“ใช่ ประธานธรณีเตรียมเครื่องบินส่วนตัวไว้แล้ว จอดที่สนาม บินเพื่อบินขึ้น”

ได้ยินนภดลพูดแบบนี้ นรมนก็ชะงักทันที

“อาธรณีของฉันเตรียมเครื่องบินส่วนตัวให้เหรอ? ทำไมฉัน

ไม่รู้?”

“ผมจะรู้ได้ยังไง”
นภดลสตาร์ทรถแล้ว

นรมนพบว่า นภดลเจ้านี่กลับมาคราวนี้ต่อปากต่อคำเก่ง

หม?

ผลงานของใคร?

ของปาณีเหรอ?

นภดลที่เป็นแบบนี้ดีมาก อย่างน้อยก็ไม่เหมือนสระน้ำที่แห้ง

เดือด

รถมาถึงสนามบินอย่างรวดเร็วมาก

นรมนและนภดลไปด้านในจากทางเดินพิเศษ นั่งเครื่องบิน ส่วนตัวไปแอฟริกาใต้โดยตรง

ตลอดทางนรมนหลับไม่สนิทอย่างมาก

เมื่อหยุดที่แอฟริกาใต้ นรมนเห็นเขม่าดินปืนจากทุกทิศทาง ตรงหน้า ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

“ทำไมวุ่นวายแบบนี้?”

“เดาว่าความวุ่นวายที่นี่รุนแรงมาก ว่ากันว่าผู้ก่อความรุนแรง พวกนั้นเจอใครก็ฆ่า ดังนั้นเรารีบออกไปจากที่นี่ดีกว่า หาที่ปัก หลักก่อนค่อยว่ากัน”

นภดลเอากระเป๋าเดินทางของนรมนลงจากเครื่องบิน

นรมน โทรหาบุริศร์ แต่สัญญาณถูกตัด เธอโกรธจนแทบอยากทุบโทรศพท์

สถานที่ทําอะไร?

สัญญาณถูกตัดหมดเลย!

นภดลเห็นนรมนเป็นแบบนี้ ก็พูดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “ถ้าผู้ ก่อการร้ายต้องการควบคุมอำนาจทางการเมือง ต้องตัด สัญญาณสื่อสารภายนอกแน่นอน เพื่อไม่ให้พวกเขาขอความ ช่วยเหลือ ผมคิดว่าพวกเขาคงใช้เครื่องรับส่งวิทยุและวิทยุ สื่อสาร”

“แล้วเราจะหาพวกบุริศร์เจอได้ยังไง?”

นรมนรู้สึกค่อนข้างหดหู่แล้ว

เธอเคยคาดเดาว่าสถานการณ์ที่นี่คงแย่มาก แต่ไม่คิดว่าจะ แย่ขนาดนี้

นภดลยักไหล่ และไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ก็ยังรีบจับมือนรมน เดินเข้าไปในเมืองDอย่างรวดเร็ว

นรมนลองโทรหาบุริศร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สัญญาณที่ประกาศ ออกมา

ทั้งสองยังไม่ถึงโรงแรมละแวกนั้น ตรงหน้าก็เกิดเสียงปืนดัง

นรมนตะลึงงันเล็กน้อย

“เซี่ย นี่เราโชคดีเกินไปหรือเปล่า? เพิ่งมาถึงที่นี่ก็เจอการโจมตีของผู้ก่อการร้ายเลย?”

“ถือเอาไว้”

นภดลหยิบปืนด้านหนึ่งจากกระเป๋าออกมายื่นให้นรมน

นรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย

“นายเอาปืนมาจากไหน?”

“ปาณีให้มา บอกคุณท่านตนวรให้เตรียมเอาไว้ เอาออกมา ป้องกันตัวเอง”

คําพูดนภดลทําให้นรมนรู้สึกค่อนข้างอิจฉา

“ยังไงก็เป็นคนที่รักอะเนอะ ไม่เห็นปาณีเอาปืน ให้ฉันเลย” มุมปากนภดลกระดูกทันที

ให้เขาหรือให้เธอมันมีอะไรต่างกันไหม?

อย่างไรแล้วทั้งสองคนก็ได้ปืนคนละกระบอก

แต่เขาไม่มีนิสัยพูดเรื่องพวกนี้ แค่พูดกับนรมนว่า “อย่าเดิน แยกไปจากผม เราจําเป็นต้องหาที่ซ่อนก่อน

“ข้างหน้ามีโบสถ์”

นรมนเห็นโบสถ์ตรงหน้าด้วยสายตาแหลมคม

ตามสถานการณ์ปกติ ผู้ก่อจลาจลมักไม่ค่อยเข้าไปในโบสถ์เพื่อฆ่าคน
นภดลบังนรมนวิ่งไปโบสถ์อย่างรวดเร็ว

เสียงปืนตรงหน้ายิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

นรมนรู้สึกหูเกิดเสียงอื้ออึง

ความวุ่นวายแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเจอพวกบุริศร์ได้เมื่อไร เธอใน ตอนนี้ทำได้แค่เดินหน้าพร้อมพิจารณาไปด้วย

หลังจากทั้งสองวิ่งเข้าไปในโบสถ์แล้ว ก็เห็นฝูงชนบางส่วนได้ รับบาดเจ็บนอนอยู่ด้านใน ซิสเตอร์กำลังพันแผลให้พวกเขาอยู่ แต่คนที่ได้รับบาดเจ็บมีมากเกินไป ซิสเตอร์สองคนจึงยุ่งมาก หลังจากนรมนเห็น ก็พูดกับนภดลทันที “เอากล่อง ปฐมพยาบาลมาให้ฉัน

“คุณนาย เรามาที่นี่เพื่อตามหาประธานบริศร์นะครับ คุณอย่า ไปยุ่งกับพวกเขาเลย

นภดลไม่ใช่คนเย็นชา แต่ตอนนี้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ สถานการณ์ดังนี้ เขาต้องรับประกันความปลอดภัยส่วนบุคคล ของนรมน

นรมนกลับพูดขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ตามหาบุริศร์ต้องใช้เวลา ตอนนี้พวกเขาถ้าไม่พันแผลอาจจะเลือดไหลจนเสียชีวิต ถ้าฉันไม่ เห็นก็ไม่เป็นไรหรอก ในเมื่อบังเอิญมาเจอแล้ว ก็ขอช่วยหน่อย เถอะ ยังไงแล้วก็เป็นชีวิตใหม่ทั้งหมด

พูดจบ นรมนก็เอากล่องปฐมพยาบาลในมือนภดลมาอย่างรวดเร็ว แล้วเดินไปที่ผู้บาดเจ็บเหล่านั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ