แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 631 ตอนนี้เธอสำคัญที่สุด



บทที่ 631 ตอนนี้เธอสำคัญที่สุด

“แย่แล้ว!”

สีหน้าของธรรศกับธรณีน่าเกลียดขึ้นมาทันที

ธรณีเคลื่อนไหวไม่สะดวกจึงเข้าไปไม่ทัน ตอนที่ธรรศวิ่งเข้าไป รถคันที่พึ่งบรรทุกคุณนายตระกูลโตเล็กมาก็ระเบิดขึ้น เหล่าบอดี้ การ์ดได้รับบาดเจ็บอยู่รอบๆ

“คุณนายตระกูลโตเล็กล่ะ?”

ธรรคสีหน้าเคร่งขรึมทันทีเมื่อไม่เห็นคุณนายตระกูลโตเล็ก บอดี้การ์ดละล่ำละลักพูด “คุณนายอยู่ในรถ ไม่ได้วิ่งหนีออก

มา”

ก็หมายความว่าคุณนายตระกูล โตเล็กเสียชีวิตแล้ว ธรรศรู้สึกว่าทั้งหมดดูน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก

ใครกันที่ต้องการให้คุณนายตระกูลโตเล็กตาย?

เขาไม่ได้ต้องการถึงชีวิตของคุณนายตระกูลโตเล็ก บุริศร์เอง ก็ไม่น่าจะฆ่าเธออย่างเลือดเย็นขนาดนั้น แล้วเป็นใครกันแน่ที่ ลงมือกับรถของตระกูลโตเล็ก?

ไม่ว่าคำตอบคืออะไร คุณนายตระกูลโตเล็กก็ตายแล้ว และธร รศรู้สึกว่าตนเองอาจจะไม่พ้นจากการเป็นแพะรับบาปครั้งนี้
เขาถอนหายใจแล้วบอกข่าวนี้กับบริศร์

บริศ ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น

“สาเหตุการระเบิดเกิดจากอะไร?”

“ไม่แน่ใจ แต่ฉันได้กลิ่นดินปืน น่าจะมีคนใส่ดินปืนไว้ที่รถเป็น ชนวนระเบิด บุริศร์ ฉันขอประกาศว่าฉันไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเธอ จริงๆ ฉันแค่……”

“ฉันเข้าใจ เรื่องนี้ก็ตามนี้เถอะ

คำพูดของบุริศร์ทำเอาธรรคชะงักไปครู่หนึ่ง

“นายจะไม่ตรวจสอบดูหน่อย?”

“ไม่ต้องตรวจสอบ คนตายไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครที่ต้องการ ชีวิตเธอ ล้วนเป็นเพราะเธอหาเรื่อง ใส่ตัวเอง ตอนนี้ในเมื่อชะตา ลิขิต ให้เป็นแบบนี้แล้ว เอาแบบนี้แล้วกันถ้ามีเวลาไปตรวจสอบ เรื่องนี้ ไม่สู้เอาแรงตรงนั้นมาตามหานรมนไม่ดีกว่าเหรอ ถึง อย่างไรตอนนี้เธอก็สำคัญที่สุด

เมื่อได้ยินบุริศร์พูดแบบนั้น น้ำเสียงเย็นชานั้นทำให้ธรรศรู้สึก ว่านี่อาจจะเป็นความตั้งใจของบุริศร์

แต่ความสงสัยนี้เขาไม่ได้พูดออกมา

เมื่อทั้งสองคุยโทรศัพท์กันเสร็จแล้ว ธรรศกับธรณีก็กลับไปที่ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาด้วยความรวดเร็ว

คุณนายตระกูลโตเล็กตายแล้ว พวกเขาก็ไม่มีความเคียดแค้นอะไรอีก รีบทุ่มกำลังคนกำลังทรัพย์เพื่อตามหานรมินทันที

ในตอนที่ทุกคนกำลังตามหาบรมนอยู่นั้น นรมนกับกิจจากลง จากรถ ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง

มิลินรู้สึกเป็นห่วงพวกเขาเล็กน้อย แต่นรมนกลับตัดสินใจแน่ว แน่ที่จะไปจากพวกเขา

บุริศร์ได้ตรวจสอบรถของนภดลแล้ว แค่เขากลับมาที่ตระกูล โตเล็กก็จะรู้เรื่องทั้งหมด ถึงตอนนั้นก็แค่ตามรอยของนภดลไป จะเจอเธอแล้ว

ตอนนี้เธอไม่อยากเห็นหน้าบุริศร์เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเพื่อ หลีกเลี่ยงบุริศร์ไม่ให้หาเธอเจอ เธอจึงลงจากรถในเมืองเล็กๆ ที่ ไม่รู้จักนี้

นภดลที่ยังไม่วางใจเล็กน้อยเอ่ยขึ้น “เอาแบบนี้ไหม ผมให้คน ขับรถส่งคุณหมอมิลินกลับไป คุณอยากไปที่ไหนผมไปด้วย จะได้ มีคนดูแลสักคน สภาพคุณตอนนี้ผมเป็นห่วงจริงๆ

นรมนส่ายหน้า

เธอพูดไม่ได้ พิการ แต่เธอยังมีความสามารถในการใช้ชีวิต

เธอมองกิจจาแล้วยิ้ม

เพราะรอยยิ้มของเธอกิจจาจึงยืนอยู่ข้างเธออย่างเชื่อฟัง ดู เหมือนว่าไม่ว่านรมนต้องการจะทำอะไรเขาก็จะอยู่ข้างๆ เธอ

นภดลเห็นเธอหัวแข็งแบบนั้น ก็พูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ ต่อให้คุณไม่คิดถึงตัวเอง คุณก็คิดถึงกิจจา สถานการณ์พวกคุณตอนนี้ เอาชีวิตแทบไม่รอดด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่ พวกคุณอยู่ที่นี่ผมจะวางใจได้อย่างไร? ผมเป็นคนพาพวกคุณ ออกมา ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกคุณ ผมจะไม่ละอายใจตัวเอง ได้อย่างไร? ไม่ได้ พวกคุณต้องกลับไปกับผม”

นรมมหาปากกามาใช้มือซ้ายเขียนอย่างเบี้ยวๆ “พวกเรากลับ ไปกับคุณไม่ได้ จะทำให้คุณกับตระกูลจันทรวงศ์เดือดร้อน

นิสัยของบุริศร์ฉันรู้จักดีที่สุด เขาต้องตามหาฉันโดยไม่สน

อะไร สภาพฉันตอนนี้ไม่อยากเจอเขาจริงๆ

ถ้าเขาหาคุณเจอ คุณก็บอกไปว่าปล่อยพวกเราลงที่นี่ พวกเรา ไปที่ไหนคุณก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าสะดวกกรุณาให้ฉันยืมเงิน จำนวนหนึ่ง ถือว่าฉันติดหนี้คุณ แล้วฉันจะคืนคุณในภายหลัง แน่นอน”

“ติดหนี้อะไรกัน ถ้าไม่มีคุณ ตอนนี้ผมยังคงถูกประมูลขายอยู่ ใต้ดิน นี่เงินสดสามพันหยวน ผมจะโอนให้คุณอีกสองหมื่นหยวน เพื่อใช้เร่งด่วน”

นภดลพูดพลาง โอนเงินไปในบัญชีของนรมน เพราะการโอน ถึงขีดจำกัดแล้วเขาจึงโอนเงินจำนวนมากไม่ได้ จึงเอ่ยอย่างรู้สึก ผิด “พรุ่งนี้ผมจะโอนให้คุณอีกที”

“ไม่ต้องหรอก พรุ่งนี้ฉันจะทิ้งเบอร์โทรศัพท์แล้วก็ไอ ดีlineทั้งหมด นภดลขอบคุณมาก แล้วฉันจะติดต่อหาคุณแล้วคืน เงินให้ภายหลัง”
นรมนเขียนคําพูด

นภดลสายศีรษะแล้วเอ่ย “ไม่ต้องคืนผมจริงๆ ถ้าหากจัดการ เรียบร้อยแล้วจําไว้ว่าต้องแจ้งผม

“คุณไม่ต้องรู้ที่อยู่ของฉันจะดีกว่า”

นรมนเก็บกระดาษปากกาเรียบร้อย พยักหน้าให้กับมิลินแล้ว

เดินจากไป

มิลินคิดไม่ถึงว่านรมนจะตัดสินใจแบบนี้

เขาคิดว่าท่าทางอ่อนแอถูกคนรังแกจนมีสภาพแบบนี้อย่างนร มน ต้องจัดการอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่างแน่ๆ เป็นผู้หญิงที่ต้อง คอยพึ่งพาคนอื่น แต่นึกไม่ถึงเลยว่านรมนจะมีความคิดแบบนี้

“นรมน คุณตัดสินใจที่อยู่กับกิจจาตามลำพังจริงๆ เหรอ? คุณ

ก็รู้ว่ามากับพวกเรา กิจจาอาจจะมีวิธีรักษาดีๆ ก็ได้ คุณจะได้

ประหยัดค่าใช้จ่ายลงด้วย”

นรมนมองกิจจา

เด็กที่เดิมที่ยังดีๆ อยู่กลายเป็นสภาพในตอนนี้ พูดตามความ จริงเธอปวดใจมากกว่าใคร แต่เมื่อคิดว่าถ้ากิจจาไม่ได้อยู่ข้างๆ เธอ ไม่ว่าเธอหรือกิจจาอาจจะไม่มีทางสงบใจลงได้ เธอยิ้มแล้ว ส่ายหน้า มองแล้วยื่นมือออกไปหากิจจา

กิจจาเห็นนรมนยื่นมือมา ก็วางมือของตนเองลงบนมือของนร มนอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ทั้งสองคนจับมือกัน

มองหลังของทั้งสองคนที่ไกลออกไป มิลินถอนลมหายใจเอ่ย

“บางทีแต่ละคนก็มีชีวิตเป็นของตัวเอง ชีวิตของพวกเขา พวกเรา เข้าไปมีส่วนร่วมไม่ได้ “แต่ฉันยังไม่วางใจ สภาพเธอตอนนี้พากิจจาไปด้วยอยู่ตาม

ลำพัง ไม่ง่ายเลยจริงๆ

คำพูดของนภดลทำให้มิลินซะงักไปแล้วพูดขึ้นมา “พวกเธอ ไปกับคุณไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี คุณก็พูดว่านรมนนั้นคล้ายกับ ฉัตรยามาก ไม่มีใครรู้ว่าเธอที่เป็นแบบนี้ตามคุณกลับไปที่ ตระกูลจันทรวงศ์จะเป็นอย่างไรบ้าง คุณปกป้องเธอได้แค่ไหน? ดังนั้นพวกเขาไม่เหมาะที่จะตามคุณกลับไปที่ตระกูลจันทรวงศ์ จริงๆ ถึงอย่างไรคุณก็ไม่ใช่ผู้นำของตระกูลจันทรวงศ์”

คำพูดพวกนี้ทำให้นภดลเงียบลงไปทันที

“ผมรู้ แต่จะไม่สนใจพวกเขาทั้งอย่างนี้เลยเหรอ?”

“เธอบอกแล้วไม่ใช่เหรอ? รอถึงเวลาจำเป็นจะติดต่อพวกเรา ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็รอเถอะ พวกเราล้วนมีคนที่ตนเองห่วง สู้ กำลังของบุริศร์ไม่ได้ดังนั้นก็เอาตามนี้เถอะ”

คำพูดของมิลินทำให้นภดลรู้สึกว่าใจแคบ เมื่อจะพูดอะไรบาง อย่างก็ถูกมิลินขัดขึ้นมา

“ดูแลตัวเองให้ดีก่อนเถอะ สถานะของคุณในตระกูลจันทรวงศ์ เป็นอย่างไรคุณไม่ชัดเจน? นอกจากฉัตรยาแล้วที่ตระกูลจันทรวงศ์มีใครทำสีหน้าดีๆ ให้คุณบ้าง? ดูแลตัวเองยังไม่ได้ เอาอะไรไปปกป้องนรมน คนเราก็ต้องรู้จักประมาณตน คุณจะ

คำพูดของมิลินทำให้นภดลรู้สึกรับไม่ได้เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ พูดอะไร เพราะทั้งหมดนี้คือเรื่องจริง

ถ้าหากไม่ใช่เพราะฉัตรยา ที่ตระกูลจันทรวงศ์เขาก็เป็นเพียง หนูทดลองสีขาวตัวเล็กๆ ที่ถูกเก็บไว้ในห้องทดลอง ถ้าหากไม่ใช่ เพราะฉัตรยาใช้ชีวิตเป็นประกันให้ เขาก็ไม่มีโอกาสและความ สามารถที่จะออกจากตระกูลจันทรวงศ์มาเชิญมิลินได้ ดังนั้นเขา ที่เป็นแบบนี้จะเอาอะไรมาปกป้องพวกนรมนได้?

ให้นรมนมากับอาศัยอยู่ใต้ชายคาคนอื่นกับเขา คอยตามใจ คนอื่น?

ไม่!

นรมนเป็นคนที่มีศักดิ์ศรี เธอไม่ยินยอมให้กิจจาอยู่ในสภาพ แวดล้อมแบบนั้นแน่

นภดลมองตามหลังพวกเขาที่ไกลออกไป แม้ว่าจะยังเป็นห่วง อยู่เล็กน้อย แต่จะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ว่าตนเองตอนนี้ไม่มีความ สามารถที่จะไปดูแลนรมน

เขาขับรถกลับไปอย่างไม่ค่อยสบายใจ

นรมนกับกิจจารอจนพวกเขาไปแล้ว นรมนก็หยุดลง

กิจจามองเธออย่างงงงวยเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร แต่ความ สงสัยในดวงตานั้นกลับชัดเจน
นรมนพยายามทำสัญญาณมือสื่อสารกับกิจจา กลับพบว่า ตนเองนั้นดูเหมือนจะทำไม่ได้ เธออดไม่ได้ที่จะท้อใจ

ตอนนี้แค่เรื่องง่ายๆ แค่ก็ทำไม่ได้แล้วเหรอ? ความรู้สึกเสียใจเสี้ยวหนึ่งฉายขึ้นในก้นบึ้งของหัวใจ แต่เมื่อ

อยู่ต่อหน้ากิจจาเธอยังคงแย้มยิ้ม

เธอต้องให้กิจจารู้ว่าไม่ว่าจะเจอเรื่องลำบากอะไร ไม่ว่าจะมี อุปสรรคอะไร พวกเขาต้องผ่านไปได้แน่

เมื่อกิจจาเห็นรอยยิ้มของนรมน ลมหายใจที่ตึงเครียดก็ผ่อน คลายลงเล็กน้อย

เขาพิงอยู่ข้างกายนรมน ยื่นมือไปตบบนหลังมือของนรมน เบาๆ ราวกับว่าก๋าลังปลอบโยนเธอ

ทั้งสองคนไม่ส่งเสียงอะไร แต่กลับอบอุ่นจนทำให้รู้สึกใจ

ละลาย

นรมนมองดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า เกือบจะเที่ยงแล้ว

เธอกับกิจจาทั้งสองคนนั้นเป็นเป้าที่ชัดเจนเกินไป ตอนนี้ยัง เป็นยุคสมัยของข้อมูลข่าวสาร แค่บุริศร์ให้รางวัลหนักๆ ใช้เวลา ไม่นานๆ พวกเขาก็จะถูกคนหาเจอแล้วส่งไปถึงตรงหน้าบุริศร์

นรมนไม่สามารถเผชิญหน้ากับบุริศร์ได้ และยิ่งไม่อยากกลับ ไปที่ตระกูลโตเล็ก เธอพากิจจาไปที่ร้านอาหารเล็กๆ ร้านหนึ่ง

เพื่อทานอาหาร
กิจจาทานอย่างเอร็ดอร่อย แต่นรมนกลับไม่อยากอาหาร คอยังคงปวดแสบปวดร้อน กินอะไรลงไปก็เหมือนกับถูกกรีด

เนื้อ

เมื่อกิจจาเห็นว่าเธอไม่กินอะไร จึงส่งปีกไก่ที่อยู่ตรงหน้ามา ตรงหน้านรมน สายห่วงใยนั้นทำให้นรมนกินปีกไก่ไปหนึ่งชิ้น

อย่างเจ็บปวดเกือบตาย

เมื่อทั้งคู่ทานเสร็จแล้ว นรมนวางแผนจะหาสถานที่หนึ่ง แม้ว่า บริศร์อาจจะพวกเขาเจออย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาก็ต้องหยุดพัก หายใจก่อนค่อยว่ากัน

เธอคิดว่าบุริศร์น่าจะยังมาไม่ได้สักพัก ต่อให้รู้ข่าวของพวก เขาแล้ว พวกเขาก็ต้องพักเหมือนกันใช่ไหม?

นรมนพาจึงกิจจาเข้าพักที่โรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง

ความสะอาดของโรงแรมเล็กๆ นี้ไม่ค่อยดีนัก แต่แขกที่มาพัก มีไม่มาก เถ้าแก่เนี้ยก็ไม่ค่อยสนใจ ยิ่งไม่จำเป็นต้องใช้บัตร ประชาชนลงทะเบียนแล้วก็ลดความยุ่งยากของนรมนไปได้มาก

เธอพากิจจาเข้าไปในห้อง ให้กิจจาอาบน้ำอุ่นก่อนแล้วทั้งคู่ก็ พักผ่อน

เหตุร้ายที่กระหน่ำโจมตีในหลายวันที่ผ่านมา ทำให้นรมน

หมดแรง

ตอนเธอนอนลงเตียงจึงหลับไปโดยไม่รู้ตัว
กิจจานอนหลับในอ้อมกอดของเธอ เธอถึงสบายใจมาก

เมื่อตื่นขึ้นมานรมนก็มองไปที่กิจจาเป็นอย่างแรก เห็นเขายัง นอนหลับอยู่อ้อมแขนของตัวเองก็โล่งใจ

เธอค่อยๆ ดึงแขนของตัวเองออก คิดจะไปทำอะไรให้กิจจา ทานและซื้อของใช้ประจำวันทั่วไป กลับพบว่าห้องนี้ดูเหมือนมี อะไรบางอย่างผิดปกติ

ตรงไหนผิดปกตินะ?

นรมนมองไปรอบๆ และในที่สุดก็เจอปัญหา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ