แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1060 เป็นเพราะศัตรูแข็งแกร่งเกินไป



บทที่ 1060 เป็นเพราะศัตรูแข็งแกร่งเกินไป

“กิจจาอยู่ในอันตราย

ข้อความในวีแชทที่ถูกส่งโดยมิลิน

นรมนรีบค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของมิลินแล้วกดโทรออกทันที แต่ก็ไม่มีคนรับสาย ใจของเธอพลันเป็นกังวลขึ้นมา

“หม่ามี้เป็นอะไรคะ? ทำไมสีหน้าไม่ดีเลย?”

เมื่อกมลเดินออกมาก็เห็นใบหน้าของนรมนขาวซีด จึงอดไม่

ได้ที่จะถามออกมา

นรมนกลับวิ่งออกไปอย่างเร่งรีบ บุริศร์ที่ยังคุยกับเขมทัตเกี่ยวกับปัญหาของกมลอยู่ เมื่อมอง

เห็นนรมนวิ่งมาอย่างร้อนรนก็ทักขึ้นทันที

“มีอะไรเหรอ?”

“กิจจาตกอยู่ในอันตราย มิลินเพิ่งส่งข้อความมาบอกฉัน แต่ พอโทรกลับไปก็ไม่มีคนรับสาย คราวที่แล้วได้ยินว่าเขาไปที่ แอฟริกา บุริศร์ ฉันกลัว

จากคำพูดของนรมนทำให้เขมทัตนึกขึ้นมาได้

“คุณบุริศ ไม่นานมานี้เกิดเหตุจลาจลการจากผู้ก่อการร้ายใน แอฟริกา ได้ยินว่ามีคนถูกจับไปเป็นตัวประกันจำนวนมาก”
ข้อมูลของเขมทัตมาจากเขตทหาร เชื่อถือได้อย่างแน่นอน

สีหน้าของบริศร์กับนรมนพลันเปลี่ยนไปทันที

“ฉันจะไปแอฟริกาเดี๋ยวนี้

บุรีศรีบติดต่อหาชัยยศ เพื่อเคลื่อนเฮลิคอปเตอร์ นรมนกล่าว: “ฉันไปด้วย”

“เธอไม่ต้องไปหรอก ในบ้านยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกมาก อีก ทั้งตุลยาก็จะมาหา ยังมีปัญหาที่บริษัทของเธอที่ต้องแก้ไข ที่นี่ก็ ต้องการการปลอบโยน นรมนภารกิจของเธอหนักหนากว่าฉันอีก ฉันรับประกันว่าหลังจากที่ฉันไปฉันจะโทรหาเธอทุกครั้งที่มีเวลา ให้เธอได้รับรู้แบบเรียลไทม์โอเคไหม?”

บริศ มองนรมนอย่างห่วงใย

เขารู้ว่านรมนเป็นห่วงกิจจาอยากจะไปด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ ยังไม่ใช่เวลาที่ควรที่จะพาเธอไปด้วยได้

นรมนรู้ว่าที่บุริศร์พูดมาถูกต้องทั้งหมด แต่ ณ เวลานี้ก็ยังแอบ กังวลใจอยู่บ้าง

“การจลาจลยังไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง? เนื่องจากพื้นที่ทหารตื่น ตระหนก สถานการณ์คงไม่ดีนัก บุริศร์ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นคุณ ต้องพากิจจากลับมาให้ได้นะ

“ฉันทำได้ วางใจเถอะ เขาเป็นเลือดเนื้อเพียงหนึ่งเดียวของพี่ ชายของฉัน ฉันจะพยายามสุดชีวิตและรับประกันเรื่องความปลอดภัยของกิจจา

“อย่าพูดพล่อยๆ คุณก็ต้องกลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับฉัน รับปาก ”

นรมนปิดปากบริศ อย่างรวดเร็ว “ฉันรู้แล้ว ไม่ใช่ว่ายังมีเวลาอีกสามวันเหรอ? วางใจเถอะฉัน

จะรีบกลับมา”

พูดจบบริศร์ก็หันไปหาเขมทัต

“อย่าคิดว่าเรื่องของลูกสาวฉันจะจบลงแค่นี้ รอฉันช่วยลูกชาย กลับมาได้ก่อนแล้วจะกลับมาคิดบัญชี

พูดจบ บุริศร์ก็ให้คนพานรมนกลับไปส่งที่ตระกูลพรโสภณ ส่วนตัวเขาเองก็รีบออกไปจากลานใหญ่อย่างรวดเร็ว

คุณท่านตนวรเองก็รู้ข่าวแล้ว เมื่อเห็นนรมนกลับมาถึงก็ถาม อย่างกังวลใจ: “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? ฉันไม่ยินว่าบุริศร์ออก ไปแล้ว ฉันจะให้โตษิณไปช่วยเขา”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณตา บุริศร์น่าจะเอาอยู่ หนูแค่เป็นห่วงกิจจา”

“เด็กคนนั้นทําไมถึงไปถึงแอฟริกาล่ะ?”

คุณท่านตนวรก็รู้สึกกังวลใจ

“หม่ามี้ พี่กิจจาเป็นอย่างไรบ้างคะ?”

กมลถามคิ้วขมวด
“ไม่เป็นไร กิจจาแต่มีปัญหานิดหน่อย พ่อของหนูไปหาเขา อย่างกล้าหาญแล้ว สบายใจเถอะ”

นโมนพยายามปั้นหน้ายิ้มต่อหน้าของกมล แต่ก็ยังปรากฏร่อง รอยความกังวล

มีสายเข้าจากบริศ นรมนรีบกดรับโดยทันที

“ไมค์กับดุลยาขึ้นเครื่องบินแล้ว คืนนี้ประมาณสองทุ่มกว่าน่า จะถึง”

“ฉันรับรู้แล้ว ที่นี่ฉันจะดูแลให้เอง คุณก็ดูแลตัวเองด้วย จริงสิ ยาแก้ปวดเอาไปด้วยหรือเปล่า?”

นรมนนึกขึ้นได้ถึงอาการปวดเส้นประสาทของบุริศร์ อดไม่ ได้ที่จะเอ่ยขึ้นมา

“ฉันให้ป้องเอามาส่งให้ที่สนามบิน ฉันจะเคลื่อนเฮลิคอปเตอร์ จากสนามบินเธอวางใจได้แล้ว กานต์เองก็รู้ข่าวแล้ว คิดว่าเขา น่าจะไปกับฉันด้วย”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนยนคิ้วนิดหน่อย

“เขาไปทําอะไร?”

“น่าจะเป็นเรื่องของทหาร ฉันขึ้นเฮลิคอปเตอร์ก่อนเขาจะไป กับฉัน วางใจเถอะลูกต้องไม่เป็นไร ฉันจะพาพวกเขากลับมา อย่างปลอดภัยเอง วางก่อนนะ”

พูดจบบริศร์ก็วางสายทันที
นรมนจิตใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

ถ้ากิจจายังไม่รู้เรื่องการก่อการจลาจลล่ะจะเป็นอย่างไร กานต์

ก็ไปด้วย เธอจะวางใจลงได้อย่างไร? แต่กังวลใจไปก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี ที่เมืองชลธียังมีเรื่อง

มากมายรอให้เธอแก้ไขอยู่

“คุณตา ตุลยาจะถึงคืนนี้สองทุ่มกว่าๆ คุณเรียกคนจากที่นั่น ไปรับได้เลย ฉันต้องพึ่งพาคุณแล้ว

“ได้”

คุณท่านตนวรรู้ว่านรมนต้องการจะทำอะไร และคงห้ามไม่ได้

“ฉันจะพากมลกลับไปด้วย ให้เธออยู่ที่นี่ ฉันกลัวว่าตุลยาจะ ปฏิบัติไม่ดีกับเธอ”

นรมนไม่ได้หลีกเลี่ยงข้อนี้

คุณท่านตนวรเองก็รับปาก

นรมนูพากมลกลับมาที่บ้านตระกูลโตเล็ก และส่งต่อให้ป้า หวานดูแล ตัวเธอกดต่อสายหาปาณี

“เธอกับนภดลรีบหาเที่ยวบินที่เร็วที่สุดกลับมาที่เมืองชลธี เรา

ต้องการพวกคุณ”

“รับทราบ คุณนาย

ปาณีเก็บกวาดธุระในมือแล้วไปหานภดล
นภดลอยู่หน้าคอมพิวเตอร์กำลังค้นหาข้อมูล เมื่อเห็นปาณีเข้า มาก็ตกใจเล็กน้อย

จากเรื่องที่เกิดเมื่อครั้งที่แล้ว ทั้งสองคนก็ไม่เคยเจอกันโดย ลำพังอีกเลย ยิ่งปาณีไม่เคยมองหาเขาเลย แต่มาวันนี้ที่จู่ ๆ ก็มา ทําให้นกดลค่อนข้างประหลาดใจ

“มีเรื่องเหรอ?”

“คุณนายให้เรารีบกลับเมืองชลธีด่วน ที่นั่นต้องการพวกเรา” ปาณีค่อนข้างลำบากใจ

เธอชอบนภดลจริง ๆ แต่เธอรู้ว่าใจของ นภดลตายไปพร้อม ฉัตรยาที่ตายไปแล้ว

ทุกวันนี้ถ้าไม่พบไม่พูดคุยยังพอควบคุมความรู้สึกของตัวเอง

ได้ แต่ตอนนี้ยืนอยู่ต่อหน้านภดล ปาณีรู้สึกว่าที่ตัวเองพยายาม

มาตั้งหลายวันนั้นไม่มีประโยชน์เลย

การรักคนๆ หนึ่งนั้นเป็นเรื่องยาก แต่การลืมคนๆ หนึ่งนั้นยาก

ยิ่งกว่า

“รับทราบ”

นภดลก้มหน้า ไม่ได้มองปาณี ท่าที่เย็นชานั้นทำร้ายและแทง หัวใจอย่างสุดซึ้ง

ถ้าหากเป็นไปได้เธออยากอยู่ที่นี่จริงๆ การเริ่มที่ผิดกับนภดล พออยู่กับเขาแล้วทำให้ตัวเธอเองลำบาก
ปาณีหันหลังเดินกลับออกไป แววตาเศร้าสร้อย

หางตาของนภดลมองเห็นหลังของเธอที่ดูเหงาหงอยขมวด คิ้ว ดวงตาปรากฏแววบางอย่างแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว

เขาและเธอมันเป็นไปไม่ได้เลย ในเมื่อรู้ผลลัพธ์อยู่แล้วจะไป ทำให้มันยุ่งยากทำไม?

นภดลถอนหายใจออกมาแผ่วเบา เก็บกวาดข้อมูลเอกสาร แล้วจึงเดินตามปาณีออกไป

พริมาใช้ความสามารถในการประชาสัมพันธ์ของตระกูลโต เล็กเรื่องของจยากถูกระงับลง แต่พ่อแม่ของเธอเป็นคนไร้สัจจะ มาร้องไห้โหวกเหวกอยู่หน้าประตูบริษัท ทำให้พริมาเป็นผู้ถูก กระท่า

“ประชานนรมน ครั้งนี้ฉันทำงานไม่ราบรื่น

พริมารีบต่อสายหากรมน

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ เป็นเพราะศัตรูแข็งแกร่งเกินไป ฉันจะ ให้คนสืบหาหลักฐานต่อไป เธอหยุดเรื่องของณัฐยาทั้งหมดเอา ไว้ก่อน อย่าปล่อยให้เธอออกไปไหนหลังจากที่เรื่องนี้ยังไม่ คลี่คลาย

“รับทราบค่ะ”

พริมาวางสาย

ดวงตาของนรมนปรากฏแววความโกรธ
ซาวทําเกินไปจริงๆ

แต่เดิมเธอตั้งใจจะเล่นกับเขาอย่างช้าๆ ในเมื่อตุลยาขึ้น เครื่องบินไปแล้ว งั้นเธอก็คงไม่ต้องเกรงใจแล้ว

นรมน โทรศัพท์หานภดล

“ขึ้นเครื่องบินหรือยัง?”

“ยังครับ กําลังรอตรวจเช็กความปลอดภัย

คําตอบของนภดลทําให้นรมนตะลึงชั่วขณะ ไม่คิดว่าพวกเขา จะรวดเร็วกันขนาดนี้

“ตรวจสอบชาวให้ฉันที แล้วให้คนก่อเหตุทางการแพทย์หน้า โรงพยาบาลของเขา ทำให้สื่อสนใจได้ยิ่งดี แล้วก็ตรวจสอบดูว่า ชีวิตส่วนตัวของ ชาวีมีอะไรมาใช้ประโยชน์ได้บ้าง ฉันหวังว่า กิจการของเขาจะมีปัญหาภายในหนึ่งวัน ทำให้มือไม้อ่อนจนทำ อะไรไม่ถูกไปเลยยิ่งดี

“รับทราบ”

นภดลหลังจากวางสายก็เปิดคอมพิวเตอร์ทันที

ดวงตาของนรมนฉายแววเย็นชา

เธอกังวลเกี่ยวกับบุริศร์ และกังวลเกี่ยวกับกิจจากับกานต์ ยิ่ง ตัวเธอมีเรื่องพรรค์นี้มาพัวพันยิ่งทำให้อารมณ์เสีย

นรมนหลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จก็รอปิดอินเทอร์เน็ต

เธอไม่สามารถให้ตัวเองว่างได้ พอว่างเธอก็จะคิดต่างๆ นานา
ระงับอารมณ์เสร็จ นรมนก็ตรงไปที่ห้องเก็บของ

เจตต์และขวัญตาพิสูจน์ให้เห็นแล้ว ลูกพี่ลูกน้องของเธอก็ส่ง ของขวัญไปเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?

คุณท่านตนวรก็ให้ห้องมาหนึ่งชุด แล้วตัวเธอเองให้อะไรบ้าง? นรมนมาถึงห้องเก็บของ หวังจะหาของติดไม้ติดมือออกไป พลันมองไปเห็นชุดเจ้าสาวที่แขวนอยู่ในห้องเก็บของ

ชุดเจ้าสาวนี้เธอใส่ตอนที่แต่งงานกับบริศ เมื่อแปดปีที่แล้ว ตอนนั้นก็รู้ว่าไม่ได้ถูกเตรียมไว้ให้เธอแต่ขณะนั้นไม่มีเวลาให้คิด เยอะ ไหน ๆ ก็เตรียมงานแต่งแล้ว ไม่คิดว่าบริศร์จะยังไม่ทิ้งไป ไหน เขายังเก็บไว้ที่นี่

ใจของนรมนก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ถ้าไม่ได้ถูกเตรียมไว้ให้ตัวเอง งั้นคงถูกเตรียมไว้เพื่อเขมิกาเห

รอ?

ของที่ถูกเตรียมไว้ให้เขมิกายังคงถูกเก็บไว้ที่นี่ เป็นเพราะลืม หรือมีความตั้งใจอื่นกันแน่?

นโมนพบว่าเธอเริ่มคิดไปต่างๆ นานา แล้ว

ถ้าพูดตามความรู้สึกของบุริศร์ที่มีต่อเธอแล้ว สามารถบอกได้ ว่าไม่มีความรู้สึกใดๆ ให้เขมิกาแล้ว ดังนั้นชุดแต่งงานนี้คงไม่ได้ เป็นสิ่งที่ระลึกหรอก แต่แล้วทำไมถึงยังไม่ทิ้งไปล่ะ?

นรมนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ยื่นมือออกไปลูบชุดแต่งงาน
ชุดแต่งงานนี้ไม่ว่าจะใช้วัสดุอะไรก็ถูกออกแบบมาเพื่อยิ่งใหญ่ ถึงแม้จะผ่านมาแปดปีแล้วแต่นรมนก็ยังคงชอบมากอยู่ดี

แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ถูกทำขึ้นมาเพื่อเธอ ใจเธอยังคงอุ่น เคืองเล็กน้อย ตอนนี้บริศร์ไปแอฟริกาแล้ว ตัวเธอเองก็ไม่อยากเอาเรื่องเล็ก

น้อยแค่นี้ไปรบกวนเขา

นรมนยื่นมือออกไปเพื่อเก็บชุดแต่งงานให้เรียบร้อย แต่ กระดาษออกแบบชุดก็หล่นออกมาจากในชุดแต่งงาน บน กระดาษออกแบบชุดปรากฏลายมือที่คุ้นเคย นรมนอดไม่ได้ที่จะ ตกตะลึง

เธอก้มลงไปเก็บขึ้นมา พบว่าเป็นขนาดสัดส่วนที่ปรากฏค่อน ข้างคุ้นตา คล้ายจะเป็นสัดส่วนของเธอเมื่อแปดปีที่แล้ว

ราวกับจะยืนยันความคิดของนรมน ด้านหลังกระดาษ ออกแบบถูกเขียนชื่อของนรมนเอาไว้

ชุดแต่งงานนี้ถูกออกแบบเพื่อเธอ โดยเฉพาะ

ไม่น่าจะใช่!

ตอนแรกเธอต้องแต่งงานกับบริศ เพราะเรื่องอื้อฉาว เวลาที่ กำหนดก็เร่งรีบ จะมีเวลานานพอที่จะออกแบบชุดแต่งงานให้เธอ

ได้อย่างไร?

นรมนคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ แต่ในใจกลับมีความสุขจนแทบบ้า
ชุดแต่งงานนี้ถูกออกแบบไว้เพื่อเธอตั้งแต่แรก?

ใช่อย่างนี้ไหม?

มุมปากของนรมนยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

และในตอนนั้นเองก็มีสายเข้าจากพฤกษ์ นรมนตกตะลึงเล็กน้อย พยายามเก็บความรู้สึกดีใจเอาไว้

“คุณนาย คุณติดต่อประธานบริศร์ได้ไหม? ผมมีธุระกับเขา แต่เขาปิดโทรศัพท์

นรมนพูดเสียงต่ำ : ” เขาน่าจะอยู่บนเครื่องบิน กิจจาเกิดเรื่อง ที่แอฟริกาใต้ เขากำลังรีบไปหา คุณมีธุระอะไรกับเขาหรือเปล่า? “มีเรื่องนิดหน่อย ผมต้องการคนและม้าจำนวนหนึ่ง ทางนี้

กำลังไม่พอแล้ว”

คำพูดของพฤกษ์ทำให้นรมนชะงักไปทันที เขาไปทำอะไรที่นั่น? ทำไมถึงยังต้องการคนช่วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ