แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1173 พ่อแม่คือรักแท้ ลูกคืออุบัติเหตุ



บทที่ 1173 พ่อแม่คือรักแท้ ลูกคืออุบัติเหตุ

กิจจารู้สึกว่าข้าวมื้อนี้กินไม่ได้แล้ว

เขายังเป็นเด็กอยู่!

มันง่ายไหมที่เขาจะถูกบีบให้อยู่ตรงกลางระหว่างสองคน

“ผมจะไปเข้าห้องน้ำ

กิจจายนกายลุกขึ้น แต่กลับโดนนรมนคว้าแขนเอาไว้

“อย่าไป!”

เธอยังหวาดกลัวกับการที่กิจจาหายตัวไป เมื่อได้ยินว่าเขาจะ ไปห้องน้ำ นรมนจะปล่อยให้เขาไปคนเดียวได้อย่างไร

เธอรีบพูดกับบุริศร์ว่า “คุณไปเป็นเพื่อนกิจจาหน่อย

บุริศร์จูบอย่างดูดดื่ม แต่กลับถูกเมียผลักออก เลยรู้สึกอารมณ์

ไม่ดี

กิจจาพูดอย่างรวดเร็วว่า “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรครับ ผมจะไปกับ คุณอาท่านนี้”

เขาดึงคนที่อยู่ข้างๆ บุริศร์ออกมาชั่วคราว

อีกฝ่ายทานอาหารสุนัขที่นรมนและบริศร์โปรยไว้พอแล้ว “ใช่ ใช่ ผมจะพาคุณชายกิจจาไปเองครับ”

นรมนพูดอย่างรวดเร็ว ไม่ต้อง ฉันจะพาเขาไปเอง”
หลังจากพูดจบ นรมนก็กำลังจะลุกขึ้น แต่กลับได้ยินบุริศร์พูด ว่า “ชัยยศ พากิจจาไปห้องน้ำ ถ้ากินเสร็จแล้ว ก็ไปส่งกิจจาพัก ผ่อน”

“ครับ”

ไม่รู้ว่าชัยยศโผล่มาจากไหน

เป็นเวลานานแล้วที่นรมนไม่ได้เจอชัยยศ

เมื่อครั้งนี้ได้เห็นชัยยศ เธอรู้สึกว่าภาพลักษณ์ของเขาและนิสัย เฉพาะตัวเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะว่องไวและสงบ กว่าเมื่อก่อน

เมื่อกิจจาเห็นชัยยศเดินมา จึงค่อยถอนหายใจด้วยความโล่ง อก จากนั้นจึงออกไปกับชัยยศ

ผู้หญิงบนโต๊ะมองนรมนอย่างอิจฉาอีกครั้ง

นรมนรู้สึกไม่สบายใจเมื่อถูกสายตาเช่นนี้จ้องมองตนเอง

“ฉันก็อยากเข้าห้องน้ำเหมือนกันค่ะ”

“ผมไปเป็นเพื่อนคุณเอง”

บริศริยันกายลุกขึ้น

ใบหน้าของนรมนเปลี่ยนเป็นสีแดง

เธอบอกว่าจะไปห้องน้ำ นี่ไปเป็นเพื่อนได้ด้วยเหรอ? คนโง่บุริศร์ไม่รู้จริงเหรอว่าอะไรควรพูดหรือไม่ควรพูดกัน?
นรมนจ้องบุริศร์ ก่อนจะลุกออกจากที่นั่ง

บริศร์ไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับพวกเขา เขาต้องการ รักและเอ็นดูภรรยา คนอื่นไม่สน

เพียงแค่เดินเข้าไปตามทางเดินของห้องน้ำ บุริศร์ก็น่นรมน

มากอดไว้ในอ้อมแขนของเขา แล้วกดเธอเข้ากับกำแพงทางเดิน

ลมหายใจอุ่นๆ มาพร้อมกับกลิ่นเหล้า

“อย่าโวยวาย”

นรมนหัน ใจเต้นรัว

ดวงตาของบุริศร์ในเวลานี้อ่อนโยนและดูถลำเข้าไป

“ผมอยากจูบคุณ”

“เมื่อกี้ไม่ได้จูบเหรอคะ?”

เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นรมนก็เขินอายเล็กน้อย

บุริศร์พูดอย่างไม่พอใจว่า “นั่นเรียกว่าจูบเหรอ นรมน ท่าทางอายของคุณสวยจริง ทำให้ผมอยากได้คุณ

เสียงของเขาพึมพำ ราวกับมีพลังเวทมนตร์ ซึ่งทำให้นรมนไม่ อาจต้านทานได้

“คุณไม่ใช่ต้องการไปปลุกห้องเจ้าสาวของลูกพี่ลูกน้องฉันเห รอคะ?”

“ไม่ต้องรีบ ยังเร็วเกินไปที่งานเลี้ยงจะจบลง”
เมื่อบริศ พูดจบนรมนก็รู้ว่าเขาหมายความว่าอะไร “ละทิ้งงานอย่างอื่นตอนกลางวันแสกๆ คุณไม่กลัวคนอื่นจะ พูดอะไรเหรอ?”

ใบหน้าของนรมนยกสูงขึ้น

เธอสัมผัสได้ถึงมืออันใหญ่โตของบุริศร์ที่เคลื่อนไหวไปรอบๆ ตัวเธอ ซึ่งมันทำให้เธอร้อนรุ่มและทนไม่ได้

“ผมกับคุณเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย คนอื่นจะ สามารถพูดอะไรได้”

หลังจากที่บุริศร์พูดจบ เขาก็ตรงเข้าไปกอดนรมน

ทั้งสองเดินจากสวนหลังบ้านขึ้นไปชั้นบน และกลับไปยังห้อง

นอน

เมื่อประตูห้องนอนปิดลง จูบที่รุนแรงของบุริศร์ก็เข้ามาทาบ

ทับทันที

เสื้อผ้าถูกถอดออกทีละชิ้น ทั้งสองเดินกอดรัดฟัดเหวี่ยงจาก โถงทางเดินสู่เตียง

หลังจากที่นรมนถูกบุริศร์ทำให้หมดเรี่ยวแรงแล้ว เธอเหนื่อย จนต้องฟุบหน้าลงกับอกแกร่งของบุริศร์ ก่อนจะหอบหายใจและ พูดว่า “ตอนนี้คุณยิ่งอยู่ยิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว”

“สําหรับคุณ ผมชอบมาตลอด เท่าไหร่ก็ไม่พอ

เมื่อได้ยินคำพูดที่ชัดเจนของบุริศร์ นรมนก็หน้าไหม้ด้วยความเขินอายอีกครั้ง

“ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เราก็เป็นเจ้าของบ้าน หายไปอย่างนี้ก็ไม่ ค่อยโอเค ฉันจะไปอาบน้ำ แล้วจะลงไป

นรมนคิดว่าเธอและบริศ ออกจากโต๊ะมาด้วยกัน นานแล้วยัง ไม่ได้กลับไป คนอื่นคงเดาอะไรได้บางอย่างแล้ว

บริศ เหยียดแขนโอบรอบเอวบางของเธอ ยิ้มและพูดว่า “ลง ไปทำไม? คุณไม่เบื่อกับงานเลี้ยงน่าเบื่อนั่นเหรอ? แล้วก็ไม่ใช่ งานแต่งของเราด้วย พวกเราไม่ใช่บุคคลสำคัญ ไม่มีใครสนใจ เราหรอก ตรงกันข้ามเราให้พื้นที่กับคู่แต่งงานใหม่นั่นดีกว่า เกรงว่าเราจะไปขโมยสีสันและความเป็นจุดสนใจของพวกเขา มากกว่า”

“แต่ฉันเป็นกังวลกับคนของกล้าณรงค์………

“ไม่ว่าคนของกล้าณรงค์จะมีความสามารถแค่ไหน ก็เข้ามาใน บ้านของตระกูลพรโสภณไม่ได้ แถมคนของผมและคนของคุณก็ ไม่ใช่จัดการได้ง่ายๆ วางใจแล้วนอนเถอะ เมื่อคุณเหนื่อยมาก แล้ว”

คำพูดของบริศ ทำให้นรมนเขินอายเล็กน้อย

“รู้ว่าเหนื่อยแล้วยังไม่ควบคุมตัวเอง กลางวันแสกๆ”

นรมนพูดด้วยท่าทางหงุดหงิด แต่กลับหาวและอยากจะนอน

เธอรู้สึกตึงเครียดเมื่อมองดูจิ้งจอกของเจตต์และขวัญตามาถึง จุดนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่มีอะไรร้ายแรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย

ดวงตาของบริศร์มีแววหลงรักพาดผ่านเล็กน้อย

“นอนเถอะ ตอนกลางคืนตอนปลุกห้องเจ้าสาวผมจะมาเรียก”

“จะไปก่อกวนจริงๆเหรอ?”

นรมนคิดว่าบุริศร์แค่พูดถึงการเล่น แต่ตอนนี้ได้ยินเขาพูด อย่างนี้ ก็รู้สึกแปลกใจ แต่เธอก็ง่วงเกินไป

“อืม แล้วทำไมจะไม่ก่อกวนละ?”

หาได้ยากที่บุริศร์จะทำตัวเป็นเด็ก เธอไม่สนใจเขา หาท่วงท่า ที่สบายก่อนจะผล็อยหลับไป

เมื่อเห็นคน ในอ้อมกอดนอนหลับอย่างสงบ บริศร์ก็ลุกนำเธอ นอนลงเบาๆ ก่อนจะลงจากเตียงด้วยเสียงเบา และตรงไปยังห้อง หนังสือ

เขาเปิดคอมพิวเตอร์ ใส่รหัส และไม่นานก็เห็นกานต์

เป็นยังไงบ้าง?”

“ไม่เป็นไรครับ พรุ่งนี้คาดว่าคงจะกลับบ้านได้แล้ว”

ระหว่างคิ้วของกานต์แสดงความเหนื่อยล้า ดวงตามีแววความ เศร้าทุกข์ใจฉายชัด

เมื่อบริศร์เห็นลูกชายตัวเองเป็นอย่างก็หนักใจ

“พรุ่งนี้พ่อจะแต่งงานกับหม่ามีของลูก”
เขาไม่ได้คิดวางแผนว่าจะบอกกานต์ แต่เมื่อได้ยินว่าเขาจะ กลับมา ก็เลยพูดออกไป เพื่อที่ลูกจะได้ไม่ต้องกังวล

กานต์ผงะไปครู่หนึ่ง

ต้องการให้ผมเข้าร่วมไหมครับ?

เขายังคงชัดเจนเกี่ยวกับตำแหน่งของตัวเอง

แม้คุณบุริศร์จะชอบเขามาก แต่กานต์รู้เขาต้องการใช้เวลา ส่วนตัวกับหม่ามี้ บางครั้งก็รำคาญลูกอย่างพวกเขา

ดังนั้นบางครั้งกานต์จึงอยู่เป็น อย่างไรเสียพ่อแม่ของเขาคือ รักแท้ ส่วนลูกๆ ของพวกเขาล้วนแต่เป็นอุบัติเหตุ

บริศร์มองไปยังท่าทางเข้าใจของลูกชาย ก่อนจะยิ้มขึ้นมา ทันใด “ไม่จําเป็น แค่บอกว่าเป็นงานแต่งงานของเราสองคน แต่งงานกับเธอเมื่อปีที่แล้ว คนทั้งเมืองรู้กันทั้งสิ้น แต่ตอนนั้น พ่อไม่รู้หัวใจตัวเองแน่ชัด แต่งกับเธอเพื่อจะให้คนอื่นเห็นกัน ตอนนี้พ่อแค่อยากจะจัดงานแต่งงานของเราสองคนให้เธอ”

“โอเค”

กานต์นวดขมับของเขา

เมื่อบุริศร์เห็นว่าดวงตาของลูกชายของเขาเหนื่อยเพียงใด จึง ถามออกไปโดยไม่รู้ตัวว่า “ที่ฐานแย่มากไหม?”

“ยังดีครับ ผมสามารถจัดการได้ คุณสามมาแล้ว มีเขาผมก็ ผ่อนคลายลงได้หน่อย
กานต์และบริศร์พูดคุยกัน บุริศร์เข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ ปัจจุบันในกองทัพและพูดด้วยเสียงต่ำ “พรุ่งนี้หลังจากกลับมาก็ พักผ่อนให้ดี เรื่องคราวก่อนลูกไม่ต้องสนใจ และไม่ต้องยื่นมือ เข้าไป รอให้พ้นปีใหม่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน

“โอเคครับ”

“ถ้ากมลทางนั่นโอเค ให้ใครซักคนพาเธอกลับมา แน่นอนถ้า เธอเองไม่ยินยอมละก็ ก็ไม่ต้องไปบังคับ ตอนนี้ลุงคริขณะกำลัง ถูกตรวจสอบ ตอนนี้อารมณ์ของคริชณะไม่ค่อยดี ตอนนี้เขาและ ดนัยกลับมาดีกันอีกครั้ง การอยู่ที่นั่นก็ทำให้พวกเขาสบายใจขึ้น เล็กน้อย แต่ข้อเสนอนั่นก็แล้วแต่ความปรารถนาของกมล

กานต์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้

“ตระกูลทวาทสินตอนนี้ไม่เหมาะจะให้กมลอยู่ กานต์เป็นกังวล

แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่ความรู้สึกของเขาไวมาก บริศ ไม่รู้?

แต่ถึงแม้ว่าปกติกมลจะดูทำตัวไม่ยี่หระ แต่บุริศร์รู้ เธอเป็น เด็กหญิงที่มีค่านิยมของตัวเอง

“ถ้าอย่างนั้นลูกติดต่อกับน้องสาวลูก อย่าบังคับให้เธอกลับ

มารู้ไหม?”

“รู้ครับ”
ทั้งสองคุยกันสักพัก ก่อนที่บริศร์จะวางสายวิดีโอไป

เขาโทรหาชัยยศ

“ประธานบริศร์ มีอะไรไหมครับ?”

“ของที่ฉันให้นายเตรียมไว้ เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วหรือ ยัง?”

ค่าพูดของบุริศร์ทำให้ชัยยศผงะไปครู่ ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า “เตรียมพร้อมแล้วครับ”

“อืม ระวังความปลอดภัยข้างล่างด้วย”

“โอเคครับ”

หลังจากอธิบายสิ่งเหล่านี้แล้ว บุริศร์ก็กลับไปที่เตียง และขึ้น เตียงด้วยเสียงอันเบา จากนั้นจึงโอบแขนเขาไว้รอบตัวนรมน หลับตาอย่างพึงพอใจและพักผ่อนสักครู่

ด้านล่างยังคงคึกครื้น ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเมื่อเห็นว่าบุริศร์ และนรมนจากไปนาน อย่างไรวันนี้ตัวหลักของงานก็คือเจตต์

งานเลี้ยงกินเวลานานถึงหกโมงเย็น คนที่มาที่งานเลี้ยงงานแต่งงานทั้งหมดได้ร่วมรับประทาน อาหารสองมื้อที่บ้านตระกูลพรโสภณ ก่อนจะจากไป

วันนี้คุณท่านตนวรมีความสุขมากวันนี้ เลยดื่มไปสองสามแก้ว ตอนนี้เขาเมาแล้วนิดหน่อย จึงถึงโตหินประคองไปที่ห้อง

“ท่านเจ้าบ้าน ผมจะให้คนไปทำซุปแก้เมาค้างนะครับ”
โตบินกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับร่างกายของคุณท่านตนวร

คุณท่านตนวรโบกมือให้ปล่อยเขาลงไป เขาหยิบกรอบรูปออกมาจากลิ้นชัก ในนั้นมีรูปของเขากับ คุณนาย

ที่ถ่ายไว้ตอนยังวัยรุ่น

ดวงตาของคุณท่านตนวรชิ้นเล็กน้อย

“ยายแก่เห็นไหม? วันนี้หลานของเธอเจตนะ เขาแต่งงาน แล้ว เขาแต่งกับหญิงสาวของตระกูลปวนะฤทธิ์เป็นหลานสะใภ้ที่ สวยมากเลยนะ น่าเสียดายที่ยายแก่ไม่มีโชควาสนา ไม่รอจนถึง วันนี้เพื่อดื่มชาจากหลานชายและหลานสะใภ้ของเธอ

ขณะที่เขาพูด ดวงตาของท่านตนวรก็เปียกชื้น และหยดน้ำตา ก็หยดลงมาจากดวงตาขุ่นมัวของเขา

“ยายแก่ ฉันคิดถึงเธอ คิดถึงเธอจริงๆ

คุณท่านตนวรนำกรอบรูปมาแนบไว้ที่อก ความเจ็บปวดแผ่ ซ่านไปทั่วหน้าอก ทีละเล็กทีละน้อย มันกัดเซาะประสาทสัมผัส ของร่างกายคุณท่านตนวร

เรื่องราวในอดีต ไม่ว่าจะดีหรือเหลวไหลถาโถมเข้ามาใน สมองของเขาเหมือนหนังเรื่องหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น

จู่ๆ เขาก็พบว่าเขายังจําครั้งแรกที่เขาเห็นยายแก่คนนั้นได้ ชัดเจน สว่างไสว สดใสจนยากจะลืมเลือน
ตอนนี้เขากลายเป็นคนดังที่ประสบความสำเร็จ ทว่ากลับไม่มี คนรักอยู่เคียงข้างเขาอีกต่อไป เมื่อเผชิญกับความหนาวเย็นของ ห้องนี้ คุณท่านตนวรก็รู้สึกสำนึกเสียใจ

ตอนแรกทําไมถึงปล่อยเธอไป?

ถ้าหากว่าเทย่าไม่ใช่ลูกสาวของตัวเองจะเป็นอย่างไร?

ตัวเองทำสงครามอยู่ในสนามรบ อยู่เป็นเพื่อนเธอกี่วัน? ห่วงใยเธอกี่ครั้ง?

คุณท่านตนวรกอดรูปถ่ายที่มีคุณนายตระกูลตนวรไว้อยู่บน

เตียง และร้องไห้

นรมนและบุรีศร์นอนหลับเต็มอิ่ม

เธอถูกความหิวโหยปลุกให้ตื่น

เมื่อดูเวลาบนโทรศัพท์ นรมนก็รู้ว่างานเลี้ยงด้านล่างเลิกไป

แล้ว

เมื่อเธอเคลื่อนไหว บุริศร์ก็ตื่นขึ้นมาทันที

“หิวเหรอ?”

“อืม”

ทันทีที่นรมนตอบ ก็มีเสียงเคาะประตูดังมาด้านนอก ทำให้ทั้ง สองคนชะงักไปนิด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ