แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 633 เธอผู้หญิงบ้าคนนี้นี่



บทที่ 633 เธอผู้หญิงบ้าคนนี้นี่

เธอพึ่งรู้สึกถึงความเจ็บปวดของการสูญเสียเสียงไปเป็นครั้งแรก

ถึงแม้ว่าเธอจะใช้แรงจากทั้งตัวในการตะโกน แต่กลับไม่มี เสียงออกมาเลยแม้แต่น้อย เสียงของสายฝนที่ตกหนัก เธอรู้สึก ว่าทั้งหมดนั้นล้วนหมดหนทาง

รถหยุดลงตรงหน้ากิจจาเพียงเซนติเมตรเดียว

เสียงเบรกแหลม ราวกับใบมีดที่แหลมคมที่เกือบจะกรีดผ่าน หัวใจของนรมน

“อยากตายเหรอ? ลูกหลานใคร ฝนตกหนักวิ่งมาอยู่กลาง

ถนนทำไม? รีบไสหัวออกไป!”

คนขับรถก่นด่าอย่างรุนแรง เพราะเบรกเมื่อสักครู่ทำให้หัวเขา ของเขากระแทกเข้ากับพวงมาลัยจนเกิดรอยช้ำ จึงอารมณ์เสีย เป็นอย่างมาก

กิจจากลับดูเหมือนไม่ได้ยินเสียอย่างนั้น รีบเข้าไปถึงประตู คิดจะดึงคนขับรถลงมา

เขาต้องช่วยหม่ามี้!

หม่ามี้ยังไม่ได้สติเลย!

คนขับรถเห็นกิจจาต้องการจะขึ้นมาบนรถจึงรีบล็อกประตูรถ แล้วสบถด่า “ไอ้เด็กเวร แกยังคิดจะขึ้นรถ? ไม่ดูตัวเองเปียกฝนไปทั้งตัว สกปรกรถฉัน แกมีค่าพอเหรอ?”

กิจจาคิดจะขอความช่วยเหลือ แต่ทุกคำพูดราวกับติดอยู่ใน สําคอ พูดไม่ออกแม้แต่คําเดียว

“ปล่อยมือ! แกปล่อยมือซะได้ยินไหม?”

กิจจาคว้าหน้าต่างรถไว้แน่น ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่ยอม ปล่อยมือ

คนขับรถเห็นกิจจาไม่ยอมปล่อยมือก็พูดอย่างโมโห “ถ้าแก ยังไม่ปล่อยมือ ฉันจะเอาหน้าต่างรถขึ้นแล้ว ถึงตอนนั้นหนีบมือ แกขาดก็อย่ามาโทษฉัน

กิจจาที่ฟังเข้าใจชะงักไป แต่ยังคงไม่ปล่อยมือ

เขาจะปล่อยมือไม่ได้

กว่าจะขวางรถไว้ได้สักคัน อย่างไรก็ต้องลากคนขับรถลงมา พาหม่ามี้ไปโรงพยาบาลให้ได้ค่อยว่ากัน

ความมั่นใจแบบนี้ทำให้กิจจาไม่สนใจอะไรจับหน้าต่างรถไว้

ไม่ปล่อย

นรมนตกใจจนสั่นไปทั้งร่าง รีบวิ่งไปข้างหน้าไม่หยุดแม้จะล้ม

ลงไปหลายครั้ง

คนขับรถมองซ้ายมองขวาเห็นว่าไม่มีคน ตรงนี้ก็ไม่มีกล้อง วงจรปิดจึงพูดขึ้นมาอย่างโหดเหี้ยม “นี่เป็นเพราะแกบังคับฉัน เองนะ!”
พูดจบเขาก็เลื่อนกระจกขึ้นอย่างเต็มที่

“อย่า”

นรมนตะโกนในใจ ใช้แรงทั้งหมดพุ่งไปข้างหน้าแล้วรวบเอา กิจจาออกมาจากหน้ารถ

ร่างกายที่อบอุ่นทําให้กิจจาซะงักไปเล็กน้อย

นรมนถลึงตามองคนขับรถอย่างโกรธแค้น ถ้าหากพูดได้ล่ะก็ เธอจะด่าเขาอย่างไม่ลังเลเลย

คนขับรถถึงกับผงะไป คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้ใหญ่พุ่งออกมา แต่ เขาก็คิดว่านรมนกล้าพอจึงด่าพึมพำ: “เฮ้ย ฉันจะบอกเธอให้ อย่ายุ่งเรื่องชาวบ้านมากนัก ไอ้เด็กเวรนี่หาเรื่องตายเอง จะมา โทษฉันไม่ได้”

เมื่อคนขับรถเรียกว่า “ไอ้เด็กเวร” นรมนก็เกิดความโมโห อย่างรุนแรงขึ้นในใจ

เธอยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็ว ในตอนที่หน้าต่างรถยังไม่ทัน

ปิด ใช้มือเดียวกระชากผมของคนขับรถแล้วกระแทกเข้ากับพวง

มาลัย

น่าเกลียดเกินไปแล้วจริงๆ

กิจจายังเด็กมาก เขาทำกับเด็กแบบนี้ได้อย่างไร?

นรมนโกรธจนใช้แรงทั้งหมดลงโทษคนขับรถ

“ปล่อยฉัน! นังผู้หญิงบ้าคนนี้นี่! ปล่อย! ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งความ!”

คนขับรถร้องโอดโอยเสียงดัง แต่กลับไม่สามารถดิ้นหลุดจาก มือนรมนได้

เขาอดที่จะแปลกใจไม่ได้ นรมนดูท่าทางอ่อนแอ ทั้งยัง

เหมือนจะสุขภาพไม่แข็งแรง ทำไมถึงแรงเยอะขนาดนี้?

เขาไม่ได้คิดถึงเหตุผลของความเป็นแม่เลยแม้แต่น้อย

สําหรับนรมนแล้ว ตอนนี้กิจจาคือทุกอย่างของเธอ เมื่อมีคน คิดจะรังแกกิจจา นี่เป็นขีดสุดของนรมนแล้ว แม้ว่าเธอต้องทุ่มเท จนสุดกำลังก็ต้องทำให้อีกฝ่ายชดใช้ค่าเสียหายให้ได้

คนขับรถค่าเสียงเบาลงเรื่อยๆ แล้วค่อยๆ เงียบไป

นรมนถึงจะปล่อยมือ

คนขับรถหมดสติไปแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด

ในตอนนั้นเองนรมนก็หมดแรงลงอย่างกะทันหัน ชวนเซเกือบ จะล้มลงไป

กิจจาจับเธอไว้แน่น

นรมนมองกิจจาแล้วส่ายหน้าให้เขา ยื่นมือไปอุ้มเขาเดินฝ่า สายฝนไป

เธอไม่รู้วตนเองต้องไปที่ไหน แล้วก็ไม่รู้ว่าตนเองจะไปได้ไกล แค่ไหน แต่ตอนนี้เธอจะไม่ยอมให้ใครมารังแกกิจจาเด็ดขาด รถแล่นผ่านพวกเขาไปคันแล้วคนเล่า ส่วนรถคันที่จอดอยู่กลางถนนนั้นก็ไม่มีใครสนใจ และไม่มีใครอยากไปหาความยุ่ง

ยากวุ่นวาย

นรมนรู้สึกหนาวขึ้นเรื่อยๆ

เธออุ้มกิจจาไว้แน่น กิจจากเกาะเธอไว้แน่น ท่าทางพึ่งพากัน และกันของทั้งคู่นั้นทั้งสวยงามและน่าสงสาร

เมื่อรถแลนด์โรเวอร์ขับผ่านนรมนไป นรมนก็ฝืนไม่ไหวอีกต่อ ไปแล้วล้มลงบนพื้นทันที

ความเป็นแม่ทำให้เธอปกป้องกิจจาไว้ในอ้อมกอดอย่างไม่ทัน

รู้ตัว ทั้งร่างล้มลงโดยแหงนหน้าขึ้นไปทางท้องฟ้า รถแลนด์โรเวอร์ขับผ่านไปเล็กน้อยแล้วหยุดลง ก่อนจะถอย

กลับมา

เมื่อประตูรถเปิดออก รองเท้าส้นสูงสีแดงหยุดลงตรงหน้าของ

บรมน

นรมนรู้สึกเหมือนฝนหยุดตกกะทันหัน

เธอเงยหน้าขึ้นช้าๆ ก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย แต่ใบหน้าที่คุ้น เคยนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเกิดภาพหลอน

เธอยิ้มเล็กน้อย กอดกิจจาเอาไว้แน่นแล้วหมดสติไป

“นรมน!”

เจ้าของรองเท้าส้นสูงเรียกอย่างตกใจ รีบย่อตัวลงแล้วยื่นมือ มาแตะหน้าผากของนรมน คิดไม่ถึงว่าจะร้อนจนต้องตกใจ
“ทําไมถึงเป็นแบบนี้? คนขับรถ! รีบมาพาพวกเขาขึ้นรถไปโรง พยาบาล”

เจ้าของรองเท้าส้นสูงคือดมทิพย์นั่นเอง!

คนขับรถได้ยินคนทิพย์ตะโกนเรียก ก็รีบเข้ามาพานรมนกับ กิจจาขึ้นรถ

กิจจาจับมือนรมนไว้ตลอดไม่ยอมปล่อย

คมทิพย์มองพวกเขา อย่างไรก็ไม่กล้าเชื่อว่าทั้งหมดตรงหน้า ตอนนี้คือนรมนที่เธอคุ้นเคยมาก่อน

ทำไมเธอถึงไม่อยู่ที่ตระกูลโตเล็ก?

ทำไมถึงมาโผล่อยู่ที่นี่ได้?

แล้วยังสภาพจนตรอกถึงขนาดนี้ ตกอับถึงขนาดนี้

“กิจจา หนูดื่มน้ำร้อนนี่สักหน่อย เร็ว เดี๋ยวจะเป็นหวัด คมทิพย์รินน้ำร้อนจากเครื่องทำน้ำอุ่นในรถส่งให้กิจจา

กิจจากลับดูเหมือนไม่ได้ยิน เอาแต่มองนรมน ไม่สนใจอะไร

กับโลกภายนอก

คมทิพย์ชะงักค้างไปทั้งร่าง

ในที่สุดเธอก็เห็นความผิดปกติของกิจจา

“กิจจา ฉันคือป้าคมทิพย์ หนูรู้จักฉันใช่ไหม? มา เด็กดี พวก เราดื่มน้ำกันสักหน่อยดีไหม?
แต่กิจจาก็ไม่มีท่าทีตอบสนองอะไร สายตาของเขาราวกับ หยุดอยู่ที่ตัวของนรมน

คมทิพย์รู้สึกแย่เล็กน้อยขึ้นมาทันที

บริศ ทําบ้าอะไรอยู่?

คิดไม่ถึงว่า ในวันฝนตกหนักยังให้นมนพากิจจามาตกระก๋า ลำบาก ปรากฏตัวบนถนนสายเล็กๆ ในเมืองแบบนี้ เขาทำอะไร อยู่กันแน่?

คมทิพย์คิด โทรหาพฤกษ์แล้ว แต่คิดไปคิดมาก็ถอดใจ นรมนกับกิจจาปรากฏตัวที่นี่ตามลำพัง ต้องไม่ใช่เรื่อง ธรรมดาแน่

“รีบไปโรงพยาบาล! เร็วเข้า!”

คมทิพย์ตะโกนอย่างร้อนรน

คนขับรถเอ่ยอย่างลำบากใจ “คุณหนู ถ้าเร่งความเร็วเกิด กําหนดจะถูกหักคะแนน!”

“หักก็หัก ตระกูลเจริญไชยของเราจะให้ใบขับขี่นายไม่ได้นั้น เหรอ? ถ้าเกิดเรื่องฉันรับผิดชอบเอง รีบไปเถอะ

เมื่อคมทิพย์พูดคำนั้นออกไป ในที่สุดคนขับก็มีความมั่นใจ แล้ว เหยียบคันเร่งขับไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว

หลังจากถึงโรงพยาบาลแล้ว คุมทิพย์และหมอก็ส่งนรมนกับ

กิจจาเข้าไป
เมื่อหมอตรวจเสร็จแล้วก็พูดอย่างตำหนิเล็กน้อย “เกิดอะไร น? คนไข้ได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนั้น หลังติดเชื้อไปหมดแล้ว ทำไมถึงพึ่งส่งมา?”

“หลัง? หลังทำไมล่ะ?

หัวใจของคนทิพย์กระดอนขึ้นมาถึงคอทันที

หมอเห็นท่าทางของคมทิพย์แล้วจึงอดไม่ได้ที่จะถาม “คุณไม่ ทราบเหรอ?”

“ถ้ารู้ฉันจะถามคุณทำไม? ฉันบังเอิญเจอเธอกลางฝนตกหนัก เธอเป็นอะไรกันแน่?

“อย่างนี้นี่เอง คุณคมทิพย์ หลังของคนไข้น่าจะโดนน้ำร้อน ลวกมาสาหัสมาก แต่กลับไม่ได้รักษา แผลพุพองใหญ่มาก ตอน นี้ยังเปียกโชกจากการโดนน้ำฝน แผลเกิดการติดเชื้อรุนแรงดัง นั้นเลยไข้ขึ้นสูง ผมอยากบอกคุณคมทิพย์ไว้ล่วงหน้าก่อน แม้ว่า

ไข้ของผู้ป่วยจะลดลงแต่อาจจะต้องผ่าตัดปลูกถ่ายผิวหนัง

“ปลูกถ่ายผิวหนัง?”

คมทิพย์เกือบจะยืนไม่อยู่

“คุณหมอ คุณกำลังบอกว่าแผลเธอไม่ได้รับการจัดการมา ก่อน?”

“น่าจะไม่ได้จัดการมาก่อน ถ้าหากจัดการแล้วก็ไม่น่าจะเป็น สภาพนี้ ยังมีมือซ้ายของเธอที่กระดูกหัก ก็ไม่ได้ตามไว้ ผมทำ แผลให้แล้ว แต่เพราะปล่อยไว้นานเกินไป แม้ว่าภายหลังจะดีขึ้นมือซ้ายก็ใช้ยกของหนักไม่ได้แล้ว ตอนฝนตกอากาศเย็นก็จะ ปวดขึ้นมาได้

เมื่อได้ยินหมอพูดแบบนี้ มือของคนทิพย์ก็กำแน่น

ถ้าตอนนี้บุริศร์อยู่ตรงหน้าเธอล่ะก็ เธอต้องฆ่าเขาแน่ๆ! แน่ๆ!

“บนตัวเธอยังมีโรคอื่นอีกไหม?”

“ตอนนี้น่าจะไม่มีแล้ว พวกเราเอกซเรย์ให้เธอแล้ว นอกจาก แขนกับแผลที่หลังน่าจะไม่แผลอื่นอีกแล้ว ไข้ของเธอสูงก็เป็น สาเหตุจากแผลติดเชื้อ คุณคมทิพย์ คุณต้องการให้รักษาอย่างไร ตอ?”

“แบบไหนดีก็รักษาแบบนั้น เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดคุณไม่ต้อง เป็นห่วง”

คําพูดของคนทิพย์ทำให้หมอพยักหน้า

ทันใดนั้นคมทิพย์ก็นึกถึงกิจจาขึ้นมา “ใช่สิ เด็กคนนั้น……….

“อ้อ เด็กคนนั้นไม่ได้เป็นอะไร ร่างกายแข็งแรงดี แต่ว่าสภาพ จิตใจไม่ค่อยดี ถ้าหากผมมองไม่ผิดล่ะก็ น่าจะเป็นออทิสติก แต่ ว่าผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ถ้าคุณคมทิพย์อยากรู้อย่าง ละเอียด ก็ส่งเขาไปตรวจที่แผนกจิตเวชดีกว่า”

คำพูดของหมอทำให้คมทิพย์ชะงักไปทั้งร่าง
“หมอพูดว่าอะไรนะ? ออกทิสติก?”

“น่าจะใช่ เขาปิดกั้นจากโลกภายนอกโดนอัตโนมัติ ใช้ชีวิต ในโลกของตัวเอง นอกจากความยินยอมของเขาเองถึงจะให้คน อื่นเข้าไปในโลกของเขาได้ ผมคิดว่าคนไข้คนนั้นอาจจะเป็นคนที่ เขาสนใจที่สุด เพราะทุกครั้งที่เธอขยับเด็กคนนั้นถึงจะให้ความ สนใจ แต่กับสิ่งที่เราพูดหรือท่า เด็กคนนั้นไม่ได้สังเกตเห็นเลย

หมอบอกสิ่งที่ตัวเองเห็นทั้งหมดกับคมทิพย์

คมทิพย์รู้สึกว่าไฟโทสะอัดแน่นอยู่เต็มอกของเธอ เธออยากจะ ระเบิดจริงๆ

ทําไมถึงเป็นแบบนี้?

เธอจากนรมนมานานเท่าไหร่เอง? ทําไมถึงกลายเป็นสภาพนี้ไปแล้ว? ตระกูลโตเล็กไม่ใช่ว่าดีหรอกเหรอ? เธอไม่เชื่อว่าบุริศร์จะจัดการกับตรินท์แค่คนเดียวไม่ได้ หรือว่าบุริศร์ลงมือกับนรมนอย่างโหดร้ายเพื่อตรินท์

การคาดเดานี้แวบขึ้นมา ในความคิดของคมทิพย์ ก็ถูกเธอล้ม เลิกไป

ไม่!

ความรู้สึกที่บุริศร์มีต่อนรมนเธอเห็นอยู่กับตา บุริศร์ไม่ เหี้ยมโหดกับนรมนแบบนี้แน่
แล้วใครกันทีทำกับนรมนแบบนี้?

ครินทเหรอ?

คมทิพย์กำมือเข้าหากันแน่น

เธอไม่ปล่อยคนคนนั้นไปแน่! ไม่ปล่อยแน่ๆ

ในตอนนั้นเอง เธอก็รู้สึกว่ามือของนรมนขยับ

“นรมน ฉันเอง ฉันคมทิพย์ เธอได้ยินที่ฉันพูดไหม?”

คมทิพย์จับมือนรมนไว้แน่น

นรมนราวกับกําลังฝันร้าย ดิ้นรนอ้าปากตะโกน แต่กลับไม่มี

เสียงอะไรเล็ดลอดออกมา สีหน้าท่าทางเธอเจ็บปวดมาก สองมือปัดป่ายไปมาอย่างไม่รู้

สึกตัว น้ำตาไหลจากหางตาลงบนแก้ม น่าเสียดายที่ปากของเธอ

อ้าๆ หุบๆ แต่กลับไม่มีเสียงเลยแม้แต่น้อย

คมทิพย์ยืนอยู่ตรงนั้นราวกับโดนสายฟ้าฟาด สติไม่กลับมา อยู่นาน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ