แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 876 เธอต้องปฏิบัติต่อเขาให้ดี



บทที่ 876 เธอต้องปฏิบัติต่อเขาให้ดี

“คุณหมอ พวกเขาเป็นอย่างไรบ้างคะ?

นรมนรู้สึกว่าเสียงของตนเองสั่นไหว จนแม้แต่ไม่รู้ว่าจะเก็บ สองมือไว้ที่ไหน

คุณหมอมองนรมนและบุริศร์ กล่าวเสียวเบาว่า “คุณหนูไม่ ได้รับบาดเจ็บมาก เพียงแค่กระทบกระเทือนเล็กน้อย คนที่ อาการน่าเป็นห่วงคือคุณชายกิจจา บริเวณทรวงอกได้รับการ กระแทกอย่างรุนแรง เกรงว่าหลังจากนี้จะไม่สามารถออกกำลัง กายหนัก ๆ ได้ ปัญหานี้ต้องระวัง ปอดของเขามีรอย และมี เลือดคั่ง ต้องพักในโรงพยาบาลติดตามดูอาการ ผลที่จะตามมา พวกเราไม่กล้ารับประกัน พูดได้เพียงพวกเราจะพยายามสุด ความสามารถ”

นรมนแทบจะล้มทั้งยืน

“ทำไมกิจจาถึงได้บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้? ”

คุณหมอมองหน้านรมน ถอนหายใจและพูดออกมา “อวัยวะ ในร่างกายของเด็กค่อนข้างเปราะบาง พวกเราดูฟิล์มเอกซเรย์ แล้ว คุณชายกิจจาน่าจะได้รับการกระแทกรุนแรงอย่างต่อ เนื่องจากด้านนอกจึงกลายเป็นเช่นนี้ ทรวงอกและปอดได้รับ ความเสียหายอย่างมาก น่าจะมีเกิดจากการเตะของคน จุดนี้ผม คิดว่าพวกคุณควรแจ้งความ เพียงแต่ผมยังมีอีกเรื่องที่ต้องพูด หลังจากนี้ถ้าคุณชายกิจจาต้องการเข้าร่วมการออกกำลังกายที่ค่อนข้างหนักจะไม่สามารถทำได้

ดวงตาของบริศ เอาแต่จมดิ่ง จนแม้แต่เห็นได้ชัดเจนว่า ใบหน้าบึ้งตึง ทำให้คุณหมอไม่กล้าสบตาด้วย

“ประธานบริศร พวกเราพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ถ้าคุณยังไม่วางใจ สามารถให้คุณชายกิจจาย้ายโรง พยาบาลได้นะครับ ผมรู้ว่าคุณรู้จักคุณหมอป้องกับผู้อำนวยการ โพน บางทีทางฝั่งพวกเขาอาจจะมีแผนรับมือที่ดีก็ได้”

ในเวลานี้ ถ้าคุณหมอสามารถบอกปัดออกไปข้างนอกได้ก็จะ ต้องพยายามบอกปัดออกไป เพราะพวกเขาแบกรับความรับผิด ชอบนี้ไม่ไหว

บริศพยักหน้า เริ่มย้ายโรงพยาบาลทันที

กิจจากับกมลย้ายมาที่โรงพยาบาลทหารของโพน หลังจาก ตรวจดู ข้อวินิจฉัยของโพนี่กับป้องไม่ต่างอะไรกับคุณหมอมาก

“นรมน ฉันรู้ว่าเธอรักและสงสารกิจจามาก เรื่องนี้น่าเกลียดชัง จริง ๆ แต่ดูเหมือนตอนนี้ พวกเราก็ไม่มีความสามารถเพียงพอ บอกได้เพียงว่าต่อจากนี้จะรักษาให้ดี ส่วนจะรักษาจนเป็น อย่างไรนั้นพวกเราก็บอกไม่ได้ ช่วงนี้อย่าให้เขาร่วมการออก กำลังกายที่ต้องใช้แรงค่อนข้างหนัก ทั้งนี้เพื่อตัวของเด็ก

ถึงตอนนี้ นรมนหงุดหงิดจนอยากจะฆ่าตัวตาย ทำไมถึงปล่อย ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับกิจจา

เด็กคนนี้น่าสงสารเหลือเกิน
เธอรู้สึกอึดอัดใจอย่างเป็นทุกข์

บริศ ตบไหล่ของนรมน กล่าวปลอบโยนว่า “ผมเองก็ผิด ผมไม่ได้ดูแลพวกเขาให้ดี คุณวางใจนะ หลังจากนี้ผมจะมอบ บริษัท วยกรุ๊ปจํากัด ให้กิจจา ส่วนกานต์ให้เขาไปพัฒนาเขต ทหาร พวกเราติดค้างเด็กคนนี้มากเกินไป ผมคิดว่ากิจจาช่วย กมลจนกลายเป็นแบบนี้

สําหรับการตัดสินใจของบริศ นรมนไม่มีความเห็นขัดแย้งใด ๆ ถ้าสามารถใช้เงินเพื่อให้เวลาย้อนกลับมาได้ ทำให้กิจจาไม่ ต้องได้รับความทุกข์ทรมานเช่นนี้ นรมนยินดีที่จะทิ้งทรัพย์สิน ของครอบครัวจบหมดสิ้นเพื่อดึงกิจจากลับมา น่าเสียดายบน โลกใบนี้ไม่สามารถย้อนเวลาได้

กิจจาถูกนำตัวเข้าห้องไอซียู กลัวว่าเขาฟื้นขึ้นมาแล้วจะเป็น ห่วงกมล นรมนจึงพากมลเข้าไป

กมลได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก ในไม่ช้าจึงฟื้นขึ้นมา เมื่อมอง เห็นกิจจา เธอกอดนรมนร้องไห้โฮ

“หม่า ไอ้คนขับรถที่ชั่วร้ายคนนั้นมันเอาแต่เตะพี่กิจจา พี่ กิจจาไอเป็นเลือดมันก็ยังเตะ หนูวิ่งไปกัดมัน มันเลยโยนหนูลง เนิน หม่ามี้ พี่กิจจาเป็นอย่างไรบ้างคะ? อาการน่าเป็นห่วง ไหม? ”

ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ นัยน์ตาของนรมนเยือกเย็น

“คนขับรถคนนั้นเตะกิจจา? ”
“ค่ะ พี่กิจจาปกป้องหนู”

นัยน์ตาของบริศ เยือกเย็นจนน่ากลัว ทำเอากมลตกใจหมด

“พวกลูกออกไปทําอะไร? อยู่ในบ้านดี ๆ ออกไปไม่บอก คนในบ้าน? โตขนาดนี้ยังไม่ตระหนักถึงความคับขันสักนิด ถ้า ไม่ใช่เพราะปกป้องลูก กิจจาจะเป็นแบบนี้ไหม? ”

สายตาตำหนิของบุริศร์ทำให้กมลตกใจร้องไห้ออกมาเงียบ ๆ “เอาเถอะ อย่าทําให้ลูกตกใจกลัวสิ

นรมนทนเห็นกมลร้องไห้ไม่ได้ ตอนนี้กิจจาเป็นเช่นนี้เธอก็ทุกข์

“กมล บอกหม่ามมา ทำไมต้องแอบออกไปจากบ้านกับ กิจจา? พวกลูกออกไปทำอะไรกัน?

กมลมองบุริศร์ และมองนรมนอีกครั้งด้วยท่าทางลังเล

“ไม่เป็นไรนะ มีหม่ามีอยู่ด้วย เพียงแค่ลูกพูดออกมา ไม่ว่า ใครก็ไม่กล้าทําอะไรลูก”

“รวมถึงแด๊ดดี้ด้วยไหม? ”

กมลมองบุริศร์อย่างขี้ขลาด

นโมนพยักหน้า

“ใช่ รวมทั้งแด๊ดดี้ ไม่มีใครทำอะไรลูกได้ เด็กดี บอกหม่ามมา พวกลูกออกไปทําอะไร? ”
กมลเล่นแง่อยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงตอบเสียงเบา “พวกเราจะ ไปหาอาป้องค่ะ”

“หาอาป้อง? เป็นอะไรไป? พวกลูกไม่สบายตรงไหนหรือ

เปล่า? ”

นรมนตึงเครียดขึ้นมาทันที

กมลรีบส่ายหน้าไปมา สายตาเอาแต่จ้องมองบุริศร์ ลังเลอยู่ พักหนึ่งจึงกล่าวว่า : “พวกหนูเห็นว่าแดด ป่วย จึงอยากให้อา ป้องรักษาให้แด๊ดดี้”

“คุณป่วยเหรอ?

นรมนมองไปทางบริศร์อย่างร้อนใจ

บริศ ทําหน้างง

“ตัวผมเองยังไม่รู้ว่าผมป่วยตั้งแต่เมื่อไหร่เลย”

“แด๊ดดี้เป็นโรคจิตเภท

ถึงแม้เสียงของกมลจะเบา แต่ภายในห้องที่เงียบจึงทำให้คน

ได้ยินชัดเจน

ดวงตาที่ร้อนผ่าวของนรมนกับบุริศร์เบิกกว้างขึ้น

“โรคอะไรนะ? ”

“โรคจิตเภท หนูอ่านเจอในหนังสือของพี่กิจจา กิจจาก็บอกว่า เมื่อเช้าตอนที่แด๊ดดี้ทะเลาะกับหม่ามรุนแรงมาก พอตอนเที่ยง กลับมาก็ท่าทางเปลี่ยนไป นี่คือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของโรคจิตเภท พี่กิจจาบอกว่าถ้าไม่รักษา หลังจากอาการร้ายแรง แด๊ดดี้จะเจ็บปวดทรมานมาก จะกระทบกระเทือนมาถึงพวกเรา จนแม้แต่ถูกตี ดังนั้นพวกเราจึงอยากไปหาอาป้องเพื่อให้มา รักษาแด๊ดดี้”

คำพูดของกมลทำให้นรมนกับบุริศร์อึ้งไปทันที หลังจากนั้นนร มนก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูก แต่บุริศร์กลับกลุ้มใจ

“เมื่อเช้าคนนั้นไม่ใช่แด๊ดดี้ และแด๊ดดี้ก็ไม่ได้เป็นโรคจิตเภท อะไรนั่น พวกลูกเลอะเทอะอะไรกันเนี่ย?

บริศร์ไม่ค่อยเข้าใจว่าตอนนี้ในสมองของเด็กแท้จริงแล้วคิด อะไรอยู่

โรคจิตเภท?

ตอนเขาเป็นเด็กยังไม่รู้เลยว่าคำนี้หมายความว่าอะไร

ทันใดนั้นเอง บุริศร์ก็นึกถึงสถานะของกิจจา เขาคือลูกศิษย์ โดยเฉพาะของมิลิน ช่วงนี้มิลินได้สอนความรู้ทางการแพทย์ให้ แก่กิจจาตลอด เขาเองก็ไม่ได้ขัดขวาง คิดไม่ถึงว่าตนเองจะกลับ กลายเป็นเป้าหมายงานวิจัยของพวกเขา

นรมนก็มองกมลอย่างกลุ้มใจ

“กมล ต่อจากนี้ไม่ว่าจะสงสัยอะไร ต้องถามผู้ใหญ่ก่อนเข้าใจ ไหม? ลูกดูเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้สิ ถ้าพวกลูกถามผู้ใหญ่ก่อนจะ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นไหม? และพวกลูกจะออกไปทำไม? โทรหาอา ป้องก็ได้ไม่ใช่เหรอ? อีกอย่าง พวกลูกออกไปข้างนอกทำไมถึงไม่บอกคนในบ้านสักหน่อย? ไม่ว่าแอ๊ดดี้จะป่วยหรือไม่ป่วย ใน ใจของเขา ลูกกับพี่กิจจา และพี่ชายของลูกก็คือคนสำคัญในใจ ถึงแม้เขาจะทำร้ายตัวเองก็จะไม่มีทางทำร้ายลูก เข้าใจไหม?

“ค่ะ เข้าใจแล้ว หม่ามี้หนูผิดไปแล้ว”

กมลรีบก้มหน้าลง ร้องไห้อย่างเสียใจ

“พี่กิจจาจะทำอย่างไรดี? อาการของเขาร้ายแรงมากไหม? ท่าไมถึงยังไม่ฟื้นขึ้นมาอีก? ”

เห็นท่าทางเช่นนี้ของกมล ใครจะยังแข็งใจต่อว่าเธอได้อีก?

บริศร์ถอนหายใจและกล่าวว่า “กมล ลูกต้องจำเอาไว้ พี่ กิจจาทำเพื่อลูกจนกลายเป็นแบบนี้ หลังจากนี้ไม่ว่าพี่กิจจาจะ เปลี่ยนไปอย่างไร ลูกต้องปฏิบัติต่อพี่เขาให้ดี ห้ามไม่เชื่อฟังคำ พูดของพี่กิจจา เข้าใจไหม? ”

“เข้าใจค่ะ”

หลังจากเข้าใจเรื่องราวชัดเจน บุริศร์กอดนรมนไว้ในอ้อมแขน เพื่อปลอบโยน

กิจจาฟื้นขึ้นมา

“กมล! ”

เขาลุกขึ้นมานั่งทันที กลับเป็นเพราะการเคลื่อนไหวที่มากเกิน ไปจึงไอออกมาอย่างรุนแรง ไอจนหน้าเขียว

“กิจจา ลูกอย่ารีบร้อนเกินไป กมลปลอดภัยดี”
นรมนรีบมาที่ด้านหลังเขาอย่างรวดเร็ว ตบหลังของเขาเบา ๆ ในที่สุดกิจจากหยุดไอลง รู้สึกแสบร้อนทรวงอกอย่างทรมาน “หม่ามี้ แด๊ดดี้ ขอโทษครับ ผมปกป้องน้องไม่ได้ ผม…….

“ลูกทำได้ดีแล้ว กิจจา ลูกคือสุภาพบุรุษตัวจริง เพราะมีลูก คอยปกป้อง กมลจึงไม่เป็นอะไรมาก เพียงแต่สภาพเช่นนี้ของลูก ทำให้แด๊ดดี้กับหม่ามเจ็บปวดใจแทบแย่ สัญญากับหม่ามีนะ ต่อ จากนี้ไม่ว่าจะเจอกับเรื่องอะไร อย่าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง ลูกก็ คือลูกชายของพวกเรา ลูกบาดเจ็บจนกลายเป็นแบบนี้ ลูกรู้ไหม ว่าหม่ามทุกข์ใจมากแค่ไหน? ”

นรมน าตาคลอ

ทันใดนั้นกิจจาก็รู้สึกว่าไม่ได้เจ็บหน้าอกมากขนาดนั้น

เขาแสยะปากยิ้มและกล่าวว่า : “หม่า ไม่เป็นไรครับ ต่อ จากนี้ผมจะออกกำลังกายให้หนักขึ้น ผมจะเรียนรู้ทักษะเพื่อ ปกป้องน้องสาวและน้องชายของผม

ประโยคนี้แทงเข้าไปที่ต่อมน้ำตาของนรมนโดยตรง น้ำตา ของเธอไหลอาบแก้ม

“ต่อจากนี้ไม่ต้องออกกำลังกายให้หนักขนาดนั้นแล้ว ให้กมล

ฝึกฝนให้ดี แล้วมาปกป้องลูกแทน

“ให้น้องสาวมาปกป้องพี่ชายได้ซะที่ไหน? หม่า ผมไม่ เป็นไร รอผมหายดีก็สามารถฝึกฝนได้เหมือนเดิม
กิจจาตบหน้าอกรับรอง กลับไอออกมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง

บริศ เห็นนรมนโทษตัวเองจนอึดอัดแทบแย่แล้ว จึงรีบพูดกับ กิจจาว่า “เอาล่ะ รอลูกหายดีก่อนแล้วค่อยว่ากัน อีกสักพัก ธิดาก็มาแล้ว ให้เธอดูแลพวกลูกทั้งสองคน แด๊ดดี้กับหม่ามีขอ ไปจัดการธุระก่อนนะ”

“แด๊ดดี้ พวกแด๊ดดี้จะไปจัดการคนขับรถคนนั้นใช่ไหม ครับ?

กิจจาผ่านเรื่องราวมามากมาย จึงไม่ใช่เด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไร บุริศร์ก็ไม่ได้ปิดบังเขา เห็นเขาถามเช่นนี้ จึงพยักหน้าทันที

“ใช่ ลูกมีอะไรอยากพูดไหม? ”

กิจจามองบุริศร์ คิดอยู่พักหนึ่ง จึงกล่าวอย่างไม่ค่อยมั่นใจ “ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองตาลายหรือเปล่า เหมือนผมจะเห็นรอยสัก บนแขนของคนนั้น”

“รอยสัก?

บุริศร์กลับไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก

“ยังจำได้ไหมว่าสักเป็นรูปอะไร? ”

“จําได้ครับ เป็นรูปดอกป๊อปปี้ ผมเคยเห็นดอกไม้นี้ในวิชา แพทย์ ดังนั้นจึงจำได้ขึ้นใจ แด๊ดดี้ ผมคิดว่าเขาไม่ใช่คนขับ แท็กซี่ออนไลน์ธรรมดา ๆ อาณาเขตของพวกเราคือสถานที่อะไร ทั้งเมืองชลธีไม่มีใครไม่รู้ พวกเราเด็กที่นี่ร่ำรวยและมีคนนับถือน้อยมากที่จะมีคนกล้าสนใจพวกเรา และก็เป็นสถานที่ที่พวกเรา วางใจ แต่หลังจากที่ผมบอกว่าพวกเราเป็นคนที่เขายั่วยไม่ได้ เขายังคงไม่แยแส แถมเขายังพูดว่าเขาจะเอาผมกับกมลไปขาย ข้างนอก ผมไม่ชอบสายตาที่เขามองกมลเลย เหมือนกับหมาป่า หิวโหย ตอนนี้มาคิดดู ดูเหมือนเขาจะพุ่งเป้าไปที่กมลตั้งแต่แรก”

หลังจากกิจจาสะสางทั้งหมด จึงเล่าให้บริศร์ฟังเป็นลำดับ ทำให้หัวคิ้วของบุริศร์กับนรมนขมวดขึ้นมาทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ