แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1001 คนตายเป็นใคร



บทที่ 1001 คนตายเป็นใคร

บุริศร์ยิ้มขมขื่น เป็นเหยี่ยวมาทั้งชีวิต คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะพลาดท่า

เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ บุริศร์ก็ไม่หลบหนี กลับหยิบบุหรี่ ขึ้นมาจุดไฟ

เมื่อประตูเปิดออก บุริศร์ก็สูบบุหรี่ไปได้สักพักแล้ว

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายก็ไม่คิดว่าจะเจอบุริศร์ เพียงแต่ตำรวจที่ ตามหลังมา รู้สึกแปลกใจไม่น้อย

“ประธานบริศร์? ”

“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ”

บริศร์ยังคงถามออกไปโดยไม่รู้ตัว

ตำรวจตอบเสียงเบาว่า “มีคนแจ้งความว่าที่นี่มีคนก่อคดี ฆาตกรรม พวกเราจึงมาตรวจสอบ”

“อืม ตรวจสอบเถอะ”

บุริศร์ก็ไม่ได้พูดอะไร

อีกฝ่ายสำรวจลมหายใจของซินดี้ จากนั้นคิ้วขมวดยิ่งขึ้น

“ประธานบริศร์ เกรงว่าคุณต้องไปกับพวกเรา
บุรีศร์ให้ความร่วมมือเต็มที่

เขากล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น” ต้องใส่กุญแจมือไหม?

” ไม่ต้องครับ พวกเรารู้จักนิสัยของประธานบริศร์”

ตำรวจพาตัวบุริศร์ไป

ด้านนอกมีนักข่าวอยู่เต็มไปหมด เมื่อเห็นบริศร์ออกมากับ ตำรวจก็รีบเข้ามาหา

“ประธานบริศร์ ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ? คุณกับผู้ตาย มีความแค้นอะไรกัน? ”

“ประธานบริศร์ ไม่ทราบว่าคุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ? ตอนมา ถึงผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ไหมคะ? ”

คําถามที่ดุเดือดเป็นชุดถาโถมเข้าใส่

บริศ เพียงแค่หัวเราะอย่างเย็นชา

เขาเพียงแค่เพิ่งจะเข้าไปเท่านั้น ซินดี้ก็ตายแล้ว จากนั้นนัก ข่าวก็รออยู่ข้างนอก ถ้าบอกว่านี้ไม่มีคนวางแผนอยู่เบื้องหลัง ไม่ ว่าอย่างไรเขาก็ไม่เชื่อ

ยังถือว่าตำรวจมีจรรยาบรรณ ขวางนักข่าวเอาไว้ทันที

“ขอโทษนะครับ ตอนนี้รายละเอียดยังไม่ชัดเจน ยังไม่ สามารถให้การสัมภาษณ์ได้ชั่วคราว ขอบคุณครับ”

พูดจบตำรวจก็พาบุริศร์เดินไป
นรมนรอบรีส กลับมา จนรอไม่ไหว โทรหามือถือของเขาก็ปิด เครื่อง จึงรู้สึกไม่สบายใจทันที

บุริศร์คนนี้ นี่มันหมายความว่าอะไรเนี่ย!

คมทิพย์รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับบุริศร์ ตอนนี้กระวนกระวายใจ ถ้านรมนรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับบริศร์ เธอจะใจร้อนออกไปหรือ เปล่า?

คิดถึงบาดแผลบนร่างกายของนรมน คมทิพย์ปวดหัวสุด ๆ

“เป็นอะไรไป ดูเหมือนเธอมีเรื่องปิดบังฉันเลย? ”

นรมนไม่ได้เพิ่งจะอยู่กับคุมทิพย์วันสองวัน ตอนนี้มองเห็น ท่าทางลุกลี้ลุกลนของคมทิพย์ จึงอดเอ่ยถามไม่ได้

“มีไหม? ”

คมทิพย์พยายามทำให้ตนเองสงบลง แต่ก็ทำไม่ได้ เธอมอง

เห็นใบหน้าของนรมนก็นึกถึงบุริศร์

“ฉันจะออกไปข้างนอก

“ไปทําอะไร? ”

“เข้าห้องน้ำ”

คมทิพย์หาข้ออ้างที่ไม่อาจแย่ไปกว่านี้และวิ่งออกไป

นรมนกลับไม่คิดอะไรมาก คิดว่าคมทิพย์มีธุระส่วนตัว เธอไม่ อยากพูดก็ไม่ต้องพูด ไม่ช้าก็เร็วตนเองก็จะรู้
เธอหยิบโน๊ตบุ๊คออกมาเริ่มทำงาน ผลงานช่วงนี้ของบริษัทภาพยนตร์ถือว่าไม่เลว

เด็กหน้าใหม่สองสามคนต่างได้เป็นแบรนด์แอมบาสเตอร์และ มีละครเป็นของตัวเอง ถึงแม้จะไม่ได้โด่งดังมาก แต่ก็พัฒนาไป ในทางที่ดี

นรมนส่งข้อความหาพริมา

“ช่วงนี้ลองดูหน่อย ถ้ามีผู้จัดการส่วนตัวที่เหมาะสมก็รับสมัคร มาอีกสองคน ไม่อย่างนั้นคุณคนเดียวคงรับไม่ไหว

“ค่ะ”

พริมาตอบอย่างว่องไว

“ประธานนรมน ฉันคิดว่าตอนนี้บริษัทของพวกเรายังเล็กเกิน ไป การหาผู้จัดการส่วนตัวที่มีประสบการณ์ คนอื่นคงไม่อยากมา ทํา พวกเราฝึกอบรมจากคนใหม่น่าจะดีกว่านะคะ

สําหรับคําแนะนํา ของพริมา นรมนเห็นด้วย

“ได้ ตามใจคุณเลย ตราบใดที่คุณคิดว่าดีก็สามารถเสนอมา ให้พวกเราร่วมกันหารือ

“ขอบคุณค่ะ”

พริมารู้สึกซาบซึ้งกับการมอบอำนาจของนรมนมาก

นรมนถามคำถามอื่น ๆ เกี่ยวกับบริษัทต่อ สุดท้ายจึงตัดสินใจ

ว่าต้องมีภาพลักษณ์ถึงจะดูดี
นั่นหมายความว่าเธอจำเป็นต้องจ่ายราคามหาศาลเพื่อเซ็น สัญญากับดาราแถวหน้าในเมือง

นรมนอดนึกถึงราเชนไม่ได้

เธอส่ายหน้าทันที

ราเชนแค่มองก็รู้ว่ามีแผนกับตนเอง ถ้าตอนนี้ตนเองเซ็น สัญญากับราเชน หลังจากนี้จะต้องมีเรื่องยุ่งยากไม่น้อยแน่นอน

คิดถึงตรงนี้ นรมนจึงปฏิเสธความคิดนี้

เมื่อพริมารู้ว่าเธอต้องการเซ็นสัญญากับดาราแถวหน้า ก็ค่อน ข้างลังเล

“ประธานนรมน ยังไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้บริษัทของพวกเรายัง เล็ก ดาราแถวหน้าเหล่านั้นไม่ใช่ว่าจะกลับมาเสมอไป และถึงแม้ จะกลับมา พวกเราก็อาจจะไม่สามารถจ่ายค่าตัวให้พวกเขาได้

นี่คือความจริง

นรมนถอนหายใจเบา ๆ

“เอาเถอะ เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกครั้ง”

“อืม โอเคค่ะ”

พริมาเห็นนรมนไม่ได้โต้แย้ง ในใจก็ยิ่งรู้สึกซาบซึ้งต่อเธอ ยากนักที่จะได้เจอเจ้าของที่มีความคิดก้าวหน้าเช่นนี้ นรมนพูดจบก็ตัดสินจะจบการสนทนา แต่ทางฝั่งของพริมากลับนิ่งไปพักหนึ่งและกล่าวว่า “ประธานนรมน มีเรื่องหนึ่งไม่รู้ว่า ควรจะพูดกับคุณหรือเปล่า”

“เรื่องอะไรเหรอ?

พูดมาเถอะ”

นรมนคิดว่าเป็นเรื่องในที่ทำงาน จึงถามออกไปอย่างไม่ต้อง

คิด

พริมากลับไม่ได้พูดออกมาทันที แต่หยุดไปสักพักหนึ่ง นรมน ไม่ได้เร่งรัดเธอ

ผ่านไปประมาณหนึ่งนาที ในที่สุดพริมาก็พูดออกมา

“ประธานนรมน เกิดเรื่องขึ้นกับประธานบุริศร์”

“เรื่องอะไรเหรอ?

นรมนถามออกไปอย่างไม่รู้ตัว หลังจากถามเสร็จถึงจะนึกขึ้น มาได้ว่าประธานบริศร์ที่เธอพูดถึงคือบริศร์

เธออดรู้สึกตกใจไม่ได้

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ”

ลูกตา ของนรมนจมลงเล็กน้อย ฝ่ามือเหงื่อออกเล็กน้อย

นอกจากเขายังไม่กลับมาเป็นเวลานานแล้ว หรือว่าจะเกิดเรื่อง

ขึ้นจริง ?

นึกถึงมือถือของบุริศร์ที่ปกติจะไม่ปิดเครื่องอีกครั้ง ตอนนี้กลับ ไม่สามารถติดต่อได้ นรมนรู้สึกไม่สบายใจ
พริมาได้ยิน เสียงร้อนรนของนรมน จึงกล่าวว่า “ประธานบุรี ศรมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม

นรมน ใจหายทันที

คดีฆาตกรรม?

“ใช่แล้วค่ะ ไม่นานมานี้ ภายในร้านกาแฟตรงข้ามโรง พยาบาลมีผู้จัดการส่วนตัวคนหนึ่งเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุมีเพียง ประธานบริศร์ ทางฝั่งตำรวจได้นำตัวประธานบริศร์ไปแล้ว ตอน นี้สื่อมวลชนด้านนอกเริ่มออกอากาศ ข่าวด้านลบมีแนวโน้มปั่น ป่วน ฉันกลัวว่าหุ้นของบริษัทACกรุ๊ปจะตกลง

อย่างไรเสียพริมาก็เป็นคนที่มาจากบริษัทชัวยกรุ๊ปจำกัด

เดิมทีเธอเป็นคนของบุริศร์ ตอนนี้การคิดพิจารณาเพื่อบริษัท ฮัวยกรุ๊ปจำกัดก็สามารถเข้าใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริศร์ยัง เป็นสามีของนรมน

หัวคิ้วของนรมนขมวดเข้าหากันแน่น

คดีฆาตกรรม?

บุริศร์ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมได้อย่างไร?

หนังตาของนรมนกระตุก

เห็นได้ชัดว่าเป็นแผนการร้าย

อาจจะมีความเกี่ยวกับเรื่องของตนเอง มีความเป็นไปได้สูงว่า บุริศร์ได้รับผลกระทบได้ด้วย
ถ้าอีกฝ่ายพุ่งเป้ามาที่ตนเอง ที่พึ่งพิงหลักของเธอคือบุรีศร ตราบใดที่ดึงบุริศร์ที่พึ่งคนนี้ออกไป ก็จะจัดการกับเธออีกครั้งได้ อย่างง่ายดาย

ภายในระยะเวลาสั้น ๆ สมองของนรมนทำงานอย่างรวดเร็ว จากนั้นถามเสียงเบาว่า “ตอนนี้กรรมการบริหารของบริษัท AC กรุ๊ปมีท่าทีอย่างไรบ้าง? ”

“ยังไม่ชัดเจน แต่ฉันจะลองถามดูค่ะ”

ตอนแรกพรมายังกลัวว่านรมนจะตำหนิว่าตนเองตัวอยู่นี้แต่ใจ เอาแต่คิดถึงที่นั่น แต่ตอนนี้ได้ยินนรมนถามเช่นนี้ จึงค่อยโล่งใจ

“ถามเสร็จแล้วโทรหาฉันด้วยนะ

นรมนพูดเสร็จก็จบการสนทนาครั้งนี้

สีหน้าของเธอดูไม่ได้อย่างมาก

เมื่อสักครูลืมถามไปอย่างไม่คาดคิด ผู้จัดการส่วนตัวที่ตายคือ

ใคร?

ทำไมในใจของเธอจึงมีลางสังหรณ์ไม่ดี?

ในขณะที่กำลังคิด คมทิพย์ก็กลับมาจากข้างนอก เธอหลบ สายตา ยังคงไม่กล้ามองตานรมนเหมือนเดิม

นรมนมองเธอ กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ เธอกำลังปิดบังอะไรฉัน อยู่? ”

“เปล่า เปล่านะ”
คมทิพย์ฉีกยิ้ม เพียงแต่รอยยิ้มดูไม่เป็นธรรมชาติมาก ๆ ตอนนั้น มันไม่มีเวลาและไม่มีอารมณ์มาล้อเล่นกับเธอ “คนที่ตายเป็นใคร?

“หา อะไรนะ? ”

คมทิพย์นิ่งไปสักพัก เพียงแต่ใบหน้ากลับเปลี่ยนสี ในใจยิ่ง วิตกกังวล

นรมนก็ไม่ได้พูดอะไร เอาแต่จ้องมองเธอแบบนั้น เห็นว่าคม ทิพย์ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป จำใจยอมแพ้

“ก็ได้ ๆ รู้ว่ายังไงก็ปิดเธอไม่ได้ เธอดูการค้นหายอดนิยม ใน มือถือหรือยัง?

คมทิพย์คิดว่าตอนนี้เป็นยุคแห่งข่าวสารข้อมูล ตราบใดที่คน

มีมือถืออยู่ในมือ ก็ไม่มีทางที่จะไม่รู้เรื่องอะไร วันนั้นรมนไม่เคย

ออกไปข้างนอก ทําได้เพียงอ่านข่าวจากมือถือเท่านั้น

นรมนกลับชะงักไปเล็กน้อย เธอไม่ได้กดดูทางมือถือเลย

ตอนนี้ผมทิพย์พูดเช่นนี้ นรมนจึงรีบหยิบมือถือมากดดู

คมทิพย์เห็นเช่นนี้ จึงเกลียดความปากไวของตนเองอย่างห้าม ไม่ได้ เพียงแต่ตอนนี้พูดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์

นรมนอ่านข่าวตั้งแต่ต้นจนจบ สีหน้าดูไม่ได้อย่างยิ่ง
“นรมน เรื่องนี้เธอคิดว่ามันบังเอิญเกินไปไหม

“มีคนจงใจวางแผน คงจะไม่บังเอิญไปหรอก?

บรมนหัวเราะอย่างเยือกเย็น พลิกผ้าห่มออกทันที

“เธอจะทำอะไร? ”

คมทิพย์เห็นท่าทางของเธอ จึงอดเป็นห่วงไม่ได้

นรมนกลับตอบอย่างเย็นชา “ทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้ ฉัน ฉันจะกลับเมืองชลธี”

“เธอจะบ้าไปแล้วเหรอ? ร่างกายของเธอยังบาดเจ็บหนัก ขนาดนี้ ตอนนี้เธอกลับไปเมืองชลธีจะทำอะไรได้? ”

คมทิพย์รีบคัดค้าน

นรมนกล่าวอย่างเย็นชา “ฉันสามารถทำอะไรได้มากมาย ตอนนี้บริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดยุ่งวุ่นวาย พรุ่งนี้หุ้นจะตกลง พวก คณะกรรมการที่ไม่สบายใจเหล่านั้นยังไม่รู้ว่าจะฉวยโอกาสก่อ เรื่องอะไร บุริศร์ไม่อยู่ ฉันต้องปกป้องบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดให้ดี”

“เธออย่าล้อเล่นได้ไหม? ความจริงแล้วเธอสามารถเข้าแทรก แซงบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดได้เหรอ? นรมน ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงบุรี ศร์ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เธอจะใช้อารมณ์เข้าใจไหม?

คมทิพย์คิดว่านรมนจะต้องเป็นกังวลมากเกินไปแน่นอน จึง ไม่รู้ว่าตนเองกำลังพูดอะไร

บริษัทที่ใหญ่โตอย่างบริษัทฮัวกรุ๊ปจำกัด จะปล่อยให้นรมนเข้าไปแทรกแซงได้อย่างไร?

นรมนมองหน้าเธอ และกล่าวออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ฉันถือหุ้นอยู่ในบริษัทฮัวถูกรุ๊ปจำกัดสามสิบห้าเปอร์เซ็นต์ เธอ คิดว่าฉันไม่มีสิทธิ์พูดเหรอ? ”

“อะไรนะ?

ครั้งนี้กลายเป็นคนทิพย์ที่ตกตะลึง

เธอคิดไม่ถึงว่านรมนจะถือหุ้นมากขนาดนั้น!

นรมนกล่าวเบา ๆ “บุริศร์แบ่งหุ้นของเขาเองมาให้ฉัน ความ จริงแล้วกรรมการบริหารในตอนนี้ของบริษัทฮัวกรุ๊ปจํากัดคือ ฉันเอง บุริศร์เป็นเพียงแค่ซีอีโอเท่านั้น พูดให้เข้าใจคือ เขา ทํางานให้ฉัน”

“โอ้โห คิดไม่ถึงเลยว่าสามีของเธอจะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมด ให้เธอ? ”

คมทิพย์รู้ว่าบริศ ชอบนรมนมาก แต่ไม่คิดว่าเขาจะชอบขนาด

นรมนพยักหน้าและกล่าวว่า “อืม บุริศร์บอกว่าผู้ชายมีเงินแล้ว มักจะกลายเป็นคนนิสัยเสีย เพื่อไม่ให้กลายเป็นคนนิสัยเสีย ไม่ ทำให้ฉันกังวล จึงเอาเงินมาให้ฉัน และทำงานให้ฉันก็พอ เผื่อมี สักวันที่เขาคิดนอกใจ ฉันก็จะปล่อยให้เขาออกไปตัวเปล่า ออก ไปจากที่นี่”

คำพูดนี้เป็นของบุริศร์แน่นอน เพียงแต่หลังจากรู้เรื่องของบุริศร์กับกันยกาแล้ว นรมนก็ไม่ได้คิดถึงปัญหาเรื่องเงินโดยสิ้นเชิง ในเมื่อทั้งสองคนรักและแต่งงานกัน มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน

เลย

คมทิพย์ยังคงอยู่ในความตกใจ นรมนกลับรอไม่ได้แล้ว ก้าว เท้าออกไปข้างนอกทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ