แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 222 ถ้าพี่ลงมือไม่ได้ ผมทำเอง



บทที่ 222 ถ้าพี่ลงมือไม่ได้ ผมทำเอง

บุริศร์ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

เมื่อหันกลับมา พบกิจจายืนกอดอกอยู่ตรงนั้น มองเขาอย่างเยือกเย็น

“ไอ้เด็กแสบ แกมาทำอะไรตรงนี้ ? ”

บุริศร์รู้สึกว่าความน่าเกรงขามของตนเองหลาย ในปีที่ผ่านมาหายไปหมดสิ้น

กิจจาส่งเสียงออกทางจมูกอย่างเย็นชาและกล่าว ว่า : “หลังจากนี้ถ้าจะจูบกับหม่ามี้ กลับไปที่ห้องได้ ไหม ? หรือแต็ดดี้ไม่รู้ว่าพวกเรายังไม่มีใครบรรลุ นิติภาวะ ? ทำร้ายเด็กอย่างพวกเราแบบนี้จะดีหรือ ? ”

โดนกิจจาถามแบบนี้ บุริศร์ถึงกับพูดไม่ออก

ไอ้เด็กแสบ แกอยากโดนดีใช่ไหม ?”

เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว มองกิจจาอย่างดุร้าย

กิจจาตกใจรีบวิ่งหนีทันที เขาวิ่งไปพร้อมกับพูด ไปว่า : “แด๊ดดี้ใช้ความป่าเถื่อนกับพวกเรา แต่พวกเรา จะไม่ยอมก้มหัวให้ ! ต่อจากนี้ถ้าแด๊ดดี้กล้าจูบกับหม่ามี ต่อหน้าพวกเรา ผมจะถ่ายไปลงอินเตอร์เน็ต เหอะ ! ถึง ตอนนั้นดูสิว่าใครจะเป็นคนที่ขายหน้า ! ”

พูดจบเขาก็วิ่งหนีไปไม่กล้าอยู่ต่อ
บุริศร์รู้สึกว่าชีวิตของตนเองมีดมนไร้แสงสว่าง

เด็กแสบคนนี้จะถ่ายภาพเขาจูบกับนรมน ?

เขาช่างกล้าหาญจริงๆ

ทันใดนั้นบุริศร์ก็นึกถึงกานต์

ไอ้เด็กแสบคนนั้นไม่เพียงแค่ถ่ายวีดีโอเขา แต่ถึง ขนาดกล้านีใส่หน้า

อยู่ดีๆเขาก็คิดถึงกานต์สุดๆ

ลูกชายของเขา !

บุริศร์หยิบมือถือขึ้นมา กดหมายเลขที่อยู่ในความ ทรงจำลงไป

มีอยู่ช่วงหนึ่ง หมายเลขนี้ไม่มีผู้ใช้งาน ตอนนี้ กลับมีเสียงดังขึ้น หัวใจของบุริศร์เต้นรัวทันที

โทรศัพท์ดังอยู่นานมากแต่ไม่มีคนรับสาย

หัวใจที่เฝ้าคอยของบุริศร์ค่อยๆตกอยู่ในความคิด บางทีหมายเลขนี้อาจมีคนนำไปใช้แล้ว อาจเป็น คนอื่นที่ไม่รู้จักเขาเลย

ความรู้สึกสูญเสียที่ไม่เคยมีมาก่อนทำให้บุริศร์ รู้สึกเป็นทุกข์อย่างยิ่ง

เขานั่งอยู่บนม้านั่งริมทางเดิน ในสมองมีแต่ภาพ ของตรินท์เลือดอาบไปทั้งตัว

ร่างกายตกอยู่ในสภาพแบบนั้นจะยังมีชีวิตได้ อย่างไร ?
บางทีเรื่องที่ตรินท์ยังมีชีวิตอยู่อาจเป็นแค่คำ โกหกที่คุณนายโตเล็กปั้นเรื่องขึ้น เป็นเพียงคำโกหกที่ ทำให้เขากับนรมนสบายใจ

บุริศร์ยิ้มอย่างขมขื่น

ทันใดนั้น มือถือของเขาก็ดังขึ้น

บุริศร์มองดูหมายเลขที่คุ้นเคย เขารู้สึกดีใจแทบ

บ้า

จนเขาไม่รู้ว่าตนเองจะต้องปัดหน้าจอรับสาย อย่างไร หายใจถี่เป็นพิเศษ

ปลายสายไม่รีบร้อนพูด มือถือเชื่อมต่อกันแล้ว ความเงียบงันกลับไหลเวียนอยู่ระหว่างทั้งสองฝ่าย

บุริศร์กำลังคิดที่จะเอ่ยปากพูดขึ้น กลับรู้สึก เหมือนมีอะไรขวางกั้นลำคออยู่ เขาอ้าปาก กลับไม่มี เสียงออกมา

ในที่สุดปลายสายก็ถอนหายใจจากนั้นเสียงที่คุ้น เคยก็ดังขึ้น

“พี่

คำนี้หายไปนานกว่าห้าปี ดวงตาของบุริศร์มีน้ำ

เอ่อล้นออกมา

“ตรินท์ ? ”

“พี่ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”

เสียงของตรินท์ยังคมชัดเช่นเคย แต่กลับทำให้บุริศร์แสบจมูก

“นายมันไอ้เด็กแสบ เล่นแบบนี้มันไม่มากไป หน่อยหรือ ?”

บุริศร์ไม่อยากโมโห แต่แค่อ้าปากก็นึกไม่ถึงว่าจะ

ควบคุมไม่อยู่

“พี่ พี่อย่าตื่นเต้นแบบนี้สิ ไม่ช้าก็เร็วพวกเราต้อง ได้เจอกัน แม่น่าจะบอกพี่แล้ว”

“แม่ไม่บอกอะไรพี่เลย นายคงคิดจะไม่บอกพี่ไป ตลอดชีวิตใช่ไหม ?”

บุริศร์รู้สึกว่าตนเองเป็นพี่น้องกับตรินท์อย่างไร้ค่า

นึกไม่ถึงว่าจะหลบซ่อนเขาได้นานขนาดนี้ !

ตรินท์ไอกระแอมหนึ่งครั้งและตอบว่า : “เปล่านะ ผมแค่รอโอกาสที่เหมาะสมแล้วจะบอกพี่ ดูพี่สิ อายุป่าน นี้แล้ว ยังขี้โมโหอยู่อีก”

“ไปไกลๆเลย ! ”

ในขณะนี้เสียงของบุริศร์แหบแห้ง

ตรินท์กล่าวด้วยรอยยิ้ม : “พี่ พี่โทรหาฉันเพราะ อยากรู้เรื่องของกานต์ใช่ไหม ? ”

“นายยังมีหน้ามาพูดอีก ? แอบพากานต์ไป ไม่ บอกพี่สักคำ ส่งข้อความกลับมาก็ยังดี นายรู้บ้างไหม พี่ สะใภ้ของนายใกล้จะเป็นบ้าแล้ว !”

แค่นึกถึงตอนที่กานต์หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนรมนเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส บุริศร์โมโหจะตายอยู่แล้ว

ตรินท์ถูจมูกด้วยความไม่สบายใจและกล่าว ว่า : “ตอนที่ผมมาช่วยกานต์ เขาตกอยู่ในสภาพแย่มากๆ ร่างกายมีบาดแผลไปทั่ว เสียเลือดเยอะมาก และอยู่ใน อาการหมดสติ ผมทำได้เพียงช่วยชีวิตคนก่อน ส่วน อย่างอื่น เพราะสถานการณ์ปัจจุบันดึงเครียดเกินไป เกรงว่าจะแหวกหญ้าให้งู ตื่น ดังนั้นผมจึงทำได้เพียงแค่ รอ ตอนนี้พวกพี่ก็ไม่รู้หรือ ? ”

“กานต์เป็นอย่างไรบ้าง ?”

ได้ยินว่าลูกชายบาดเจ็บจนกลายเป็นเช่นนั้น บุริ ศร์รู้สึกกังวล

“ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้ว เพียงแต่ยังต้องพักฟื้น ผู้ หญิงคนนั้นก็อำมหิต ทำกระดูกซี่โครงของกานต์หักสอง ซี่ ตอนนี้ยังลงจากเตียงไม่ได้ จำเป็นต้องพักอยู่นิ่งๆ ดัง นั้นถ้าพี่สะใภ้ต้องการเจอกานต์ ยังคงต้องรอก่อน ผม เกรงว่าถ้าเธอมาเห็นสภาพของกานต์ตอนนี้คงจะ ร้องไห้”

คำพูดของตรินท์ก็ถือว่าจริง

“กานต์กระดูกซี่โครงหักสองซี่ ? ”

“อืม ! ”

ตรินท์พูดจบก็เงียบไป

ในเมื่อคนที่ทำให้กานต์บาดเจ็บคือเขมิกา และ ระหว่างเขากับเขมิกาก็มีความสัมพันธ์กัน
ถึงแม้ตอนนี้เขมิกาจะตายแล้ว แต่ไม่ได้ หมายความว่าทุกสิ่งที่เธอทำลงไปจะหายไปด้วย โดย เฉพาะอย่างยิ่งเด็กคนนี้คือหลานชายแท้ๆของเขา

“พี่ ผมขอโทษ”

เสียงของตรินท์มีความสะอึกสะอื้นและความรู้สึก

ผิด

บุริศร์รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร จึงเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม ต่ำว่า : “จะมาขอโทษพี่ทำไม ? นายไม่ใช่คนทำซะ หน่อย”

“แต่เธอเป็นผู้หญิงของผม”

“นายแน่ใจ?”

คำพูดของบุริศร์ทำให้ตรินท์เงียบไปอีกครั้ง

ถึงแม้เขมิกาจะคลอดลูกชายให้แก่เขา และเคยมี ความสัมพันธ์กับเขา แต่ตรินท์รู้ว่า คนที่เขมิกาชอบก็คือ บุริศร์ แต่ตอนนี้หัวข้อนี้ค่อนข้างน่าละอายใจ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเขมิกาตายไปแล้ว มีเรื่องมากมายที่เขาไม่อยาก เอ่ยถึงมัน

“พี่ พี่รู้เรื่องของแม่หรือยัง ?”

ตรินท์เปลี่ยนหัวข้อ

บุริศร์รู้สึกอึดอัดใจทันที

สองพี่น้องเงียบลงอีกครั้ง

ช่วงนี้บุริศร์รู้เรื่องของป้าโอมากเกินไป ทำให้เขายากที่จะจัดการ แต่เดิมความรู้สึกที่มีต่อป้าโอสลับซับ ซ้อนมาก ต่อมาหลังจากรู้เรื่องเลวร้ายมากมายที่เธอทำ ลงไปก็ตัดสินใจจะลงโทษเธอด้วยตนเอง น่าเสียดายที่ เธอเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของเขา

สถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนนี้ทำให้บุริศร์ไม่รู้ ว่าควรจะจัดการอย่างไร วันนี้ตรินท์ถามออกมา เขาเงียบ ไปสักพักและถามกลับไปว่า : “นายมีอะไรอยากพูดหรือ

เปล่า ?”

“เธอ หาเรื่องใส่ตัว”

ตรินท์พูดได้เพียงคำนี้ แต่กลับรู้สึกอึดอัดมาก

ไม่มีใครไม่สนใจเรื่องความสัมพันธ์ทางสายเลือด จริงๆ แต่บางครั้งมีบางสิ่งที่สามารถแสดงให้เห็นได้โดย ไม่ต้องมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด

“พี่ ถ้าพี่ลงมือไม่ได้ ผมทำเอง”

ในที่สุดตรินท์ก็พูดออกมา

มีอยู่หลายครั้ง บุริศร์รู้สึกว่าตรินท์มีความเป็นพี่ ชายมากกว่าเขา มักจะคอยระวังข้างหลังให้เขาโดยไม่รู้

ตัวเสมอ

เขาเอ่ยเสียงเบาว่า : “พี่ลงมือเองดีกว่า นายออก

มาไม่สะดวก”

“ก็ได้ ถ้าพี่ทำไม่ได้ ก็ส่งมาให้ผม”

“อืม พี่อยากรู้ว่า อาณาจักรรัตติกาลยังมีคุณอา ด้วยจริงหรือเปล่า ?”
พูดถึงเรื่องนี้ บุริศร์รู้สึกหดหูเล็กน้อย

สำหรับญาติคนนี้คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่รู้อะไรเลย หรือว่าเรื่องทั้งหมดนี้มีความเกี่ยวข้องกับเขา ?

ตรินท์กระแอมไอออกมาและตอบว่า : “นับว่าเป็น แบบนั้น ข้อมูลที่พวกเราตรวจสอบออกมาได้ ป้าโอเป็น

คนของคุณอา”

คำตอบนี้ทำให้บุริศร์พูดไม่ออกไปครึ่งวัน

คิดไม่ถึงว่าแม่ผู้ให้กำเนิดของเขาคือคนของคุณ อา กลับมีพวกเขากับพ่อของเขา นี่มันยุ่งเหยิงเกินไป แต่ก็น่าขันมากเช่นกัน

ตรินท์หัวเราะอย่างเหน็บแนมและกล่าวว่า : “มัน ยากที่จะจินตนาการใช่ไหม ? ผมเองก็ยากที่จะเข้าใจ คุณอาต้องการครอบครองตระกูลโตเล็กเอาไว้ในมือ เขา ควบคุมอาณาจักรรัตติกาล ส่วนป้าโอควบคุมบริษัทฮัวยู กรุ๊ปจำกัด เธอเป็นคนวางยาพิษกิจจา ต้องการกำจัดพี่ กับผมในช่วงเวลาสำคัญ โชคดีที่พี่สะใภ้ไหวตัวทัน จึง ได้ช่วยชีวิตกิจจา ฝากขอบคุณพี่สะใภ้แทนผมด้วย”

ได้ยินตรินท์พูดเช่นนี้ ยิ่งเพิ่มความโมโหของบุรี

ศร์

“เธอเป็นบ้าหรือไง? กิจจาคือหลานชายแท้ๆของ เธอ ! ” “เธอมีความรู้ด้านเภสัชวิทยาอย่างดี ไม่ถึงกับ

ต้องการชีวิตของกิจจา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ กิจจามีความ สำคัญสำหรับผมและพี่มากตระกูลโตเล็กของพวกเราอยู่มานานหลายปี มีอุปสรรค์เข้ามาตลอดไม่เคยหยุด พี่ ครับ อาณาจักรรัตติกาลอันที่จริงเป็นของประเทศชาติ เพียงแต่อยู่ในความครอบครองของพวกเราตระกูลโต เล็ก พี่เป็นทหาร ผมเองก็ด้วย พวกเราลูกหลานตระกูล โตเล็กอุทิศเพื่อประเทศชาติ หากเป็นเพียงผลประโยชน์ ส่วนตัวของตระกูลโตเล็ก คุณอากับป้าโอต้องการ ให้ พวกเขาไปก็จบ แต่ตระกูลโตเล็กไม่ได้เป็นเพียงแค่ ตระกูลโตเล็ก”

“พี่เข้าใจ”

บุริศร์เคยเป็นทหาร จะมีอะไรที่ไม่เข้าใจ ?

อาณาจักรรัตติกาลเป็นทั้งมีดและคมมีดที่ประเทศ ชาติสอดแทรกเข้าไปในตำแหน่งที่เหมาะสม มิหนำซ้ำ ยังเป็นเครือข่ายข่าวกรอง มีหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามา เกี่ยวข้อง ไม่สามารถใช้เพื่อผลประโยชน์และความรู้สึก แค่เพียงตระกูลเดียว

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกและกล่าวว่า : “พี่รู้ว่าควร ทำอย่างไร นายดูแลกานต์ให้ดี ในเวลาที่จำเป็นขอให้ เขาโทรหาพี่สะใภ้ของนาย เธอคิดถึงเขามาก”

ได้”

ตรินท์วางสายไป แต่บุริศร์กลับรู้สึกไม่เป็นสุข อย่างยิ่ง

ยิ่งรู้เรื่องมากแค่ไหน เขาก็ยิ่งรู้สึกกดดัน

เรื่องที่สำคัญในตอนนี้คือรีบกลับไปเมืองชลธี เรื่องบางเรื่องยากจะพูดในอเมริกา
บุริศร์วางสายได้ไม่นาน ประตูห้องผู้ป่วยก็เปิด

ออก

นรมนดึงเขาเข้าไปด้านใน จากนั้นก็ทำท่าทาง เหมือนขโมยมองซ้ายมองขวา เมื่อพบว่าไม่มีใครถึงจะ

รีบปิดประตูลง

จู่ๆบุริศร์ก็อยากหัวเราะ

“ท่าทางแบบนี้ของคุณทำไมผมรู้สึกว่าพวกเรา เหมือนกัน ? ”

“คุณเงียบไปเลยนะ ! ”

ใบหน้าของนรมนยังคงแดงอยู่ มันดูบอบบางและ น่าดึงดูดเป็นพิเศษ

บุริศร์คว้าเอวของเธอและกล่าวว่า : “เป็นสามี

ภรรยากันแล้ว คุณยังจะอายอะไร ? ”

“คุณปล่อยฉันนะ ฉันไม่มีหน้าไปเจอลูกๆแล้ว ไหนคุณบอกมาสิว่า ตอนนี้จะทำอย่างไรกับกมล ?”

“ทำอย่างไรอะไร ? ”

บุริศร์งั้นเล็กน้อย

กำปั้นของนรมนทุบลงบนตัวเขาและตอบ ว่า : “เธอบอกว่าจะแต่งงานกับกิจจา ! จะเป็นไปได้ อย่างไร ? แถมยังจะจูบกับเขาอีก แล้วก็….”

“โถ่เอ้ย ลูกยังเป็นเด็ก อีกหน่อยก็ไม่โวยวายแบบ นี้แล้ว นอกจากนี้ คุณคิดว่าไอ้เด็กแสบกิจจาจะยอมให้ เธอสมหวังหรือไง ? ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่กี่วันกมลก็จะดีขึ้น”

บุริศร์ไม่ได้ใส่ใจจนมากเกินไป

นรมนกลับบ่นพึมพำด้วยความโมโหว่า : “ฉันไม่ สนใจ ต่อจากนี้อยู่ข้างนอกคุณไม่ได้รับอนุญาตให้แตะ ต้องตัวฉัน และยิ่งไม่ได้รับอนุญาตให้จูบฉัน คุณต้อง รักษาระยะห่างกับฉัน เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเด็กๆ คุณ ว่า นี่มันเหมือนคำว่าอะไรนะ?”

“เหมือนคำว่าอะไร ? พวกเรากำลังบอกพวกเขา ว่า คนสองคนอยู่ด้วยกันค่อนข้างยากลำบาก แต่ความรัก ของทั้งสองคนแข็งแกร่งยิ่งกว่าทองและมั่นคงมาก”

บุริศร์พูดจบ กัมลงจูบรมนทันที

นรมนไม่ทันได้ตั้งตัว ส่งเสียงอ้อื้อยู่พักใหญ่ จน สุดท้ายไม่อาจต้านทานการโจมตีของบุริศร์ ดื่มไปกับ จูบอันดูดดื่มของเขา จนสายตาเริ่มเลือนลาง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ