แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 129 รีบช่วยคุณบุริศร์



บทที่ 129 รีบช่วยคุณบุริศร์

“คุณบุริศร์ คนของคุณเหรอครับ? ” กานต์มองบุริศร์อย่างเผลอตัว

“ไม่ใช่”

สีหน้าบุริศร์ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก

เขารีบปล่อยกานต์ลง พูดเสียงทุ้ม “ไปหลบใต้เตียง ไม่ ว่าคนที่มาจะเป็นใคร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าส่งเสียงเด็ด ขาด รอให้ฉันจัดการทุกอย่างเสร็จก่อน รู้ไหม? ”

กานต์กะพริบดวงตาโตปริบๆ รู้สึกค่อนข้างกังวล

“คุณคนเดียวไหวไหมครับ?”

“ไหว! แค่มีเธออยู่ ยังไงพ่อก็ต้องไหว”

บุริศร์ยิ้มและลูบศีรษะกานต์ ตอนนี้ในใจพึงพอใจอย่าง บอกไม่ถูก

สีหน้ากานต์อึดอัดนิดหน่อย แต่ไม่ได้พูดอะไร

เขาไปซ่อนใต้เตียงอย่างเชื่อฟัง

และในตอนนี้ ประตูห้องก็เปิดออกทันที นาวินและบุริศร์

ปะทะกันโดยตรง

นาวินไม่คิดเลยว่าห้าปีต่อมาจะเผชิญหน้ากับบุริศร์ตรงๆ แบบนี้ เขาอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง

ธิดาเห็นบุริศร์ก็ตื่นตระหนก เธอดึงนาวินหันตัวไปแล้ววิ่งแต่ได้ยินเสียงบุริศร์พูดขึ้นอย่างเย็นชา “พวกแกคิดว่าพวก แกจะหนีไปที่ไหนได้? ข้างนอกเป็นคนของฉันทั้งหมด พวก แกคิดว่ามีปัญญาออกไปได้?”

นาวินชะงักฝีเท้าทันที

จริงๆ แล้วสำหรับบุริศร์ ถือว่าเป็นผู้ช่วยชีวิตของเขา ช่วง สองสามปีนี้บุริศร์ปฏิบัติต่อเขาได้ไม่แย่ในตระกูลโตเล็ก แต่…

นาวินหยุดฝีเท้า หันศีรษะไปมองบุริศร์ เรียกด้วยเสียง ทุ้มต่ำ “ประธานบุริศร์ …”

“ฉันคิดว่านายตายในกองเพลิงเมื่อห้าปีก่อน ฉันไร้เดียง สาเองแหละ ตอนนี้นายมีชีวิตเป็นอย่างดี และนรมนเปลี่ยน ไปเพราะเหตุเพลิงไหม้นั้น นายบอกฉันได้ไหมว่าตอนนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

สีหน้าบุริศร์เย็นชามาก ไม่ได้ใจดีเหมือนเมื่อก่อนเลยสัก นิด นาวินรู้ว่ามิตรภาพระหว่างเขาและเจ้านายนั้นมอดไหม้ ไปในกองเพลิงนั้นเมื่อห้าปีก่อน

ธิดาผลักนาวินอย่างต่อเนื่อง พูดขึ้นเสียงทุ้ม “นายไป

ก่อน ฉันจะระวังหลังให้”

นาวินส่ายศีรษะพูดขึ้น “เราสองคนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา นะ เธอหลอกตัวเองทำไมอีก? แต่ว่าประธานบุริศร์ คุณ บาดเจ็บแล้ว”

“แล้วไง? ”

บุริศร์ถามกลับอย่างไม่สนใจเลย
นาวินปกป้องธิดาไว้ด้านหลัง พูดขึ้นเรียบๆ “ก็แค่ผมยังมี โอกาสเอาชนะคุณได้”

“เฮอะๆ นายคิดว่าฉันจะให้โอกาสนายเหรอ? ไม่ต้องพูด ถึงว่าเมื่อห้าปีก่อนนายเกี่ยวข้องกับเหตุเพลิงไหม้นั้น ห้าปี ต่อมานายยังกล้าลักพาตัวลูกชายฉันไปอีก นาวิน นายนี่ใจ กล้าหน้าด้านจริงๆ ถึงวันนี้นายอยากจะหนี ฉันก็ไม่ให้ โอกาสนายหรอก!”

บุริศร์ถอยหลังไปหนึ่งก้าว

นาวินก้าวข้างหน้าตามมา และสุดท้ายก็ผลักธิดาออกไป

“ไป!”

“ฉันไม่ไป! นาวิน ถ้าฉันตายฉันก็อยากตายกับนาย! ” ธิดาร้องไห้ตะโกนอยากจะจับมือนาวินเอาไว้ แต่โชคร้าย

โดนนาวินผลักออกอย่างไร้ความปรานี

“ไปเร็วๆ!”

นาวินปิดประตูทันที แยกธิดาไว้ด้านนอก

เขาไม่รู้ว่าธิดาจะออกไปจากที่นี่ได้ไหม แต่แค่ไม่ต้อง ตายในน้ำมือของบุริศร์ เธอน่าจะยังมีโอกาสอยู่มั้ง?

บุริศร์ก็ไม่ได้ร้อนรนใจ แค่มองพวกเขาอย่างเย็นชา

นาวินหันตัวกลับมามองบุริศร์แล้วพูดขึ้น “ประธานบุริศร์ ไม่ว่าจะเป็นห้าปีก่อนหรือห้าปีต่อมา ผมเองที่ทำผิดกับคุณ ตอนนี้ไม่ว่าผมจะพูดอะไรไปก็เปล่าประโยชน์ ผมแค่อยาก ให้คุณปล่อยธิดาไป”
“นายคิดว่าตัวเองมีสิทธิอะไรมาเจรจาต่อรองกับฉัน? ”

“ไม่มีครับ ผมเลยต้องพยายามเอาชนะคุณ!” นาวินพูดจบก็รีบโจมตีบุริศร์อย่างรวดเร็ว

กานต์ตกใจอยู่ใต้เตียง ตกใจกลัวมากจนรีบปิดปากตัว เอง อยากหลับตา แต่กลัวว่าจะพลาดอะไรไปอีก จึงเปิด ช่องเพื่อดูการต่อสู้ด้านนอก

ถึงบุริศร์จะบาดเจ็บ แต่มือก็ไม่ได้อ่อนแรง เขาเบี่ยงไป ด้านข้างเมื่อนาวินโจมตี แล้วต่อยนาวินด้วยหมัดซ้าย

นาวินไม่ใช่คนใจดี ได้ยินเสียงหมัดพุ่งมาเขาก็รีบลด ศีรษะต่ำลง หลบหมัดนี้และโต้กลับอย่างรวดเร็ว

ทั้งคู่เคลื่อนไหวค่อนข้างเหมือนกัน ไม่มีทางบอกผลลัพธ์ ได้ชั่วคราว

นี่ถ้าเป็นตอนปกติ บุริศร์อาจจะไม่ต้องออกแรงมาก ขนาดนี้ แต่ตอนนี้เขารู้สึกแผลที่หน้าอกเขาเปิด เลือดแดง สดไหลออกมาที่ละนิด ซึมผ่านเสื้อผ้าและหยดลงพื้น

หนึ่งหยด สองหยด…

ดวงตากานต์เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที

บุริศร์จะตายไหม?

ถ้าโดนผู้ชายตรงหน้าทำร้ายจนตายจะทำอย่างไร?

จู่ๆ เขาก็หวาดกลัวขึ้นมา

ความกลัวนั้นคือความรู้สึกที่บอกไม่ถูก มันทำให้เขาอยากร้องไห้

กานต์รีบคลานออกมาจากใต้เตียง รีบวิ่งไปที่หน้าต่าง อย่างรวดเร็ว

นาวินตกใจสะดุ้งกับการปรากฏตัวของกานต์ เกิดซ่อง ว่างเล็กน้อย หมัดบุริศร์จึงพุ่งเข้าไปแล้ว

“เป้าหมายนายคือฉัน! นาวิน!”

หมัดหนึ่งของบุริศร์ชกโดนหน้านาวินพอดี ขณะที่เขา โดนโจมตีก็เจ็บจมูกนิดหน่อยทันที ในขณะเดียวกันก็ เข้าใจแล้วว่าทำไมบุริศร์ถึงได้ปรากฏตัวในห้องนี้เพียง ลำพัง และคนที่มาสร้างปัญหาข้างนอกนั้นก็คงเป็นการ เตรียมการของบุริศร์

จิตใจเขากระวนกระวาย นาวินอยากจะหนี แต่บุริศร์ จัดการยากไปหน่อย

ตลอดทางกานต์วิ่งไปถึงริมหน้าต่าง เปิดหน้าต่างแล้ว ตะโกนออกไปด้านนอก

“ช่วยด้วย! ผมกับคุณบุริศร์อยู่ที่นี่! รีบมาเร็วเข้า!”

เสียงกานต์ไม่ดัง แต่มันก็กระจายไปไกลมาก เขาแทบจะ ใช้แรงทั้งหมดในร่างกายตะโกนออกไป

กานต์ในตอนนี้เกลียดตัวเองมากที่ปกป้องตัวเองไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่คงต้องให้คุณบุริศร์มาช่วยเขา?

เขายังจำได้ว่าคุณบุริศร์เพิ่งทำการผ่าตัดเมื่อไม่นานมานี้ ถึงแม้นรมนจะพาคนมาโวยวายด้านหน้า แต่ก็ยังได้ยินเสียงกานต์ หัวใจเธอบีบรัดทันที

“พฤกษ์ รีบไปเร็วเข้า! ”

นรมนในตอนนี้ไม่ปลอมตัวอีกต่อไป

หลังจากพฤกษ์ได้ยินคำสั่งของนรมนและการขอความ ช่วยเหลือจากกานต์ ก็รีบวิ่งไปทางกานต์อย่างรวดเร็ว

เขมิกาเพิ่งออกมาก็ได้ยินเสียงตะโกนนี้ เสียงคุ้นเคยนั้น ทำให้เธอถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างช่วยไม่ได้

“นรมน! เร็ว! กลับไป! เสียงเมื่อกี้นี้ดังมาจากไหน? รีบ ถอยกลับไปเร็วเข้า!”

เขมิกาตื่นตระหนกทันที เธอหันตัววิ่งเข้าไปในร้านเสริม สวย แต่โดนแชมป์ที่รออยู่ข้างๆ พุ่งเข้ามาแล้วจับเธอไว้ให้ อยู่นิ่งๆ

หัวหน้างานอยากจะวิ่งหนี แต่เห็นรอบๆ มีเจ้าหน้าที่ ตำรวจจำนวนมากออกมาจากความมืด

“อย่าขยับ!”

พวกเขาแต่ละคนถือปืนจ่อมาที่หัวหน้างานและบริกร

หัวหน้างานขาอ่อนแรงทันที เขมิกาดิ้นรนและสาปแช่ง

“ไอ้ชั่ว พวกแกเห็นไหมว่าฉันเป็นใคร ฉันเป็นแม่กิจจานะ พวกแกกล้าจับตัวฉันเหรอ? ปล่อยฉัน! ”

แต่แชมป์ไม่ได้พูดอะไร ตีเขมิกาให้สลบไปทันที
พฤกษ์พาคนจากหน้าต่างบุกเข้าไปในห้อง

เมื่อพวกเขาเห็นบุริศร์และนาวินกำลังสู้กันอยู่ พฤกษ์ก็รีบ ยื่นขวดน้ำให้กานต์ขวดหนึ่ง

“คุณชายกานต์ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

“รีบไปช่วยคุณบุริศร์! เขาเสียเลือดไปมากแล้วครับ!” กานต์ทั้งกระหายน้ำทั้งหิว แต่ตอนนี้ไม่สนใจแล้ว เขาดึง

มือพฤกษ์ไว้อย่างกังวลใจ น้ำตาไหลมองพฤกษ์ ตอนนี้พฤกษ์รู้สึกว่าหัวใจตัวเองโดนบีบรัด ดวงตาที่ คล้ายคลึงกับดวงตาบุริศร์มองตัวเองอย่างน่าสงสาร ทำให้

ไม่สามารถต้านทานได้จริงๆ

“ไม่เป็นไร คุณชายกานต์ คุณดื่มน้ำก่อนนะ ฉันจะไป ช่วยประธานบุริศร์”

เมื่อพฤกษ์หันตัวไปก็เห็นนาวินต่อยหน้าอกบุริศร์พอดี

บุริศร์ร้องเสียงหลง ถอยหลังหนึ่งก้าวอย่างช่วยไม่ได้ เสื้อเชิ้ตบนหน้าอกไม่เห็นแล้ว ทุกที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดง สด

“คุณบุริศร์! ”

สุดท้ายกานต์ก็ร้องไห้ ร้องอย่างคร่ำครวญ

เขาอยากจะพุ่งเข้าไป แต่พฤกษ์เร็วกว่าเขา ตอนที่บุริศร์ ถอยหลังมา เขาก็พุ่งตัวเข้าไปตัดหน้า ต่อยหมัดไปที่เบ้าตา

นาวิน

นาวินวิงเวียนเล็กน้อย พฤกษ์บิดแขนเขาไปด้านหลังควบคุมเขาอย่างรวดเร็ว และเตะกระดูกสะบ้าหัวเข่า พูด ขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด นาวิน ใครเป็นคนฝึกสอนแก? วันนี้ แกใช้มันจัดการประธานบุริศร์อย่างเนรคุณจริงๆ แกกล้า มากนะ?”

ตอนนี้นาวินก็รู้ว่าตัวเองพ่ายแพ้แล้ว

เขาไม่ได้ดิ้นรนอีก แต่ในใจคิดว่าตอนนี้ธิดาหนีออกไป ได้หรือยัง?

เขาไม่รู้ และไม่กล้าถาม แค่หวังว่าธิดาจะหนีออกไปได้ ถึงแม้ความเป็นไปได้จะต่ำมาก แต่มีความหวังก็ดีกว่าไม่มี ความหวัง

การเคลื่อนไหวแชมป์ข้างนอกเร็วมากเช่นกัน จัดการตรง หน้าเรียบร้อยแล้วและรีบมารวมตัวกับทางด้านบุริศร์

“บุริศร์, กานต์! ”

นรมนวิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อกานต์ได้ยินเสียงนรมนก็ร้องไห้ขึ้นอย่างรวดเร็ว

“คุณแม่ ผมอยู่นี่!”

“กานต์! ”

นรมนวิ่งไปกอดกานต์ไว้อย่างรวดเร็ว

“เจ้าหนู ทำให้แม่ตกใจแทบตายเลยนะรู้ไหม? ถ้าต่อไป กล้าวิ่งหนีออกไปตามใจตัวเองอีก แม่จะตัดขาหนู!”

นรมนร้องไห้พลางดุด่า กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป
ความรู้สึกที่แท้จริงในอ้อมแขนทำให้หัวใจนรมนนั้นผ่อน คลายลงในที่สุด

กานต์โอบคอนรมนแน่น ตัวเองก็ตกใจกลัวไม่น้อย เขา จะรู้ได้อย่างไรว่าความเอาแต่ใจครั้งเดียวของเขาเกือบ ทำให้เขาต้องแยกกับคุณแม่

“แม่ครับ ผมผิดไปแล้ว ขอโทษครับ! ” กานต์ขอโทษนรมนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ตอนนี้นรมนมีความคิดจะตำหนิกานต์ที่ไหนกันล่ะ ไม่มี อะไรสำคัญไปกว่าความปลอดภัยของกานต์อีกแล้ว

“ไหนให้แม่ดูเร็วเข้า เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”

นรมนมองกานต์ขึ้นลงและซ้ายขวาอย่างกังวลใจ หลัง จากที่พบว่าข้อมือเขาเป็นสีม่วงเล็กน้อย นิ้วมือถลอก นรมน ก็สงสารมากเหลือเกิน

“ต่อไปห้ามหนีซี้ซั้วอีกนะ!”

“ไม่กล้าแล้วครับ แม่ ผมไม่กล้าอีกแล้ว แม่ครับ ผมกลัว มาก! ผมคิดถึงแม่มากนะ! ฮือๆ ผมไม่มีอะไรกิน ไม่มีน้ำดื่ม ผมน่าสงสารมาก”

กานต์พูดไปร้องไห้ไป หัวใจนรมนแทบสลาย

เห็นนรมนและกานต์ไม่เป็นอะไรแล้ว บุริศร์ก็โล่งใจ พูด กับแชมป์ตรงหน้า “ข้างหน้าควบคุมได้แล้วใช่ไหม?”

“คุณชายธรณีควบคุมทุกอย่างได้แล้วครับ ผมทำให้เขมิ กาสลบแล้วทิ้งไว้บนรถ แต่ดูเหมือนจะหนีไปได้คนหนึ่งเหมือนจะชื่อว่าธิดา การควบคุมที่เข้มงวดแบบนี้ ไม่รู้ว่าเธอ หนีไปได้ยังไง”

เมื่อแชมป์พูดถึงตรงนี้ นาวินก็โล่งใจเบาๆ

ดีจัง เธอหนีออกไปได้ ถ้าเป็นแบบนี้เขาจะเป็นอะไรก็ไม่ สำคัญแล้ว

เห็นนาวินยกยิ้มขึ้นมา บุริศร์ก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “เอา คนพวกนี้กลับไปตรวจสอบให้ดี ฉันอยากจะรู้ว่าหลายปีมา นี้มันเกิดอะไรขึ้นใต้จมูกฉันกันแน่!”

“ครับ! ”

แชมป์และพฤกษ์รีบเคลื่อนย้ายพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว

นรมนปลอบกานต์สักพักหนึ่งก่อนหันศีรษะไปทางบุริศร์ เมื่อเห็นเลือดบนหน้าอกเขาก็อุทานขึ้นมาทันที

“แผลคุณ..”

“ไม่เป็นไร”

บุริศร์ยิ้มเรียบๆ แต่เมื่อพูดประโยคนี้จบ เขาก็ล้มลงพื้น ไปทั้งตัว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ