แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 224 ฉันต้องการพักผ่อนสักวันสองวัน



บทที่ 224 ฉันต้องการพักผ่อนสักวันสองวัน

บทที่ 224 ฉันต้องการพักผ่อนกี่วันสองวัน

บุริศร์สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เพียงแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด อะไร แต่กลับลงโทษนรมนด้วยการกัดริมฝีปากอันอวบอิ่ม

ของเธอ

“โอ้ย! บุริศร์ คุณเกิดปีหมาหรือไง?

“ผมเกิดปีหมาป่า!

บุริศร์ปล่อยเธออย่างเหี่ยวแห้ง จากนั้นหันตัวเดินไป เหมือนกับหมาป่าตัวน้อยที่กำลังโกรธสุดๆ

อยู่ดีๆนรมนก็หัวเราะ

เหมือนหมาป่าจริงๆ!

ริมฝีปากโดนกัดจนแตก

นรมนเลียเลือดบนริมฝีปากของเธอ เข้าไปกอดที่ด้านหลัง ของบุริศร์ กระซิบเสียงเบาว่า: “ในใจของฉันมีเพียงคุณ”

ประโยคนี้ทำให้บุริศร์อารมณ์ดีขึ้นมากอย่างเหนือคำ

บรรยาย

พูดอีกครั้งสิ

เสียงของเขามีความภาคภูมิใจและความสุข

จู่ๆนรมนก็รู้สึกว่าเขาเหมือนกับเด็กคนหนึ่ง จึงผละออกจาก เขา”ไม่พูดแล้ว”

เธอหันตัวกำลังจะเดินออกไป กลับถูกบุริศร์คว้าข้อมือเอาไว้ พลิกตัวหนึ่งที่ทำให้เธอติดอยู่ตรงกำแพง

ลมหายใจที่ออกมาจากตรงหน้าเขา มาพร้อมกับกลิ่นอายที่ ไม่อาจกีดขวางได้ และท่าให้คนถลำเข้าไปในแววตาอันลึก ซึ่ง จนทำให้ นรมนรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ

“คุณคิดจะทำอะไร? ”

“คุณ! ”

บุริศร์ก้มหน้าลง ไม่สามารถอดทนกับความปรารถนาได้อีก ต่อไป ความอ่อนโยนที่ซาบซึ้งกินใจ เกือบทำให้นรมนกลาย เป็นแอ่งน้ำผุด

เธอไม่รู้ว่าตนเองถูกอุ้มขึ้นมาบนเตียงอย่างไร และไม่รู้ว่าบุ ริศร์ห่มผ้าให้เธอตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้เพียงเมื่อลมหายใจถี่ของ ตนเองสัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ บุริศร์กระซิบข้างหูของเธอ อย่างแผ่วเบา

“พักผ่อนอยู่ในบ้านเป็นเด็กดี เรื่องทั้งหมดยกให้เป็นหน้าที่ ของผมนะ ที่รัก”

ประโยคนี้เหมือนกับขนนกปัดผ่านทรวงอก ทำให้นรมนสั่น เทาเล็กน้อย

เมื่อเธอได้สติ บุริศร์ก็ไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว แต่กลิ่นอายที่ เป็นของเขายังคงล่องลอยอยู่ในอากาศ

นรมนยิ้ม ไม่รู้ว่าตนเองเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร ความรู้สึกที่ หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆนับวันยิ่งรุนแรง ราวกับการแยกจาก กันห้าปีไม่เคยมีอยู่ ความรักอย่างดูดดื่มเช่นนี้ ความรู้สึกที่ อยากจะอยู่ด้วยกันทุกวันรุนแรงยิ่งกว่าสิ่งใด รุนแรงเสียจน เธอคิดว่าตนเองอาจจะไม่สบาย
เธอรีบปิดใบหน้าอย่างรวดเร็ว พบว่าใบหน้าร้อนผ่าว ช่าง นรมนไม่รู้ว่าบุริศร์ไปไหน เมื่อเธอตัดสินใจลุกขึ้น มีอถือกั

น่าอายเหลือเกิน

ดังอีกครั้ง

เธอรีบหันไปมองอย่างรวดเร็ว

หมายเลขโทรศัพท์เดียวกันทำให้นรมนหัวใจแทบหยุดเต้น

เธอปัดหน้าจอมือถือทันที เปิดข้อความรูปภาพขึ้นมา ใน ครั้งนี้ยังคงเป็นรูปภาพของพ่อแม่เธอ ดวงตาของพวกเขาเต็ม

ไปด้วยน้ำตา เหมือนถูกคนทุบตี

ดวงตาของนรมนมีน้ำตาคลอเบ้าทันที

“พ่อ แม่..”

นรมนรีบกดโทรกลับไป แต่ยังคงปิดเครื่องเหมือนเดิม

“แกเป็นใครกันแน่? แกต้องการอะไร? ”

นรมนโยนมือถือลงบนเตียงด้วยความหมดอาลัยตายอยาก

เธอไม่กลัวอีกฝ่ายเสนอเงื่อนไข เพราะเพียงแค่เสนอมา เธอก็จะมีหนทางช่วยพ่อแม่ แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดเจนว่าอีกฝ่าย กำลังเล่นเกมแมวแกล้งหนูบางทีถ้าเธอยิ่งร้อนรน ยิ่งอยู่ไม่ เป็นสุข อีกฝ่ายจะยิ่งได้ใจ?

อยู่ดีๆนรมนก็นึกอะไรขึ้นมาได้

เธอเงยหน้าขึ้นทันที มองไปรอบๆตัว ช่วงนี้มักจะรู้สึกว่ามีด วงตาคู่หนึ่งแอบมองตนเองอยู่ ไม่อย่างนั้นทำไมอีกฝ่ายจึงวาง สายไปโดยไม่พูดอะไร?
ยิ่งคิดแบบนี้ นรมนยังรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้

เธอรีบเปิดประตูวิ่งออกไปด้านนอก ค้นหาไปทุกที่เหมือน คนบ้า แม่กระทั้งค้นหาทุกซอกทุกมุมของสถานพักฟื้น ร่างกาย ยังคงไม่พบพนักงานที่น่าสงสัยเหมือนเดิม

หรือว่าเธอเดาผิด?

หรืออ่อนไหวเกินไป?

นรมนกลับมาในห้องผู้ป่วยอย่างตื่นตระหนก จึงพบว่ามือ ถือวางอยู่บนเตียงไม่ได้พกไปด้วย

เมื่อเธอหยิบขึ้นมาจึงพบว่าหน้าจอกระพริบหนึ่งครั้ง เธอรีบ เปิดขึ้น ข้อความด้านบนเขียนว่า : “เป็นอะไรไป? ทนไม่ไหว หรือไง? หาฉันเจอหรือยัง? ” %3D

นรมนรู้สึกเสียวสันหลังอย่างฉับพลัน

คนๆนี้อยู่ในสถานพักฟื้นจริงๆ ?

ไม่อย่างนั้นทำไมจึงรู้การเคลื่อนไหวของเธออย่างชัดเจน แบบนี้? เธอเงยหน้าขึ้นทันที มองออกไปข้างนอกอย่างสังหรณ์ใจ

แต่ด้านนอกไม่มีอะไร

สายลมยังคงสงบนิ่ง ต้นไม้ยังคงตั้งตรง พืชพันธุ์ดอกไม้ก็ ผลิบานอย่างมีชีวิตชีวา แต่หัวใจของนรมนกลับรู้สึกไม่ เป็นสุข

ถ้าคนนั้นอยู่ในสถานที่พักฟื้นจริงๆ กมล กิจจา คุณนายโต เล็ก แม้กระทั่งความปลอดภัยของเธอจะได้รับผลกระทบ

อีกฝ่ายสามารถลักพาตัวพ่อแม่ของเธอไปอย่างเงียบๆ จะมาลักพาตัวลูกของเธอไปอย่างเงียบๆอีกหรือเปล่า? แท้จริงแล้วเป่าหมายของอีกฝ่ายคืออะไร นรมนเดาไม่ออก รู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง เธอรีบหยิบมือถือ โทรหาบุริศร์ อีกฝ่ายส่งข้อความมาอีก ครั้งทันที

แท้ที่จริงเธอต้องการทำอะไร

“อะไรกัน? คิดจะโทรหาบุริศร์หรือ? แกลองดูได้นะ ถ้าแก กดโทรออก ฉันจะส่งนิ้วของพ่อแม่แกให้เป็นของขวัญ”

สีหน้าของนรมนซีดขาวเหมือนกระดาษไปชั่วขณะ เธอหยุดอยู่ตรงนั้นอย่างแข็งที่อ หายใจถี่เล็กน้อย “แกเป็นใคร? แท้จริงแล้วแกเป็นใครกันแน่? แกอยู่ ที่ไหน? ”

นรมนร้องตะโกนไปรอบๆ แต่มีเพียงเสียงของสายลมที่ ตอบกลับมา

เธอบังคับให้ตนเองหนักแน่น ไม่ตื่นตระหนก ไม่ร้อนรน ไม่ ติดกับดักของอีกฝ่าย แต่คู่ต่อสู้แบบนี้น่ากลัวมากจริงๆ แม้ กระทั่งว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย อยู่ที่ไหน ตอนนี้ เธอไม่รู้อะไรเลย

ความรู้สึกแบบนี้เหมือนถูกคนจ้องมองอยู่หลังท้ายทอย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถูกแทงจากด้านหลัง ความอันตรายและไม่ ปลอดภัยแบบนี้ทำให้เธอร้อนรน แต่กลับท่าอะไรไม่ได้

ถ้าคนๆนี้มุ่งเป้ามาที่เธอ สามารถให้บุริศรไปจากที่นี่ได้หรือ

ไม่?
เพียงแค่บุริศร์ปลอดภัย เธอก็สบายใจ

นึกถึงตรงนี้ นรมนออกไปหาพฤกษ์ และเอ่ยกับเขาเสียง เบาว่า: “บอกบุริศร์ สองวันนี้ไม่ต้องกลับมา ให้ตั้งใจจัดการร เมศ และถือโอกาสหาตรวจหาเบาะแสของกานต์ด้วย ฉัน ต้องการพักผ่อนที่นี่สักวันสองวันคุณเข้าใจไหม”

นรมนพูดสิ่งเหล่านี้อย่างช้าๆ แม้แต่ตอนพูดยังคงมองออก ไปรอบๆ ว่ามีพนักงานที่ดูน่าสงสัยหรือเปล่า แต่สุดท้ายเธอก็ ผิดหวัง

พฤกษ์ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนรมน แต่ไม่ได้ถาม อะไรมาก พยักหน้าและเดินจากไป

หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จ นรมนถึงจะถอนหายใจออกมา อย่างโล่งอก

ถ้าอีกฝ่ายคิดจะลงมือกับบุริศร์ ดูท่าทางคงจะยากสัก หน่อย? นอกจากนี้บุริศร์มีไมค์คอยดูแลอยู่ข้างนอก น่าจะ ไม่มีปัญหา

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตามหาคนๆนั้นที่อยู่ในสถาน พักฟื้น

เพียงแค่ตามหาคนนั้นเจอ เธอก็จะเจอพ่อแม่ของเธอด้วย ลูกๆของเธอกับแม่สามีก็จะปลอดภัย

นรมนมองไปรอบๆ เดินไปที่ห้องน้ำสาธารณะด้านข้าง เธอไม่เชื่อว่าจะยังมีคนเฝ้าติดตามเธอในห้องน้ำสาธารณะ หลังจากเข้ามา นรมนรีบเข้าไปในห้องส้วมอย่างรวดเร็ว จากนั้นล็อคประตู ถึงจะหยิบมือถือขึ้นมา ต้องการส่งข้อความหากิมจิ แต่หลังจากพิมพ์ไปได้หนึ่งคำก็นึกถึงปัญหาข้อ หนึ่งขึ้นมา

ในเมื่ออีกฝ่ายสามารถรู้หมายเลขโทรศัพท์ของเธอได้ อย่างง่ายดาย จนสามารถบล็อกสัญญาณจากเธอได้ เช่นนั้น

มือถือเครื่องนี้คงจะไม่ปลอดภัยแล้ว

หากคิดจะพูดอะไรผ่านมือถือเครื่องนี้ มีความเป็นไปได้สูง ว่าจะตนเองจะเปิดเผยตัวตนที่เป็นนายหญิงของอาณาจักร รัตติกาล และเปิดเผยตัวตนของของกิมจิ ยิ่งทำให้อาณาจักร รัตติกาลของตระกูลโตเล็กถูกคนสอดแนม

คิดถึงตรงนี้ นรมนเก็บมือถือ แสร้งทำท่าทางเข้าห้องน้ำ กดชักโครก และออกมาจากห้องน้ำ มีพยาบาลจำนวนหนึ่งเดินผ่านไปมาตรงทางเดิน เมื่อมอง

เห็นนรมนต่างพยักหน้าและส่งยิ้มให้เธอเล็กน้อยตาม

มารยาท

นรมนรู้สึกว่าทุกคนตกเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ทุกคนก็ดูเหมือน ไม่มีความน่าสงสัย

เธอรู้สึกว่าตนเองใกล้จะเป็นบ้าแล้ว ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ ตอนกลางคืนเธอนอนไม่หลับ

หลังจากกลับมาที่ห้องผู้ป่วย นรมนจึงหยิบกระดานวาด ภาพมาเริ่มวาดรูป

เธอไม่ได้วาดภาพมานานมากแล้ว เนื่องจากการหายตัวไป

ของกานต์ เธอจึงไม่มีกะจิตกะใจ แต่ตอนนี้เธอจำต้องหยิบ

พู่กัน เพราะหากไม่วาดภาพ เธอจะไม่สามารถสงบจิตใจได้

ไม่รู้ว่าควรทำอะไรถึงจะทำให้ตนเองสงบสติอารมณ์ ไม่กระวนกระวายใจ

พู่กันในมือของเธอโบกไปมา อย่างเชื่องช้า นรมนเข้าสู่ สมาธิ เริ่มวาดโครงร่างออกมา

เธอยังจำภาพการออกแบบโครงร่างรถยนต์ของตนเองได้ ถึงแม้จะได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการตระกูลวัชโรทัย แล้ว แต่ตอนนี้ตระกูลวัชโรทัยกับตระกูลโตเล็กทะเลาะกันจน กลายเป็นแบบนี้ การร่วมมือครั้งนี้คงจะต้องหยุดแค่นั้น ส่วน ต้นฉบับของนรมนถูกเก็บไว้กับคณะกรรมการตระกูลวัชโรทั ย

สำหรับการร่วมมือในครั้งนี้ ตระกูลโตเล็กจัดหากำลังคน และทรัพยากรจำนวนมากเพื่อมาเข้าร่วม วันนี้ความร่วมมือยุติ ลงอย่างกะทันหัน เธอรู้สึกว่าตนเองมีส่วนต้องรับผิดชอบ อย่างมาก

ไม่ต้องพูดว่าบุริศร์สูญเสียเงินเท่าไหร่ นักออกแบบเหล่านั้น และไหนจะพนักงาน การทำงานอย่างหนักในช่วงนี้ก็นับว่า ลงแรงไปอย่างเสียเปล่า

คิดถึงตรงนี้ เธอตัดสินใจออกแบบรถยนต์ใหม่ ให้ละเอียด

สวยงามกว่าต้นแบบที่ให้ตระกูลวัชโรทัย แถมยังนำไปใช้ได้

จริง อาจจะสามารถทำกำไรให้แก่ตระกูลโตเล็ก

นรมนสงบนิ่ง ทันใดนั้นในสมองก็ปรากฏสไตล์การวาดภาพ

ของชินทร

ในความเป็นจริงสไตล์การวาดภาพของเธอแตกต่างกับชิน ทร แต่ภาพวาดของเขามักให้ความรู้สึกอบอุ่นแก่เธอ

เมื่อนึกถึงชินทร นรมนคิดถึงภาพวาดนั้นที่เอามาจากตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอีกครั้ง

รเมศเอาภาพนั้นไป แต่นรมนยังสามารถจำใบหน้าของผู้ หญิงคนนั้นบนรูปได้ดี แม้แต่สีหน้าที่ปรากฏยังติดอยู่ในภาพ

จำของเธอ

ทำไมถึงได้คล้ายแบบนั้น?

เธอสาบานว่าไม่เคยเจอผู้หญิงคนนั้นมาก่อน และเห็นได้ ชัดเจนว่า พวกเธอเกิดกันคนละยุคสมัย แต่ทำไมถึงได้คล้าย แบบนั้น?

บนโลกใบนี้มีที่คนที่คล้ายคลึงกันแบบนี้จริงหรือ?

ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?

มีความเกี่ยวข้องกับเธอหรือเปล่า?

โดยไม่รู้ตัว ภาพเหมือนก็ปรากฏภายใต้พู่กันของนรมน คล้ายกับภาพเหมือนของผู้หญิงคนนั้น เหมือนกับที่เธอเคย เป็นมาก่อน

นรมนมองไปที่ภาพเหมือนด้วยความงุนงงเล็กน้อย

เธอควรจะโทรไปถามธรณีหรือเปล่า ว่าผู้หญิงคนนี้แท้จริง แล้วมีสถานะอย่างไร?

นรมนสองจิตสองใจ แต่ในที่สุดก็ไม่ได้โทรไป เพราะรู้สึก ว่าตนเองนำของจากห้องภาพของสุนทรไปโดยพลการไม่มี มารยาทสุดๆ

เธอเก็บงำความรู้สึกสงสัยของตนเอง เก็บภาพวาดคนรูป นั้น และบังคับตนเองให้มีสมาธิเพื่อจินตนาการถึงรถยนต์รุ่น ใหม่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ออก กลับจะคิดถึงใบหน้าที่มีเมตตาและอ่อนโยนของพ่อแทน

พ่อ!

นรมนกระวนกระวายใจ ไม่สามารถทำอะไรได้ และไม่รู้ ด้วยซ้ำว่าตอนนี้พ่อกับแม่ต้องเจอกับความทุกข์ทรมาน อย่างไร ความรู้สึกที่ไร้ความสามารถทำให้เธอรู้สึกไม่ สบายใจอย่างมาก

และดวงตาในความมืดก็ติดตามเหมือนเป็นเงา ทำให้นรมน จิตใจไม่สงบ

เธอลุกขึ้นเปิดประตู ด้านนอกไม่มีใคร แต่เธอกลับรู้สึกว่า ด้านนอกมีคนกำลังเฝ้าติดตามเธออย่างใกล้ชิด

ความรู้สึกแบบนี้ทำให้นรมนไม่สบายใจอย่างยิ่ง เธอต้อง ออกมาข้างนอกพร้อมกับกระดานวาดภาพ แต่ในขณะนี้ มี คนๆหนึ่งเดินตรงมาหาเธออย่างกะทันหัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ