แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 157 กิจจาป่วย



บทที่ 157 กิจจาป่วย

บุริศร์จัดเตรียมขั้นตอนโอนย้ายโรงพยาบาลหลังจากที่ นรมนจากไป เขาทำอย่างลับๆ เพื่อให้ไม่มีใครรู้ว่าเขาไป ที่ไหน

ตอนที่นรมนรู้ข่าวว่าบุริศร์เปลี่ยนโรงพยาบาลนั้นก็ตอน ทานข้าวเย็น เธอต้มซุปนกพิราบด้วยตัวเองให้บุริศร์ แต่ ตอนที่ส่งไปให้พฤกษ์ พฤกษ์บอกว่าบุริศร์ไม่ได้อยู่โรง พยาบาลเดิมแล้ว และไม่ได้บอกว่าบุริศร์ไปไหน

เธอรู้ว่าครั้งนี้เธอได้ทำร้ายบุริศร์อย่างหนักหน่วง

พฤกษ์มองนรมน ถามเสี่ยงต่ำ “คุณนาย ประธานบุริศร์ ให้ผมถามคุณว่า จุดประสงค์ของการกลับมาในครั้งนี้คือ อะไร ตราบใดที่ประธานบุริศร์ทำให้ได้ คุณเสนอออกมา เลยนะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างในตระกูลโตเล็ก ทรัพยากรทุก อย่างล้วนให้คุณจัดการ”

“ฉันต้องการพบเขา!”

นรมนไม่อยากพูดอะไรในตอนนี้ แค่อยากเจอบุริศร์

พฤกษ์ตอบอย่างลำบากใจ “คุณนายครับ คุณอย่าทำให้ ผมลำบากใจเลย คุณก็รู้ การตัดสินใจของประธานบุริศร์ ไม่มีใครก้าวก่ายได้ ประธานบุริศร์บอกว่าคุณเอาได้ทุก อย่าง สามารถเอาไปได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งชีวิตของเขา แต่ตอนนี้เขายังไม่อยากพบคุณ”
ในใจของนรมนเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง เขาตัดสินใจจะไม่เจอเธออีกแล้วเหรอ? หรือว่าตัดสินใจจะลืมเธอไปจริงๆ? นรมนไม่รู้ รู้แค่ว่าใจของตัวเองว่างเปล่าขึ้นมาอีกครั้ง “นาวินสารภาพหรือยัง?”

นรมนจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอารมณ์ของตัวเอง ไม่งั้น เธอไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอย่างไร ถ้าหากอารมณ์ดาวน์ของ เธอกระทบโดนกานต์ เธอไม่อาจทำลง

พฤกษ์ส่ายหัวแล้วพูด “เปล่าครับ นาวินยังคงปากแข็ง เหมือนอะไรสักอย่าง”

“ฉันออกจากบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กไม่ได้เหรอ? ฉันไม่ ไปหาบุริศร์ ฉันออกไปทำธุระก็ไม่ได้งั้นเหรอ? ”

คำพูดของนรมนทำให้พฤกษ์ ไม่รู้จะตอบอย่างไร

“ผมต้องถามประธานบุริศร์ก่อนครับ”

“ค่ะ”

นรมนไม่โวยวายอะไรเลย เชื่อฟังได้ดีมาก แต่พฤกษ์ดู ออกว่าสีสันในแววตาเธอหายไป นรมนในตอนนี้เหมือนเป็น แค่ซากศพที่เดินได้ ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ ราวกับบุริ ศร์ในห้าปีก่อน

เขาส่ายหัวอีกครั้ง

ความสัมพันธ์ระหว่างบุริศร์และนรมนกับสถานการณ์ในตอนนี้ พฤกษ์ไม่รู้จะปริปากพูดยังไง ยิ่งไม่รู้ว่าควรจะพูด โน้มน้าวและปลอบใจให้ไกล่เกลี่ยให้ดีกันอย่างไร หวังว่า ทั้งสองจะข้ามผ่านอุปสรรคที่อยู่ในใจ แล้วอยู่ด้วยกัน

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทั้งสองคนจะตกหลุมรักกัน และเดินมา ถึงขั้นนี้มันก็ไม่ง่ายเลยไม่ใช่เหรอ?

พฤกษ์ถอนหายใจ โทรไปหาบุริศร์

บุริศร์เงียบไปสักพักแล้วตอบมาว่า “เธอจะไปที่ไหนนาย ก็ตามไปด้วย ดูแลเธอให้ปลอดภัย”

“ประธานบุริศร์ครับ ถ้าเป็นห่วงคุณนายขนาดนี้ ทำไม ต้อง…พฤกษ์อยากจะพูดโน้มน้าวและปลอบใจให้ไกล่เกลี่ยให้

ดีกัน แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร บุริศร์ก็วางโทรศัพท์ไปแล้ว

คนที่หยิ่งผยองแบบนั้น ในตอนที่เขาเทใจไปทั้งหมดไป ให้นรมน สิ่งที่ได้กลับมากลับเป็นการหลอกลวงและหลอก ใช้ของนรมน นี่เป็นจุดที่เจ็บที่สุด

แม้ว่าพฤกษ์จะไม่รู้จุดประสงค์ที่นรมนกลับมาหลอกใช้บุ ริศร์เพื่อจะทำอะไร แต่เขาไม่รู้สึกว่านรมนจะเป็นคนใจร้าย ขนาดนั้น

ทั้งสองคนที่รักกันแท้ๆ ทำไมต้องทรมานอีกฝ่ายด้วย?

หลังจากที่พฤกษ์วางโทรศัพท์ไป พูดกับนรมนว่า “ประธานบุริศร์บอกแล้ว คุณจะไปไหนก็ได้ แต่ผมต้องคอย ดูแลความปลอดภัยของคุณ”
“โอเค”

นรมนก็ไม่ได้คาดหวังว่าบุริศร์จะปล่อยเธอไปได้หมด สำหรับหัวใจที่สับสนเสียใจของบุริศร์ เธอเข้าใจ ตอนที่ทานอาหารเย็น อุณหภูมิร่างกายของกิจจายังคง ไม่ลด นรมนกังวลเล็กน้อย

“กิจจาเป็นแบบนี้นานเท่าไหร่แล้ว?”

“ไม่นานมาก เริ่มจากเมื่อคืน” แชมป์ทำกับนรมนไม่มีอะไรแปลก

นรมนสงสัยเล็กน้อย

“ทำไมจู่ๆก็ป่วยล่ะ? ได้หาหมอหรือยัง?”

“หาหมอแล้วครับ หมอบอกว่าเป็นหวัดทางเดินอาหาร แต่ ว่ากิจจาร่างกายแข็งแรงมาตลอด ครั้งนี้ทั้งถ่ายทั้งอาเจียน แล้วยังเป็นไข้อีก น่าเป็นห่วงจริงๆ”

คิ้วของแชมป์ขมวดเข้าหากันแน่น ความกังวลของเขา

เกินคำบรรยาย

กานต์ไม่รู้สึกอยากอาหารเท่าไหร่ พูดเสียงเบาว่า “แม่ ครับ จะบอกคุณบุริศร์ไหมครับ? ทั้งวันนี้กิจจาเอาแต่พูด เรื่องไร้สาระ”

“พูดเรื่องไร้สาระ? พูดเรื่องไร้สาระอะไร?”

นรมนแปลกใจเล็กน้อย

กานต์พูดเสียงเบา “พูดว่าจะหาแม่ตลอดเลยครับ”
ใจของนรมนจุกไปที่หนึ่ง

แม่ของกิจจาคือเขมิกา และสถานการณ์ของเขมิกาใน ตอนนี้ให้กิจจาเจอไม่ได้ ตอนนี้กิจจาเป็นเพียงความหวัง สุดท้ายของเธอ เธอจะทำอะไรกิจจาไหม?

“คนใช้ในบ้านมีบางคนที่มาใหม่? ฉันหมายถึงคนที่เขมิ กาคัดเลือกมา?”

คำพูดของนรมนทำให้แม่บ้านหลิวอึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็รีบ ตอบ “มีสามคนที่เพิ่งรับเข้ามาในสองสามปีนี้ แต่ไม่ใช่คุณ เขมิกาคัดเลือกมา คืออดีตแม่บ้านป้าโอคัดเลือกมา ทำไม เหรอคะ? คุณนรมน มีปัญหา?”

“เอาอาหารและของกินทั้งหมดของเมื่อคืนไปให้คนที่ ซื่อสัตย์ดูไม่เป็นพิษตรวจดู รวดใส่เสื้อให้กิจจาให้ เรียบร้อย แชมป์ ไปโรงพยาบาลกับฉันและกิจจาหน่อย”

นรมนตัดสินใจอย่างแน่วแน่ รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรผิด ปกติสักอย่าง แชมป์เห็นว่านรมนระมัดระวังแบบนี้ ก็เริ่มกังวลขึ้นมา

“แม่ครับ ผมก็จะไปครับ”

กานต์เหมือนจะตระหนักถึงบางอย่าง จับแขนเสื้อของนร มนไว้แน่น

มองดูสายตาแน่วแน่ของลูกชาย นรมนก็ไม่ไว้ใจปล่อย เขาไว้คนเดียวในบ้าน เลยพยักหน้า

ไม่รู้ว่าทำไม นรมนจึงไว้วางใจโรงพยาบาลทหารเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันว่าจะเกิดอะไร นรมนถึงขั้นโทรหาธรณี เพราะได้ข่าวว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหารคนปัจจุบัน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อธรณี

ในตอนนี้ธรณีได้รับโทรศัพท์ของนรมนนั้นดีใจมาก แต่ ได้ข่าวว่าเป็นเพราะเรื่องลูกชายของบุริศร์กิจจานั้น เขา รู้สึกผิดหวังขึ้นมาอีก

อย่างไรก็ตามเขาเป็นผู้ชายที่ควบคุมตัวเองได้ดี ธรณีรีบ ปรับเปลี่ยนท่าทีของตัวเอง รีบมาที่โรงพยาบาลทหาร

นรมนพากานต์และแชมป์ออกจากบ้านใหญ่ตระกูลโต เล็ก แต่ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องนี้

คุณหมอเห็นว่าธรณีมาแจ้งให้เขาทราบโดยเฉพาะ ก็รู้ ว่านรมนที่อยู่ตรงหน้านี้สำคัญต่อธรณีมากๆ รีบเข้ามาช่วย ในตอนที่เห็นว่าผู้ป่วยคือกิจจา คุณหมออึ้งไปสักพัก

ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาและตระกูล โตเล็กจะมีความสัมพันธ์อะไรที่ใกล้ชิดกัน แต่ตอนนี้ธรณี กลับลงทุนอย่าหนักกับคุณชายน้อยของตระกูลโตเล็ก คุณหมอไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ถาม

“ผมจะตรวจอย่างละเอียดเลยครับ!”

คุณหมอพยักหน้ากับนรมน แล้วพากิจจาเข้าห้องตรวจ

จู่ๆนรมนรู้สึกว่าเหมือนตัวเองพลาดอะไรไป

“พฤกษ์ ส่งคนไปแอบซุ่มอยู่แถวๆสถานีตำรวจ ฉันกลัว ว่าคืนนี้จะมีคนมาปล้นคุก”
พฤกษ์ผงะไปชั่วขณะ พูดอย่างไม่แน่ใจ “คุณนรมนครับ ไม่น่าจะเป็นไปได้นะครับ? นั่นคือสถานีตำรวจ”

“เตรียมไว้เยอะหน่อยไม่ผิดแน่นอน อย่างมากก็แค่รอไป คืนหนึ่งเปล่าๆ ฉันหวังว่าจะรอไปคืนหนึ่งเปล่าๆจริงๆ ถ้า เป็นแบบนี้ ฉันเลี้ยงอาหารทุกคน”

นรมนพูดขนาดนี้แล้ว พฤกษ์ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก รีบไป จัดการส่งคนไป

ธรณีรู้ว่าในสถานีตำรวจขังคนอะไรไว้ แต่แค่รู้สึกสับสน เล็กน้อย

“คุณสงสัยอะไรอยู่ครับ?”

“กิจจาเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย ส่วนน้อยจะมีไข้เป็นหวัดใน ตลอดหนึ่งปี แต่ตั้งแต่เมื่อคืนเขาเริ่มเป็นไข้และพูดเรื่องไร้ สาระ ฉันสงสัยว่าเขาไม่ได้ป่วย แต่ถูกคนวางยาพิษ”

“อะไรนะ?”

ธรณีตกใจเล็กน้อย “คุณมีหลักฐานไหม?”

“ไม่มี เป็นแค่สัญชาตญาณ ถ้าหากฉันเป็นเขมิกาละก็ มา ถึงขั้นนี้ ยังไงก็ต้องสู้เพื่อตัวเองสักหน่อย เป็นไปไม่ได้ที่จะ รอตายในคุกอย่างเต็มใจ อีกอย่างนอกคุกยังมีตั้งเมอีก สองสามวันนี้ตั้งเมซื่อสัตย์มาก และไม่ได้มาหาฉันอีก นี่ไม่ เข้ากับสไตล์การจัดการเรื่องต่างๆของเธอ นอกจากว่าเธอ มีเรื่องที่ใหญ่กว่านี้จะทำ”

นรมนวิเคราะห์อย่างใจเย็น
ทันใดนั้นธรณีเหมือนเข้าใจขึ้นมา

“คุณหมายความว่าพวกเขาจะใช้กิจจาเป็นจุดสำคัญ?”

“ฉันเดาว่าน่าจะใช่ ตราบใดที่มีกิจจาไว้ในมือ พวกเขาก็ ยังมีโอกาส”

นรมนพูดอย่างนิ่งๆ ในคำพูดไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ ทันใดนั้นธรณีรู้สึกว่านรมนที่อยู่ตรงหน้าเหมือนสูญเสีย อะไรไป ทั้งเย็นชาและไม่แยแส

มีอะไรเกิดขึ้นกับเธองั้นเหรอ?

หรือว่าคำพูดอะไรสักอย่างของนาวินมีผลกระทบต่อนร

มัน

ทำไมเธอถึงถามเรื่องเมื่อห้าปีก่อน? ห้าปีก่อนเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ธรณีคิดยังไงก็หาคำตอบไม่ได้ รู้สึกว่าตอนนี้ก็ไม่ใช่ โอกาสที่จะถาม เลยถามเสียงเบาว่า “ตั้งเมคงไม่มีความ กล้านั้นปล้นคุกหรอกมั้ง?”

“ใครจะไปรู้ล่ะ”

นรมนไม่พูดอะไรอีก

แม้ว่ากานต์จะไม่เข้าใจในสิ่งที่นรมนและธรณีพูด แต่ รู้สึกถึงได้ว่าเกี่ยวข้องกับกิจจา แต่ที่กิจจาป่วยก็ไม่ปกติ ตาหงส์คู่นั้นของเขาหลงเข้าหากัน

นรมนเห็นว่าลูกชายไม่พูดอะไร นึกว่าเขาตกใจ ตบหลังของเขาเบาๆ “ไม่ต้องกลัวนะ มีแม่อยู่”

“ผมไม่ได้กลัวครับ แค่เป็นห่วงร่างกายของกิจจา”

กานต์เป็นห่วงกิจจาจริงๆ แม้ว่าบางทีไอ้เด็กนั้นจะโง่ไป หน่อย และชอบตามเขาต้อยๆ แต่เขาก็เป็นห่วง นรมนไม่ได้พูดอะไร ในใจก็กังวลเล็กน้อย

กิจจาสำคัญอย่างไรต่อบุริศร์ เธอรู้ ถ้าหากกิจจาเป็น อะไรขึ้นมาจริงๆ คาดว่าทั้งชีวิตนี้บุริศร์อยู่ไม่สุขแน่

เวลาผ่านไปทีละนิด กิจจายังไม่ออกมา คนที่รอค่อนข้าง กังวล และกานต์ก็อยากจะพุ่งเข้าไปอย่างรอไม่ไหว แต่ กลับถูกนรมนห้ามไว้

“รออีกแปป ต้องเชื่อใจคุณหมอ เชื่อใจกิจจา แม้ว่าเขาจะ ไม่ฉลาดเท่าลูก แต่เขาก็เป็นลูกของตระกูลโตเล็ก ลูกของ ตระกูลโตเล็กจะไม่อ่อนแอขนาดนั้น”

กานต์พยักหน้า สงบลงอีกครั้ง

ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง ในที่สุดประตูของห้องตรวจเปิด ออกสักที คุณหมอเดินออกมาอย่างเหนื่อยล้า

“คุณหมอคะ เป็นไงบ้างคะ?”

นรมนถามอย่างกังวล

คุณหมอมองเธอ แล้วมองธรณี พูดเสียงเบาว่า “ผม ต้องการพบประธานบุริศร์ มีบางอย่างผมอยากจะคุยกับ ประธานบุริศร์”

“สภาพร่างกายของประธานบุริศร์ในตอนนี้คุณก็รู้ เพื่อจะพักผ่อนให้ดี เขาย้ายโรงพยาบาลไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ตั้งแต่นี้ไป ฉันจะดูแลทุกอย่างของกิจจา ทุกเรื่องของเขา เกี่ยวข้องกับฉันทั้งนั้น คุณหมอมีคำพูดอะไรพูดตรงๆมาได้ เลยค่ะ”

นรมนประกาศแบบนี้

ธรณีชะงักไปแปป คุณหมอก็อึ้งไปเล็กน้อยเช่นกัน แม้ว่าเขาจะรู้ว่าความสัมพันธ์ของนรมนและบุริศร์นั้นดี แต่สามารถเป็นตัวแทนของทั้งตระกูลโตเล็กได้เหรอ?

พฤกษ์เห็นว่าคุณหมอลังเล เดินขึ้นมาก้าวหนึ่งแล้วพูด “ประธานบุริศร์พูดแล้ว ทุกเรื่องของตระกูลโตเล็กล้วนให้ คุณนรมนดูแล คุณหมอมือะไรพูดตรงๆมาได้เลยครับ คุณ นรมนเป็นตัวแทนของประธานบุริศร์ และการตัดสินใจของ ตระกูลโตเล็ก”

เมื่อได้ยินพฤกษ์พูดแบบนี้ ในใจของนรมนก็เจ็บปวดขึ้น

มา

เป็นถึงขนาดนี้แล้ว บุริศร์ยังคงให้ความเชื่อใจและดูแล เธออย่างดี แต่เขากลับไม่อยากเจอเธอ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ