แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 806 คนที่เคยจีบหม่าม



บทที่ 806 คนที่เคยจีบหม่าม

“บ้านนายมีแขกเหรอ?” ธรรศถามอย่างสงสัยเล็กน้อย

บุริศร์ส่ายหน้า

ธิดาก็เดินเข้ามาพอดี

“ประธานบริศร์ ฉันจะไปเปิดประตูนะ”

“ระวังหน่อยนะ”

บริศพยักหน้า

“โอเค”

ธิดายกเท้าเดินออกไปข้างนอก

พวกเด็กๆ ก็เหมือนรับรู้ถึงบรรยากาศตึงเครียด กิจจาถามขึ้น อย่างค่อนข้างสงสัย “แด๊ดดี้ ที่บ้านเกิดเรื่องอะไรเหรอครับ?”

“เปล่า หม่ามีกำลังท้องอยู่ไม่ใช่เหรอ? ก็ต้องระมัดระวังหน่อย ไม่มีอะไร ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

บุริศร์ยิ้มเรียบๆ ขณะลูบศีรษะกิจจา

กิจจาจึงโล่งอก

“หม่ามี้ควรได้รับการดูแลเป็นอย่างดี”
“อืม แด๊ดดี้จะระมัดระวังดูแลเป็นอย่างดี”

กมลและกานต์เหลือบมองพวกเขา ไม่ได้พูดอะไร กมลรู้สึกว่าพูดให้กิจจาฟัง และแสดงความหมายของตัวเอง ออกมา นั่นไม่จําเป็นต้องถามอีก จริงๆ แล้วกานต์มีความคิดอื่น

ธิดาออกไปสักพักแล้วกลับมา

“ประธานบริศร์ เป็นพัสดุด่วนของคุณนายค่ะ” “พัสดุด่วนเหรอ? ช่วงนรมนไม่ได้ซื้ออะไรนะ” บุริศร์เพิ่งพูดจบ สีหน้าก็จริงจังขึ้นมาทันที “เอามาให้ฉัน พวกเธอไปกินข้าวกันก่อน บุริศร์หยิบพัสดุด่วนแล้วขึ้นไปชั้นสอง ดวงตากานต์หรี่เล็กน้อยทันที ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง ธรรศก็ไม่ค่อยไว้วางใจเช่นกัน มองกานต์แล้วพูดเสียง

ทุ่ม “กานต์ พาพี่ชายกับน้องสาวไปกินข้าวก่อน ฉันจะขึ้นไปดูสัก หน่อย”

“ครับ”

กานต์ไม่ได้คัดค้าน

ธรรศก็ยกเท้าเดินออกไป

กานต์เห็นพวกเขาจากไปทีละคน ก็พูดขึ้นอย่างอดไม่ ได้ “ทำไมฉันรู้สึกว่าพวกผู้ใหญ่แปลกๆ? เกิดอะไรขึ้นจริงๆ ใช่ไหม?

“ไม่เป็นอะไรหรอก กินข้าวของนายไปเถอะ ตอนนี้หม่า เป็น คนสําคัญที่ต้องปกป้อง ตอนแรกคลอดเราแบบพื้นฐาน ฉันได้ยิน บุญธรรมบอกว่า ตอนนั้นหม่ามีเลือดออกเยอะมาก ชีวิตแขวน บนเส้นด้าย ตอนนี้หม่าท้องน้องอีกครั้ง คุณบุริศร์ก็ควรจะ เครียดมากหน่อย

กานต์พูดเสียงทุ้ม

ทันใดนั้นกมลกวางตะเกียบ เอามือข้างหนึ่งเท้าคางมองกานต์ แล้วพูดขึ้น “พี่ พี่คิดถึงพ่อบุญธรรมไหม?”

กานต์ชะงักไป

คิดถึงไหม?

ก็คงคิดถึงล่ะมั้ง

อย่างไรแล้วตั้งแต่เกิดจนกลับประเทศมา ช่วงเวลานี้รเมศอยู่ กับพวกเขาตลอดเลย ถึงแม้สุดท้ายจะดูออกว่าเมศมีเหตุผล อะไรบางอย่าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในใจกานต์กับกมลนั้นรเมศ คือคนแรกที่รับผิดชอบบทบาทหน้าที่คุณพ่อ

ถ้ารเมศไม่ได้ทำเกินไป กานต์ก็ไม่อยากเสียพ่อบุญธรรมคุณ

ไปจริงๆ หรอก

เห็นกานต์ไม่พูด กมลพูดขึ้นอย่างค่อนข้างอ้างว้าง “ฉันรู้ว่าพ่อ บุญธรรมท่าเรื่องเลวร้ายมากมาย และทำร้ายหม่ามี้ด้วย ถึง ขนาดคิดจะทำร้ายฉัน แต่ไม่รู้ทำไม ฉันเกลียดเขาไม่ลง บางครั้งฉันคิดข้างถนนหรือเปล่าและว่านี้พ่อบุญธรรมจะเป็นยังไง บ้าง ใช้ชีวิตมีสุขไหม

กินเถอะ

กานต์รีบขัดคําพูดกมล

กลัวถ้ากมลพูดเขา

พูดตรง รเมศแย่กับคนอื่น แต่ได้ทำกับและ หม่ามี้ ถึงแม้สุดท้ายทำแบบนั้นกับ

เขาได้ เขาไอคิวสูง ตอนคงเป็น

ยิ่งคิดก็ยิ่งทานอาหารไม่

“ไปเข้าห้องน้ำก่อน”

กานต์ลุกเดินจากอาหารไป

กมลมองแผ่นหลังกานต์ ถามกิจจาด้วยเสียงทุ้ม กิจจา พูดอะไรผิด

เปล่าหรอก กานต์แค่ห้องน้ำ”

กมลกัดตะเกียบ พูดขึ้นเสียงทุ้ม ฉันควรพูดถึงพ่อบุญธรรมเลย หม่ามีจะเสียใจ พี่ชายก็รู้สึกแย่

“อย่าทําแบบนี้ กมล เธอไม่ได้ทําอะไรผิด

กิจจาปลอบโยนกมล

หลังจากกานต์เข้าห้องน้ำ ก็หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกด เบอร์ที่คุ้นเคยที่สุดนั้น แต่ทันทีที่อีกฝ่ายเชื่อมต่อก็กดวางสาย

จะคุยอะไรกับพ่อบุญธรรมล่ะ?

เขากับหม่ามีถูกลิขิตไม่ให้อยู่ด้วยกัน และบางเรื่องในใจเขาก็ มีปัญหากับรเมศด้วย ไม่รู้ว่าควรเผชิญหน้าอย่างไร

ขณะที่กานต์คิดก็จะเก็บโทรศัพท์ ก็รู้สึกว่ากมลรบกวนอารมณ์ ตัวเอง แต่ในขณะนี้ รเมศก็โทรมา

เห็นเบอร์ที่คุ้นเคย กานต์ไม่รู้ว่าควรรับหรือไม่รับ แต่ก็ยังคง

กดปุ่มรับสาย

“กานต์ เธอเหรอ?

เสียงคุ้นเคยของรเมศดังขึ้น ทำให้กานต์แสบจมูกขึ้นมาทันที

“อืม”

“พ่อบุญธรรม” คำนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เรียกมันออกมาไม่ได้

แล้ว

แตรเมศค่อนข้างเซอร์ไพรส์

“เจ้าเด็กแสบ ยังรู้จัก โทรหาพ่อบุญธรรม ดูเหมือนพ่อ
บุญธรรมจะไม่ได้รักเธออย่างเปล่าประโยชน์แล้วสิ ดวงตาของกานต์ค่อนข้างแดง

“คุณ ตอนนี้สบายดีไหม?”

“ไม่มีเธออยู่ข้างๆ จะสบายดีได้ยังไง? แต่เธอเชื่อพ่อบุญธรรม นะ พ่อบุญธรรมจะสบายดี เธอเป็นยังไงบ้าง? กลับไปอยู่กับพ่อ แท้ๆ กับหม่ามี้ มีความสุขมากๆ เลยใช่ไหม?”

คำพูดรเมศทำให้กานต์พยักหน้าพูดขึ้น “อืม ดีมากๆ ครับ พ่อ

บุญธรรม”

“หม?”

ได้ยินกานต์เรียกตัวเองว่าพ่อบุญธรรม รเมศก็เผยรอยยิ้มบน ใบหน้า โดยอัตโนมัติ

เขาชอบกานต์จากใจจริง และให้ความรักเขาด้วยใจจริง เหมือนลูกชายแท้ๆ ของตัวเอง เขาถึงขนาดตั้งใจจะให้มรดกทุก อย่างของเขาให้กานต์ด้วย น่าเสียดายที่สุดท้ายก็ทำให้เป็น จริงไม่ได้

กานต์กัดปาก พูดเสียงทุ้ม “คุณหาแม่บุญธรรมให้ผมดีกว่า”

มือรเมศหยุดชะงัก รอยยิ้มแข็งที่อบนใบหน้า เขารู้สึกทั้งจะร้องไห้และหัวเราะ

กานต์ฉลาดอยู่ตลอด ตอนนี้ประโยคนี้หมายถึงอะไร รเมศรู้ดี

“เธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะไม่รังควานหม่ามีเธออีกแล้ว ไม่ทําลายครอบครัวเธอด้วย และยิ่งไม่ทำร้ายกมล แต่ก่อนพ่อ บุญธรรมไม่ดี พ่อบุญธรรมที่ไม่ถูกต้อง ต่อไปพ่อบุญธรรมจะไม่ รบกวนชีวิตพวกเธออีกแน่นอน”

“ผมแค่อยากให้คุณสามารถมีครอบครัวเป็นของตัวเอง มีลูก ของตัวเอง คุณกับหม่ามีผม เกือบจะเป็นพรหมลิขิตกัน”

เด็กตัวเล็กอย่างกานต์พูดประโยคนี้ออกมา ทำให้อยาก หัวเราะอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่เมศหัวเราะไม่ออก กลับรู้สึกขมขื่น เล็กน้อย

เด็กสี่ขวบคนหนึ่งสามารถเข้าใจสิ่งต่างๆ ทำไมเขาไม่เข้าใจ

ล่ะ?

“ฉันรู้ ที่เธอโทรหาฉัน หม่ามี้เธอรู้ไหม?”

“ไม่รู้ครับ”

กานต์พูดตามตรง

หัวใจรเมศรู้สึกเสียใจขึ้นอีกครั้ง

“เธอกับกมลจะต้องสบายดีนะ”

“อืม!”

กานต์รู้สึกไม่รู้ว่าต้องพูดอย่างไรดี จึงพูดขึ้นเสียงทุ้ม “พ่อ บุญธรรม ผมต้องวางแล้ว

“โอเค”

รเมศไม่อยากวางเลย แต่เข้าใกล้กานต์มากเกินไปไม่ได้
เขากลัวว่าตัวเองจะจุดชนวนความหวังอีกครั้ง กลัวตัวเองจะ ควบคุมตัวเองไม่ได้

เมื่อกานต์จะวางสาย ทันใดนั้นรเมศก็พูดขึ้น “เดี๋ยวก่อน กานต์ ช่วยฉันฝากบอกหม่ามีเธอกับแดดหน่อย

“ฝากว่าอะไรครับ?”

“บอกว่านภดลมีอันตราย พวกเขาจะเข้าใจ

คำพูดของรเมศทำให้กานต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“รู้แล้วครับ ขอบคุณครับพ่อบุญธรรม

หลังจากกานต์วางสายไป ออกมาจากห้องน้ำ ก็ขึ้นไปชั้นสอง หาบุริศร์และธรรคทันที

บริศร์มองพัสดุด่วนในมือ กลัวว่าข้างในจะมีระเบิดเวลาหรือ อะไรบางอย่าง เขาใช้ระบบเฝ้าระวังสแกนมัน พบว่าไม่มีอะไรผิด ปกติ ก็โล่งอก

ธรรคไม่กล้าผ่อนคลายความระมัดระวัง

“ไม่งั้นเอาออกไปข้างนอกไหม ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นในบ้าน ฉันกลัวนรมนจะได้รับผลกระทบ

“โอเค”

บริศร์ก็คิดแบบนี้

เมื่อทั้งสองถือพัสดุด่วนจะออกไปข้างนอก ก็เจอกานต์ที่มาถึงชั้นบนพอดี
“กานต์? ลูกขึ้นมาทำไม? กินข้างเสร็จแล้วเหรอ?”

“ผมมีเรื่องจะคุยกับพวกคุณ

กานต์พูดราวกับเป็นเด็กที่เหมือนผู้ใหญ่

เห็นลูกชายเข้มงวดแบบนี้ บุริศร์ก็ถามเสียงทุ้ม “เรื่องอะไร?” “พัสดุด่วนอันนี้คืออะไรครับ?

กานต์ถูกพัสดุด่วนในมือบุริศร์ดึงดูดสายตาทันที “ลูกอย่าไปสนใจว่าพัสดุด่วนอันนี้คืออะไร ลูกมีอะไรจะคุยกับ พวกเรา?”

กานต์เห็นบริศ ไม่อยากบอก ก็ไม่ได้บังคับ เขาลังเลสักพัก ก่อนพูดขึ้น “เมื่อกี้ผมโทรหารเมศมา

“ใครนะ?”

บริศ ฟังไม่ค่อยชัด

กานต์มองบุริศร์ รวบรวมความกล้าพูดขึ้น “รเมศ พ่อบุญธรรม ผม คนที่เคยจีบหม่ามี้

สีหน้าบุริศร์เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“ทำไมนึกโทรหาเขา?”

ในใจบุริศร์ ก็เป็นสิ่งต้องห้ามอยู่เสมอ

รเมศเลี้ยงดูลูกแทนเขามาสี่ปี และดูแลนรมนมาห้าปี ถ้าไม่ใช่ เพราะหลังๆ รเมศทำเกินไป เขาก็คงไม่ปฏิบัติกับตระกูลวัชโรทัยปฏิบัติกับรเมศแบบนั้นหรอก ดังนั้นตอนนี้พอพูดถึงรเมศ บุริศร์ ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้

เขารู้ความรู้สึกของเด็กๆ ที่มีต่อรเมศ เพราะเป็นแบบนี้ บุริศร์ ถึงได้เครียด

เห็นบริศ เครียดแบบนี้ กานต์ก็รีบพูดขึ้น “ผมโทรหาเขาไม่ได้ มีเรื่องอื่น แค่จู่ๆ กมลนึกถึงเขา ผมก็เลยโทรหาเขา ผมแค่ถาม เขาเฉยๆ ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

เห็นลูกชายเครียดกับท่าทีของตนแบบนี้ ถึงบุริศร์จะรู้สึกไม่ ค่อยดีหลายอย่าง แต่ก็ยังยิ้มเรียบๆ ขณะพูดขึ้น “ไม่เป็นไร ยังไง เขาก็เลี้ยงพวกลูกมาสี่ปี

“คุณบุริศร์ ผมไม่ได้พูดอะไรกับเขาจริงๆ นะ แค่คุยกัน เขาให้ ผมฝากบอกหม่า เรื่องหนึ่งด้วย

“เรื่องอะไร?”

บริศ แอบกําหมัดแน่น

ถ้ารเมศยังไม่ตัดใจและคิดจะทำอะไรกับนรมน เขาคงทำให้ ตระกูลวัชโรทัยหายไปจากโลกใบนี้โดยไม่เกรงใจ

กานต์ไม่เคยเห็นบุริศร์กัดฟันกรอดอดทนแบบนี้เลย เขารีบพูด ขึ้น “เขาบอกว่านภดลเกิดเรื่องแล้ว”

คิ้วบุริศร์ขมวดทันที

“ใครนะ?”
นภดล”

ธรรคเห็นบริศ เครียดแบบนี้ ก็ถามขึ้น “คนคนนี้สำคัญกับ พวกนายมากเหรอ?”

“ใช่ เขาเคยช่วยชีวิตนรมน ตอนนี้ที่นรมนสามารถท้องได้ ก็ เป็นไปได้อย่างมากว่าจะเกี่ยวข้องกับนภดล ไม่กี่วันก่อนนรมน ยังบอกว่าอยากขอบคุณนภดลเป็นอย่างดี ถ้ารเมศไม่ได้โกหก พวกเรา ทางด้านนภดลฉันก็ต้องหาทางช่วยให้ได้”

ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ ธรรศก็รู้ว่าคนคนนี้มีความสำคัญกับ พวกเขา

“ต้องการฉันเมื่อไรก็บอกได้

“โอเค”

บริศพยักหน้า

กานต์เห็นบุริศร์ไม่คิดจะตำหนิตน ก็โล่งอก

เมื่อครู่นี้ใบหน้ามืดมนของบุริศร์น่ากลัวมากเลยอ่า กานต์หดคอ ดวงตาถูกพัสดุด่วนในมือบุริศร์ดึงดูดอีกครั้ง

ในนี้มีของอะไรกันแน่?

เขาอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก รีบแย่งกล่องพัสดุด่วนจากมือ

“กานต์ อย่าซน เอามาให้พ่อเร็วๆ
บริศ ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ยื่นมือไปแย่ง

และในขณะนี้ พอกานต์ประหม่า กล่องพัสดุด่วนจึงตกลงไปที่ พื้นทันที เกิดเสียงแตกดัง “ปัง” สิ่งของที่อยู่ในนั้นหล่นออกมา ทําให้กานต์ตกใจกลัวจนหน้าซีด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ