แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 728 จะจากไปก่อนหรือว่าอยู่ต่อ



บทที่ 728 จะจากไปก่อนหรือว่าอยู่ต่อ

“ทําไมเหรอ?”

หัวคิ้วของบริศ ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยที่หนึ่ง หรือว่าหญ้า ดาวสีฟ้าไม่ได้เป็นเหมือนกับที่ป้าโอพูดเหรอ?

อุดมมองบุริศร์ทีหนึ่ง แล้วก็หันไปมองนรมนเล็กน้อย แล้วถาม ขึ้นว่า “พวกคุณสองคน ใครจะต้องใช้หญ้าดาวสีฟ้าเหรอ?”

“ภรรยาของผม แล้วนี่มันมีอะไรแตกต่างกันเหรอ?”

บริศ มักจะรู้สึกว่าอุดมเหมือนมีคำพูดอะไรที่อยากจะพูด นรมนเองก็มองไปที่อุดม สำหรับผู้ชายคนนี้ที่อยู่ ๆ ก็โผล่ออก มานั้น เธอยังคงรักษาความระแวดระวังเอาไว้

อุดมครุ่นคิดไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “หญ้าดาวสีฟ้าเป็นของ ขึ้นชื่อของที่นี่เรา ถ้าจะพูดให้ถูกต้องคือ เป็นของขึ้นชื่อของ หมู่บ้านเรา เพราะว่าสุสานที่ค่อนข้างเยอะ และความชื้นที่มีมาก เกินไป เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่จะถึงอยู่ตามสุสาน แต่ว่าถ้าคนนอก อยากจะมาหาหญ้าดาวสีฟ้า ให้เจอก็จะต้องเปลืองแรงพอสมควรเหมือนกัน หญ้าดาวสีฟ้ามีฤทธิ์เย็น เยอะมาก นอกจากคนที่ร่างกายมีพิษร้อนสูงถึงจะสามารถใช้มัน ได้ คุณผู้หญิงท่านนี้ คุณจะต้องคิดดูให้ดี ๆ นะ ถ้าหากคุณไม่ได้ โดนพิษร้อนสูงมา ถ้ากินหญ้าดาวสีฟ้าเข้าไปแล้ว ก็อาจจะทำให้ คุณไม่สามารถมีลูกได้อีกตลอดชีวิตเลยนะ”

พอได้ยินคำพูดของอุดมแล้ว บุริศร์ถึงได้โล่งใจขึ้นมาเปลาะ หนึ่ง

“พวกเรามีลูกกันแล้ว”

“มีลูกกันแล้วเหรอ? นี่โอมีหลานแล้วเหรอ”

ในตอนที่อุดมพูดมาถึงตรงนี้นั้น ก็รู้สึกทุกข์ขึ้นมาอีกครั้งแล้ว นรมนดึงชายเสื้อของบริศร์เล็กน้อย แล้วก็กระซิบเสียงต่ำที่ ข้างหูของเขาว่า “ฉันรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีปัญหานิดหน่อย

“อย่าไปสนใจเขามากเลย ขอแค่เขาสามารถพาเราออกไป ตามหาหญ้าดาวสีฟ้าได้ก็พอแล้ว คุณก็ปฏิบัติตัวไปตาม สถานการณ์เลยนะ ไม่ต้องสนใจผม”

บุริศร์ตบมือของนรมนแล้วก็พูดเสียงอ่อนโยนขึ้น สำหรับเขา แล้ว ร่างกายของนรมนคือสิ่งสำคัญที่สุด
“ฉันจะไม่สนใจคุณได้ยังไงกันคะ?”

นรมนมองเขาตาขวางทีหนึ่ง แล้วก็ทำให้บริศร์หัวเราะเบา ๆ ทีหนึ่ง

“พวกคุณสองคนนี่ดูรักกันมากเลยนะ เมื่อก่อนผมกับโอก็เป็น แบบนี้”

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อุดมเริ่มสังเกตพวกเขาขึ้นมา พอเห็น ท่าทางที่รักใครกลมเกลียวแบบนี้ของพวกเขาแล้ว ก็อดที่จะเปิด ปากพูดขึ้นมาไม่ได้

บุริศร์พูดขึ้นเรียบ ๆ ว่า “ปฏิกิริยาของคุณแบบนี้ ผมสามารถ เข้าใจได้ว่าคุณจะพาพวกเราออกไปหาหญ้าดาวสีฟ้าใช่หรือ เปล่า?”

“ดูจากฐานะที่พวกคุณคือลูกชายและลูกสะใภ้ของโอแล้ว ผม จะพาพวกคุณไป แต่ว่าพวกคุณจะต้องตามผมให้ติด ๆ เลยนะ สภาพอากาศของที่เรานี้ถือได้ว่าเป็นเขตร้อนชื้น ค่อนข้างที่จะ ร้อนและเปียกชื้น โดยเฉพาะตอนกลางคืนของสุสานแล้ว พื้นจะ ลื่นมาก ฉะนั้นจะต้องตามผมให้ติด ๆ เลยนะ”

อุดมพูดไปแบบนี้แล้ว ก็เดินออกไปก่อนเลย บุรีศรีบเดินตามไป นรมนลังเลไปครู่หนึ่ง แล้วก็เดินตามออกไป
ที่นี่มีกลลวงอยู่จริง ๆ ด้วย ๆ

นรมนเดินตามพวกอุดมออกมาจากถ้ำ ตอนที่เดินออกมาถึง ข้างนอกนั้น แสงจันทร์ก็กำลังส่องแสงเต็มที่พอดี

เธอมองดูเวลาเล็กน้อย เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี ไม่รู้ว่าพวกกานต์กับโสธรเขาจะเป็นยังไงกันบ้างแล้ว

นรมนเอาโทรศัพท์ออกมาดูที่หนึ่ง มีสัญญาณขึ้นมาแล้ว ก็รีบ โทรศัพท์ให้กานต์สักสาย

“หม่ามี้ หม่ามี้กับคุณบุริศร์ไปไหนกันครับ? พวกเราค้นหาทั่ว ทั้งหมู่บ้านรอบหนึ่งแล้ว ก็ยังตามหาพวกคุณไม่เจออีก”

นรมนได้ยินเสียงที่ร้อนใจของกานต์แล้ว ก็พูดขึ้นอย่างรู้สึกผิด ว่า “ขอโทษด้วยนะลูก หม่ามีไม่ทันระวังก็เลยตกลงไปในถ้ำแห่ง หนึ่ง นี่ก็เพิ่งจะออกมาได้เมื่อกี้เอง หม่ามี้กับแด๊ดดี้จะไปหายา สมุนไพรชนิดหนึ่ง หนูกับคุณอาโสธรรอพวกเราอยู่ที่บ้านพักของ บ้านไร่กันดี ๆ นะ?

“ยาอะไรครับจําเป็นจะต้องไปหากันดึกดื่นแบบนี้ด้วย? ไปหา ตอนกลางวันไม่ได้เหรอครับ?”

กานต์รู้สึกไม่ค่อยวางใจนัก
นรมนยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าลูกโง่ ของบางอย่างก็จำเป็นจะ ต้องหากันตอนกลางคืน เอาล่ะ ไม่พูดอะไรกับหนูเยอะแล้ว ถ้าหนู มีอะไรก็โทรศัพท์หาหม่ามีนะ หม่ามี้จะวางสายแล้วนะ ?”

“ก็ได้ครับ หม่ามี้ต้องระวังตัวด้วยนะครับ

“ได้จ้ะ”

หลังจากที่นรมนวางสายโทรศัพท์ไปแล้ว ก็เงยหน้าขึ้นมา และ ยังจะมีเงาของบุริศร์และอุดมซะที่ไหน?

ทั่วทั้งพื้นที่เงียบสงบ รอบข้างล้วนเป็นหลุมฝังศพมากมาย ดู ไปแล้วก็ทำให้คนกลัวจนอกสั่นขวัญแขวนขึ้นมา

ฝีมือของบุริศร์นั้นเธอก็มั่นใจมากอยู่ เพียงแต่ว่าเธอกลับไม่ ได้ยินเสียงอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ใครจะไปรู้ว่าอุดมคนนั้นจะ ใช้วิธีพิเศษอะไรหรือเปล่า?

นรมนร้อนรนขึ้นมาทันที

“บริศร์! บุริศร์!”

นรมนร้องตะโกนขึ้นมา

เสียงของเธอดังอยู่ในสุสานที่กว้างขวางทำให้ฟังดูก้องกังวาน มากขึ้น จนทำให้ประสาทของคนตึงเครียดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
นรมนรู้สึกกลัวนิดหน่อย แต่ว่าพอนึกขึ้นได้ว่าไม่รู้ว่าบุริศร์จะ เป็นยังไงบ้างแล้ว เธอเองก็จะสนใจมากไม่ได้แล้ว จึงเริ่มต้นตาม หาไปรอบ ๆ ขึ้นมา

พอหาไปประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ยังคงหาอะไรไม่เจอสักอย่าง ลมเย็นพัดผ่านมา ใบไม้ค่อย ๆ เกิดเสียงดังขึ้น นรมนรู้สึกว่า ขนทั่วทั้งตัวของตัวเองจะลุกขึ้นมาหมดแล้ว

เธอกลืนน้ำลายลงคอไปคำหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว แล้วก็หยิบ โทรศัพท์ออกจะโทรขอความช่วยเหลือ แต่พอเปิดโทรศัพท์ออก มาก็พบว่าแบตหมดแล้ว

จะทํายังไงดี?

จะจากไปหรือว่าอยู่ต่อดี?

นรมนเลือกไม่ถูก

การป้องกันตัวของบุริศร์นั้นไม่มีปัญหาแน่ เพียงแต่ว่าที่นี่เป็น แหล่งรวมยาสมุนไพร เธอกลัวว่าอุดมคนนั้นจะวางยาอะไรใส่ตัว บุริศร์

แต่ว่าตัวเองอยู่ที่นี่ต่อก็เหมือนกับว่าเป็นเขาวงกตแห่งหนึ่ง ไม่มีทางที่จะหาข่าวคราวและเบาะแสอะไรเจอได้สักนิด
นรมนครุ่นคิดอยู่นาน แล้วก็ตัดสินใจว่าไปขอความช่วยเหลือ ก่อนดีกว่า

เธอออกจากที่นี่ไปอย่างรวดเร็ว แล้วเวลาประมาณตีสามก็มา ถึงบ้านพักของบ้านไม่ได้

คนทั้งหมดยังคงพักผ่อนอยู่

นรมนไม่ได้กวนให้กานต์ตื่นขึ้นมา แต่ตัวเองกลับวิ่งไปเคาะ ประตูห้องของป้อง

การนอนหลับของป้องก็ตกใจตื่นได้ง่ายมาก ตอนที่ได้ยินเสียง เคาะประตูนั้นก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที

“ใคร?”

“ฉันเอง นรมนค่ะ บุริศร์หายไปแล้ว”

คําพูดของนรมนทําให้ป้องเปิดประตูออกอย่างรวดเร็ว

เพราะว่าออกมาอย่างรีบร้อน ป้องจึงคลุมเสื้อคลุมนอนไว้แค่ ตัวเดียว พอเห็นนรมนที่ท่าทางดูอนาถและเปียกปอนไปทั้งตัว ก็ ขมวดคิ้วแล้วถามขึ้นว่า “ไหนบอกว่าพวกคุณไปหายาสมุนไพร กันไง? ทำไมบริศร์ถึงได้หายไปได้ล่ะ?”

แล้วนรมนก็เล่าเรื่องของอุดม ให้ป้องฟังอย่างรวดเร็ว
หัวคิ้วของป้องขมวดเข้าหากันอีกครั้ง

“อุดมเหรอ? คนคนนี้เป็นมิตรหรือเป็นศัตรูก็ไม่รู้ทำไมพวก คุณถึงได้ไปตามหายาสมุนไพรกับเขาได้ล่ะ?”

“ก็มันไม่มีทางแล้วไงล่ะ? พวกเราจําเป็นจะต้องให้เขาพาพวก เราออกมา แล้วฉันก็คิดว่า ฝีมือของพวกเราก็ไม่ได้แย่มากนัก รับมือกับตาแก่หัวหงอกคนหนึ่งก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่ ใครจะไปรู้ฉันแค่โทรศัพท์ไปครู่หนึ่ง พวกเขาก็หายตัวกันไป แล้ว”

นรมนรู้สึกหงุดหงิดจะตายอยู่แล้ว

ป้องขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นว่า “อย่าร้อนใจไปเลย ผมจะให้คนไป ตรวจสอบประวัติของอุดมคนนี้ก่อนค่อยว่ากัน ฝีมือของบุริศร์ รับมือกับตาแก่คนหนึ่งไม่มีปัญหาหรอก คุณวางใจเถอะ”

ถึงแม้ว่าป้องจะพูดแบบนี้ แต่ว่านรมนก็ยังเป็นกังวลอยู่ดี

“คุณกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องก่อนเถอะ อย่าเป็นหวัดไปล่ะ ผมเองก็จะเปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อยเหมือนกัน เดี๋ยวเจอกันที่ข้าง นอกนะ”

“ได้ค่ะ”
นรมนกลับมาถึงห้องตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า ชุดหนึ่งเสร็จออกมา ก็มาเจอเข้ากับโสธรพอดี

“คุณนายบุริศร์ คุณกลับมาแล้วเหรอ? ประธานบริศร์ล่ะ?”

“ทำไมคุณถึงได้ออกมาล่ะ?” ตอนนั้นรมนหวาดระแวงไปหมดแล้ว

โสธรเกาหัวขึ้นอย่างรู้สึกเขินอายแล้วพูดขึ้นว่า “ผมออกมา เข้าห้องน้ำ ห้องน้ำทางด้านของเรานั้นอยู่ข้างนอกหมดเลย

นรมนรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที

“คุณกลับไปก่อนเถอะ ฉันกับป้องจะออกไปข้างนอกกันสัก หน่อย กานต์คงต้องฝากให้นายช่วยดูแลด้วยแล้ว”

“ได้ครับ ไม่มีปัญหา แต่ว่าเช้าขนาดนี้พวกคุณจะออกไปทำ

อะไรกันครับ?”

คำพูดของโสธรทำให้คิ้วของนรมนขมวดขึ้นมาอีกครั้ง

“พวกเราเจอเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่ออุดม บุริศร์ไปตามหา หญ้าดาวสีฟ้ากับเขาแล้ว แต่ว่าฉันแค่คลาดสายตาไปครู่เดียว เขาก็หายไปแล้ว ฉันกับป้องจะออกไปตามหาคน

โสธรเป็นน้องชายของนิตา นรมนคิดกับนิตาเป็นเพื่อนรัก ก็ แน่นอนว่าจะไม่ปิดบังโสธรแน่

แต่ว่าตอนที่โสธรได้ยินชื่อของอุดมนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปครู่

“เมื่อกี้คุณพูดว่าใครนะครับ?”

“อุดม ทําไมเหรอ? นายรู้จักเหรอ?”

“อายุประมาณเท่าไหร่แล้ว?

พอเห็นท่าทางของโสธรแล้ว นรมนก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที

“อายุดูแล้วประมาณห้าสิบกว่าปี เขาบอกว่ามีความสัมพันธ์ เป็นคู่หมั้นกับโอ ตอนที่หมู่บ้านนี้เกิดภัยพิบัติขึ้นนั้น เขาหลบไป อยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งตัวคนเดียว ถึงได้หลบพ้นทุกอย่างได้ แล้ว หลายปีมานี้เขาก็อาศัยอยู่ที่นั่นตัวคนเดียวมาตลอด

นรมนเอาทุกอย่างที่ตัวเองรู้บอกให้กับโสธรทั้งหมด

หัวคิ้วของโสธรขมวดเข้าหากันแน่น

“หน้าของเขาเหลี่ยม ๆ ใช่ไหม? บนหน้ายังมีปานอีกอันหนึ่ง เป็นแบบนี้ใช่ไหม?”

โสธรพูดไปก็วาดท่าทางไปด้วย

นรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “ใช่ หน้าเหลี่ยม ๆ แต่ว่า ปานนั้นฉันมองไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ เหมือนกับว่าเขาจะไม่ได้ล้าง หน้ามานานแล้ว บนใบหน้าสกปรกมอมแมม และที่สำคัญตอน นั้นแสงก็มืดเกินไป ทำให้มองไม่ชัดด้วยซ้ำ ทำไมเหรอ? นาย รู้จักคนคนนี้ใช่ไหม? นายรู้ว่าเขาจะไปที่ไหนไหม?”

โสธรจ้องมองนรมน ผ่านไปครู่หนึ่งแล้วถึงพูดขึ้นว่า “ถ้า หากว่าคนที่คุณกับผมพูดเป็นคนคนเดียวกันละก็ ผมก็รู้สึกกลัว ขึ้นมาหน่อยแล้ว”

“ทําไมล่ะ?”

“เพราะว่าอุดมคนนี้ได้ตายไปนานแล้ว”

พอคำพูดประโยคนี้พูดจบลง นรมนก็รู้สึกว่าแผ่นหลังเย็นวาบ ขึ้นมาเลย

“โสธร คำพูดตลกนี้ไม่ขำสักนิดเลยนะ”

น้ำเสียงของเธอสั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อย

ฝีมือของบุริศร์นั้นไม่เลว คนทั่วไปถ้าอยู่ต่อหน้าเขาก็ไม่มีทาง ได้ลงมือด้วยซ้ำ แต่ว่าเมื่อไม่นานมานี้เธออยู่ข้างกายพวกเขา ถึง จะก้มหน้าคุยโทรศัพท์อยู่ก็ตาม แต่ว่าก็ไม่มีทางที่จะไม่ได้ยินเสียงเลยแม้แต่ นิดเดียว แล้วพวกเขาก็มาหายตัวไปภายใต้สายตาของตัวเอง แบบนี้ แล้วตอนนี้โสธรก็มาบอกว่าอุดมได้ตายไปแล้ว ไม่มีใครที่ จะไม่รู้สึกกลัว และไม่รู้สึกอกสั่นขวัญแขวนหรอก

โสธรถแขนของตัวเองเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “ตอนผมเด็ก ๆ เคยได้ยินพ่อผมพูดว่า ในหมู่บ้านของเรามีผู้หญิงหน้าตาสะสวย คนหนึ่งชื่อว่า โอ ตอนนั้นคนที่จีบเธอมีเยอะมาก แล้วอุดมคนนี้ เป็นเด็กกําพร้าคนหนึ่ง ที่โดนพ่อแม่ของโอเก็บมาเลี้ยงจนโต ถือ ได้ว่าเป็นคู่กิ่งทองใบหยกที่เติบโตมาพร้อมกับโอเลยก็ว่าได้ คุณ ก็รู้ว่าหมู่บ้านนี้ ไม่อนุญาตให้แต่งงานกับคนนอกหมู่บ้าน เพราะ ฉะนั้นพ่อแม่ของโอก็เลยให้พวกเขาหมั้นกัน รอให้ถึงช่วงอายุที่ สมควรแต่งงานแล้วก็จะจัดงานแต่งงานให้ พอต่อมาโอโตเป็น สาวแล้ว ก็ได้ยินว่าเธอออกไปทำธุระนอกหมู่บ้าน แล้วไม่รู้ว่าไป รู้จักกับใครเข้า พอกลับมาก็จะมาถอนหมั้นกับอุดม เรื่องนี้ตอน นั้นให้หมู่บ้านเป็นข่าวใหญ่โตมาก และเพราะว่าเรื่องนี้พ่อของโอ เกือบจะตีเธอขาหักแล้วด้วยซ้ำ แต่ว่าให้ตายโอก็ยังยืนกรานว่า จะถอนหมั้นอยู่ดี”

พอได้ยินคำพูดพวกนี้ของโสธร นรมนก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งขึ้นมา

“นายจะบอกว่า โอรู้จักกับคนภายนอก เพราะฉะนั้นถึงได้กลับ มาถอนหมั้นเหรอ?”

“ผมก็ไม่ค่อยชัดเจนนัก ผมก็ได้ยินมาตอนที่พ่อแม่ผมพูดคุย กันตอนไม่ได้ตั้งใจเท่านั้น ต่อมาผมรู้สึกว่าค่อนข้างน่าสนใจ ผม ก็เลยเซ้าซี้ให้พวกท่านพูดให้ผมฟัง ที่เรื่องนี้ทำให้ผมค่อนข้างจำ ได้ฝังใจ ก็เพราะว่าตอนนั้นตอนที่พ่อแม้ผมพูดเรื่องนี้ขึ้นมานั้น พี่ สาวของผมกำลังมีคนมาจีบพอดี พ่อแม่ผมไม่อยากจะให้พี่สาว ผมมีความรักเร็วขนาดนี้ ก็เลยเอาเรื่องนี้มาเล่าให้พวกผมฟัง

คำพูดของโสธรไม่มีช่องโหว่เลยสักนิด

หัวคิ้วของนรมนขมวดเข้าหากันแน่น

ถ้าหากสิ่งที่โสธรพูดมาเป็นความจริงทั้งหมดละก็ งั้นทำไม อุดมถึงไม่บอกเรื่องพวกนี้กับพวกเธอล่ะ?

หรือว่าตอนที่เขารู้ว่าบุริศร์เป็นลูกชายของโอนั้น ก็ได้ตัดสินใจ ว่าจะจับตัวบุริศร์แล้วเหรอ?

แต่ว่าเป็นเพราะอะไรล่ะ?

หรือว่าเป็นเพราะว่ารักมากก็เลยเกลียดมากแล้วอยากจะแก้ แค้นเหรอ?
นรมนคิดยังไงก็คิดไม่ตก

เธอจ้องมองโสธร แล้วถามขึ้นว่า “งั้นพ่อแม่ของนายได้พูดไว้ หรือเปล่าว่าต่อมาพวกเขาเป็นยังไงกันบ้างแล้ว? อุดมคนนั้นเป็น ยังไงบ้าง?

“พูดซ์ พ่อแม่ผมบอกว่า อุดมรัก โอมาก และอยากจะให้เธอ สลัดความคิดที่จะไปจากหมู่บ้านออก แต่ว่าโอไม่เห็นด้วย อุดม เลยถือโอกาสตอนที่ทําอาหารมาวางยา โอ เพื่ออยากจะตายไป พร้อมกันกับโอ แต่คิดไม่ถึงว่าตอนที่โอเป็นเด็กได้เกิดป่วยด้วย โรคประหลาดอย่างหนึ่งขึ้นมา แล้วพ่อของเธอก็เป็นคนรักษาให้ เธอ จนในร่างกายได้มีภูมิต่อต้านต่อสารพิษขึ้น เพราะฉะนั้นตอน นั้นคนที่ตายจึงมีแต่อุดมคนเดียวเท่านั้น”

พอคำพูดนี้พูดออกมา ตัวทั้งตัวของนรมนก็นิ่งอึ้งไปเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ