แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1192 กมลถูกคนเฝ้าติดตามหรือเปล่า?



บทที่ 1192 กมลถูกคนเฝ้าติดตามหรือเปล่า?

มองเห็นนรมนมีท่าทางคิดใคร่ครวญ ธรณีก็เสียใจ ถ้ารู้ว่า เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับคนเหล่านั้นเรื่องเหล่านั้นก่อนหน้านี้ ตั้งแต่แรก เขาน่าจะถือโอกาสถามคุณนายทวีทรัพย์ธาดาตอนที่ ยังมีชีวิตอยู่ ไม่เป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างตอนนี้

“เอาเถอะ ไม่ต้องคิดแล้ว เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง เธอออกไป เที่ยวกับบริศร์และลูก ๆ ให้มีความสุขก็พอ

“ค่ะ”

นรมนเกิดความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในสมอง แต่คว้าเอาไว้ ไม่ทัน ตอนนี้ได้ยินธรณีพูดแบบนี้ จึงไม่รีบร้อนคิดเกี่ยวกับมัน รีบพยักหน้าทันที

ในระหว่างที่คุยกันบริศร์ก็เดินเข้ามา นรมนเห็นเขา เธอยิ้มอย่างอ่อนโยน

“กมลหลับสนิทมากเลยเหรอ?”

“อืม เกรงว่าเด็กคนนี้จะไม่ได้นอนหลับสนิทแบบนี้มานาน แล้ว”

ใบหน้าของบริศ มีความสงสาร

ตระกูลทวาทสินอยู่ที่ไหน?

ถึงแม้กมลจะดูกินเก่ง แต่อยู่ในตระกูลทวาทสินก็เครียดไปโดยปริยาย จนแม้แต่จะนอนหลับสนิทไหม สิ่งที่คิดได้คือ เด็กคน นี้คือจะทำอย่างไรได้ ต้องการอยู่ตระกูลทวาทสินเป็นเพื่อนดนัย และคนอื่น ทำให้บริศร์รู้สึกปวดใจแต่กลับไม่ใจแข็งพอที่จะ ต่อว่า

ตอนนี้กลับมาอยู่ข้างกายพ่อของตนเอง จึงรู้สึกผ่อนคลาย ผืน ความง่วงไม่ไหวนอนหลับไป และอาจจะตื่นพรุ่งนี้เลยก็เป็นได้

คิดถึงตรงนี้ บุริศร์สับสน

เมื่อนรมนได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ก็อึ้งไปอย่างห้ามไม่ได้ จากนั้น ปวดใจสุด ๆ

“บุริศร์ ทำไมวันนี้พวกเราไม่พักที่นี่ไปเลยล่ะ บุริศร์จะไม่เข้าใจคำพูดของนรมนได้อย่างไร?

นั่นคือลูกสาวสุดที่รัก ไม่ใจแข็งพอที่จะวิ่งเต้นไปทั่ว โดย เฉพาะอย่างยิ่งรถที่ตามมาเมื่อสักครู่มันเรื่องอะไรกัน พวกเขายัง ไม่รู้แน่ชัด การพาลูกที่กำลังหลับสนิทออกไปอย่างสะเพร่าไม่ใช่ วิธีการที่ดี

“ได้ อาธรณี พวกเราอยู่ที่นี่ได้ไหม? ”

“ถามอะไรโง่ ๆ ? นี่ก็เป็นบ้านของนรมน จะมีได้หรือไม่ได้ที่ ไหนกัน พวกเธอก็เหนื่อยแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”

ธรณีรู้ว่าสองสามีภรรยาอาจมีเรื่องต้องคุยกัน จึงไม่อยู่ตรงนี้ ให้คนรังเกียจแน่นอน รีบผลักล้อรถเข็นออกไป
นรมนกับบุริศร์กลับมาที่ห้อง มองเห็นกมลหลับฝันหวานบน เตียง นรมนเจ็บปวดใจ

“ปกติเด็กคนนี้เอาแต่กิน ไม่เคยเห็นเธอเป็นห่วงเรื่องของคน อื่น ไม่คิดว่าครั้งนี้จะเอาใจใส่ดนัยกับเวธนีแบบนี้ ในฐานะหม่า มันทำให้ฉันเข้าใจยาก”

นรมนยิ้มอย่างกลัดกลุ้มใจ

บริศร์โอบไหล่เธอเบา ๆ กล่าวอย่างอ่อนโยน : “แต่ไหนแต่ ไรกมลไม่ได้เป็นแค่คนกินเก่ง เธอแค่คิดว่ามีพวกเราและพี่ชาย ทั้งสอง ยังไม่ถึงคราวที่เธอต้องทุกข์ใจอะไร จึงสบายใจทำตัว เป็นคนกินเก่งที่มีความสุข แต่ลูกสาวของผม จะเป็นคนธรรมดา ทั่วไปที่ไหนกัน? ครั้งนี้กมลเป็นคนสมัครใจไปดูแลตระกูลทวาท สินเอง นอกจากปกติแล้วดนัยเจ้าเด็กนั้นให้ของกินเธอ เธอก็ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างผมกับตระกูลทวาทสินอย่างแน่นอน”

“หา? ”

นรมนแปลกใจเล็กน้อย

บริศ มองเห็นท่าทางไม่อยากเชื่อของภรรยา จึงอดกล่าวด้วย รอยยิ้มไม่ได้ “รู้สึกเหลือเชื่อเหรอ? คิดไม่ถึงว่าเด็กคนหนึ่งจะ คิดได้ลึกซึ้งกว่าผู้ใหญ่ ดังนั้นคุณจึงรู้สึกว่าผมคิดมากเกินไป? ”

ถึงแม้นรมนจะไม่ได้พูดอะไร แต่เห็นได้ชัดว่าคิดแบบนี้ เมื่อ ได้ยินบุริศ พูดเช่นนี้ จึงเผยรอยยิ้มกระอักกระอ่วนอย่างห้ามไม่ ได้
บุรีศร์กลับไม่ได้สนใจความกระอักกระอ่วนของนรมน ลูบไล้ เส้นผมของเธอ ยิ้มกล่าว : “มิตรภาพที่แข็งแกร่งของคุณชายทั้ง สี่แห่งเมืองชลธี หลายปีที่ผ่านมา พวกเรากลายเป็นผู้มีอำนาจ ใหม่ของเมืองชลธี ควบคุมเศรษฐกิจและอำนาจของเมืองชลธี แน่นอนว่าทำให้คนหลายตระกูลไม่ยอมรับแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ วัน นี้มีคนก่อกวนความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งของพวกเรา คิดฉวย โอกาสกําจัดพวกเราตระกูลผู้มีอำนาจใหม่ คุณคิดว่าคนตระกูล ใหญ่เหล่านั้นจะนั่งนิ่งได้เหรอ?

นรมนหรี่ตาลงทันที

“คุณหมายความว่าเรื่องสกปรกนี้ไม่ได้เกิดจากฝีมือของกล้า ณรงค์คนเดียวใช่ไหม?

“ไม่ว่ากล้าณรงค์จะเก่งแค่ไหน จะสามารถกําจัดพวกเรา คุณชายทั้งสี่แห่งเมืองชลธีได้เหรอ? เพียงแต่ได้ประโยชน์จาก

การเข้าไปเกี่ยวข้อง

ในด้านนี้บุริศร์กลับมองลึกซึ้งกว่านรมนมาก ถูกเขาเอ่ยขึ้น นรมนเข้าใจทันที

“พวกคุณสี่คนเคยชินกับอำนาจในเมืองชลธี กดขี่ตระกูลที่มี แต่เดิม คนเหล่านั้นจึงฉวยโอกาสครั้งนี้ในช่วงชุลมุน ถ้าสามารถ ทําลายพวกคุณได้ เกมกระดานของเมืองชลธีจะล้างใหม่ ถึงตอน นั้นใครคิดจะเบียดเข้าไปในตระกูลใหญ่นี้ก็ดูกันที่ความ สามารถใช่ไหม? ”

บริศร์เห็นนรมนเข้าใจทะลุปรุโปร่ง อดพยักหน้าไม่ได้
แววตาของนรมนเคร่งขรึมลง

“ไอ้กล้าณรงค์ตัวดี! วางแผนยืมมือคนอื่นจัดการ แต่คุณ หมายความว่ากมลเข้าใจความเกี่ยวข้องเหล่านี้เหรอ? จึง พยายามมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่น้องตระกูลทวาทสิน

นรมนจับแขนเสื้อของบุริศร์แน่น จนแม้แต่สั่นไหวเล็กน้อย

บริศ ถอนหายใจ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน: “อย่าคิดว่า ลูกสาวของพวกเรามีความคิดที่น่ารังเกียจ และเจ้าเล่ห์แบบนั้น กมลมองสถานการณ์ออก แค่ไม่อยากให้มิตรภาพของพวกเรา ในตอนนี้ถูกคนตั้งใจทำลาย

“ทําลาย? ทําไมถึงพูดแบบนี้? หรือว่าที่พี่ใหญ่ถูกวางแผน สองครั้งมีความเกี่ยวข้องกับพวกเรา?

หัวใจของนรมนกระตุกทันที

นัยน์ตาของบุริศร์สั่นไหวเล็กน้อย ตอบเสียงเบา: “อาจจะใช่ หรืออาจจะไม่ใช่ แต่ใครจะรู้ว่าไม่มีคนเสี้ยมให้บาดหมางกัน? ผมกับพี่ใหญ่ ป้องกับอรรณพต่างไว้ใจกันอยู่แล้ว แต่ผู้หญิงล่ะ? คนในครอบครัวล่ะ? เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พี่ใหญ่มั่นใจว่าเพราะ เรื่องของผมจึงถูกก่อกบฏ ทุกวันนี้คนในครอบครัวเจอกันไม่ได้ ตอนนี้ถ้ามีคนพูดอะไรกับพี่สะใภ้และดนัย ใครจะสามารถรับ ประกันว่าภรรยาและลูกทั้งสองคนจะคิดอย่างไร? ”

“เป็นไปไม่ได้! ตอนนี้คนตระกูลทวาทสินคงจะไม่……

จู่ ๆ เสียงของนรมนขาดไป
เธอนึกถึงก่อนหน้านี้งามสุดาให้ตนเองใช้อำนาจของ อาณาจักรรัตติกาล เธอยังนึกถึงก่อนหน้านี้ไม่นานที่ไปตระกูล ทวาทสินแล้วรู้ว่าพวกเขาถูกติดเครื่องดักฟัง

ตามเหตุผลแล้ว งามสุดาและคนอื่นถูกติดตาม ไม่สามารถเจอ คนอื่นได้ แต่นรมนเข้าไปด้วยเหตุผลอวยพรปีใหม่

ไม่เพียงแค่นั้น ยังพูดกับงามสุดาหลายคำ

วันนี้รับกมลกลับมา จากนั้นก็มีรถที่ไม่รู้จักตามหลัง……. นรมน ใจเต้นรัวขึ้น

มือที่จับแขนเสื้อของบริศ เอาไว้แน่นออกแรงดึงทันที ใบหน้า ขาวซีด

“กมลของพวกเราถูกคนเฝ้าติดตามหรือเปล่า? ”

ตอนนี้บริศ เจ็บปวดใจจริงๆ เจ็บปวดกับความฉลาดของนร มน เจ็บปวดกับสถานการณ์ของลูก แต่ตอนนี้ถูกพัดเข้ามาอยู่ใน ระลอกคลื่นนี้แล้ว เขาทำได้เพียงพยายามปกป้องพวกเขารอบ ด้าน

เห็นบุริศร์ไม่พูดอะไร นรมนรู้ว่าตนเองเดาถูก

เหงื่อของเธอซึมออกมา

“รถที่ไม่รู้จักคันที่ตามกมลนั้น คงจะไม่คิดว่ากมลเอาอะไรออก มาจากตระกูลทวาทสิน อยากรู้ว่าเธอจะเอาไปส่งให้ใครใช้ ไหม? หรือจะพูดว่า พวกเขาสงสัยพวกเรามาตลอด?
บริศ ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ เขามองกมลที่กำลังหลับฝันหวาน บนเตียง แววตายุ่งเหยิงไม่มีที่สิ้นสุด

“ผมไม่รู้ ผมรู้แค่เพียงไม่ว่ากผลจะรับปากอะไร ผมจะพยายาม ปกป้องเธอ ไม่ปล่อยให้พวกคุณเจอกับอันตรายแม้แต่เล็กน้อย

หัวใจของนรมนหนักอึ้งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ “งั้นพวกเรายังจะไปเที่ยวอยู่ไหม? ”

“ไป ! ถ้าไม่ไปแล้วกมลจะทำอย่างไร?”

แววตาของบริศร์ปรากฏความเคร่งขรึมแวบหนึ่ง

ไม่ว่าใคร ถ้าคิดจะมายุ่งกับภรรยาและลูกของเขา เขาไม่มี ทางยอม

นรมนคิ้วขมวด คิดพิจารณา แต่สุดท้ายไม่ได้พูดอะไร

“ฉันอยากอยู่กับลูก”

“ได้ ผมไปอาบน้ำก่อนนะ”

บุริศร์ลุกขึ้นเดินไปจากห้อง

นรมนนั่งลงข้างกมล เห็นหลายวันนี้ลูกสาวผิวคล้ำลงไปเยอะ เหมือนจะตากแดดข้างนอก ได้ยินว่าช่วงนี้เธอเอาแต่เล่นสนุกกับ ดนัยที่สวนด้านหลัง กลับไม่รู้ว่าท่าทางเล่นสนุกที่น่ารักมีชีวิตชีวา นี้ของลูกสาวกลับวางแผนอะไรกับดนัยอยู่

ลูกคนนี้ ดูเหมือนเธอจะไม่เคยรู้จักอย่างแท้จริง
นรมนกุมมือของเธอ

มือของเธออ่อนนุ่ม เกลี้ยงเกลา ทำให้คนผ่อนคลายมาก แต่

นรมนกลับชะงักไปทันที

ดูเหมือนมีอะไรในมือของกมล

นรมนกำลังคิดจะพลิกดู กมลกำมือแน่นทันที จากนั้นลืมตาขึ้น อย่างประหม่า แววตาที่ระมัดระวังกลับทำให้นรมนตกใจ

ไม่คิดว่าลูกสาวของตนเองจะแผ่ความเย็นชาที่แข็งกระด้าง แบบนั้นออกมา?

ในขณะที่นรมนกำลังอึ้งไป กมลก็รู้ตัวว่าคนตรงหน้าคือหม่า

ของตนเองทันที รีบเงยหน้าขึ้น กอดแขนนรมนอย่างออดอ้อน “หม่า ทำไมถึงมานั่งข้างหนูอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียง ตกใจ หมดเลยค่ะ”

ในขณะที่พูด เธอซ่อนของในมืออย่างเงียบๆ

จริงๆ เลย

ทําไมถึงหลับไปได้?

กมลหรี่ตาลง ในแววตามีความหงุดหงิด แต่ก็ยับยั้งการถาม ซักใช้ของนรมนได้

ถ้าบอกว่านรมนยังไม่เชื่อคำพูดเมื่อสักครู่ของบริศร์ ในวินาที นี้ เธอเชื่อหมดใจ

ลูกสาวสุดที่รักของเธอ ดูเหมือนจะมีเรื่องปิดบังพวกเขาจริง
บอกไม่ถูกว่าความรู้สึกซับซ้อนในใจนั้นคืออะไร นรมนแค่ เพียงกอดกมลเอาไว้แน่น จนทำให้กมลแปลกใจเล็กน้อย งุนงง และ…….สะเทือนอารมณ์

“หม่ามี้”

เสียงของเธอยังคงนุ่มนวล กลับทำให้นรมนปวดใจ

“คิดออกหรือยังว่าอยากไปเที่ยวไหน? ”

จู่ๆ นรมนถามขึ้นมาแบบนี้ กลับทำให้กมลแปลกใจ แต่ยัง ถามอย่างออดอ้อน : “เลือกได้ด้วยเหรอคะ? ”

“แค่ลูกบอกมา หม่ามี้แด๊ดดี้และพี่ๆ จะไปกับลูก ลูกคือเจ้า หญิงน้อยของตระกูลโตเล็ก”

นรมนูปิดผมหน้าม้าที่หน้าผากของกมล แววตาที่แสนอ่อน โยนและเอาใจกลับทำให้กมลอยากร้องไห้

เธอละอายใจด้วยซ้ำไป

ถ้าหม่ามีรู้ว่าตนเองมีจุดประสงค์อื่นที่ออกไปเที่ยวกับพวกเขา หม่ามี้จะเสียใจมากเศร้าใจมากไหมนะ?

ความรู้สึกแบบนี้กดดันเธอ ทำให้ใบหน้าที่เดิมทีไร้ความทุกข์ ของกมลปกคลุมไปด้วยสีสันที่ไม่ชัดเจน

“หม่ามี้ ถ้าเป็นไปได้ หนูอยากไปหมู่บ้านดารายนได้ไหม คะ?”

กมลพูดออกมา หัวใจนรมนเต้นแรงทันที
หมู่บ้านดารายน

ทำไมต้องหมู่บ้านดารายน

หรือคือ

หมู่ดารายนเพราะอะไรคน เพราะเรื่องอื่น

นรมนจิตใจว้าวุ่นทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ